จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 794 เพราะเหตุใดต้องทำเช่นนี้กับข้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 794 เพราะเหตุใดต้องทำเช่นนี้กับข้า
จวินหย่วนโยวเข้ามาทันที ยื่นมือดึงเทียนไขในมือนางมา “ในเมื่อถอนพิษแล้ว ก็รีบพักผ่อนเสีย คืนนี้เจ้าเหนื่อยมากแล้ว”
“ได้!” หยุนถิงช่วยล้างแผลให้เขา เดิมคิดจะใส่เสื้อผ้าให้เขา ถึงจวินหย่วนโยวจะรังเกียจความสกปรก แต่รีบรับหน้าที่แทนเลย
จะให้เขาทนดูถิงเอ๋อร์สวมเสื้อผ้าให้บุรุษอื่นได้อย่างไร
พอจัดการทุกอย่างเสร็จ จวินหย่วนโยวรีบมอบจิ่วฟ่างให้หลงยีที่อยู่นอกหน้าต่าง ให้เขาส่งคนออกไป
มองเห็นรอยเลือดบนเตียง จวินหย่วนโยวทำหน้ารังเกียจ “ใช้ของข้า ข้ากลับไปเอาผ้าห่มมาใหม่!”
“ไม่ต้องหรอกท่านพี่ ท่านลืมไปแล้วรึว่าข้ามีมิติ เอาอันใหม่ออกมาก็ได้แล้ว” หยุนถิงรีบหยิบผ้าปูใหม่ออกมาจากในมิติเปลี่ยน เพื่อป้องกันคนสงสัย อันเก่าเลยวางเข้าไปในมิติเลย
“เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว พักผ่อนเสียเถอะ” จวินหย่วนโยวนอนลงข้างกายหยุนถิง กอดนางพลางหลับตาลง
คืนนี้หยุนถิงเหนื่อยมากเกินไปจริงๆ ตอนนี้ฟ้าสางแล้ว ต้องรีบหลับแล้ว
ไม่นานหยุนถิงก็หลับไป จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆกลับไม่ได้หลับ เขาลืมตาขึ้นมามองแววเหนื่อยล้ากลางหว่างคิ้วของนาง ฟังเสียงหายใจแผ่วเบาของนาง จวินหย่วนโยวสงสารนางนัก
แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิชาฝึกพิษและฝึกกู่ ช่วยอะไรถิงเอ๋อร์ไม่ได้เลย จวินหย่วนโยวรู้สึกผิดนัก
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือ คุ้มครองความปลอดภัยของหยุนถิง
เช้าวันต่อมา พอจิ่วฟ่างตื่นมาก็พบว่าอยู่ในห้องตนเอง ก็ค่อนข้างแปลกใจ ถึงนึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้
เขารีบยกมือจับชีพจรตนเองทันที พบว่าพิษในกายถูกถอนไปแล้ว
จิ่วฟ่างกระชากเสื้อตนเองออก ก้มหน้าลงมองหน้าอกตนเองเห็นจุดเล็กๆสีแดงสามจุด เขาดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็นรอยเข็ม
นอกจากถิงหยุนแล้วไม่มีทางเป็นคนอื่น ไม่คิดเลยว่านางจะช่วยถอนพิษให้ตน
นอกจากรู้สึกว่าปวดเมื่อยล้าแล้ว ร่างกายไม่มีความผิดปกติอะไรอีกเลย ตอนนี้จิ่วฟ่างพบว่าตนประเมินฝีมือถิงหยุนต่ำไปแล้ว
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จิ่วฟ่างสีหน้าเย็นเยียบทันที “ใคร?”
