จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 601 หยุดนะ ห้ามทำร้ายนาง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 601 หยุดนะ ห้ามทำร้ายนาง
จ้าวอ๋องที่เดิมหลับตาอยู่บนเตียงรับรู้ได้ถึงไอสังหาร ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว มองดูคนตรงหน้าที่จะฆ่าเขา ก็รีบหลบอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเป็นใครกัน?” จ้าวอ๋องถามอย่างเย็นชา
“แน่นอนว่าเป็นคนที่ต้องการชีวิตเจ้า!” จ้าวเม่ยเอ๋อร์แทงพลาดไป ก็แทงใหม่อีกครั้ง
จ้าวอ๋องรีบหลบไปข้างเตียงทันที และชักกระบี่ตนออกมาโจมตีกลับ
ทั้งสองคนต่อสู้กันทันที ในห้องไม่ได้จุดตะเกียง มืดมาก อาศัยแสงจันทร์ที่เข้ามาทางหน้าต่างพอเห็นเลือนราง จ้าวเม่ยเอ๋อร์ไม่ยั้งมือเลยสักนิด แต่ละการโจมตีเด็ดขาด เข้าจุดตายทั้งนั้น
จ้าวอ๋องแก่ไปมาก ถึงฝีมือจะยังดีอยู่ แต่ไม่นานเรี่ยวแรงก็หายไป แขนเขาโดนไปหนึ่งมีด ทำเขาเจ็บจนหน้าซีดเผือด
จ้าวเม่ยเอ๋อร์ไม่ให้โอกาสเขาพักหายใจเลยสักนิด แทงลงมาอีกมีดทันที
“ใครก็ได้ ใครก็ได้!” จ้าวอ๋องตะโกนดัง
องครักษ์ที่อยู่ข้างๆพอได้ยินก็รีบเข้ามาทันที
จ้าวเม่ยเอ๋อร์เกือบจะแทงเข้าจ้าวอ๋องอยู่แล้ว แต่จู่ๆมีองครักษ์สิบกว่าคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอก โอกาสหายากนัก จ้าวเม่ยเอ๋อร์สาดผงยาสีขาวในมือออกไป องครักษ์ที่พุ่งเข้ามาเหล่านั้นเจ็บตาทันที มองอะไรไม่เห็น
ถึงจ้าวอ๋องจะพยายามหลบไปข้างๆแล้ว แต่มีดสั้นนั่นก็แทงเข้ามาที่หน้าอกเขา
วินาทีที่มีดสั้นแทงลงไป จ้าวเม่ยเอ๋อร์ชะงักกึก
ทั้งๆที่นางเคียดแค้นชายตรงหน้ายิ่งนัก เพราะเขาทำให้ท่านแม่ตาย ทำให้ตนต้องอยู่ไม่สู้ตายมาในหลายปีนี้ แต่เหตุใดตอนนี้นางถึงได้รู้สึกปวดใจและลังเลเล่า
จ้าวอ๋องเห็นนางชะงัก กระชากผ้าปิดหน้าสีดำของนางลงมาอย่างรวดเร็ว
แสงตะเกียงในทางเดินสาดส่องเข้ามา ทำให้มองเห็นในห้องชัดเจน
พอเห็นใบหน้าจ้าวเม่ยเอ๋อร์ชัดเจน จ้าวอ๋องอึ้งไปเลย
ต่อให้ไม่เจอกันหลายปี ต่อให้จ้าวเม่ยเอ๋อร์มิได้เป็นหน้าตาตอนเด็กแล้ว หากใบหน้านางนั้นเหมือนกับท่านแม่ของนางยิ่งนัก
มาเจอใบหน้านี้อีกครั้ง จ้าวอ๋องรู้สึกเหมือนฝันไป
“เม่ย เม่ยเอ๋อร์ เจ้าใช่หรือไม่?” น้ำเสียงจ้าวอ๋องสั่นเครือ
เขาไม่คิดเลยว่า จะยังได้เจอลูกสาวคนนี้อีก ตอนนั้นที่จ้าวเม่ยเอ๋อร์เกิดเรื่อง จ้าวอ๋องส่งคนออกตามหานางอยู่นานมาก ก็หาไม่เจอสักที
หลายปีมานี้ไม่มีข่าวคราวของนางมาโดยตลอด จ้าวอ๋องยังคิดว่านางตายไปแล้วเลย
จ้าวเม่ยเอ๋อร์เห็นสีหน้าเขาทั้งหมด แต่กลับบอกเขาอย่างเย็นเยียบและเย้ยหยัน “ข้ายังไม่ตาย ท่านผิดหวังมากกระมัง!” ระหว่างพูด ก็ดึงมีดสั้นออกอย่างแรง
เลือดสดกระเด็นโดนหน้าจ้าวเม่ยเอ๋อร์พอดี ทั้งอุ่นร้อนและคาวเลือด จ้าวเม่ยเอ๋อร์มองอย่างรังเกียจ และปาดเลือดสดที่แก้มออก
“ตอนนั้นท่านทำให้ท่านแม่ข้าตายอย่างอนาถ วันนี้ข้าจะล้างแค้นให้นาง!” จ้าวเม่ยเอ๋อร์โจมตีเข้ามาอีกครั้ง
“หยุดนะ รีบฆ่านางซะ!” น้ำเสียงเย็นเยียบลอยมา จ้าวเฉินเยวียนพุ่งเข้ามาพร้อมกับมือธนูด้านหลัง
ธนูเพ่งเล็งไปทางจ้าวเม่ยเอ๋อร์ กำลังจะยิงใส่นาง
“หยุดนะ ห้ามทำร้ายนางเด็ดขาด!” จ้าวอ๋องรีบห้ามทันที
จ้าวเม่ยเอ๋อร์อึ้ง เขามิควรจะจัดการตนให้สิ้นซากรึ?
