จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 781 หยุนถิงใจเต้นเร็วขึ้น
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 781 หยุนถิงใจเต้นเร็วขึ้น
เมืองนี้ใหญ่กว่าสองเมืองที่พวกเขาพบเจอมาก่อนหน้านี้เสียอีก หนำซ้ำนี่เป็นเพียงรอบนอก ใช้เวลาไม่นานนักจวินหย่วนโยวก็พานางวนครบรอบหนึ่งแล้ว ถึงได้กลับไป
หลังกลับมาถึงห้อง หยุนถิงรีบหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจากในมิติ วาดแผนที่ลักษณะของทั้งเกาะออกมา
“มีแผนที่อันนี้แล้ว ก็สามารถเห็นได้ชัดเจนเยอะมาก ถ้ามีคนอื่นเข้ามาอีก มองแวบเดียวก็เห็นได้ชัดเจน!” หยุนถิงกล่าว
“อืม ถิงเอ๋อร์คิดได้รอบคอบเชียว!” จวินหย่วนโยวยื่นมือไปกอดหยุนถิงไว้
เพราะออกไปบินมารอบหนึ่ง ลมเย็นของเกาะยามค่ำแรงมาก ถึงแม้ร่างกายของจวินหย่วนโยวถูกเป่าจนเย็นมาก แต่ไฟในร่างกายนั้นกลับลุกโชนอย่างน่าประหลาด
อยู่กลางทะเลเป็นเวลาเกือบจะสองเดือน อยู่ด้วยกันกับคนกลุ่มหนึ่งมาตลอด ต่อให้จวินหย่วนโยวอยากทำอะไรสักนิดก็ทำไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดทางมีอันตรายมากมาย จวินหย่วนโยวก็ไม่กล้ามีความคิดอะไร กลัวถูกคนลอบโจมตีหรือวางแผนร้ายใส่
เวลานี้อยู่ในโรงเตี๊ยม ห้องไม่ใหญ่มากมีเพียงสองคน ในที่สุดเขามีโอกาสอยู่กับหยุนถิงตามลำพังแล้ว จวินหย่วนโยวยังอดทนไหวที่ไหน
“ถิงเอ๋อร์ ข้าอยาก!” จวินหย่วนโยวขยับเข้ามา กอดหยุนถิงไว้
หยุนถิงได้ยินน้ำเสียงลุ่มลึกทุ้มต่ำของเขา ชั่วขณะหนึ่งเข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไร ชั่วพริบตาเดียวหน้าแดงจนถึงหลังคอ
ถึงแม้ทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังมีลูกอีกสองคน เวลานี้จวินหย่วนโยวเข้าใกล้เพียงนี้ แม้กระทั่งลมหายใจอบอุ่นของเขายังพ่นอยู่บนต้นคอของหยุนถิง ชั่วขณะนั้นหยุนถิงใจเต้นเร็วขึ้น
“ท่านพี่!”
เสียงดูงงงวยอยู่บ้าง และอบอุ่นอยู่บ้าง ฟังจนไฟที่หน้าอกนั้นซึ่งจวินหย่วนโยวเพิ่งกดลงไว้ ชั่วพริบตาลุกไหม้ขึ้นมา ทั่วทั้งตัวร้อนผ่าวถึงที่สุด
จวินหย่วนโยวยังอดทนได้ที่ไหนอีก พลิกตัวกดหยุนถิงไว้ด้านล่างตัว บ้าคลั่งทั้งคืน จนกระทั่งฟ้าสว่าง
เช้าวันต่อมา คนอื่นๆ ลุกขึ้นกันหมดแล้ว แต่ประตูห้องของหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวยังคงปิดสนิท
“นายท่าน พวกเขาคงไม่ได้แอบออกไปกันแล้วกระมัง?” อี้ชิวถาม
มุมปากฮวาเชียนจั่นวาดขึ้น “เมื่อคืนจวินหย่วนโยวทรมานมาทั้งคืน ตอนเช้าต้องลุกไม่ไหวแน่ ลูกน้องของเขาล้วนอยู่ที่นี่หมด ยังกลัวพวกเขาผิดสัญญาอีกหรือ”
เมื่อคืนฮวาเชียนจั่นจงใจจัดห้องของตนเองไว้ข้างห้องของหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว ก็คือกลัวมีเรื่องไม่คาดฝันอะไร
ถึงแม้เมื่อคืนหยุนถิงพยายามจะควบคุม ไม่กล้าให้ตนเองร้องเสียงดังเกินไป แต่ฮวาเชียนจั่นที่หูดีอย่างมากมาแต่ไหนแต่ไรยังได้ยินแล้ว
จวินหย่วนโยวคนนี้ ยังโหดร้ายเสียจริงเชียว
“เจ้าค่ะ!”
