คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 647 กระอักเลือด / ตอนที่ 648 ตัวปลอม
ตอนที่ 647 กระอักเลือด
นางเองก็รู้สึกว่าหมอไป๋เหมือนเป็นคนในสกุลตงฟางของพวกนางแล้ว เขาดูสนิทสนมกับทุกคนอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าระหว่างเขาและพวกนางควรจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
พวกชุ่ยเอ๋อร์ที่ติดตามอยู่ข้างกายนาง ก็สนิมสนมกับครอบครัวของหมอไป๋เป็นพิเศษเช่นกัน
หากได้ใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาจริงๆ จะดีเพียงใดกันนะ
“ฮูหยิน ควรจะกินยาแล้วเจ้าค่ะ” ชุ่ยเอ๋อร์ถือยาลูกกลอนไว้ในมือ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือชาเอาไว้ ถือโอกาสยามที่รถม้าหยุดเคลื่อนที่ รีบส่งยาให้ฮูหยิน
ตงฟางหว่านเอ๋อร์เกลียดการกินยาเป็นที่สุด เพียงแค่เห็นก็รู้สึกเบื่อหน่ายแล้ว หมอไป๋อยากให้นางกินยาอย่างว่าง่าย จึงตั้งใจหลอมยาเป็นเม็ดลูกกลอน ไม่รู้เช่นกันว่าภายในนั้นใส่อะไรเอาไว้บ้าง ถึงได้ทำให้มันไม่ได้มีรสชาติขมเฝื่อน ตอนนี้นางจึงไม่ปฏิเสธที่จะกินยาเลยสักนิด
เมื่อกลืนยาลูกกลืนลงไปแล้ว ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็กล่าวกับชุ่ยเอ๋อร์ “หากหมอไป๋อยู่กับพวกเราเช่นในตอนนี้ได้ตลอดไป คงจะดีมากเลยละ!”
ชุ่ยเอ๋อร์ยิ้มว่า “นางย่อมอยู่ข้างกายฮูหยินตลอดไปเจ้าค่ะ ฮูหยินวางใจเถอะ”
หว่านเอ๋อร์ตาเป็นประกาย “เขาตกลงแล้วหรือ”
ทว่าชุ่ยเอ๋อร์กลับส่ายหน้า “เขาไม่ได้พูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่เขาจะต้องตกลงตามนี้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความเลย”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์พลันมีสีหน้าผิดหวัง “เจ้านี่นะ พูดจาอะไรไม่รู้เรื่อง มีเรื่องอะไรที่แน่นอนบ้างกัน หากอาการป่วยของข้าหายดีแล้ว เขาต้องจากไปเป็นแน่ กลับไปยังบ้านของพวกเขาเอง จะอยู่กับข้าที่นี่ตลอดไปได้อย่างไร เขาเคยบอกไว้ไม่ใช่หรือ ว่าที่เมืองชิงหยวนอะไรนั่นยังมีร้านสองร้านที่ขาดคนดูแลอยู่”
ชุ่ยเอ๋อร์เม้มปากไม่พูดจา ในใจกล่าวว่าร้านสองร้านนั้นจะสำคัญได้เท่ามารดาแท้ๆ หรือไร วาจาเช่นนี้นางเก็บไว้ช่างทรมานนัก อยากจะพูดออกมาใจจะขาด ทว่าก็ไม่กล้าพูดออกมา
…
บริเวณประตูเมือง เผยชิงหานรออยู่นานแล้ว สามวันก่อนเขาได้รับข่าว ว่าตงฟางมู่จะพาตงฟางหว่านเอ๋อร์ออกจากเขาฉีอวิ๋น มุ่งหน้ามายังเมืองหลวงที่นี่
สามวันมานี้ เขาเอาแต่รอคอยอยู่ที่นี่ตลอด
“นายท่าน นี่ก็สามวันแล้ว พวกเขายังมาไม่ถึงเมืองหลวงอีกหรือขอรับ” ซานฝูถามเผยชิงหาน
เผยชิงหานส่ายศีรษะ “ไม่ พวกเขาต้องมาแน่ ฝ่าบาทจะต้องบอกเรื่องของเผยเซี่ยเหยียนให้เขารู้อย่างแน่นอน หากเขารู้ว่าข้านำตัวเผยเซี่ยเหยียนกลับมาแล้ว เขาจะไม่กลับมาได้หรือ”
ซานฝูพยักหน้าเห็นด้วย “ก็จริงของท่าน พวกสกุลตงฟางเหลือสายเลือดอยู่ไม่เท่าไร ย่อมต้องให้ความสำคัญอยู่แล้ว”
