จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 885 ข้าแสร้งทำน่ะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 885 ข้าแสร้งทำน่ะ
“ท่านพ่อ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่ น้องห้าน่ะอ่อนแอปวกเปียก ไม่มีทางคิดก่อกบฏแน่นอน” ซูชิงโยวอุ้มลูกชายเดินออกมาก็เห็นภาพนี้ รีบเข้ามาช่วยอธิบายทันที
หยุนซือถิงจู่ๆเจอคนมากขนาดนี้ ก็ตกใจร้องไห้โฮด้วยความกลัวออกมา
“ซือถิงไม่ร้อง ไม่ต้องกลัว แม่อยู่ตรงนี้ ไม่เป็นไรนะ” ซูชิงโยวรีบปลอบลูกชายทันที
หยุนเฉิงเซี่ยงยิ่งโกรธจนหน้าดำเมี่ยม “ลูกชายข้า ข้ารู้จักเขาดี เขาไม่มีทางก่อกบฏแน่!”
“ขอหยุนเฉิงเซี่ยงเปิดทางด้วย ข้าเองก็รับคำสั่งมา ทหาร ค้น!” หัวหน้าองครักษ์ตะคอกดัง
องครักษ์คนอื่นเริ่มตรวจค้นทันที สีหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงไม่น่าดูขั้นสุด โกรธจนหน้าซีดเผือด
แต่ป้ายคำสั่งในมือองครักษ์คนนั้น หยุนเฉิงเซี่ยงรู้ดีว่าหมายถึงอะไร ถึงจะไม่เชื่อ ไม่อยากยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
ทั่วทั้งตระกูลหยุนอลวนโกลาหลไปหมด สุดท้ายองครักษ์เหล่านั้นค้นเจอบทกลอนและจดหมายหลายฉับในห้องของหยุนห้า ด้านบนเขียนคำพูดในเรื่องการก่อกบฏเอาไว้
“หยุนเฉิงเซี่ยง พวกนี้คือหลักฐานที่คุณชายเซวี่ยนก่อกบฏ ทหารคุมตัวคุณชายเซวี่ยนไป!” หัวหน้าองครักษ์ออกคำสั่ง
“ท่านพ่อ ไม่ใช่ข้านะ ข้าไม่เคยเขียนจดหมายเหล่านี้ ท่านพ่อเชื่อข้านะ” หยุนห้ารีบอธิบาย
“ท่านพ่อ น้องห้าต้องไม่ทำเรื่องเช่นนี้แน่ ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่” ซูชิงโยวเสริม
“หยุนเฉิงเซี่ยง ขออภัยด้วย คุมตัวไป!” หัวหน้าองครักษ์แค่นเสียงเย็น
“ใครกล้า ข้าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกชายข้า!” หยุนเฉิงเซี่ยงตะคอกดัง เดินไปทางประตูอย่างโกรธๆ
ซูชิงโยวอุ้มลูกชายตามไป นางเองก็ไม่เชื่อว่าเจ้าห้าจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้
เพียงแต่หยุนเฉิงเซี่ยงพึ่งออกจากจวน ยังไม่ทันขึ้นรถม้า ก็หน้ามืดเป็นลมไปเลย
“ท่านพ่อ ใครก็ได้ รีบเชิญท่านหมอเร็ว!” ซูชิงโยวตะโกน
“นายท่าน นายท่าน!” พ่อบ้านเองก็ตกใจหนัก รีบเข้ามาพยุงเขาทันที จากนั้นให้คนในจวนไปเชิญท่านหมอทันที
หยุนเฉิงเซี่ยงเป็นลม ตระกูลหยุนก็อลหม่านไปหมด เลยไม่มีใครสกัดองครักษ์คนนั้น เจ้าห้าถูกนำตัวไป
ในห้อง ซูชิงโยวกังวลยิ่งนัก “ไห่เทียนทำไมยังไม่กลับมาอีก รีบให้คนไปตามเขากลับมาเร็ว รีบไป ท่านหมอล่ะ รีบไปเร่งสิ!”
