คุณเลขาที่รัก - ตอนที่ 17
น้องพายตื่นนอนแต่เช้าลงมาวิ่งเล่นที่ลานหน้าบ้านแต่ก็เจอเข้ากับคุณลุงคนเมื่อวานที่มาช่วยคุณแม่ถือของไว้ สาวน้อยเลยเดินเข้าไปทักทาย
“สวัสดีค่ะคู๊นลุง มาหาคู๊นแม่หรอคะ”
“ใช่แล้วครับ คุณแม่อยู่ไหมครับ”
“คู๊ณแม่อยู่ค่ะ เดี๋ยวน้องพายไปตามให้นะคะ คู๊นลุงรอตรงนี้ก่อนค่ะ”
“ขอบคุณครับ” สาวน้อยวิ่งเล่นจนเหนื่อยแก้มจะขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะเลือดสูบฉีด เขาอยากจะฟัดแก้มกลมๆนั้นมากจริงๆ
“คู๊นแม่ขา มีคนมาหาค่ะ คู๊นลุงคนเมื่อวานค่ะ”
“น้องพานไปเปิดประตูให้เขาเข้ามาก่อนลูก”
“ได้ค่ะ” สาวน้อยวิ่งดุ๊กดิ๊กไปเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้ามาภายในบ้าน พอได้เข้ามายืนใกล้ๆแล้วสัมผัสได้เลยว่าบ้านหลังนี้อบอวลไปด้วยความรัก มีไม้ประดับนานาพันธุ์ตกแต่งโดยรอบ ลมพัดเย็นสบายเพราะมีชานระเบียงที่กว้างใหญ่ ดูสงบและน่าพักผ่อนเป็นอย่างมาก
“น้ำค่ะ”
“ขอบคุณครับ บ้านของเกรซร่มรื่นมากเลยนะครับ”
“ค่ะ เป็นการออกแบบไว้ของคุณพ่อ ท่านอยากให้ลมพัดผ่านไปได้”
“เยี่ยมเลยครับ เย็นสบายแบบไม่ต้องเปิดพัดลมเลย”
“ค่ะ”
“น้องพายกำลังจะทานข้าว คู๊นลุงทานหรือยังคะ”
“จ๊อก~”
“ฮ่าๆ คู๊นลุงยังไม่ได้ทานแน่ๆเลย”
“แหะๆ ครับผม”
“ทานข้าวด้วยกันไหมคะ ถ้าไม่รังเกียจ”
“จะรังเกียจเมียตัวเองได้ยังไงละคะ”
“เอ๊ะ พูดอะไรน่าเกียดจังค่ะ”
“พูดความจริงครับ แล้วนี่…” ชายหนุ่มหันไปมองทางสาวน้อย โดยสื่อเป็นนัยว่าลูกรู้ความจริงหรือยัง เธอจึงส่ายหัวเบาๆกลับไป ทำเอาชายหนุ่มหน้าหงิกขึ้นมาทันที
“คู๊นลุงเป็นอะไรคะ หน้าหงิกเหมือนน้องพายเวลาถูกขัดใจเลย”
“ลุงอารมณ์ไม่ค่อยดีครับ”
“คุณลุงเขาหิวมากค่ะ น้องพายทานเถอะนะคะ หิวแล้วจะได้ไม่โมโหหิวกันไงคะ”
“จริงด้วยค่ะ คู๊นลุงรีบๆทานนะคะ คู๊นแม่ทำอาหารเก่งที่ฉุดค่ะ”
“ขอบคุณครับ ไหนลุงขอลองหน่อยว่าอร่อยจริงๆหรือป่าว” เมื่อรับประทานอาหารเสร็จคนตัวน้อยก็จูงมือชายหนุ่มไปนั่งพูดคุยที่ห้องนั่งเล่นต่อ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากอย่างน้องพายจะสนิทกับชายหนุ่มที่เจอกันเพียงแค่สองครั้งได้รวดเร็วขนาดนี้ นี่สินะคงเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก
“น้องพายมีอะไรจะโชว์ด้วยค่ะ”
“อะไรหรอคะ”
“นี่ค่ะ หมวกใบโปรดของน้องพายเลย ฉวยไหมคะ สีชมพู”
“สวยที่สุดเลยครับ ซื้อที่ไหนครับ”
“ไม่ได้ซื้อค่ะ คู๊นแม่ถักให้ ให้น้องพายเลือกสีเองได้ด้วยค่ะ”
“คุณแม่ของน้องพายนี่เก่งทุกอย่างเลยนะครับ”
“ใช่ค่ะ คู๊นแม่ทำอาหารเก่ง คู๊นแม่วาดรูปสวย ถักเสื้อผ้าได้ คู๊นแม่เล่านิทานสนุก เก่งๆๆๆที่ฉุดเยยค่ะ”
“ขอบคุณนะครับเกรซ ที่เลี้ยงดูน้องพายมาอย่างดี”
“แน่นอนสิคะก็ลูกของเกรซนี่”
“ลูกของผมเหมือนกันครับ” ประโยคนี่ชายหนุ่มพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
“น้องพายคะแม่มีเรื่องจะบอกค่ะ”
“ตอนนี้เลยหรอเกรซ น้องพายกำลังอารมณ์ดีๆเลยนะ”
“ตอนนี้แหละค่ะ”
“น้องพายคะ”
“ขาคู๊นแม่”
“น้องพายอยากเจอคุณพ่อไหมคะ”
“โนวๆ ไม่อยากเจอแล้วค่ะ”
“อ้าว ทำไมละคะ” ชายหนุ่มรู้สึกเศร้ามากๆที่ลูกสาวไม่อยากเจอตน
“ก็คุณพ่องานยุ่ง แต่น้องพายคิดว่าคุณพ่อไม่รักน้องพายมากกว่า”
“พ่อรักน้องพายครับ”
“คู๊นลุงรู้ได้ยังไงคะ”
“อะ เอ่อ..”
“เพราะคุณลุงจริงๆแล้วเป็นพ่อของน้องพายไงคะ”
“พ่อของน้องพายเหรอคะคู๊นแม่”
“ใช่ค่ะ”
“ฮึกๆ คู๊นพ่อใจร้าย ไม่มาหาน้องพายบ้างเลย” จากนั้นสาวน้อยก็วิ่งหายเข้าไปในห้องนอนของทั้งคู่ ชายหนุ่มหน้าเสียแทบจะทันที
“ทำไงดีครับ ผมจะทำยังไงดี”
“คงต้องไปง้อแกหน่อยแล้วนะคะ”
“ก๊อกๆๆ น้องพายเปิดประตูให้พ่อหน่อยสิครับ”
“ไม่เอาค่ะ คนใจร้ายน้องพายไม่อยากคุยด้วยหรอก”
“ถ้าไม่คุยด้วยงั้นพ่อกลับนะครับ” สาวน้อยได้ยินดังนั้นก็คิดเปลี่ยนใจ กลัวคนเป็นพ่อจะกลับไปแล้วจะไม่กลับมาหากันอีก จึงรีบลงจากเตียงมาปลดล็อคประตูแล้วรีบวิ่งกลับไปนอนห่มผ้าบนเตียงตามเดิม
“คลิก” เสียงปลดล็อคประตูทำเอาชายหนุ่มใจชื้นขึ้นมาอีกครั้ง สาวน้อยคงกลัวเขาจะกลับไปจริงๆ ส่วนคนเป็นแม่ก็ยิ้มขำลูกสาวคงอยากให้พ่อง้อตัวเองเยอะๆ
“คุณเข้าไปเถอะค่ะ อธิบายให้แกฟังให้เข้าใจนะคะ”
“ครับ”
“เอ่ ลูกสาวคนสวยของพ่ออยู่ไหนน้า หาไม่เจอเลย”
“อยู่ในก้อนผ้าห่มนี้หรือป่าวน้า”