เหล่มองมือธนูเจ็ดแปดคนด้านหลัง และมองดูระยะห่างระหว่างตนและจ้าวอ๋อง จ้าวเม่ยเอ๋อร์รู้ว่าคืนนี้นางฆ่าคนผู้นี้มิได้อีกแล้ว
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านต้องห้ามด้วย?” จ้าวเฉินเยวียนถามอย่างสงสัย
จ้าวเม่ยเอ๋อร์เห็นพวกเขาสองคนพูดคุยกัน เลยรีบหนีออกทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
นางพึ่งไป จ้าวจิ่นและกัวมู่ไป๋ก็เหาะเข้ามา
“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นรึ ท่านได้รับบาดเจ็บแล้ว ใครทำร้ายท่านกัน?” จ้าวจิ่นเดินเข้ามาอย่างเป็นห่วง และให้คนไปเอากล่องยามาทันที
“ข้ามิเป็นอะไร เพียงแค่มีนักฆ่ามา นางหนีไปแล้ว!” จ้าวอ๋องพูดเสียงเรียบ
ท่านหมอที่ตามมารีบพุ่งเข้ามาทันที และช่วยทำแผลให้จ้าวอ๋อง
“นักฆ่า เห็นใบหน้ามันชัดหรือไม่ พวกเราพึ่งมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็เจอนักฆ่า คงมิใช่ว่าฝ่าบาทอยากจะลงมือกับท่านพ่อหรอกกระมัง?” จ้าวจิ่นเป็นห่วง
“ไม่ใช่ฝ่าบาท อย่าพูดเหลวไหล นี่เป็นอาญาหนัก!” จ้าวอ๋องหมุนตัวเดินกลับไปที่เตียง จ้าวจิ่นยังอยากพูดอะไรต่อ จ้าวเฉินเยวียนสีหน้าเย็นชาทันที “เรื่องคืนนี้ใครก็ห้ามพูดออกไปแม้แต่ครึ่งคำ มิเช่นนั้นข้าจะไม่ละเว้นโดยเด็ดขาด!”
จ้าวจิ่นได้แต่ไม่ว่าอะไร แต่ในใจยิ่งสงสัย
“ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันให้หมด ข้าเจ็บแค่ภายนอกเท่านั้น ไม่รุนแรงดอก!” จ้าวอ๋องแค่นเสียงเย็น
“เช่นนั้นท่านพ่อพักผ่อนเสียเถิด!” จ้าวจิ่นถึงได้จากไป คนอื่นก็ตามออกไปด้วย
กัวมู่ไป๋เหล่มองแขนที่ได้รับบาดเจ็บของจ้าวอ๋อง คิ้วขมวดมุ่น หมุนตัวจากไปทันที
อีกด้านหนึ่ง หลังจากจ้าวเม่ยเอ๋อร์จากไปก็ไม่ได้กลับจวนผี นางอาศัยอยู่ที่จวนผีคนเดียวมาหลายปี ไม่มีสักคนจะพูดด้วย คืนนี้นางอึดอัดใจนัก ดังนั้นจ้าวเม่ยเอ๋อร์เลยพุ่งไปที่จวนซื่อจื่อ
นางไม่ได้เข้าทางประตูหน้า เวลานี้เป็นกลางดึกไปแล้ว ดูท่าหยุนถิงคงหลับแล้ว นางอยากพูดคุยกับหยุนถิง ดังนั้นจ้าวเม่ยเอ๋อร์เลยปีนกำแพงเสียเลย
นางปีนไปได้ครึ่งเดียว มาอยู่บนกำแพง องครักษ์ลับของจวนซื่อจื่อก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว หลงซานและหลงซื่อมือถือกระบี่ยาว ขวางหน้าจ้าวเม่ยเอ๋อร์ไว้
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน กล้ามาบุกรุกจวนซื่อจื่อ?” หลงซานถามเสียงเย็น กระบี่ยาวในมือจะแทงเข้ามา
