จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 815 ทุกคนเมากันหมด เหลือแค่เราคนเดียว
เจียงชื่อฟังเสียงในสายด้วยความสับสน แต่เขาไม่มีโอกาสที่จะถามเลยด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็กดวางสายใส่เขาไปแล้ว
นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป สัญญาของเครื่องประดับม่อเป่ยก็สิ้นสุดลง
เขาทำได้เพียงวางโทรศัพท์ด้วยสีหน้าขมขื่น
ติงเมิ่งเหยนที่กำลังเสิร์ฟผลไม้ก็เดินเข้ามานั่งอยู่ข้างเจียงชื่อแล้วถามว่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เจียงชื่อตอบถามความจริง “ผมเสียไปหนึ่งสัญญา”
“ทำไมล่ะคะ?”
“เฮ้อ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ”
แน่นอนว่าเจียงชื่อไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และถึงแม้การสื่อสารในช่วงเช้าอาจจะไม่ราบรื่นมากนัก แต่เขาก็ทำภารกิจเสร็จสิ้นไปแล้ว
ตามเหตุผลแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ
โดยเฉพาะคำว่า ‘คุณหนันโก’ จากปากของซูชิ่งเลี่ยง มันก็ยิ่งทำให้าเขารู้สึกประหลาดใจเข้าไปใหญ่
ติงเมิ่งเหยนเดาว่า “เป็นไปได้ไหมว่าหินอัญมณีที่คุณเลือกจะมีปัญหา?”
“ไม่หรอก”
เรื่องนี้เจียงชื่อมั่นใจมาก เพราะเขาใช้พลัง ‘ชี่’ ในการตรวจหาอัญมณี มันไม่มีทางผิดพลาดอยู่แล้ว
ถ้าเขาไม่ได้ทำผิดพลาด แล้วคนอื่นจะทำพลาดไหม?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เจียงชื่อก็นึกถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ในหลายๆ ด้าน
แต่มันไม่ได้สำคัญมากนัก เพราะสัญญาในมือของเขามีมากมาย จะเพิ่มหรือลดเพียงแค่สัญญาเดียวมันไม่กระทบต่อเขาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ การที่ร่วมมือกับบริษัทหน้าซื่อใจคดแบบนี้ ยกเลิกสัญญาไปก็ดีแล้ว
ติงเมิ่งเหยนพูดอย่างประชดประชันว่า “คนอื่นทำงานก็เพื่อจะหาเงิน แต่คุณนะคุณ ทำงานมาทั้งวัน แถมยังต้องเสียสัญญาที่มีมูลค่าเป็นล้านไป ขาดทุนจริงๆ”
เจียงชื่อได้แต่ยักไหล่และไม่ตอบอะไรอีก
ในขณะที่เขากำลังจะหยิบผลไม้มากิน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นสายโทรเข้าจากบริษัทเครื่องประดับอื่นๆ แต่เป็นการเชิญให้เจียงชื่อไปช่วยคัดเลือกหินอัญมณีเช่นเดียวกัน
ช่วยไม่ได้ เขาเซ็นสัญญากับหลายต่อหลายบริษัท เขาจะนั่งกินนอนกินไม่ได้ ฉะนั้นต้องออกไปทำงานอยู่ดี
“งั้นผมขอตัวออกไปก่อนนะ” เจียงชื่อพูด
“อื้ม รอบนี้ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้นะ อย่าทำให้เสียสัญญาไปอีกล่ะ” ติงเมิ่งเหยนเตือนเขา
“โอเคครับ ผมจะระวังตัว”
แต่งานในครั้งนี้ เจียงชื่อดำเนินไปอย่างราบรื่นมาก ซึ่งในครั้งนี้ ประธานบริษัทออกมาต้อนรับเจียงชื่อด้วยตนเอง และรวมไปถึงพนักงานทุกคนในบริษัทต่างก็ออกต้อนรับเขา เพื่อดูการคัดเลือกหินอัญมณีของเขา
ในแง่หนึ่ง ทุกคนต่างก็อยากเปิดหูเปิดตา ทุกคนอยากเห็นว่าเจียงชื่อใช้วิธีไหนในการคัดเลือกหินอัญมณีเหล่านี้
และในอีกแง่หนึ่ง พวกเขาอยากเฝ้าสังเกตเจียงชื่อให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เขาโกง
ในที่สุด ภายใต้การจับตามองของเหล่าผู้นำและพนักงานของบริษัท เจียงชื่อก็ได้เสร็จสิ้นภารกิจในการคัดเลือกหินอัญมณีเหล่านี้ และหลังจากการผ่าหินออกมาดูแล้ว แน่นอนว่าทุกชิ้นที่เขาเลือกนั้นล้วนเป็นหินอัญมณีที่ดีที่สุด!