คนตัวน้อยแทบหยุดหายใจกลัวเพราะกลัวคนเป็นพ่อจะจับได้ ทั้งๆที่สาวน้อยไม่รู้ตัวเลยว่าเท้าน้อยๆของเธอนั้นโผล่ออกมาจากผ้าห่มผืนหนาแล้ว ชายหนุ่มจึงจับที่เท้าน้อยๆนั่นไว้
“กรี๊ดดด ฮ่าๆ”
“อ้าว ลูกพ่ออยู่ในนี้จริงด้วยครับ จับได้แล้ว โผล่หน้ามาคุยกับพ่อเถอะนะครับ นะลูกนะ” เมื่อโดนชายหนุ่มอ้อนสาวน้อยจึงค่อยๆลดผ้าห่มลงมา จนตอนนี้โผล่มาแค่ใบหน้าน้อยๆน่ารักน่าเอ็นดู
“คนสวยของพ่อยอมมองหน้าพ่อแล้ว พ่อขอโทษนะครับที่งานยุ่ง แต่ต่อจากนี้ไปพ่อจะมีเวลามาหาน้องพายทุกวันเลยนะครับ”
“น้องพายไม่เชื่อหรอกค่ะ”
“โถว่จะให้พ่อทำยังไงดีละลูก น้องพายถึงจะยอมเชื่อ”
“ไม่รู้ค่ะ”
“อ้าว”
“น้องพายเสียใจมากค่ะ ทำไมคู๊นพ่อถึงใจร้ายมากๆไม่มาหาน้องพายกับคู๊นแม่เลย น้องพายได้ยินใครๆก็พูดว่าน้องพายไม่มีพ่อ คู๊นพ่อทิ้งน้องพายกับคู๊นแม่ไป”
“โถว่ลูก พ่อไม่ได้ตั้งใจ ใครบอกกับหนูอย่างงั้นละลูก”
“หลายคนเลยค่ะ แต่น้องพายรักคู๊นแม่น้องพายถึงเลิกถามเรื่องของคู๊นพ่ออีก เพราะพอน้องพายถามถึงคู๊นพ่อคู๊นแม่ก็จะแอบไปร้องไห้แงๆ น้องพายรู้ค่ะ น้องพายแอบเห็นมากับตาเลยค่ะ”
เมื่อคนเป็นแม่ที่แอบฟังสองพ่อลูกเขาง้องอนกันก็ถึงกับจุกในอก ใครกันนะทำไมถึงกล้าพูดจาทำร้ายจิตใจลูกสาวตัวน้อยของเธอได้ขนาดนี้ แต่เพราะความเป็นมนุษย์นี่แหละที่กะเกณฑ์อะไรใครไม่ได้ ปากของคนเราไม่มีใครไปบังคับให้พูดหรือไม่พูดสิ่งใดได้หรอก เธอคงทำได้แค่ยอมรับความจริง ทำไมเธอจะไม่รับรู้ละว่ามีคนในหมู่บ้านไม่น้อยนิททาเรื่องที่เธอท้องไม่มีพ่อ แต่จะทำอย่างไงได้ละเธอไม่อยากเอาลูกไปเป็นข้ออ้างให้เขารับผิดชอบชีวิตเธอกับลูก เธอไม่อยากฝืนใจของใครนี่หน่า เขาเป็นผู้ชายที่ดีพร้อม ไม่เที่ยวผู้หญิง ขยันทำงาน เรื่องนี้เธอรู้ดีกว่าใคร
“น้องพายเห็นคู๊นแม่ทำงานกนักทุกวันเลยค่ะ น้องพายสงสารและเป็นห่วงคู๊นแม่จังค่ะ”
“โถว่ลูก ลูกแม่น่าเอ็นดูเสียจริง รู้จักเป็นห่วงคนอื่นเสียด้วย” หญิงสาวคิดในใจอย่างชื่นชม
“พ่อขอโทษนะครับ พ่อยอมรับผิดที่ทำให้น้องพายกับคุณแม่ต้องเสียใจ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหมครับ พ่อจะดูแลน้องพายกับคุณแม่ให้สบายดีสุดครับ ดีไหมครับ”
