จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 547 ใส่ร้ายเจ้า เจ้ายังมิคู่ควร
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 547 ใส่ร้ายเจ้า เจ้ายังมิคู่ควร
บนเตียงในห้อง มีร่างเปลือยเปล่าของคนสองคนกอดตระคองอยู่ด้วยกัน หลับเป็นตายราวกับหมู ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนเข้ามา
หยุนถิงโกรธจนหน้าดำทะมึน บรรยากาศรอบกายกลายเป็นเย็นเยียบ รีบพุ่งเข้าไปทันที “หยุนซู”
แต่พอเห็นหน้าฝ่ายหญิงชัด หยุนถิงแอบถอนหายใจโล่งอก “องค์หญิงห้า อ๋องเก้า!”
ฮ่องเต้เดือดดาลนัก “กล้ามาทำเรื่องบัดสีน่าอายเช่นนี้ในวังของข้า ทหารปลุกพวกเขาซะ!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูกงกงให้คนนำถาดน้ำเย็นสองถาดใหญ่มาทันที สาดลงไปที่ทั้งสองคนบนเตียงทันที
“อ๊า!” องค์หญิงห้าพลันโดนสาดน้ำเย็นใส่ หวีดร้องออกมา แล้วก็ตื่นขึ้นมา
พอเห็นหยุนถิง จวินหย่วนโยว ฮ่องเต้ยืนอยู่ตรงหน้า นางตกใจหน้าซีดเผือดทันที พบว่า ตนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า องค์หญิงห้าหวีดร้องอีก รีบคว้าผ้าห่มข้างๆมาห่มตนเองทันที
“เจ้าคนสารเลว มาอยู่บนเตียงข้าได้ยังไงกัน?”
ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ อ๋องเก้ามาอยู่บนเตียงตนเสียได้ และยังโดนเสด็จพี่กับหยุนถิงพบเข้าอีก หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต่อไปนางจะสู้หน้าใครได้ อ๋องเก้าน่าตายนักทำลายชื่อเสียงนาง ต้องเป็นแผนการร้ายของหยุนถิงแน่ๆ
อ๋องเก้าพึ่งตื่นขึ้นมา มองคนตรงหน้าอย่างงงงวย “ไม่ใช่เจ้าส่งคนไปเชิญข้ามาดื่มชารึ เจ้ากล้าหลอกข้าขึ้นเตียง หน้าไม่อาย ความบริสุทธิ์ของข้าโดนเจ้าทำลายหมดแล้ว!”
อ๋องเก้าเองก็คว้าผ้าห่มมาห่มกายตน บนเตียงมีผ้าห่มผืนเดียว อ๋องเก้าแย่งชิงกับองค์หญิงห้าไปมา ไม่ยั้งมือเลยสักนิด
องค์หญิงห้าถลึงตามองมาอย่างเดือดดาล “สารเลว ความบริสุทธิ์ของข้าโดนเจ้าทำลายแล้ว เจ้านิสัยอย่างไรไม่รู้รึ คนที่เรียกเจ้ามาคือองค์หญิงเจ็ด ไม่ใช่ข้า!”
“องค์หญิงห้ารู้ได้อย่างไรว่า องค์หญิงเจ็ดเชิญอ๋องเก้ามาดื่มชา?” หยุนถิงถามเสียงเย็น
คำพูดเดียวถามตรงประเด็น
องค์หญิงห้าถลึงตามองหยุนถิงอย่างเคียดแค้น “ต้องเป็นเจ้าใส่ร้ายข้าแน่ เจ้าให้อ๋องเก้ามาทำลายความบริสุทธิ์ของข้า เสด็จพี่ขอร้องท่านจัดการให้ข้าด้วยเถิด น้องต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว มิสู้ตายเสียเลยดีกว่า!”