เมื่อนึกถึงท่าทางอ่อนแอของตงฟางหว่านเอ๋อร์ เผยชิงหานก็ขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกกระวนกระวายใจ โดยที่ไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร
บัดนี้มีข้ารับใช้มารายงาน “นายท่าน มาแล้วขอรับ ขบวนรถของสกุลตงฟางมาถึงแล้ว”
เผยชิงหานพลันเบิกตาโพลง รีบลงจากรถม้าอย่างว่องไว ไปยืนบริเวณที่เด่นชัดที่สุดบนกำแพงเมือง พลางมองไปยังหัวขบวนรถม้าที่กำลังเคลื่อนมาแต่ไกล
ตงฟางมู่ขี่ม้านำอยู่หน้าขบวนด้วยความเร็วอย่างยิ่งยวด และเขาเองก็เห็นเผยชิงหานเป็นอันดับแรกเช่นกัน
เขาพลันแค่นหัวเราะ “เหอะ มารับด้วยตนเองเลยหรือนี่”
จากนั้นเขาก็ทำเป็นไม่เห็นเผยชิงหาน เพียงห้อม้าตรงเข้าไป ครั้นถึงเบื้องหน้าของอีกฝ่าย เขาพลันฟาดแส้ม้า ทำให้ม้ายกสองข้าหน้าขึ้นและร้องเสียงดัง กีบม้าเสริมเหล็กเตะเข้าที่พวงแก้มของเผยชิงหานดัง ‘ปัก’ ก่อนที่จะล้มลงไปบนพื้น
ข้ารับใช้เข้ามาประคองเผยชิงหานลุกขึ้น ก่อนที่เขาจะถ่มเลือดและฟันซี่ใหญ่ออกมาอีกสอง บัดนี้เจ็บจนพูดไม่ออกแล้ว
ตงฟางมู่ร้อง ‘โอ๊ย’ เสียงหนึ่ง “นี่ไม่ใช่บุตรเขยของสกุลตงฟางหรือนี่ เมื่อครู่เห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ไกลลิบๆ ยังคิดว่าเป็นคนขายผักเสียอีก”
เผยชิงหานโมโหจนกระอักเลือดออกมาอีก เขาจงใจชัดๆ จงใจอย่างแน่นอน
ทว่าเขาจะพูดอะไรได้ อีกฝ่ายคือตงฟางมู่เชียวนะ ต่อให้เขาวิ่งแจ้นเข้าไปฟ้องถึงวังหลวง อีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้รับผิด มิหนำซ้ำฮ่องเต้อาจจะไม่สนใจเขาอีกต่างหาก
………..
ตอนที่ 648 ตัวปลอม
เขาข่มความเจ็บปวดทั้งบนร่างกายและจิตใจเอาไว้ ก่อนจะผลักคนรอบข้างออกไป กัดฟันคารวะตงฟางมู่ครั้งหนึ่ง “ท่านพ่อตา! ชิงหานคารวะท่านขอรับ!”
ตงฟางมู่เลิกคิ้ว “เจ้ารอข้าอยู่หรือ รอข้าด้วยเหตุอันใด”
‘ข้าอยากจะดูนัก ว่าเจ้าจะหาข้ออ้างอะไรมาพูดบ้าง’ เขาเอ่ยในใจ
“ท่านพ่อตาจากเมืองหลวงไปนาน เกรงว่าหลายๆ เรื่องจะไม่รู้ เดิมทีชิงหานตั้งใจพาเซี่ยเหยียนไปที่เขาฉีอวิ๋นด้วยตนเอง ทว่าก็ได้ข่าวมาเสียก่อน ว่าท่านพ่อตาจะกลับมาฉลองปีใหม่ที่เมืองหลวง ชิงหานจึงรออยู่ที่นี่เสียหลายวันขอรับ” เผยชิงหานตอบ
ตงฟางมู่พลันถามว่า “เซี่ยเหยียนรึ”
รถม้าที่ตามมาถึงในภายหลังหยุดอยู่ด้านหลังของตงฟางมู่ ตงฟางหว่านเอ๋อร์ที่เดิมทีนั่งหลับตาพักผ่อนได้ยินเซี่ยเหยียนสองพยางค์นี้เข้า ก็พลันลืมตาขึ้นทันที
เซี่ยเหยียน? เผยเซี่ยเผยียน? นี่เป็นชื่อของบุตรีนาง วันที่นางเพิ่งคลอดลูกออกมา นางก็ร่วมกับเผยชิงหานตั้งชื่อนี้แล้ว
เผยชิงหานในเวลานั้นยังรักใคร่เด็กคนนี้นัก ทั้งยังดีต่อนางสารพัด ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด ภายในเวลาไม่กี่วันสั้นๆ เขาก็คล้ายกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่มาเยี่ยมนาง และไม่มามองดูลูกเช่นกัน
เด็กคนนี้คลอดก่อนกำหนด ร่างกายเล็กจ้อยและอ่อนแอ ไม่นานนักก็ชะตาถึงฆาต ตัวนางเองป่วยไข้จนลุกไม่ไหว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยใส่ใจนางอีกเลย
