คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 381 ลงมือ? / ตอนที่ 382 แขนหัก
ตอนที่ 381 ลงมือ?
อาอู่ไม่ขยับ สายตาเย็นชาและเหยียดหยันมองไปยังร่างของเจ้าใหญ่ บุรุษมุทะลุเช่นนี้ ต่อให้มีอีกสิบคนเขาก็ไม่คณามือหรอก
ไป๋จื่อที่อยู่ด้านหลังอาอู่ก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว กล่าวกับเจ้าใหญ่ว่า “วันนี้พวกข้าอารมณ์ไม่ค่อยดี เจ้าสำรวมกิริยาหน่อยเป็นดีที่สุด อย่าได้สร้างเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากเจ้าอยากทำร้ายตัวเอง ก็อย่าได้ลากผู้อื่นมาเกี่ยวพันด้วยเลย” สายตาของนางกวาดมองไป๋ต้าเป่าอย่างเฉยชาครั้งหนึ่ง ไป๋ต้าเป่าไม่ได้ใจกล้าอยู่แล้ว เมื่อเห็นอาอู่ที่ดุดันกล้าแกร่ง ต้าเป่าย่อมผาดผวา ร่างถอยกรูดไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง
เจ้าใหญ่แค่นหัวเราะ “อย่าพูดจาไร้สาระ เจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่ด้วยหรือ ตอนนี้ข้ากับหูจ่างหลินจะคิดบัญชีกันก่อน อีกเดี๋ยวก็จะถึงตาเจ้า เจ้ากลับบ้านไปเตรียมเงินดีกว่า หากข้าอารมณ์ดี อาจจะละเว้นให้เจ้าสักครั้งก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น…”
เขายังพูดไม่ทันจบ โจวอาอู่ก็ผลักหน้าเขาออกแล้ว แรงนี้ทำให้เขาต้องถอยหลังไปหลายสิบก้าว จนเกือบจะล้มลงบนพื้นอยู่แล้ว
“ไม่เช่นนั้นอะไร เจ้านี่ใจกล้าทีเดียวนะ ไหนขอข้าดูหน่อยสิ ให้ข้าเปิดหูเปิดตาหน่อย ว่าแท้จริงแล้วเจ้าเก่งกาจเพียงใด ถึงได้กล้าวางท่าเสียมารยาทต่อหน้าข้า ท่านลุงหู และอาจื่อเช่นนี้”
เจ้าใหญ่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ โจวอาอู่จะลงมือจนเขาถอยหลังไปไกลได้ถึงเพียงนี้ เขาคิดว่าเป็นเพราะตนไม่สังเกตให้ดีตั้งแต่ทีแรก ในสายตาของเขา โจวอาอู่ก็เป็นบุรุษมุทะลุเช่นเดียวกับเขา อย่างมากก็แค่มีแรงเยอะกว่าหน่อย ไม่มีทางรับมือยากเหมือนกับหูเฟิงเป็นแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือหมู่บ้านหวงถัว เขาเจ้าใหญ่ไป๋เป็นคนหมู่บ้านนี้แต่กำเนิด แต่โจวอาอู่เป็นใครกัน คนงานรับจ้าง? คนงานทำไร่นา? หรือผู้ประสบภัยที่หนีความยากลำบากมา เขามีสิทธิ์อะไรมาลงมือกับตนในหมู่บ้านแห่งนี้
เขาถลันเข้ามาพร้อมก่นด่าด้วยวาจาหยาบคาย ยื่นมือหมายจะดันหน้าอกของโจวอาอู่บ้าง จึงออกแรงเต็มที่
โจวอาอู่ไม่หลบไม่หลีก ยืดอกให้อีกฝ่ายลองดันดูทั้งอย่างนั้น เขายืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง ปล่อยให้เจ้าใหญ่ไป๋เสียแรงทั้งหมดไป แต่อีกฝ่ายก็ยังคงดันเขาไม่ได้แม้สักนิด
“ดันพอแล้วใช่หรือไม่ ตอนนี้ถึงตาข้าบ้างแล้ว”
อาอู่พลันห่อตัว ออกแรงอีกครั้ง กำลังกายอันองอาจทำให้เจ้าใหญ่ลอยหวือออกไป จนกระทั่งร่างกระแทกกับพื้นโคลนอย่างแรง สองมืออ่อนปวกเปียก แม้อยากขยับเขยื้อนร่างกายก็ทำไม่ได้
คนที่มองดูความคึกคักอยู่ไกลๆ ต่างก็ปิดปากหัวเราะกันทั้งสิ้น
“น้ำเข้าสมองของเจ้าใหญ่หรือไร โจวอาอู่ไม่ใช่คนที่จะรังแกกันง่ายๆ เขาเคยฆ่าเสือมาแล้วด้วยซ้ำไป ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว”
“ข้าว่าเขาไม่ได้โง่หรอก เขาแค่อาศัยว่าตนเองเป็นคนในหมู่บ้านนี้ หูเฟิงก็ไปแล้ว โจวอาอู่เป็นคนนอก เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่กล้าลงมือกับตนเองที่นี่ แต่ผลลัพธ์นี้ช่างน่าเวทนานัก!”
