คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 625 อาหารเป็นยาที่แสนขม / ตอนที่ 626 หย่า
ตอนที่ 625 อาหารเป็นยาที่แสนขม
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างก็สนทนากัน ก่อนที่ชุ่ยเอ๋อร์จะรีบร้อนวิ่งเข้ามา “นายใหญ่ ฮูหยินฟื้นแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินนางฟื้นแล้ว”
ตงฟางมู่ลุกขึ้นทันที ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความรู้สึกมากมายท่วมท้นขึ้นมา “ฟื้นแล้วรึ ในที่สุดก็ฟื้นเสียที”
ไป๋จื่อกล่าวกับตงฟางมู่ว่า “ท่านไปหานางก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือน วันนี้ข้าสวมเสื้อผ้าสตรีที่สาวใช้ในเรือนเตรียมให้ ทว่าบัดนี้ฮูหยินฟื้นแล้ว ข้าจึงควรเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าบุรุษ อย่างน้อยก่อนที่อาการของนางจะมั่นคง ข้าต้องแต่งกายเป็นเด็กหนุ่ม อยู่ข้างกายนางต่อไปก่อน”
ตงฟางมู่เข้าใจความหมายของนาง “ตกลง เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แสร้งว่าเป็นเด็กหนุ่มต่อไป” เขาตามชุ่ยเอ๋อร์ไปที่เรือนของตงฟางหว่านเอ๋อร์ ระหว่างทางกำชับอย่างเด็ดขาดว่าห้ามพูดเรื่องของจื่อเอ๋อร์ ให้หว่านเอ๋อร์พักรักษาตัวอย่างสบายใจก่อน
ครั้นตงฟางมู่มาถึงเรือนของบุตรี หว่านเอ๋อร์สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กำลังจะลงจากเตียง
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มกว้าง “ท่านพ่อ วันนี้ข้ารู้สึกสดใสทีเดียว ไม่ได้รู้สึกสบายกายเช่นนี้มานานมาก ข้าจึงอยากลงจากเตียงไปเดินเล่นเจ้าค่ะ”
“ดีๆๆ เจ้าอยากลงจากเตียงก็ลงเถอะ พ่อจะประคองเจ้าเอง” ตงฟางมู่ประคองหว่านเอ๋อร์ไว้ พวกเขาเดินอยู่ในห้องอยู่สองรอบ ราวกับเวลาย้อนกลับไปยังสมัยที่นางยังเป็นเด็ก หว่านเอ๋อร์ในตอนนั้นเพิ่งหัดเดินเท่านั้น เขากลัวว่านางจะล้ม จึงประคองตัวนางอยู่ตลอดเวลาเช่นตอนนี้ แม้เดินไปมาอยู่ในเรือนเนิ่นนานเช่นนี้จะพาให้เขารู้สึกเบื่อ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากอดทนติดตามนางไป
จนถึงตอนนี้แล้ว เขาหวังจะได้จับมือของบุตรีเดินไปข้างหน้าตลอดไปเช่นนี้ หวังว่านางจะไม่ต้องป่วยไข้ และอย่าได้นอนไม่พูดไม่จาอยู่บนเตียงอีก อย่าให้เขาเป็นคนผมหงอกที่ต้องส่งคนผมดำจากไปเลย
ไป๋จื่อเข้ามาจากข้างนอก นางมองภาพฉากนี้ ในใจรู้สึกปลาบปลื้มมาก บนโลกนี้มีความผูกพันอยู่มากมายหลายรูปแบบ ครอบครัว ครอบครัวที่แท้จริง ความรัก ความรักแท้ มิตรภาพ มิตรแท้
ไม่ใช่ว่าทุกความผูกพันจะเป็นของจริง
นางโชคดีมาก แม้จะได้พบเรื่องเลวร้ายมาไม่น้อย ทว่าส่วนใหญ่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ครอบครัวที่แท้จริง ความรักที่แท้จริง มิตรภาพที่แท้จริง ตอนนี้นางมีอยู่ในครอบครองทั้งหมดแล้ว
“เจ้ามาแล้ว” ตงฟางหว่านเอ๋อร์เหลือบเห็นไป๋จื่อ นางพลันยิ้มทักทาย “สีหน้าเจ้าผ่องใสทีเดียว ดูหล่อเหลากว่าเดิมด้วย”
ไป๋จื่อยิ้มรับ “วันนี้สีหน้าของฮูหยินก็ดีขึ้นมากเลยขอรับ งดงามยิ่งกว่าเก่าด้วย”