“ขอรับ!” เหล่าคนรับใช้รีบไปเร่งอีก
ไม่นานท่านหมอก็รีบมา
“เร็ว รีบไปดูเร็วว่าท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูชิงโยวกังวลนัก
“ขอรับ!” ท่านหมอรีบเข้าไปจับชีพจรให้หยุนเฉิงเซี่ยงทันที
หยุนไห่เทียนก็รีบเร่งกลับมา พอได้ยินว่าที่บ้านเกิดเรื่อง น้องห้าโดนพาตัวไป เขาร้อนใจยิ่งนัก พอเห็นท่านพ่อนอนสลบอยู่บนเตียง หยุนไห่เทียนก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
“ชิงโยว นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“วันนี้จู่ๆก็มีองครักษ์มากลุ่มหนึ่ง บอกว่าน้องห้าก่อกบฏ จากนั้นก็มาค้นจวนตระกูลหยุน สุดท้ายค้นเจอจดหมายและบทกลอนหลายเล่มในห้องเขา บอกว่าเป็นหลักฐานที่เขาก่อกบฏ แล้วก็คุมตัวเขาไปเลย เดิมท่านพ่อจะเข้าวัง สุดท้ายกลับเป็นลมไปเสียก่อน” ซูชิงโยวเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
สีหน้าหยุนไห้เทียนเดือดดาลฉับพลัน เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน “น้องห้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้ออกมาแน่ องครักษ์ท่าทางยังไง?”
ยังไม่รอซูชิงโยวตอบ ท่านหมอก็เอ่ยขึ้น “แม่ทัพหยุน หยุนเฉิงเซี่ยงโกรธจัดทะลุเข้าใจทำให้สลบไป ข้าน้อยจะจ่ายยาบรรเทาความร้อนในตัวสักหน่อย หยุนเฉิงเซี่ยงน่าจะฟื้นในไม่ช้านี้”
“ขอบคุณท่านหมอมาก” หยุนไห่เทียนบอก
พ่อบ้านรีบตามเขาไปรับยาทันที หยุนไห่เทียนหันมองหยุนเฉิงเซี่ยงที่สลบอยู่ “ชิงโยว เจ้าดูแลท่านพ่อให้ดี ข้าจะเข้าวัง”
“ได้ ท่านระวังตัวด้วย” ซูชิงโยวพยักหน้า
หยุนไห่เทียนออกไป ซือถิงก็ให้คนรับใช้พาไป ในห้องกว้างใหญ่เหลือเพียงหยุนเฉิงเซี่ยงและซูชิงโยวสองคน ซูชิงโยวรีบช่วยห่มผ้าห่มให้หยุนเฉิงเซี่ยง
“ไป ปิดประตูซะ” หยุนเฉิงเซี่ยงพลันลืมตาขึ้น
ซูชิงโยวตกใจมาก “ท่านพ่อ ท่านฟื้นแล้ว นี่มัน….”
คำว่าดียังไม่ทันหลุดออกจากปาก ก็โดนหยุนเฉิงเซี่ยงตัดบทว่า “เบาๆหน่อย ปิดประตูซะ”
ซูชิงโยวถึงได้สติกลับมา รีบลุกขึ้นปิดประตูทันที พลางหันมามองหยุนเฉิงเซี่ยงอย่างไม่เข้าใจ “ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงกลัวคนรู้ว่าท่านฟื้นแล้วล่ะ?”
“ข้าไม่ได้สลบเลยสักนิด ข้าแสร้งทำน่ะ” หยุนเฉิงเซี่ยงตอบ
ซูชิงโยวสีหน้างุนงง “ทำไมกันเล่า? เมื่อครู่ไห่เทียนเป็นห่วงมากนะ ทำไมท่านไม่บอกเขาให้ชัดเจนเล่า เขาเข้าวังไปแล้ว ตอนนี้ข้าจะให้คนไปตามเขากลับมา!”
