จอมนางข้ามพิภพ - บทที่819 มีซวนอ๋องอยู่ ข้าไว้ใจ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่819 มีซวนอ๋องอยู่ ข้าไว้ใจ
ทุกคนตามหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวลงไปทันที หยุนถิงอธิบายวิธีการดำเนินการให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด รวมถึงวิธีการเปิดเครื่อง โม่เหลิ่งเหยียนและคนอื่นๆ ก็เรียนรู้เป็นอย่างรวดเร็ว ?
หมิงจิ่วซางตื่นเต้นมากจนมือลื่นไปกดปุ่มระเบิดนั้น
“ปัง!” เสียงที่อึกทึกดังมา และเปลวไฟที่ลุกโชนก็บินระเบิดไปในที่ระยะไกล
โม่เหลิ่งเหยียนรู้สึกได้อย่างชัดเลยว่าเรือกำลังสั่น สีหน้าเย็นชาทันที “ทำเป็นเล่นไปได้ เจ้าทำเช่นนี้คือการแหวกหญ้าให้งูตื่นชัดๆ!”
หมิงจิ่วซางก็รู้ตัวดีว่ามือพิเรนทร์ และรู้สึกโทษตัวเองยิ่งนัก “ข้าขอโทษ ข้าตื่นเต้นเกินไป จึงได้มืดพลาดไปกดโดน ระเบิดใหญ่ในเมื่อครู่นี้คงไม่โจมตีไปใส่เมืองเทียนหลงสินะ”
หยุนถิงส่ายหัว “จากตรงนี้ถึงเมืองเทียนหลงห่างออกไปหลายพันไมล์ อันนี้ยังไม่ทรงพลังขนาดนั้น สอง สามร้อยไมล์ไม่ใช่ปัญหา ไม่น่าจะไปถึง”
“เช่นนั้นก็ดี ต่อไปข้าจะไม่อวดดีอีกแล้ว หยุนถิงเจ้าดียิ่งนัก หากเรือหลายสิบลำรวมกัน คงระเบิดเมืองเทียนหลงให้กลายเป็นเถ้าเลยสินะ” หมิงจิ่วซางนับถือยิ่งนัก
“แน่นอนอยู่แล้ว แต่สิ่งนี้ห้ามให้คนอื่นมาเห็นเข้าเด็ดขาด!” หยุนถิงกำชับ
“เจ้าไว้ใจ คนพวกนี้เป็นเพื่อนที่ร่วมตายร่วมเป็นกับข้ามาโดยตลอด พวกเขาไม่มีวันทรยศแน่นอน!” โม่เหลิ่งเหยียนรับประกัน
หากมีเรือรบใต้น้ำที่ทรงพลังนี้มาสู้รบ หากใช้ในเรื่องการทหารคงต้องสังหารอีกสามแคว้นได้ในชั่วพริบตาอย่างแน่นอน นับว่าโชคดีที่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวไม่มีความทะเยอทะยานที่จะครอบครองใต้หล้านี้ให้เป็นหนึ่งเดียว มิฉะนั้นทั่วทั้งสี่แคว้นหรือแม้กระทั่งเขตทะเลนิรนามก็จะกลายเป็นเถ้าในชั่วพริบตาอย่างแน่นอนเลย
“มีซวนอ๋องอยู่ ข้าไว้ใจ” หยุนถิงกล่าว
หลิงเฟิงกับหลงยีปรากฏตัวในขณะที่กำลังเล่นเรือ ด้านหลังพวกเขาตามด้วยเรือรบ นั่นเป็นเรือที่หยุนถิงได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าในรอบๆทะเลทรายของเมืองฉือ
เพราะเรือรบใต้ทะเลที่เยอะขนาดนี้หากจู่ๆ หากนำออกมาต่อหน้าทุกคน หยุนถิงกลัวว่าพวกเขาจะตกใจกลัว
“หยุนถิง จวินหย่วนโยวพวกเจ้าไว้ใจ ขอแค่พวกเจ้าออกคำสั่ง ข้าจะพาคนไประเบิดเมืองเทียนหลงทิ้งทันที!” หมิงจิ่วซางรีบวิ่งไปอย่างตื่นเต้น และรีบเลือกไปลำหนึ่ง
“พวกเจ้าไปเถิด ฝึกตามที่หยุนถิงสอน!” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าว
“ขอรับ!” ทุกคนขึ้นเรือทันที และเรือลำเดิมก็อยู่เป็นแถวๆนั้นก็จมหายไปในพื้นทะเลอย่างรวดเร็ว
“ตอนนี้มีเส้นทางในเมืองฉือได้สร้างเสร็จแล้ว และได้นำเสบียงและกำลังคนเข้ามาหลายกลุ่มแล้ว เสวี่ยเชียนโฉวกับหยุนหลีข้าส่งให้พวกเขาไปที่เมืองหวง และข้าวางแผนที่จะจัดวางกำลังป้องกันที่นั่น อ๋องเก้ากับชางหยุนสี่ก็มาช่วย ชางหลันเย่ส่งคนเกรียงไกรมา!” โม่เหลิ่งเหยียนอธิบายสั้น ๆ