ใบหน้าของเผยชิงหานอยู่ตรงกับตงฟางมู่ ทว่าดวงตาของเขากลับมองไปยังรถม้าด้านหลัง “เซี่ยเหยียนคือลูกของข้ากับหว่านเอ๋อร์ สิบสามปีก่อนข้าคิดว่านางตายแล้ว ข้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง จึงไม่ได้ไปดูนางเป็นครั้งสุดท้าย แต่ให้คนนำตัวนางไปฝังไว้ ทว่าช่วงก่อนหน้านี้ พ่อบ้านในจวนพบข้ารับใช้ที่รับผิดชอบฝังร่างของนางในตอนนั้น ถึงได้รู้ว่าต่อมานางยังมีชีวิตอยู่ พวกเขากลัวว่าจะทำให้เกิดปัญหาเข้า ถึงได้มอบนางให้คนอื่นไป ข้าตามหาอยู่เรื่อยมา จนในที่สุดก็พบนาง บัดนี้นางกลับมาแล้ว นางอยู่ที่จวนโหวขอรับ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์เดินออกมาจากในรถม้าแล้ว นางยืนอยู่บนแท่น ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งไปยังเผยชิงหาน “ท่านว่าอะไรนะ พูดอีกรอบสิ!”
เผยชิงหานรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ด้วยตงฟางหว่านเอ๋อร์ในตอนนี้เหมือนกับยามที่เขาพบนางเป็นครั้งแรก ราวกับเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง บนพวงแก้มที่ขาวซีดและซูบตอบนั้น กลับอิ่มเอิบขึ้นมามากอย่างคาดไม่ถึง
ตงฟางมู่รีบกล่าวว่า “หว่านเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้วู่วามนะ หมอไป๋บอกไว้ไม่ใช่หรือ ว่าร่างกายของเจ้าในตอนนี้ไม่อาจได้รับการกระทบกระทั่งอะไร ต้องสงบใจเอาไว้ เข้าใจหรือไม่” ขณะนี้เขารู้สึกเสียดายแล้ว เมื่อครู่ไม่ควรหยุดฝีเท้าเลย น่าจะเตะให้บุตรเขยผู้นี้ลอยหวือไป อาการป่วยของหว่านเอ๋อร์ยังไม่มั่นคง คำพูดนี้ของเผยชิงหานก็ช่างพาให้ตื่นเต้นเสียจริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะมีผลอะไรก็ได้
ตงฟางหว่านเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อให้หัวใจที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง/สงบลงบ้าง บิดาของนางพูดถูกต้อง นางไม่ควรวู่วามจนเกินไป จะตื่นเต้นจนเกินไปก็ไม่ได้เช่นกัน กว่านางจะรอดชีวิตมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่อาจเสียไปทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แก่ใจเช่นนี้โดยเด็ดขาด
หลังจากสงบใจลงได้แล้ว ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็ถามเผยชิงหาน “ท่านว่ามาสิ พูดให้ชัดเจนหน่อย”
“หว่านเอ๋อร์ บุตรีของพวกเรายังไม่ตาย นางยังมีชีวิตอยู่ ข้าพบตัวนางแล้ว ตอนนี้นางอยู่ที่จวน หากเจ้าอยากพบนาง จะไปหานางตอนนี้เลยก็ย่อมได้” เผยชิงหานว่า
ตงฟางมู่เอ่ย “ไม่จำเป็นต้องไปพบนางที่จวนของเจ้าหรอก ตอนนี้พวกข้าจะกลับไปที่คฤหาสน์ตงฟางก่อน แล้วเจ้าก็ให้คนพานางมา จะใช่สายเลือดของพวกข้าสกุลตงฟางหรือไม่ ข้าย่อมแยกแยะได้อยู่แล้ว”
เผยชิงหานขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดเลยว่าตงฟางมู่จะพูดจาเย็นชาเช่นนี้ วาจาก็มีความนัยยิ่งนัก ราวกับแน่ใจแล้วว่าเซี่ยเหยียนเป็นตัวปลอม