“อย่าไป ข้าจงใจทำให้เขาเข้าวังด้วยความร้อนใจเอง จะแสดงละครก็ต้องทำเต็มที่ แบบนี้คนอื่นถึงจะเชื่อ ถึงข้าจะไม่รู้ว่าทำไมองครักษ์คนนั้นถึงมาจับเจ้าห้าไป แต่ข้าจำได้ว่าองครักษ์คนนั้นเป็นคนที่ติดตามข้างกายโม่เหลิ่งเหยียน
โม่เหลิ่งเหยียนสนิทกับถิงเอ๋อร์แค่ไหน สหายร่วมเป็นร่วมตายเลยนะ ระหว่างพวกเขาคือความชื่นชมที่มีต่อกัน เป็นความสัมพันธ์ที่เสี่ยงชีวิตร่วมกันมาอย่างแท้จริง
บัดนี้จวินหย่วนโยวกับถิงเอ๋อร์ไปแคว้นเป่ยลี่ ตามหลักแล้วโม่เหลิ่งเหยียนต้องส่งคนมาคุ้มครองจวนตระกูลหยุนอย่างลับๆ คุ้มครองพวกเรา แต่เวลานี้เขากลับส่งคนสนิทมาลงมือกับตระกูลหยุน
แสดงว่าต้องมีสาเหตุแน่ หรือพูดอีกอย่างคือ ถิงเอ๋อร์บอกให้ทำ ไม่อย่างนั้นด้วยความสัมพันธ์ที่เขามีต่อถิงเอ๋อร์ ไม่มีทางให้คนแตะต้องตระกูลหยุนแน่
องครักษ์ลับจากจวนซื่อจื่อที่เกาะกำแพงบ้านเราก็ไม่ได้ปรากฏตัววมิใช่รึ หากมีคนคิดจะแตะต้องตระกูลหยุนจริง จวนซื่อจื่อต้องเป็นแห่งแรกที่ไม่รับปากแน่ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว คือ พวกเขาต่างรู้เรื่องดี
ในเมื่อพวกเขาพาตัวเจ้าห้าไป แสดงว่าต้องเป็นเรื่องของเจ้าห้า ก่อนหน้านี้ถิงเอ๋อร์ก็เคยบอกว่า หงหลิงคนนั้นไม่ธรรมดา เพียงแต่สืบอย่างไรก็ไม่เจออะไรผิดปกติ บางทีครั้งนี้นางอาจจะสืบความอะไรบางอย่างได้ เพียงแต่ไม่ทันบอก
ให้ไห่เทียนเข้าวังไปเถอะ แบบนี้ในสายตาคนนอกถึงจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเจ้าอย่าพูดเรื่องที่ข้าแกล้งเป็นลมออกไปล่ะ ในจวนก็ไม่ได้ พวกเราต้องร่วมมือกัน” หยุนเฉิงเซี่ยงวิเคราะห์
ซูชิงโยวทนไม่ไหวยกนิ้วโป้งให้ทันที “ท่านพ่อ ขิงแก่นี่แรงกว่าจริงๆ สมเป็นหยุนเฉิงเซี่ยงจริงๆ นี่ยังเดาได้อีก เก่งกาจนัก”
เมื่อครู่นางเป็นห่วงแทบตาย พอเห็นหยุนเฉิงเซี่ยงไม่เป็นอะไร ถึงได้วางใจ พอได้ยินท่านพ่อพูดเช่นนี้ นางเองเลยมิได้กลัวอะไรขนาดนั้นแล้ว
“เจ้านี่ จำไว้อย่าหลุดล่ะ ส่งคนจับตาดูจวนตระกูลฟู่ไว้” ดวงตาหยุนเฉิงเซี่ยงหรี่ลงเล็กน้อย ดำลึกดุจทะเล
“เจ้าค่ะ!”
ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวงแคว้นต้าเยียนราวหม้อระเบิด คุณชายห้าตระกูลหยุนก่อกบฏโดนองครักษ์คุมตัวไป ข่าวเรื่องหยุนเฉิงเซี่ยงโกรธจนสลบแพร่กระจายไปทั่ว ชาวบ้านพากันซุบซิบนินทา
ข่าวย่อมแพร่ไปที่จวนตระกูลฟู่ด้วยเช่นกัน
“ฮูหยินเฒ่าแย่แล้ว!” คนรับใช้ของจวนตระกูลฟู่ไปตลาดซื้อของ ได้ยินข่าวนี้ ยังไม่ทันซื้อของก็รีบกลับมารายงานทันที
พวกฮูหยินเฒ่าฟู่ หมอยมบาลที่นั่งดื่มชาในสวนพากันหันมามอง “เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณชายเซวี่ยนก่อกบฏ โดนองครักษ์จับตัวไปแล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงโกรธจนสลบ แม่ทัพหยุนเข้าวังเฝ้าฝ่าบาท ตอนนี้ยังไม่กลับเลย!” คนรับใช้รีบตอบ
หงหลิงที่ยกชาเข้ามา ผ่านมาได้ยินข่าวนี้พอดี กาน้ำชาในมือหล่นลงพื้นแตกเพล๊ง น้ำชาสาดกระเซ็น มาโดนชุดนางพอดี หงหลิงถึงได้สติขึ้นมา
“เจ้าพูดจริงรึ เกิดเรื่องกับคุณชายเซวี่ยนจริงรึ?”