“ศิษย์พี่จิ่วฟ่าง อาจารย์บอกให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่สวน!” ด้านนอกประตู เสียงศิษย์คนหนึ่งตอบ
“ได้ เดี๋ยวข้ามา!” จิ่วฟ่างเปลี่ยนเป็นชุดสะอาด และเผาชุดเปื้อนเลือดเมื่อคืนทิ้งเสีย ถึงเดินออกไป
ในสวน ศิษย์ทุกคนมารวมตัวกัน มีเป็นร้อยคนเลยทีเดียว ทุกคนยืนเรียงแถวกันเรียบร้อย จิ่วฟ่างคารวะให้อาจารย์ และเดินตามเข้าไป
เพราะเมื่อคืนหยุนถิงฝึกปรุงยาในห้องลับตลอด เลยไม่มีทางเป็นหยุนถิง ดังนั้นผู้อาวุโสอวี๋เลยไม่ได้ให้คนไปเรียกนาง เพราะเรียนมาครึ่งค่อนคืน ก็เหนื่อยมากโขอยู่
“ทุกคนสามารถมาที่เรือนอวี๋ได้ แสดงว่ามีฝีมือพอตัว ไม่ว่าจะเป็นศิษย์อันดับท้ายหรือศิษย์อันดับต้น ข้าล้วนเห็นเป็นศิษย์เช่นเดียวกัน
วันนี้ข้าให้ห้องครัวชงชาใหม่ คิดซะว่าเลี้ยงต้อนรับศิษย์ใหม่แล้วกัน เพื่อแสดงถึงความทัดเทียมเสมอภาค ดังนั้นทุกคนดื่มด้วยกันแล้วกัน!” ผู้อาวุโสอวี๋บอกอย่างมีเมตตา “ขอบคุณอาจารย์!” ศิษย์ที่เข้าสำนักมาใหม่พากันซาบซึ้งยิ่งนัก
ศิษย์จากห้องครัวยกชาร้อนหม้อหนึ่งมา หยิบถ้วยมาใส่ชา ทุกคนดื่มกันหมด แม้แต่ศิษย์ในห้องครัวก็ดื่มด้วยเช่นกัน
จวินหย่วนโยวเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน หยุนถิงไปเรียนกับผู้อาวุโสอวี๋กว่าค่อนคืน ไม่ต้องตื่นเช้าได้แล้วยังไม่เป็นที่สงสัย แต่เขาไม่ได้ ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงมายืนตั้งแถวแต่เช้าแล้ว
จิ่วฟ่างมองดูชาชามนั้น พลันนึกถึงคำพูดที่ถิงหยุนพูดข้างหูเขาเมื่อคืน
เลี้ยงต้อนรับคือปลอม จะใช้ชานี้พิสูจน์หาตัวคนที่เข้าห้องเขาเมื่อคืนกระมัง
“จิ่วฟ่าง ทำไมเจ้าไม่ดื่มชาที่อาจารย์ให้คนต้มล่ะ?” โอจื่อโฝวถามออกมา
เพราะเป็นคำสั่งของผู้อาวุโสอวี๋ ดังนั้นโอจื่อโฝวที่โดนกักบริเวณเลยได้ออกมาด้วย
ผู้อาวุโสอวี๋ได้ยิน หันมองจิ่วฟ่างทันที
“ข้าแค่ไม่ชินกับการดื่มชาก่อนกินข้าวเช้า!” จิ่วฟ่างแค่นเสียงเย็น ยกถ้วยชาขึ้นซดจนหมด
ผู้อาวุโสอวี๋ขมวดคิ้ว จับตาดูจิ่วฟ่างตลอด
ศิษย์คนอื่นซดหมดไม่คิดสักนิด มีแต่เขาที่รีรอ หรือว่าเมื่อคืนคนที่ไปห้องตนจะเป็นเขา?
ดังนั้นผู้อาวุโสอวี๋เลยสังเกตจิ่วฟ่างตลอด เวลาค่อยๆผ่านไป จิ่วฟ่างไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย มันยิ่งทำให้ผู้อาวุโสอวี๋ไม่เข้าใจ
“อ๊าก!” ได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของโอจื่อโฝว เขาล้มลงกับพื้น สีหน้าซีดเผือด คุดคู้งอตัวอย่างทุกข์ทรมาน น้ำลายฟูมปาก
“อาจารย์ อาจารย์ช่วยข้าด้วยสิ?” โอจื่อโฝวร้องตะโกน
พอผู้อาวุโสอวี๋เห็นดังนั้น นี่มันปฏิกิริยาของพิษกู่ที่ตนวางเมื่อคืนมิใช่รึ ชาถ้วยนั้นเมื่อครู่มีฤทธิ์ต้านกันกับพิษกู่นั่น
ทุกคนพากันตกใจกันหมด ถอยร่นไปรัวๆ จิ่วฟ่างเองก็ถอยร่นไปด้านข้าง คิ้วขมวดมุ่น
เหตุใดโอจื่อโฝวมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ตามหลักแล้วควรจะเป็นตนสิ เมื่อคืนถิงหยุนช่วยตนถอนพิษ น่าจะไม่มีคนอื่นสิ เหตุใดเป็นโอจื่อโฝวได้ล่ะ?