“ข้าว่าเขาสมควรโดนแล้ว หูเฟิงเพิ่งจากไปไม่เท่าไร เขาก็อดใจไม่ไหวเช่นนี้แล้ว หากไม่มีคนอย่างโจวอาอู่อยู่ พวกหูจ่างหลินกับจ้าวหลานอาจจะถูกเขารังแกจริงๆ ก็ได้”
ไป๋ต้าเป่างงงัน โจวอาอู่ผู้นั้นไม่ได้ลงมือแท้ๆ แต่เหตุใดท่านพ่อถึงกระเด็นไปได้เช่นนั้น เขาไม่กล้าเข้าไปโต้เถียงกับโจวอาอู่ จึงรีบไปประคองผู้เป็นบิดา “ท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
เจ้าใหญ่หน้าซีดเผือด เหงื่อกาฬเย็นเฉียบผุดออกมาทั่วร่างเพราะความเจ็บปวด เขากล่าวเสียงสั่นเครือว่า “มือของข้า มือของข้าขยับไม่ได้แล้ว”
ไป๋ต้าเป่ามองไปยังแขนสองข้างของเจ้าใหญ่ในทันที แย่แล้ว ผิดรูปไปหมด เหมือนกับตอนที่หูเฟิงหักแขนของเขาไม่มีผิดเพี้ยน
……….
ตอนที่ 382 แขนหัก
เจ้าใหญ่ร้องโอดโอยด้วยเพราะความเจ็บ นอนอยูที่พื้นลุกไม่ขึ้น ต้าเป่าเองก็ตกใจจนขาอ่อน ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ เพราะกลัวว่าโจวอาอู่ผู้เหมือนปีศาจจะเหวี่ยงกำปั้นเหล็กใส่เขาด้วยอีกคน
หูจ่างหลินรั้งโจวอาอู่ไว้ “อาอู่ ช่างเถอะ พวกเรากลับกันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนพรรค์นี้หรอก”
พวกเขาเดินผ่านเจ้าใหญ่ไปอย่างองอาจ ไม่มีใครชำเลืองมองเจ้าใหญ่แม้สักครั้ง ฝ่ายเจ้าใหญ่ทั้งเจ็บทั้งเคือง ถลึงตาตะโกนใส่เงาหลังของโจวอาอู่ว่า “คนแซ่โจว เจ้าคอยดูเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ คอยดู!”