“เจ้าช่างปากหวานเสียจริง” ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มไม่หุบ กล่าวอีกว่า “ข้ารู้สึกหิวอยู่บ้าง อยากกินอะไรบางอย่าง ตอนนี้ข้ากินอะไรเผ็ดๆ ได้หรือไม่”
ทว่าไป๋จือส่ายหน้า “เกรงว่าจะไม่ได้ขอรับ อาหารมีรสเผ็ดแรงเกินไป ไม่เหมาะกับร่างกายของท่านในตอนนี้” ครั้นเห็นตงฟางหว่านเอ๋อร์มีสีหน้าผิดหวัง นางจึงรีบพูดว่า “ข้าจะทำอาหารให้ท่านสองอย่าง รับรองว่าถึงแม้มันจะไม่เผ็ด แต่มันจะช่วยให้เจริญอาหารทีเดียว เป็นอย่างไรขอรับ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มอีกครั้ง “เจ้าทำอาหารได้ด้วยหรือนี่ เช่นนั้นข้าย่อมต้องลองชิมฝีมือของเจ้าอยู่แล้ว”
ไป๋จื่อก้าวไปข้างหน้า ประคองนางนั่งลงที่หน้าโต๊ะ เพื่อจับชีพจรให้นางก่อน ทุกอย่างเป็นเช่นที่จินตนาการไว้ แม้ชีพจรของนางจะยังอ่อน แต่ก็มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
“ฮูหยิน ข้าใช้ยาดีชำระเลือดล้างพิษให้ท่านแล้ว หลังจากใช้ยานี้ ยังต้องกินอาหารเป็นยาที่สอดคล้องกันร่วมด้วย เช่นนี้แล้วจะยิ่งส่งผลดีต่อการกำจัดพิษในร่างกายของท่าน และจะยิ่งฟื้นตัวได้เร็วขึ้นขอรับ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “อาหารเป็นยา? มันขม ข้าไม่อยากกิน”
ไป๋จื่อเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “อาหารเป็นยาที่ขมนั้นเป็นสิ่งที่คนอื่นทำ แต่ของข้าไม่เหมือนใครแน่ขอรับ” ครั้นกล่าวจบ นางก็หมุนกายไปทางตงฟางมู่ “นายใหญ่ ข้าเห็นว่ามีสมุนไพรมากมายอยู่ในสวน ข้าเก็บมาใช้ได้หรือไม่ขอรับ”
……….
ตอนที่ 626 หย่า
ตงฟางมู่โบกมืออย่างอารมณ์ดี “เจ้าเก็บใช้ตามใจชอบเถอะ ของในสวนนี้ เจ้าอยากเก็บใช้อย่างไรก็ตามสบาย อยากเก็บเท่าไรก็เท่านั้น ตามแต่ใจเจ้าต้องการ”
ไป๋จื่อก็อารมณ์ดีมากเช่นกัน “เช่นนั้นข้าขอไม่เกรงใจนะขอรับ ข้าจะไปทำอาหารเป็นยาให้ฮูหยิน พวกท่านแม่ของข้าเหนื่อยล้ามาหลายวัน จะได้ถือโอกาสปรับสมดุลร่างกายให้พวกนางด้วยเลย นายใหญ่ก็ด้วย ข้าจะทำอาหารเป็นยาให้ท่านด้วยขอรับ”
ตงฟางมู่เบิกบานใจมากทีเดียว “ดียิ่ง มีส่วนของข้าด้วย เช่นนั้นข้าจะรอกินนะ”
หลังจากไป๋จื่อกำชับบางอย่างอีกเล็กน้อย นางก็ออกจากเรือนของตงฟางหว่านเอ๋อร์ไป
ตงฟางหว่านเอ๋อร์มองเงาหลังของไป๋จื่อ ก่อนจะทอดถอนใจว่า “หากเขาเป็นลูกของข้า ก็คงจะดีไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ”
“หากเจ้าชอบเขา ก็ถือเสียว่าเขาเป็นลูกของเจ้าเถอะ ข้าว่าเด็กคนนี้ก็ชอบเจ้าเช่นกัน เขาไม่มีทางปฏิเสธแน่” ตงฟางมู่กล่าว
แต่บุตรสาวกลับส่ายหน้า “เขาเพิ่งพูดถึงแม่ของเขา แม่ของเขาก็มาที่นี่แล้วหรือ”
ตงฟางมู่พยักหน้า “ใช่ เพิ่งมาเมื่อวาน ข้าส่งคนไปรับพวกนางมาเอง”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มขึ้น “ท่านพ่อ ท่านเปลี่ยนไปมาก ก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยให้ใครเข้ามาในคฤหาสน์ฉีอวิ๋น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องพักอยู่ที่นี่เลย”
“นั่นย่อมต้องแยกแยะว่าผู้มาเยือนเป็นใคร จื่อเอ๋อร์ผู้นี้ ต่อให้มีอีกสักสิบคนข้าก็ชอบ เมื่อข้าชอบใครแล้ว ข้าย่อมชอบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นด้วย ข้าจึงชอบครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน”