จ้าวเม่ยเอ๋อร์ที่พึ่งต่อสู้มา มีหรือจะมีแก่ใจสู้กับเขาอีก “ข้าเป็นคนของหยุนถิง มาหานางมีธุระหน่อย ตอนนี้เจ้าไปรายงานได้แล้ว บอกว่าจ้าวเม่ยเอ๋อร์มาแล้ว นางจะออกมาพบข้าเอง” ระหว่างพูด ก็นั่งรอบนกำแพงเสียเลย
พอหลงซานเห็นนางท่าทีสบายๆไม่รีบร้อน ทำราวกับมิใช่คนนอกเลย ก็เริ่มงุนงงเช่นกัน หลงซานรีบไปรายงานทันที ให้หลงซื่อจับตาดูนางไว้
ในห้อง หยุนถิงกำลังจะลุกขึ้น พลันได้ยินหลงซานเข้ามารายงาน ปกติจ้าวเม่ยเอ๋อร์พักอยู่ที่จวนผี ไม่เคยออกมาเลย ต่อให้ออกมาก็ไม่มาจวนซื่อจื่อ หรือว่านางเกิดอะไรขึ้น หยุนถิงรีบออกมาทันที
จวินหย่วนโยวหยิบเสื้อคลุมห่มให้นาง “ถิงเอ๋อร์ เจ้ารอในห้องนี่แหละ ข้าจะให้หลงซานพาคนเข้ามา กลางดึกน้ำค้างตกลมแรง ระวังมิสบายเอา”
“ได้” หยุนถิงรับปาก
ไม่นานหลงซานก็พาจ้าวเม่ยเอ๋อร์เข้ามา พอจ้าวเม่ยเอ๋อร์เห็นหยุนถิง ก็เดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ และนั่งลงตรงข้ามนางทันที
“หยุนถิง ข้าอยากพูดกับเจ้าหน่อย”
หยุนถิงเห็นชัดถึงท่าทางเหงาหงอยผิดหวังของนางในคืนนี้ “เกิดอะไรขึ้นกันรึ?”
“คืนนี้ข้าไปลอบฆ่าจ้าวอ๋องมา!” จ้าวเม่ยเอ๋อร์ตอบตามตรง
หลงซานที่อยู่ด้านนอกประตูยิ้มมุมปาก สตรีผู้นี้ใจกล้านัก จ้าวอ๋องพึ่งมาถึงเมืองหลวงตอนกลางวัน ตกกลางคืนนางก็ไปลอบฆ่า ช่างรวดเร็วเสียจริง
หยุนถิงรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของจ้าวเม่ยเอ๋อร์ อดสงสารนางไม่ได้ “เจ้าทำสำเร็จแล้วรึ?”
“เปล่า!”
“ทำใจลงมือไม่ได้?” หยุนถิงถามอีก
“มิใช่ อีกแค่นิดเดียวข้าก็จะสำเร็จแล้ว ต้องโทษจ้าวเฉินเยวียนดันพามือธนูเข้ามา ถึงทำให้ข้าพลาดโอกาสไป และเขาเองก็จำข้าได้” จ้าวเม่ยเอ๋อร์เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
ทำเอาหยุนถิงเป็นห่วงอย่างมาก “เจ้ามิเป็นไรก็ดีแล้ว ครั้งหน้าอย่าได้ผลีผลามเช่นนี้อีก อยากฆ่าคนผู้หนึ่งมีวิธีการมากมาย ไม่แน่ว่าจะต้องลงมือด้วยตัวเอง การลอบฆ่าน่ะโง่ที่สุด”
“ข้าย่อมรู้ดี พอข้าคิดถึงการตายของท่านแม่ข้า ข้าก็ทนไม่ไหว ไม่ถูกสิ นังหนูอย่างเจ้านี่สั่งสอนข้าเสียแล้ว ใจกล้ามากนะ!” จ้าวเม่ยเอ๋อร์บอก ยื่นมือเข้ามาบีบหน้าหยุนถิง
เพียงแต่นางยังมิทันได้ออกแรง สายตาเย็นเยียบของจวินหย่วนโยวพุ่งเข้ามาทันที “ห้ามแตะต้องถิงเอ๋อร์เด็ดขาด!”