อาอู่พลันกลับหลังหัน แววตาเย็นชามองไปที่เจ้าใหญ่ แม้จะไม่ได้พูดอะไร ทว่าเพียงแค่สายตานี้ก็ทำให้เจ้าใหญ่หนาวสะท้านในหัวใจจนต้องหลับตาปี๋ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
ไป๋ต้าเป่าประคองผู้เป็นบิดากลับบ้าน หลิวซื่อที่กำลังตากเสื้อผ้าอยู่ในลานบ้านเห็นเข้าก็ตกจนกระแทกราวไม้ไผ่ร่วงกราว เสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จตกลงไปอยู่บนพื้นจนหมดสิ้น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าไม่ได้จะไปขายข้าวในเมืองหรือ” หลิวซื่อถลันมาข้างหน้า ยื่นมือไปหมายจะประคองแขนของเจ้าใหญ่ ทว่าเพิ่งสัมผัสโดน อีกฝ่ายก็ร้องเสียงหลงราวกับหมูถูกเชือดเสียแล้ว
“ท่านแม่ แขนของท่านพ่อได้รับบาดเจ็บ ท่านอย่าจับแขนของเขานะ” ไป๋ต้าเป่าประคองหลังของบิดา กึ่งดันกึ่งประคอง พาเขาเข้าไปในเรือน
หญิงชราได้ยินเสียงก็เดินออกมา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” นางเร่งฝีเท้ามาถึงเบื้องหน้าบุตรชาย “เจ้าใหญ่ เจ้าเป็นอะไรไป ใครทำเจ้าจนมีสภาพเป็นเช่นนี้”
เจ้าใหญ่กัดฟันกรอด “จะเป็นใครไปได้ ก็โจวอาอู่น่ะสิ”
หลิวซื่อทั้งร้อนใจ ทั้งโมโห “โจวอาอู่? เขาทำร้ายเจ้าได้อย่างไร พวกเจ้าสองคนไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน เหตุใดเขาจึงต้องทำเจ้าจนบาดเจ็บเช่นนี้ด้วย”
เจ้าใหญ่นั่งลงบนเก้าอี้ “ไม่ต้องพูดมากแล้ว รีบไปเชิญหมอมา ข้าเจ็บมือจนทนไม่ไหวแล้ว”
คำว่าเชิญหมอเหมือนกับค้อนหนักๆ ฟาดลงบนหัวใจของหญิงชราและหลิวซื่ออย่างแรง หญิงชราปวดหัวใจเป็นพิเศษ เพราะเงินในหีบเหลืออยู่ไม่เท่าไรแล้ว แยกบ้านคราวนี้ นางตัดใจมอบเงินให้เจ้ารองไปสามสิบเหรียญทองแดง ก็เพื่อจะเก็บเงินที่เหลือไว้จ่ายค่าเรียนของไป๋เสี่ยวเฟิง หากตอนนี้เชิญหมอมาอีก เกรงว่าเงินเหล่านั้นคงจะไม่เหลือสักแดงเดียว
จะทำอย่างไรดี?
หลิวซื่อชำเลืองมองหญิงชรา “ท่านแม่ ท่านว่า…”
เมื่อเห็นผู้เป็นมารดาลังเลไม่ยอมตัดสินใจ เจ้าใหญ่ก็พลันกล่าวด้วยความโมโห “พวกท่านยังตะลึงอะไรอยู่ หรือจะเห็นข้าเจ็บจนกลายเป็นคนพิการ หากข้ากลายเป็นคนพิการแล้ว พวกท่านสองคนจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร”
ขณะนี้เจ้ารองกลับมาจากข้างนอก ในมือถือตะกร้าใบหนึ่ง ข้างในนั้นใส่ปลาสดสองตัวและข้าวครึ่งถุงเอาไว้
เขาตกปลาได้ขณะเดินผ่านแม่น้ำ เพราะเห็นปลาหลายตัวกระโดดขึ้นๆ ลงๆ อยู่บริเวณน้ำตื้น เขาจึงตกพวกมันขึ้นมาได้สะดวกนัก ทีแรกมีทั้งหมดสี่ตัว ทว่าเขามอบให้น้องชายของจางซื่อไปสองตัว และถือโอกาสยืมข้าวสารกลับมาเล็กน้อยด้วย
ครั้นหญิงชราเห็นเจ้ารอง นางก็รับจับแขนของเขาไว้ “เจ้ารอง เจ้ากลับมาได้เสียที ขืนเจ้ายังไม่กลับมา พวกข้าทั้งบ้านจะต้องถูกผู้อื่นรังแกจนตายแน่นอน”
จางซื่อยืนอยู่ที่หน้าเรือน นางขยิบตาให้สามีครั้งหนึ่ง
เจ้ารองรู้กัน เขาไม่ดันร่างของมารดาออกไป เพียงถามเสียงเบาว่า “ท่านแม่เป็นอะไรไป เกิดอะไรขึ้น”
หญิงชราชี้ไปที่เจ้าใหญ่ พลางร้องห่มร้องไห้ “เจ้าดูสิ จ้าวหลานกับหูจ่างหลินทำเกินไปแล้ว พวกเขารังแกพวกเราจนมีสภาพเช่นนี้เชียว แขนสองข้างของพี่ชายเจ้าเพิ่งจะหายได้ไม่นาน ก็ต้องแขนหักอีกรอบแล้ว”
“จ้าวหลานกับหูจ่างหลินเป็นคนทำหรือ” ให้ตายอย่างไรเจ้ารองก็ไม่เชื่อ จ้าวหลานและหูจ่างหลินขึ้นชื่อว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมในหมู่บ้านนี้ พวกเขาจะลงมือทำรายคนอื่นได้อย่างไร