“น้องหญิงห้า เจ้าพูดจาเช่นนี้ปรักปรำหยุนถิงแล้วนะ เสด็จพี่ เมื่อครู่ข้าออกจากวังไป ระหว่างทางก็ได้เจอสาวใช้คนหนึ่งนำหยุนซูเข้าวังมา
ตอนนั้นสาวใช้นางนั้นบอกว่า น้องหญิงเจ็ดเรียกหยุนซูเข้าเฝ้า ข้าไม่ได้คิดอะไรมาก สุดท้ายพอออกจากวัง ก็เจอพวกจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงที่หน้าประตูวัง พวกเขาบอกว่า มีคนเห็นสาวใช้คนสนิทขององค์หญิงห้าพาตัวหยุนซูไป
ข้าถึงนึกขึ้นได้ว่าสาวใช้คนนั้นหน้าตาคุ้นๆ รีบพาพวกเขาเข้ามาเลย เหตุใดน้องหญิงห้าถึงให้สาวใช้ตนเองไปแกล้งทำเป็นสาวใช้ของน้องหญิงเจ็ด แล้วหลอกหยุนซูเข้ามาเล่า?” โม่ฉือชิงเบ้ปากถาม
สายตาฮ่องเต้หม่นหมองลง ถลึงตามองมาอย่างเดือดดาล เพียงแต่เขายังไม่ทันอ้าปากบอก อ๋องเก้าก็พูดขึ้นก่อน
“ที่แท้เจ้าคือองค์หญิงห้า ไม่ใช่องค์หญิงเจ็ด ฮ่องเต้ต้าเยียนท่านต้องจัดการให้ข้านะ มีสาวใช้มาบอกข้าว่า องค์หญิงเจ็ดเชิญข้ามาดื่มชา ข้าก็มา
แต่พอมาถึงห้อง พอข้าผลักประตูเข้ามา ก็มีคนทำข้าจนสลบ ต่อมาเกิดอะไรขึ้นข้าก็จำไม่ได้แล้ว นี่ข้าเปลือยกายต่อหน้าพวกท่าน ชื่อเสียงของข้าป่นปี้หมดแล้ว!” อ๋องเก้าคร่ำครวญ
“เสด็จพี่อย่าฟังเขาพูดเพ้อเจ้อนะเพคะ เขาน่ะทำร้ายข้า ข้าต่างหากเป็นผู้เสียหาย ขอเสด็จพี่ลงโทษเขาด้วย!” องค์หญิงห้าพูดอย่างเคียดแค้น
โม่เหลิ่งเหยียนเดินเข้ามาจากด้านนอก “ฝ่าบาท กระหม่อมพบคนน่าสงสัยหลายคนในวัง พอสืบสวนก็รู้ว่า เป็นสาวใช้และขันทีขององค์หญิงห้า พวกมันลนลานหาทางหนีออกจากวัง ดังนั้นกระหม่อมเลยจับตัวพวกมันไว้!”
พอองค์หญิงห้าได้ยินดังนั้น ก็ตกใจยิ่งกัน เสร็จกัน
“พาเข้ามา ข้าจะสืบสวนด้วยตัวเอง!” ฮ่องเต้ตะคอกอย่างเดือดดาล
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซวนอ๋องรีบให้องครักษ์นำตัวเข้ามาทันที
“เสด็จพี่ สาวใช้ผู้นี้แหละที่พาหยุนซูเข้าวังมา และโดนหม่อมฉันพบเข้า!” องค์ชายสี่ชี้ตัวทันที
สาวใช้และขันทีสองคนพอเห็นฝ่าบาท ก็ตกใจคุกเข่าลงกับพื้นทันที
“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท!”
“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท!”
