จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 809 ยืนชมการแสดง
ทุกคนในงานต่างก็ตกตะลึง ได้แต่ยืนดูการแสดงและไม่มีใครกล้านั่งลงสักคน
ต่อให้เป็นคนที่สมองทำงานช้าที่สุด ณ เวลานี้ เขาต้องรู้เขาใครคือคนที่กำลังขับร้องเพลงโอเปร่าบนเวที แต่ว่าทุกคนก็สงสัยมาก ว่าคุณปู่มาได้ยังไง?
เพราะทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่ามันแย่แค่ไหน
ไม่ต้องพูดถึงการที่ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน แค่การที่ทั้งคู่ไม่ยอมไปมาหาสู่กันก็ทำให้ทั้งสองไม่อยากเจอหน้ากันอยู่แล้ว
ด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ แล้วคุณปู่ติงจะยอมลดตัวมาได้อย่างไร?
หนึ่งในผู้ชม คนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดก็คือติงฉี่ซาน เขาได้แต่ยืนทื่ออยู่กับที่ แล้วมองดูคุณปู่ที่กำลังแสดงบนเวทีอย่างงุนงง ซึ่งดูเหมือนว่าทุกอย่างนี้ไม่ใช่ความจริง
เป็นไปไม่ได้ คุณปู่จะมาได้ไง?
เราฝันไป
เขาขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ได้เป็นความจริงตามที่เขาจินตนาการอยู่
แต่ยิ่งมองดู ดวงตาของเขาก็ยิ่งเปียกชื้นขึ้นเรื่อย ๆ
อันที่จริง ในฐานะลูกชายคนหนึ่ง เขาจะเกลียดชังพ่อตัวเองได้อย่างไร? เขาแค่โกรธในสิ่งที่คุณปู่เคยทำไว้ และทั้งสองก็แค่ไม่ยอมลดตัวลงมาปรับความเข้าใจกันก็เท่านั้น
แต่ถ้าคุณปู่ติงยอมขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีให้เขาฟัง นั่นก็แสดงว่าคุณปู่ยอมลดตัวให้เขาแล้ว และนี่ก็แทบจะทำให้หัวใจของติงฉี่ซานละลาย
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีความเกลียดชังไหนสามารถกีดกั้นความสัมพันธ์ของสายเลือดเดียวกันได้
ติงเฟิงเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึงอย่างอธิบายไม่ได้ เขามองไปที่เจียงชื่อแล้วชูนิ้วโป้งให้กับเขา “เจียงชื่อ สุดยอดจริงๆ ที่เชิญคุณปู่มาได้ ถึงว่าล่ะ ทำไมนายถึงบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ศิลปินคนดัง’ คนนี้ ตอนนี้ข้าเข้าใจความหมายนั้นแล้ว”
แน่นอน ถ้าใครในนี้กล้าที่จะไม่รู้จักติงจ้ง แสดงว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งกินข้าวอยู่ในงานเลี้ยงนี้
ติงเฟิงเฉิงกระซิบถามเบาๆ ว่า “เจียงชื่อ นายบอกหน่อยได้ไหม ว่านายเอายากล่อมประสาทอะไรให้คุณปู่กิน คุณปู่ถึงขั้นมาร้องเพลงให้กับอาสามฟังได้?”
เจียงชื่อยิ้มตอบเบาๆ “กินยากล่อมประสาทอะไรกันเล่า? คุณปู่ท่านยินยอมเองนะ”
“ข้าไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อได้ไง คุณปู่รู้สึกว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเคยทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น มันไม่มีเหตุผลเลย เขาก็เลยอยากชดเชยความผิดเหล่านั้น ถึงได้ใช้โอกาสในงานเลี้ยงวันเกิดมาร้องเพลงโอเปร่าหวงเหมยให้พ่อฟัง ทุกอย่างก็เพื่อขอฟื้นคืนความสัมพันธ์พ่อลูก”
“จริงดิ?”
“แน่นอน”
เจียงชื่อจงใจพูดเสียงดังขึ้น เพื่อให้ติงฉี่ซานได้ยิน ‘โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ’ และให้ติงฉี่ซานเข้าใจถึงความตั้งใจของคุณปู่
เพราะตอนนี้ถึงเวลาละทิ้งความเกลียดชังของระหว่างพ่อลูกแล้ว
แม้การแสดงนี้จะเทียบกับระดับของหยูฉงโหลวไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับความสนุก ความน่าตื่นเต้นและเสียงเชียร์ การแสดงนี้เทียบได้อย่างแน่นอน
สองพี่น้องติงหงเหย้ากับติงจื่อยวี่ถึงกับหน้าซีด
พวกเขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้เกือบทุกรูปแบบ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์จะมาถึงจุดนี้ได้ มันช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ
ติงจื่อยวี่กระซิบข้างหูพี่ชายว่า “เจียงชื่อมันเก่งจริงๆ เลยนะพี่ ถึงขั้นเชิญคุณปู่มาได้ หนูเชื่อมันเลยจริงๆ”
แม้ติงหงเหย้าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจก็ต้องยอมรับความจริงนี้
เพราะอย่างน้อยเขาไม่มีปัญญาที่จะเชิญคุณปู่ออกมาได้แน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของคุณปู่กับติงฉี่ซานยังแย่ขนาดนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากกว่าสิ่งที่เขากระทำ
วันนี้เจียงชื่อให้บทเรียนที่ดีกับเขาอีกแล้ว
ในช่วงเวลาสั้นๆ การแสดงโอเปร่าก็จบลง คุณปู่รู้สึกหอบเหนื่อยมาก จากนั้นเขาก็ลงจากเวทีด้วยความช่วยเหลือของทุกคนแล้วเดินเข้ามาหาติงฉี่ซานและคนอื่นๆ
ติงฉี่ซานก็เดินเข้ามาทั้งน้ำตา แม้จะมีคำพูดมากมายในหัว แต่เขาไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อน