ทุกคนในบริษัทต่างพากันชื่นชมยินดีมาก และทุกคนต่างก็ชื่นชม ‘ตาทิพย์’ ของเจียงชื่อด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนยังโพสต์ลงในเวยป๋อ ในวีแชท และในพื้นที่โซเชียลต่างๆ เพื่อแสดงความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในวันนี้
บริษัทอื่นๆ ที่เห็นเจียงชื่อประสบความสำเร็จ พวกเขาก็ไม่รอช้า
ส่วนบริษัทที่มีสัญญากับเจียงชื่อ เพื่อไม่ให้เสียเงินเปล่าๆ พวกเขาต่างก็หางานให้เจียงชื่อทำ และในเวลาสามวันสั้นๆ นี้ เจียงชื่อก็ได้รับงานไปสิบกว่ารายการแล้ว
บริษัทต่อๆกัน เขาเดินจนแทบจะขาลาก
และในช่วงเวลาหนึ่ง เจียงชื่อกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเครื่องประดับไปแล้ว และการคัดเลือกของเขานั้นสมบูรณ์แบบทุกครั้ง
เนื่องจากมีเจียงชื่อคนนี้ บริษัทในสัญญาทุกบริษัทต่างก็มีกำไรกันทั้งนั้น
ยกเว้นเครื่องประดับม่อเป่ยบริษัทเดียว
ในช่วงเวลาหนึ่ง ทุกๆ เจ้าต่างก็ทิ้งห่างเครื่องประดับม่อเป่ย แม้กระทั่งบริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่ก็แทบจะตามเครื่องประดับม่อเป่ยทันแล้ว
ในวันนี้
ซูชิ่งเลี่ยง ประธานบริษัทเครื่องประดับม่อเป่ยนั่งอยู่บนที่ทำงานของเขาและอ่านข่าวไปทีละหน้า ซึ่งทั้งหมดเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องประดับทั้งนั้น
แต่ยิ่งดูเขาก็ยิ่งตกใจ
ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
“ให้ตายสิ! บริษัทเล็กๆ ที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่ถึงปี ตอนนี้มูลค่าในตลาดแซงหน้าบริษัทเราไปแล้วงั้นเหรอ?”
“เจ้านี้มันเปิดหินอัญมณีชั้นหนึ่งได้จากไหนกัน?”
“หินชั้นหนึ่งมันเกลื่อนกลาดไปทั่วตลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทุกเจ้าก็มีกันหมด และยังมีมาใหม่เรื่อย ๆ”
ซูชิ่งเลี่ยงยิ่งดูก็ยิ่งประหลาดใจในสิ่งหนึ่ง การที่บริษัทเหล่านี้ก้าวหน้าไปได้ก็เพราะมีคนอยู่เบื้องหลังคนเดียวกัน นั้นก็คือเจียงชื่อ!
หินทุกชิ้นที่ผ่านการคัดเลือกจากเจียงชื่อนั้น ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าล้วนเป็นหินอัญมณีชั้นหนึ่งหมด
และในเวลาเดียวกัน มูลค่าในตัวของเจียงชื่อก็เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาจะจ้างเขาในราคาเดือนละหนึ่งล้านได้ แต่ตอนนี้ จะเสนอเซ็นสัญญากับเขาไม่ได้ถ้าไม่มีเงินห้าล้าน หรือบางเจ้าก็ให้เขาถึงสิบล้านแล้วด้วยซ้ำ
ถึงกระนั้น ก็ยังมีหลายบริษัทเครื่องประดับไปหาเจียงชื่อถึงหน้าบ้านเพื่อจะขอเซ็นสัญญากับเขา
แต่ดูเหมือนเจียงชื่อจะเหนื่อยกับการทำงานมากแล้ว เขาจึงไม่เลือกที่จะเซ็นสัญญาใหม่อีก
เมื่อเห็นแบบนี้ ซูชิ่งเลี่ยงก็รู้สึกใจหายไปหมด
“ใช่เหรอ?”
“เจียงชื่อมันดังขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หัวใจของเขาเหมือนถูกก้อนหินวางทับอยู่ เขารู้สึกอึดอัดอย่างที่สุด เพราะคนอื่นๆ ต่างเซ็นสัญญากับเจียงชื่ออย่างรีบร้อน และยังเป็นสัญญาในราคาสูงกันหมด
แต่เขาล่ะ?
เขากลับยกเลิกสัญญากับเจียงชื่อ แถมยังเป็นสัญญาในราคาต่ำที่สุดด้วย
รู้ไหม ถ้าเจียงชื่อยอมเซ็นสัญญาในราคาหนึ่งล้านในตอนนี้ เกรงว่าคงต้องเข้าแถวจากหน้าบ้านเจียงชื่อไปจนถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว!
“เป็นไปได้ไง? มันเป็นไปไม่ได้”
ซูชิ่งเลี่ยงยังคงไม่เข้าใจ
ในความเข้าใจของเขานั้น เจียงชื่อเป็นแค่คนโง่ที่อวดฉลาด เป็นคนโกง คุณหนันโก ไม่มีความสามารถอะไรเลย ใช้โปรไฟล์ปลอมในการหากินกับคนอื่น
แต่ทำไมคนแบบนี้ถึงเป็นที่นิยมได้?
หรือว่าทุกคนเมากันหมด เหลือเพียงเราคนเดียวที่ยังตื่นอยู่?