“ที่แท้ก็เป็นเจ้าศิษย์ทรยศอย่างเจ้านี่เอง พูดมา เมื่อคืนไปห้องข้าทำอะไร?” ผู้อาวุโสอวี๋ตะคอกอย่างเดือดดาล
โอจื่อโฝวที่กำลังทุกข์ทรมานอึ้งเป็นไก่ตาแตกเลย “อาจารย์ ท่านพูดอะไรน่ะ ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย?”
“ไม่เข้าใจ ชานี่ข้าเตรียมไว้ให้คนที่ไปห้องข้าเมื่อคืน เมื่อคืนข้าวางพิษและกู่ใส่คนผู้นั้น พอดื่มชานี้เข้าไป พิษและกู่ในตัวเขาจะทำปฏิกิริยากัน และเจ้าก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด!” ผู้อาวุโสอวี๋เดือดดาลยิ่งนัก
ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าเป็นโอจื่อโฝว
“อาจารย์ เมื่อคืนศิษย์ไม่ได้ไปห้องท่านเลย ข้านอนหลับอยู่ตลอด จนเช้าวันนี้ถึงถูกปล่อยตัวออกมา ท่านกักบริเวณข้าเองนะ!” โอจื่อโฝวรีบอธิบายทันที
“หึ แค่ห้องเดียวจะขังเจ้าไว้ได้รึ ยังไม่รีบสารภาพความจริงออกมาอีก?” ผู้อาวุโสอวี๋ปรายสายตาคมปลาบมาให้
เขานี่เลอะเลือนแล้วจริงๆ กล้าเลี้ยงคนเลี้ยงไม่เชื่องเช่นนี้ไว้ข้างกาย และยังเป็นคนเลี้ยงไม่เชื่องที่เขาขุนจนโตอีกด้วย
“อาจารย์ มิใช่ข้าจริงๆ ศิษย์มากมายขนาดนี้ ทำไมไม่ใช่พวกเขา ยังมีอีกคนไม่ได้มา ใช่ ถิงหยุนไม่ได้มา แบบนี้มันน่าสงสัยที่สุดสิ!” โอจื่อโฝวบอกอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่ใช่ถิงหยุน เขาแค่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยเกินไป เช้านี้ข้าเลยไม่ได้เรียกเขามา!” จวินหย่วนโยวแกล้งพูดอย่างเดือดดาล
เพราะปกติคนเป็นพี่ชายอย่างเขาทะนุถนอมน้องชายตนเองนัก เวลานี้เขาย่อมออกโรงปกป้องอยู่แล้ว
“ไม่มีทางเป็นถิงหยุนแน่!” ผู้อาวุโสอวี๋ปฏิเสธออกมาทันที
“เพราะอะไร มันก็แค่ศิษย์ที่เข้ามาใหม่ หรือว่าในใจอาจารย์ ข้าไม่น่าเชื่อถือเท่ามันรึ?” โอจื่อโฝวมีสีหน้าเหลือเชื่อ
“เพราะเมื่อคืนเขาเรียนวิชาฝึกกู่กับข้า พูดอีกอย่างคือ ระยะนี้เขาเรียนอยู่กับข้า ดังนั้นไม่มีทางเป็นเขา!” ผู้อาวุโสอวี๋แค่นเสียงเย็น
คราวนี้โอจื่อโฝวอึ้งไปเลย เขารู้มาตลอดว่าฝีมือหากินของอาจารย์คือฝึกพิษและฝึกกู่ โดยเฉพาะการฝึกกู่ไม่เคยถ่ายทอดให้คนนอกเลย นอกจากจะเป็นศิษย์ที่ได้รับการสืบทอดของเขาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ในฐานะศิษย์อันดับต้น โอจื่อโฝวพยายามแสดงออกอย่างหนัก เพื่อให้อาจารย์ถ่ายทอดวิชาฝึกกู่กับเขา แต่กลับโดนอาจารย์ปฏิเสธมาตลอด ไม่คิดเลยว่า อาจารย์จะถ่ายทอดมันให้กับศิษย์ที่พึ่งเข้ามาใหม่คนหนึ่ง
น่าขัน น่าเศร้า น่าทอดถอนใจ
“เพราะอะไรกัน ข้าร่ำเรียนในเรือนอวี๋มาหกปีแล้ว มีตรงไหนสู้ศิษย์ใหม่ไม่ได้กัน เหตุใดอาจารย์ทำกับข้าเช่นนี้?”