อี้ชิวรอจนถึงช่วงเที่ยง ก็ไม่เห็นหลิงเฟิงและคนอื่นๆ ออกมา ชั่วขณะนั้นนั่งไม่ติดแล้ว “นายท่าน เหตุใดไม่เห็นพวกเขาออกมาเลย พวกเขาไม่ออกมากินข้าวหรือเจ้าคะ?”
“พวกเขาออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถึงตอนนี้ไม่ได้กลับมา นี่คือหน้าที่ในฐานะองครักษ์ลับ น่าจะอยากใช้ความเร็วไวที่สุดคุ้นเคยกับเมืองนี้ จะได้รับมือกับสถานการณ์ใดๆ สะดวกขึ้น!” ฮวาเชียนจั่นตอบ
วินาทีนี้อี้ชิวอดเลื่อมใสเจ้านายไม่ได้เลย คาดไม่ถึงเดาความคิดของพวกเขาได้
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวพักอยู่คราวนี้เป็นเวลาสามวัน หลังจากสามวันทั้งสองคนถึงออกไปข้างนอก
ย่อมไม่ใช่ว่าสามวันอยู่แต่ที่โรงเตี๊ยม แต่ว่าแปลงโฉมออกไปเดินเที่ยว สามวันนี้พวกเขาก็รู้จักทั้งเมืองนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
วันที่สี่ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวถึงออกมา หลงยีและคนอื่นก็ออกมาครบหมด ส่วนที่สวมใส่บนตัวพวกเขาก็เป็นเสื้อผ้าของเมืองนี้ หยุนถิงปรับแต่งรูปโฉมภายนอกให้ทุกคนนิดหน่อย พอทุกคนออกมาอีกทีหนึ่งรูปโฉมดูธรรมดาลงแล้ว
ฮวาเชียนจั่นมองเห็นพวกเขา ก็อดตกใจไม่ได้ “วิชาแปลงโฉมของพวกเจ้านี้ยอดเยี่ยมมากนัก ข้าเกือบจะจำไม่ได้”
“มันแน่อยู่แล้ว วิชาแปลงโฉมของเจ้านายข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้” หลงเอ้อพูดอย่างภูมิใจ
“คิดว่าทุกคนพักผ่อนมาหลายวันแล้ว คงพักกันเต็มที่แล้ว วันนี้สำนักหมอเทวดากับสำนักบู๊เซียนคัดเลือกศิษย์พอดี พวกเจ้าสามารถแทรกซึมไปในนั้นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเจ้ามีคนมาก หากว่าตามข้าเข้าเมืองเทียนหลง จะถูกสายของฮูหยินเจ้าทะเลจ้องเอา ถ้าทุกคนไปด้วยกันจะดึงดูดความสนใจของฮูหยินเจ้าทะเลเข้า
สำนักหมอเทวดาขึ้นตรงอยู่กับฮูหยินเจ้าทะเล คนของข้าก็ถูกส่งเข้าไปสองสามคน เพียงแต่สุดท้ายถูกพวกเขาลอบฆ่าแล้ว
ข้าสงสัยว่าพวกเขาแอบใช้คนควบคุมหนอนพิษกู่ หนอนกู่ผีเสื้อโลหิตก็คือต้องใช้เลือดคนเลี้ยงดู ส่วนสำนักหมอเทวดาก็คือสถานที่ตบตาผู้คนอย่างดีที่สุด
ด้วยทักษะทางการแพทย์ของหยุนถิง เข้าไปได้ไร้ปัญหาแน่นอน ส่วนคนอื่นสามารถไปที่สำนักบู๊เซียนกันได้หน้าที่หลักของพวกเขาคือรับผิดชอบความปลอดภัยของทั้งเกาะเทียนหลง
ฉะนั้นพวกเจ้าสามารถใช้ประโยชน์จากความสะดวกของหน้าที่ ทำความคุ้นเคยทั้งเกาะได้ดีมาก และสะดวกทำการเคลื่อนไหวช่วงหลัง การประสานความร่วมกันอย่างนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้” ฮวาเชียนจั่นแนะนำ
“ได้ ทำตามที่เจ้าบอก” หยุนถิงพยักหน้าตอบรับ
“ดีมาก ในนี้คือสถานะของพวกเจ้า ข้าจัดเตรียมให้เรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าใช้ความเร็วไวที่สุดจำเอาไว้!” ฮวาเชียนจั่นรีบยื่นเข้ามาให้
จวินหย่วนโยวและคนอื่นรับเข้ามา รีบจำเอาไว้ทันใด
จากนั้นฮวาเชียนจั่นนำทางอยู่ด้านหน้า หยุนถิงและคนอื่นตามเขาไป เดินไปทางในเมือง ก็มองเห็นคนสองฝ่ายกำลังคัดเลือกศิษย์ตามคาด
“ทุกคนเลือกตามความถนัดของตนเองก็พอ อย่าแสดงออกจนชัดเจนเกินไป สามารถถูกเลือกเข้าไปได้ก็พอ” ฮวาเชียนจั่นกำชับ
“เข้าใจแล้ว!”
