จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 578 นางเป็นพระชายาของท่านนะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 578 นางเป็นพระชายาของท่านนะ
“ขอรับ!” พ่อบ้านรีบให้องครักษ์แยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปวังหลวง อีกกลุ่มไปเชิญท่านหมอ
ผิงหนานอ๋องหามเซียจิ่วเซียวกลับห้องทันที และเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้เขาด้วยตัวเอง
พอิเห็นรอยแผลเลือดเกรอะกรังทั่วทั้งตัวเขาแล้ว บ้างเป็นแผลเป็น บ้างยังเลือดไหลซิบๆ เนื้อตัวไม่มีที่ใดสบายดีเลย มือที่ถือผ้าของผิงหนานอ๋องกำหมัดอย่างแรง จนเกร็งกระดูกขาวโพลน
เขามีลูกชายแค่คนนี้คนเดียว รักใคร่แต่เด็ก ทะนุถนอมกล่อมเกลา อยู่อย่างสุขสบายอุดมสมบูรณ์ เคยขาดแคลนเมื่อใดกัน บัดนี้ลูกชายกลับโดนทรมานเสียจนกลายเป็นสภาพคนมิใช่ผีก็มิเชิงเช่นนี้ ทำให้ผิงหนานอ๋องปวดใจนัก
ในเวลาเดียวเขาก็ยิ่งเคียดแค้นองค์หญิงใหญ่นัก จะไม่มีวันยกโทษให้นางโดยเด็ดขาด
ไม่นานท่านหมอกับหมอหลวงก็มากันพร้อมหน้า พากันถวายบังคมคารวะผิงหนานอ๋อง จากนั้นก็ตรวจอาการเซียจิ่วเซียว
เพียงแต่ทั้งสองล้วนมีสีหน้าเคร่งขรึมนัก “ท่านอ๋อง ขาและแขนของท่านอ๋องน้อยโดนคนตัดขาดเอาดื้อๆ กระดูกแหลกละเอียดหมดแล้ว อีกทั้งได้รับบาดเจ็บมานานนัก พลาดเวลารักษาที่ดีที่สุดไป ไม่อาจรักษาได้จริงๆ”
“ใช่ท่านอ๋อง ข้าน้อยเองก็หมดปัญญา!” ท่านหมอตอบอย่างระมัดระวัง
“รักษาให้ท่านอ๋องน้อย ใช้ยาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวยาราคาแพงแค่ไหน ต้องรักษาเขาให้ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเด็ดหัวพวกเจ้าซะ!” ผิงหนานอ๋องตะคอกดัง
นี่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา จะกลายเป็นคนพิการได้อย่างไร เขาไม่ยอมเด็ดขาด
หมอหลวงและท่านหมอตกใจแทบตาย ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าช่วยไม่ได้ แต่ทั้งสองคนก็ไปเปิดใบสั่งยาบำรุงร่างกายมา พวกเขาจะนั่งรอความตายไม่ได้นี่นา
พอดูแลเซียจิ่วเซียวเสร็จ ผิงหนานอ๋องถึงเดินออกมา ตอนออกมาที่หน้าประตู เขาสะดุดแทบล้ม โชคดีที่พ่อบ้านข้างๆพยุงเขาไว้ทัน
“ท่านอ๋อง ท่านต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ตอนนี้ท่านอ๋องน้อยได้แต่พึ่งพาท่านเท่านั้นแล้ว!” พ่อบ้านเกลี้ยกล่อม
“ใช่ ข้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้ จะต้องคุ้มครองเซียวเอ๋อร์ให้ดี แต่พ่อบ้าน ลูกชายของข้าอยู่ดีๆกลายเป็นคนพิการ เมื่อครู่คำพูดหมอหลวงเจ้าก็ได้ยินแล้วกระมัง หรือว่าชาตินี้เซียวเอ๋อร์คงต้องเป็นอย่างนี้งั้นรึ?” ผิงหนานอ๋องบอกอย่างปวดใจ
“ท่านอ๋อง องค์หญิงสามเป็นศิษย์เจ้าหอแห่งหอเทพเซียนเป็นศิษย์คนสุดท้อง ฝีมือการแพทย์น่าจะเก่งกาจกว่าหมอหลวงกระมัง ถ้าอย่างไรข้าน้อยไปเชิญองค์หญิงสาม?” พ่อบ้านเสนอ
“จริงสิ เซวียนเอ๋อร์ ยังมีเซวียนเอ๋อร์ ฝีมือการแพทย์ของนางต้องเก่งกาจแน่ ต้องมีหนทางช่วยเซวียนเอ๋อร์แน่!” ผิงหนานอ๋องพูดอย่างตื่นเต้น พลันเหมือนนึกถึงอะไรขึ้นมาได้ ใบหน้าหม่นหมองลงทันที