“ได้ ทุกอย่างท่านทำตามสถานการณ์เอง ตอนนี้ต้องการอะไรที่สุด?” หยุนถิงถาม
“อาวุธ อาหาร!” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ
หยุนถิงไปที่ดันเจี้ยนโดยตรง หยิบอุปกรณ์ อาวุธ อาหาร เสื้อผ้า และชุดเกราะจำนวนมากออกมาจากมิติ และเติมเต็มดันเจี้ยนเดิมที่ที่เกือบจะว่างเปล่าแล้วนั้น
จวินหย่วนโยวนำแผนที่ของเมืองเทียนหลงที่วาดไว้ให้โม่เหลิ่งเหยียน และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดแผนและเตรียมการป้องกันของเมืองเทียนหลง
เนื่องจากหยุนถิงใช้ความคิดมากเกินไป และถูกจวินหย่วนโยวทรมานนานไปหน่อย จึงนอนพักผ่อนลงข้างๆ
เมื่อจวินหย่วนโยวกับโม่เหลิ่งเหยียนพูดคุยเสร็จ ก็เกือบจะรุ่งสางแล้ว จวินหย่วนโยวอุ้มหยุนถิงจากไป
เมื่อเห็นเรือของพวกเขาจมลงไปในน้ำ โม่เหลิ่งเหยียนก็สั่งการทันที ให้หมิงจิ่วซางพากำลังส่วนหนึ่งของหอดวงจันทร์ไปแอบซุ่มโจมตีที่รอบๆเมืองเทียนหลง หากหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมีอันตราย ก็ไปสนับสนุนทันที
ส่งคนอีกส่วนหนึ่งส่งไปยังเมืองฉือ นำเกาะสองเกาะเชื่อมกัน เพื่อขยายแนวรบ หากมีอันตรายก็จะมีทางถอย
ส่วนโอจื่อโฝวกับจิ่วฟ่างที่อยู่ในเมืองฉือ ทั้งสองถูกเสียงระเบิดดังปลุกให้ตื่นขึ้นในกลางดึก ห้องที่พวกเขาอาศัยอยู่ถูกระเบิดพังทลายลงโดยตรง และน้ำขนาดใหญ่ก็สาดใส่พวกเขา
โอจื่อโฝวตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน และตรงไปที่ลานข้างๆ “จิ่วฟ่าง มีคนแอบโจมตี?”
ลานข้างๆ จิ่วฟ่างกำลังอุ้มจิ่นฉิงออกมา และทั้งคู่ก็ตัวเปียกหมดเหมือนกัน ตัวเต็มไปด้วยฝุ่น ตกอยู่ในสภาพคับขันลำบาก
ก่อนหน้านี้โอจื่อโฝวได้รับจดหมายของหยุนถิง จึงมาที่เมืองฉือ จิ่วฟ่างก็ไม่มีที่ไป ถูกโอจื่อโฝวใช้ทุกวิถีทางกับเขา และในที่สุดเขาก็มาแล้ว และเขาเองก็อยากถามถิงหยุนว่ามีวิธีช่วยจิ่นฉิงหรือไม่
ก่อนหน้านี้บ้านบนเกาะนี้ถูกองครักษ์เงามังกรเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปหมด ดังนั้นโอจื่อโฝวกับจิ่วฟ่างจึงสร้างกระท่อมมุงจากง่ายๆหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะพังทลายหมด
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร เจ้ายังไม่รีบไปดูอีก!” จิ่วฟ่างทำหน้ามืดครึ้ม
“ไปด้วยกัน มืดเช่นนี้!” โอจื่อโฝวพูดอย่างเขินอาย
จิ่วฟ่างกลอกตาใส่เขา “ดูเจ้าสิขี้ขลาดยิ่งนัก!” ขณะที่พูดก็อุ้มจิ่นฉิงไว้แล้วเดินออกไป
“ข้าก็กลัวว่าเจ้าจะกลัวไม่ใช่หรือ?” โอจื่อโฝวพูดอย่างเขินอาย และตามไปทันที
ทั้งสองคนเดินไปทั่วเกาะ แต่ไม่พบผู้ที่น่าสงสัย ที่นี้ก็ยิ่งสับสนไปกว่าเดิมเลย
“เจ้าว่าไม่เห็นแม้แต่เงาเลย หรือไม่ใช่การแอบโจรตี แต่เป็นแผ่นดินไหวหรือสึนามิ?” โอจื่อโฝวบ่น
“ไม่รู้!”