“นายหญิง เช่นนั้นพวกเราควรทำเช่นไรขอรับ?” หลงเอ้อรีบถาม
“หากคิดว่าตนเองทักษะการแพทย์ไม่เลว เดินตามข้ามา หากคิดว่าไม่ไหว ก็ไปสำนักบู๊เซียน!” หยุนถิงบอก
“ขอรับ!” ทุกคนรีบแบ่งกลุ่ม
“เช่นนั้นข้าเล่า?” จวินหย่วนโยวจงใจถาม
“ท่านพี่ต้องไปด้วยกันกับข้าอยู่แล้ว!” หยุนถิงตอบ
จวินหย่วนโยวพอใจอย่างยิ่ง หลายคนเดินไปทางนั้นกัน
“พี่ชาย อันนี้จะเข้าร่วมเช่นไรกันเล่า?” หลงเอ้อถามอย่างกระตือรือร้น
“เจ้าหยิบรายการมาจากนั้นเลือกยาที่เขียนไว้บนนั้นออกมา หากไม่ผิดก็เข้าสู่รอบแรกแล้ว!” คนที่รับผิดชอบตอบ
“ขอบคุณมาก!” หลงเอ้อรีบหยิบมาหลายใบ แบ่งให้ทุกคนไป
หยุนถิงยืนอยู่ด้านหน้าสุด มองรายการนั้นแวบหนึ่ง ล้วนเป็นยาที่ง่ายๆ แต่ว่านางยังจงใจชักช้าอยู่ตั้งนาน โดยเฉพาะยาสองตัวสุดท้ายลังเลอยู่ตั้งนาน จนกระทั่งถูกคนเตือนสติถึงจงใจเลือกมั่วๆ ส่งเข้าไปแล้ว
จวินหย่วนโยวอดนับถือการแสดงของหยุนถิงไม่ได้ จึงเลียนแบบตามขึ้นมาเช่นกัน
สุดท้ายจากการตัดสินของผู้ดูแล หยุนถิง จวินหย่วนโยว หลิงเฟิง และหลงยีผ่านเข้ารอบแล้ว คนอื่นมีผิดอย่างหนึ่ง มีผิดสองอย่าง โดยเฉพาะหลงเอ้อ ผิดไปสี่อย่างถือว่าผิดครึ่งหนึ่งเลย
หลงเอ้อในเวลานี้อยากร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตา เขาเสียใจจริงว่าทำไมก่อนหน้านี้ตนเองไม่เรียนรู้สมุนไพรจากซื่อจื่อเฟยมามากๆ รู้สึกเพียงว่ามีซื่อจื่อเฟยอยู่ ฟ้าถล่มลงมาก็ไม่กลัว ปรากฏว่าช่วงเวลาสำคัญตนเองกลับช่วยซื่อจื่อเฟยไม่ได้ หลิงเอ้อเกลียดเสียจริงเชียว
แต่ว่าไม่มีทางเลือก เขาได้เพียงตามคนอื่นๆ ไปสำนักบู๊เซียนแล้ว
หยุนถิงและคนอื่นที่ผ่านเข้ารอบ เดินตามศิษย์ของสำนักหมอเทวดาไปแล้ว ขึ้นเรือของพวกเขา จากนั้นไปยังสำนักหมอเทวดา
บนเรือ
หยุนถิงนั่งพักผ่อนอยู่ด้านข้าง ผู้ชายที่รูปร่างอวบอ้วนอยู่บ้างคนหนึ่งนั่งลงมา “เจ้าเป็นผู้ถูกเลือกที่เพิ่งผ่านเข้าสำนักหมอเทวดากระมัง ข้าก็เช่นกัน ข้าชื่อผางซิง เพื่อวันนี้ข้าพยายามมาสิบกว่าปี แม่ข้าจะต้องภูมิใจในตัวข้าเป็นแน่ ต่อไปพวกเราก็เป็นศิษย์สำนักเดียวกันแล้ว ทุกคนมาดูแลกันและกันเถิด!”
ผางซิงพูดอยู่ ก็อยากโอบหยุนถิงไว้อย่างสนิทสนม
กลับถูกจวินหย่วนโยวจับเอาไว้ “อย่าแตะต้องน้องชายข้า!”
คำพูดอันเย็นเยือก ทำให้ผางซิงตัวสั่นเทาจากจิตใต้สำนึก