เขาไม่ได้ลืมว่า ตอนนั้นที่เริ่นเซวียนเอ๋อร์อุ้มเจ้าหอแห่งหอเทพเซียนจากไปด้วยท่าทางทุกข์ทรมานเพียงนั้น สายตาเด็ดขาดเช่นนั้น องค์หญิงใหญ่ฆ่าอาจารย์นาง นางจะยอมช่วยเซียวเอ๋อร์ได้อย่างไรกัน
หากองค์หญิงใหญ่ไม่ไล่ล่าให้ตายสิ้น เซวียนเอ๋อร์ต้องยอมช่วยเซียวเอ๋อร์แน่ ตอนนี้ผิงหนานอ๋องจะเอาหน้าที่ไหนไปขอร้องเริ่นเซวียนเอ๋อร์ล่ะ
พ่อบ้านเห็นสีหน้าทุกข์ทรมานและอึดอัดใจของเริ่นเซวียนเอ๋อร์ทั้งหมด “ท่านอ๋อง คนที่ห่าอาจารย์ขององค์หญิงสามคือองค์หญิงใหญ่ ไม่เกี่ยวกับท่านเลย บัดนี้ท่านได้กำจัดเขี้ยวเล็บขององค์หญิงใหญ่แล้ว เหตุใดไม่ลองไปหาองค์หญิงสามดู นางเป็นความหวังเดียวของท่านอ๋องน้อยแล้วนะ”
“เจ้าพูดถูก นางเป็นคนเดียวที่จะช่วยเซียวเอ๋อร์ได้แล้ว ต่อให้ต้องขอร้อง ข้าก็จะขอให้นางมาให้ได้!” ผิงหนานอ๋องรีบออกไปทันที
อีกด้านหนึ่งนับจากอาจารย์โดนฆ่าตาย เริ่นเซวียนเอ๋อร์สาบานจะล้างแค้นให้ได้ และแอบเก็บหลักฐานความผิดที่องค์หญิงใหญ่ทำมาหลายปีอย่างเงียบๆ
หยุนถิงส่งจดหมายมาก่อนหน้านี้ไม่นาน รับปากจะร่วมมือกับนาง ช่วยนางต่อกรกับองค์หญิงใหญ่ จากนั้นก็ให้คนส่งหลักฐานว่าองค์หญิงใหญ่ยักยอกทรัพย์สิน ทุจริตติดสินบนในหลายปีนี้มาให้ และยังบอกมาด้วยว่าตาเฒ่าเหอปลอดภัยแล้ว
เริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่เชื่ออยู่แล้ว นางวิ่งไปขุดสุสานกลางดึก สุดท้ายพบว่าศพอาจารย์หายไปแล้ว ถึงได้เชื่อหยุนถิง และซาบซึ้งใจยิ่งนัก
อาจารย์ยังมีชีวิตอยู่ช่างดียิ่ง โชคดีที่หยุนถิงลงมือช่วยเหลือ มิเช่นนั้นนางต้องไม่อาจสงบใจไปตลอดชีวิตแน่
ดังนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์จึงสาบานในใจว่า จะต้องล้างแค้นให้ได้ มิเช่นนั้นหากองค์หญิงใหญ่พบว่าอาจารย์แกล้งตาย คงต้องทำร้ายอาจารย์เป็นครั้งที่สองแน่
บัดนี้ได้ยินทหารยามเฝ้าประตูมารายงานว่า ผิงหนานอ๋องขอพบนาง เริ่นเซวียนเอ๋อร์รู้ทันทีว่าโอกาสมาแล้ว
ผิงหนานอ๋องเดินเข้ามา ไม่พูดอะไรก็คุกเข่าให้เริ่นเซวียนเอ๋อร์ทันที “เซวียนเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฆ่าอาจารย์เจ้าตาย ข้าไม่มีหน้าจะมาพบเจ้า
แต่เซียวเอ๋อร์ถูกคนตัดแขนขาขาด บัดนี้กลายเป็นคนพิการเสียแล้ว ขอร้องเจ้าช่วยเขาด้วยเถอะ ข้ามีลูกชายโทนแค่คนเดียว ขอร้องเจ้าช่วยหน่อย ไม่ว่าจะให้ข้าทำอะไร ข้ายอมทั้งสิ้น”
เริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเสด็จอาผู้นี้จะคุกเข่าให้นาง “ให้ข้าช่วยเซียจิ่วเซียวน่ะได้ แต่ข้าต้องการให้เสด็จอาร่วมมือกันกับข้าเอาชนะองค์หญิงใหญ่ นางฆ่าอาจารย์ข้าตาย แค้นนี้ข้าต้องชำระแน่ หากเสด็จอาตัดใจไม่ได้ ก็คิดซะว่าไม่เคยมาที่จวนข้าแล้วกัน!”
“ข้าตกลง ข้ายินดีจะร่วมมือกับเจ้าเอาชนะองค์หญิงใหญ่!” ผิงหนานอ๋องตอบทันทีโดยไม่คิดเลย
เริ่นเซวียนเอ๋อร์มองมาอย่างเคลือบแคลง “นางเป็นพระชายาของท่านนะ?”