“แล้วพวกข้าควรทำอย่างไร ในกลางดึกเช่นนี้ลานที่อาศัยอยู่พังหมดแล้ว หากรู้เช่นนี้ข้าก็ควรสร้างห้องไว้หลายห้อง” โอจื่อโฝวพูดแล้วจาม
เดิมทีกลางคืนที่ชายหาดก็หนาวแล้ว ยิ่งที่พวกเขาอยู่นั้นก็ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล เสื้อผ้าบนตัวก็เปียกหมดแล้ว เมื่อลมทะเลพัดมาก็หนาวยิ่งนัก
มือที่อุ้มจิ่นฉิงไว้ของจิ่วฟ่างกำแน่นยิ่งขึ้น “หาที่กำบังลมอยู่ไปก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยเก็บกวาด!”
“ก็คงต้องแบบนี้แล้ว เจ้าว่าถิงหยุนจงใจแกล้งพวกข้าหรือเปล่า?” โอจื่อโฝวอดสงสัยไม่ได้
“ถิงหยุนไปที่เมืองเทียนหลงกับอาจารย์ เมืองเทียนหลงอยู่ห่างจากที่นี้ไปหลายร้อยไมล์ เจ้าคิดว่านางจะกลับมาแกล้งเจ้าโดยเฉพาะหรือ?” จิ่วฟ่างถามกลับ
โอจื่อโฝวยิ้มอย่างเขินอาย “ข้าก็แค่พูดไปงั้นๆ”
“รีบพักผ่อน พรุ่งนี้เช้ามีเรื่องให้เจ้าต้องทำอีกเยอะเลย” หลังจากจิ่วฟ่างพูดจบ ก็ไม่สนเขาอีก
“ก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ”
เมื่อหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวขึ้นฝั่ง ก็เป็นเวลาเช้าแล้ว เดิมทีจวินหย่วนโยวจะกลับไป หยุนถิงอยากไปดูที่เมืองฉือก่อน
จากนั้นหยุนถิงก็เห็นโอจื่อโฝวขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เสื้อผ้าบนตัวเปื้อนโคลนจำนวนมาก ผมก็ยุ่งเหยิง คนทั้งคงตกอยู่ในสภาพที่คับขันลำบาก
ส่วนจิ่วฟ่างที่อยู่ข้างๆก็กอดจิ่นฉิงไว้แน่นๆ สีหน้าแดงมาก ขมวดคิ้ว ท่าทางดูเจ็บปวดมาก “ทำไมสองคนนี้ถึงได้ตกอยู่ในสภาพที่คับขันลำบากเช่นนี้?” หยุนถิงสับสน
จวินหย่วนโยวมองไปรอบๆ “บางที การทิ้งระเบิดที่หมิงจิ่วซางยิงมานั้นอาจมาระเบิดใส่ที่นี่ก็ได้!”
หยุนถิงเข้าใจในทันที นางรีบวิ่งไปตรวจให้จิ่วฟ่างกับโอจื่อโฝว และพบว่าทั้งคู่มีไข้สูง จึงรีบหยิบยาลดไข้ออกมาจากมิติและให้พวกเขาทานลงไป
โอจื่อโฝวลืมตาขึ้น เห็นเพียงคนที่แต่งตัวเหมือนผู้หญิง กำลังจะพูดอะไรก็ถูกหยุนถิงใช้มือตีท้ายทอยสลมไปทันที
“เกาะนี้ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านหมดแล้ว จำเป็นต้องสร้างใหม่หน่อย ท่านพี่ท่านช่วยข้าดูพวกเขาไว้!” หยุนถิงกล่าว
“ได้!”
หยุนถิงใช้มิติสร้างทุกสิ่งที่นางนึกออกออกมาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เช่น บ้าน อุปกรณ์ สินค้า อาหาร ฯลฯ —–
เห็นว่าทั้งเกาะเต็มไปด้วยของแล้ว หยุนถิงจึงค่อยหยุดลง คืนนี้นางใช้ความคิดมากเกินไป และร่างกายของนางก็อ่อนล้ายิ่งนัก
คลื่นแห่งความวิงเวียนเกิดขึ้น หยุนถิงก็ไม่สามารถยืนมั่นคงได้อีกต่อไป ในขณะที่จะล้มลงกับพื้น จวินหย่วนโยวก็รีบวิ่งมาและอุ้มนางไว้
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นยังไงบ้าง?”