“ข้าอยากพบแม่ของเขาเจ้าค่ะ อยากจะรู้นักว่านางเป็นคนที่โชคดีเพียงใด”
‘หว่านเอ๋อร์ เจ้าเองก็เป็นคนที่โชคดีเช่นกัน แม้จะได้รับความลำบากมามาก แต่ตอนนี้มันจบลงแล้ว วันคืนต่อจากนี้จะมีแต่ความสุข มีแต่ความโชคดีทั้งสิ้น’ ตงฟางมู่กล่าวในใจ
เขาพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ จึงรีบถามว่า “หว่านเอ๋อร์ จื่อเอ๋อร์บอกข้าว่าเขามั่นใจว่าจะรักษาเจ้าให้หายได้ อีกเดี๋ยวพวกเราต้องเข้ากลับเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องคิดให้ดี”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ไม่เข้าใจ “คิดอะไรให้ดีหรือเจ้าคะ”
“เรื่องหย่า คนสารเลวเช่นเผยชิงหานนั่น หากไม่หย่ากับเขา เจ้าคิดจะฉลองปีใหม่กับเขาหรืออย่างไร” ตงฟางมู่เลิกคิ้วสูง แต่ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าหว่านเอ๋อร์ยังไม่รู้เรื่องวางยาพิษ จึงกล่าวเพิ่มเติมว่า “เจ้าคิดว่าเหตุใดเจ้าถึงป่วยไข้ได้ถึงเพียงนี้ นั่นล้วนเป็นเพราะเผยชิงหานทำร้ายเจ้า เขาวางยาพิษให้เจ้าทุกวัน เจ้าถึงได้แต่นอนนิ่งราวกับท่อนไม้อยู่บนเตียงอยู่หลายปี เขาโหดร้ายนัก หากเจ้ากลับไปอีก ข้าไม่แน่ใจเลยว่าเขาจะใช้วิธีอะไรทำร้ายเจ้า”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์รู้สึกตกใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่นับว่าตกใจมากนัก นางสงสัยมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง
“ท่านพ่อ ข้าล้วนฟังท่าน หย่าเถอะเจ้าค่ะ” นางพูดประโยคนี้ออกมาอย่างใจเย็น ราวกับว่านางคิดจะพูดมันออกมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว
ตงฟางมู่ตะลึงงัน เขาคิดว่าจะต้องเปลืองน้ำลายโน้มน้าวนาง คิดไม่ถึงเลยว่านางจะรับปากอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้
“เจ้ารับปากจริงๆ หรือ” ตงฟางมู่ถาม
ตงฟางหว่านเอ๋อร์มองบิดาครั้งหนึ่ง พลางยิ้มจาง “ตั้งแต่ออกจากสกุลเผยมา ข้าราวกับได้เป็นตนเองเหมือนเมื่อก่อน และเข้าใจความขมขื่นของท่านพ่อแล้ว ชีวิตของข้า ตงฟางหว่านเอ๋อร์ผู้นี้มีค่ามาก แล้วไยต้องเสียเวลาไปกับคนเลวเช่นนั้นด้วย ช่างไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย!”
“ท่านพ่อ หลายปีนี้ข้าทำให้ท่านเป็นห่วงมาก เป็นข้าเองที่อกตัญญู บัดนี้ข้าเข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้แล้ว ว่าคนที่รักข้าอย่างแท้จริงบนโลกใบนี้มีเพียงแค่ท่านพ่อเท่านั้น จากนี้ข้าจะไม่ทำให้ท่านเป็นห่วงอีกแล้วเจ้าค่ะ”
ตงฟางมู่จับมือของบุตรสาว จู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมา “ดี ดียิ่งนัก ในที่สุดหว่านเอ๋อร์ของข้าก็กลับมาแล้ว พ่อรับปากเจ้านะ ว่าพ่อจะต้องช่วยเจ้าขีดเส้นกับเผยชิงหานอย่างชัดเจน เพื่อหย่าร้างกับเขาให้เด็ดขาด” ขณะเดียวกันเขาก็ลอบสาบานอยู่ในใจ ว่าเมื่อหว่านเอ๋อร์หย่าขาดจากเผยชิงหานแล้ว เขาจะต้องให้เผยชิงหานชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปหลายปีมานี้อย่าสาสม
ความลำบากมานานหลายปีที่บุตรสาวของเขาได้รับ ต้องไม่มีทางเสียเปล่าแน่!