“พระชายาแล้วอย่างไร นางแต่งกับข้าก็เพราะต้องการอำนาจกองทัพของข้า บัดนี้นางทำร้ายจนลูกชายข้าเป็นเช่นนี้ ข้าไม่มีทางละเว้นนางแน่!” ผิงหนานอ๋องพูดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ได้ เสด็จอาช่างตรงไปตรงมานัก” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตามผิงหนานอ๋องไปดูอาการเซียจิ่วเซียว
“เป็นอย่างไร มีหนทางรักษาหรือไม่?” ผิงหนานอ๋องสีหน้ากังวล
“ก็แค่แขนขาขาด บาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ข้ารักษาได้ ขอเสด็จอามอบหลักฐานพวกนี้ให้เสด็จพ่อข้าด้วย!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ยื่นฎีกาหลายเล่มและจดหมายให้
“ได้ ข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้!” ผิงหนานอ๋องไม่เปิดดูเลยสักนิด รับไปก็ไปทันที
เริ่นเซวียนเอ๋อร์ทำทีฝังเข็ม เปิดใบสั่งยาและรักษาให้เซียจิ่วเซียว
นางมองแวบเดียวก็รู้ว่าแขนและขาของเซียจิ่วเซียวโดนคนตัดขาดเอาดื้อๆ กระดูกยังแหลกละเอียดแล้ว ต่อให้เป็นเทพยดาก็ไม่อาจรักษาได้ การที่นางรับปากก็แค่อยากอาศัยมือผิงหนานอ๋องลงโทษองค์หญิงใหญ่เท่านั้นเอง
นางไร้ใจ ก็อย่าโทษว่าตนไม่แยแส
วังหลวงแคว้นเทียนจิ่ว
ฮ่องเต้เห็นของที่ผิงหนานอ๋องนำมา สีหน้าทะมึนเคียดแค้น เดือดดาลทะลุฟ้า เคียดแค้นยิ่งนัก
“องค์หญิงใหญ่ช่างบังอาจนัก กล้ายักยอกทรัพย์สิน ทุจริตงบประมาณที่ใช้ในการซ่อมแซมแม่น้ำถนน และยังสบคบคิดขุนนาง เปิดเหมืองแร่ลับๆ สร้างอาวุธ ซ่องสุมกำลังพล นี่นางคิดจะก่อกบฏหรือไร?”
“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมเคยเห็นองค์หญิงสวมชุดมังกรในห้องหนังสือที่จวนจริงๆ! นางบอกว่า การที่ฝ่าบาทได้ครองบัลลังก์เป็นเพราะมีนางคอยพยุงประคับประคอง หากนางอยากขึ้นครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้เสียเอง ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ต้องสละบัลลังก์ให้!” ผิงหนานอ๋องบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ชั่วร้ายนัก องค์หญิงใหญ่อกตัญญูเช่นนี้ หลันซิงเจ้ารีบให้คนไปสืบทันที หากเป็นจริงดั่งฎีกานี่ ข้าจะไม่ละเว้นแน่นอน!” ฮ่องเต้ตะคอกดัง
หลันซิงซึ่งเป็นผู้บัญชาการองครักษ์หลวงรับคำสั่งทันที “พ่ะย่ะค่ะ!”
อันที่จริงการกระทำทั้งมวลขององค์หญิงใหญ่หลายปีมานี้ ฮ่องเต้แคว้นเทียนจิ่วปิดตาข้างหนึ่งมาตลอด ก็แค่เห็นแก่ที่นางช่วยตนตอนขึ้นครองบัลลังก์แรกๆเท่านั้นเอง
บัดนี้นางกลับคิดก่อกบฏ ฮ่องเต้ย่อมไม่อนุญาตอยู่แล้ว
หลังจากความโกรธ ฮ่องเต้เลิกคิ้วมองผิงหนานอ๋อง “องค์หญิงใหญ่เป็นพระชายาของเจ้านะ เหตุใดจู่ๆเจ้ามาจัดการนางเล่า?”
“กราบทูลฝ่าบาท ถึงองค์หญิงใหญ่จะเป็นพระชายาของกระหม่อม แต่กระหม่อมเป็นขุนนางของฝ่าบาท บัดนี้นางคิดร้ายต่อราชบัลลังก์และแผ่นดินของฝ่าบาท กระหม่อมจึงได้แต่เลือกบ้านเมืองแทนความรัก” ผิงหนานอ๋องพูดอย่างจริงจัง ไม่พูดเรื่องเซียจิ่วเซียวเลยสักนิด
“ดี สมเป็นผิงหนานอ๋องที่ข้าให้ความสำคัญที่สุด เจ้าสามารถจงรักภักดีได้เพียงนี้หายากยิ่งนัก ข้าจะต้องตบรางวัลให้อย่างงามแน่!”