องค์หญิงห้าบนเตียงสีหน้าหม่นหมองเหมือนปลาตายทันที คนที่คุกเข่าเป็นสาวใช้และขันทีของนางเอง
“พวกเจ้าตอบคำถามของเสด็จพี่ให้ดีๆ หากกล้าปิดบังสิ่งใด นั่นคือโทษเพ็จทูลเบื้องสูง ต้องประหารเก้าชั่วโคตรนะ!” องค์หญิงห้ารีบบอกทันที
“องค์หญิงห้าใช้ครอบครัวของพวกเขาข่มขู่ต่อหน้าฝ่าบาทกับพวกเราเช่นนี้ มิเท่ากับเป็นการสารภาพแล้วรึ?” หยุนถิงย้อนถาม
สีหน้าองค์หญิงห้ายิ่งบูดบึ้งหนักขึ้น แต่แสร้งทำหน้านิ่ง “หยุนถิง เจ้าอย่าพูดซี้ซั้ว ข้าแค่กลัวพวกมันไม่พูดความจริงเท่านั้นเอง”
“ไม่ต้องให้องค์หญิงกังวลดอก ฝ่าบาท ระยะนี้หม่อมฉันค้นคว้ายาได้ชนิดหนึ่ง เอามาใช้กับคนที่ไม่ยอมพูดความจริงโดยเฉพาะ ไม่ว่าเป็นใคร ขอเพียงกินยาพูดความจริงนี้เข้าไป ต้องพูดความจริงแน่” หยุนถิงพูด พลางควักออกมาจากในเสื้อ
มือที่กำผ้าห่มขององค์หญิงห้ากำหมัดแน่น
หยุนถิงน่าตายนัก ต้องเป็นผู้ที่สวรรค์ส่งมาทรมานตนแน่ น่าตายนัก หากให้พวกมันกินยาลงไป ตนเองคงจบสิ้นแน่
“เจ้าบอกว่าเป็นยาพูดความจริงก็ยาพูดความจริงรึ ทั่วทั้งสี่แคว้นมิเคยมีของเช่นนี้มาก่อน ไม่แน่มันอาจจะเป็นยาพิษก็ได้ ทำมาเพื่อใส่ร้ายข้าเท่านั้น!” องค์หญิงห้าย้อน
“ฝีมือการแพทย์ของข้า ทั่วทั้งสี่แคว้นไร้ผู้ทัดเทียมได้ ใส่ร้ายเจ้า เจ้ายังมิคู่ควร!” หยุนถิงบอกอย่างไม่แคร์
เสียงโอหังยิ่งนัก เหิมเกริมยิ่งนัก ได้ใจยิ่งนัก
แต่กลับไม่มีใครกล้าสงสัย ขนาดฮ่องเต้ยังเชื่อมั่นในวิชาการแพทย์ของหยุนถิงอย่างหมดข้อกังขา
สีหน้าองค์หญิงห้าเปลี่ยนไปมาราวกิ้งก่าเปลี่ยนสี จากเขียวเป็นม่วงเป็นดำ น่าเกลียดและน่าขันยิ่งนัก
“มีของเช่นนี้จริง ให้ข้าดูหน่อยสิ!” อ๋องเก้าถามอย่างสงสัย ไม่รู้สึกขายหน้าเลยสักนิด
“หยุนถิง ข้าเอง!” องค์ชายสี่บอก รับยาจากมือหยุนถิงมายัดใส่ปากทั้งสามคนที่พื้นคนะเม็ด
องค์ชายสี่ให้เอง พวกเขามีหรือจะกล้าไม่กิน
“ฝ่าบาท ถามเถอะ!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
“ยังไม่รีบสารภาพกับข้าอีก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ องค์หญิงห้าสั่งพวกเจ้าจริงรึ?” ฮ่องเต้ถามตะคอกอย่างเข้มงวด
“เสด็จพี่—“ องค์หญิงห้าจะพูดอะไร เข็มเงินในมือหยุนถิงก็ยิงมาจี้จุดใบ้นางทันที “พูดเถอะ”
องค์หญิงพลันพูดอะไรไม่ออก นางเคียดแค้นหยุนถิงยิ่งนัก นางถลึงตาใส่สาวใช้อย่างดุดันทันที ใช้สายตาข่มขู่พวกเขา
สุดท้ายกลับได้ยินสาวใช้พูดว่า “กราบทูลฝ่าบาท องค์หญิงห้าเคียดแค้นซื่อจื่อเฟย ที่ทำให้ตนโดนกักบริเวณ ดังนั้นเลยอยากแก้แค้นซื่อจื่อเฟย
แต่องค์หญิงห้ารู้ดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซื่อจื่อเฟย นางบอกว่าทำอะไรซื่อจื่อเฟยไม่ได้ ก็จัดการกับคนข้างกายนางแทน เลยให้ข้าไปพาตัวคุณหนูซูมา
คุณหนูซูเป็นลูกสาวเมียรอง อีกทั้งนิสัยเรียบง่าย ไม่แย่งไม่เถียง ต่อให้เกิดเรื่องก็ไม่ปริปากพูด ต่อให้ถึงเวลานั้นหยุนเฉิงเซี่ยงรู้เรื่อง ก็ไม่มาเป็นศัตรูกับองค์หญิงห้าเพื่อลูกสาวเมียรองผู้หนึ่งแน่!”