“ดีค่ะ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไรครับ”
“แต่ว่าทำไมคู๊นพ่อถึงมาอยู่กับน้องพายเลยไม่ได้หรอคะ”
“น้องพายฟังพ่อนะลูก เดิมทีคุณพ่อคุณแม่เราอยู่กันที่กรุงเทพ แต่พอเรามีปัญหากันคุณแม่เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ ถ้าอยากให้อยู่ด้วยกันก็ต้องคืนดีกันก่อนค่ะ”
“แล้วทำยังไงถึงจะคืนดีกันคะ”
“ข้อนี้เราต้องวางแผนนะครับ เราต้องทำให้คุณแม่หายโกรธคุณพ่อนะครับ”
“ทำยังไงถึงจะหายโกรธละคะ” สาวน้อยชั่งถามยังคงถามผู้เป็นพ่อต่อไปไม่หยุด ด้านหญิงสาวก็พยายามจับใจความว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกันเพราะเสียงมันชั่งเบาซะเหลือเกิน
“ชู่ว์ เราต้องคุยกันเบาๆนะครับ คุณแม่แอบฟังเราสองคนคุยกันอยู่ครับ”
“จริงหรอคะ”
“จริงค่ะ”
“น้องพายไปปิดประตูก่อนสิลูก แค่นี้คุณแม่ก็ไม่ได้ยินเราสองคนแล้ว”
“ได้ค่ะ” สาวน้อยเดินลงจากเตียงดุ้กดิ้กไปปิดประตูให้สนิท
“อ้าวลูกสาวแม่ปิดทำไมเนี่ย ปิดอย่างนี้แม่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้งสองคุยอะไรกันต่อนะสิ” เมื่อปิดประตูเรียบร้อยสาวน้อยก็เดินกลับไปหาผู้เป็นพ่อ เขาจึงอุ้มสาวน้อยขึ้นมานั่งบนเตียงนอน
“น้องพายว่าเราทำยังไงคุณแม่ถึงจะหายโกรธคะ”
“ถ้าน้องพายดื้อแล้วคู๊นแม่โกรธน้องพายจะขอโทษแล้วก็จุ๊บๆคู๊นแม่ค่ะ คู๊นแม่หายโกรธน้องพายทันทีเลย”
“แต่พ่อทำอย่างนั้นไม่ได้นะสิ แค่เข้าใกล้คุณแม่ของหนูยังไม่ยอมเลย ว่าแต่มีใครมาจีบคุณแม่บ้างไหมครับ”
“จีบคืออะไรคะ”
“จีบคือการที่คนๆหนึ่งชอบอีกคน อยากคุยด้วยอยากรู้จัก จึงมาหามาคุยด้วยบ่อยๆ ซื้อขนมดอกไม้มาให้ประมาณนี้ค่ะ”
“อ๋อ มีค่ะเยอะแยะเลย คนอื่นชอบคู๊นแม่เยอะมากค่ะ ลุงตินก็ชอบคุณแม่ถึงได้ซื้อขนมมาฝากคู๊นแม่”
“ใครคือลุงตินหรอครับ”
“ลุงตินเป็นแฟนน้ามดแดงค่ะ”
“น้ามดแดงคือใครครับ”
“น้ามดแดงคือเพื่อนของคู๊นแม่ค่ะ”
“แล้วหนูรู้จักลุงตินได้ยังไงครับ”
“คู๊นแม่บอกว่าลุงตินเป็นคนทำคลอดให้มดแดงค่ะ”
“ทำคลอดหรอครับ ลุงตินอะไรนั่นเป็นหมอหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ลุงตินเป็นหมอ” ไม่ได้กาลแล้วแสดงว่าไอ้หมอนั่นมันก็เห็นอะไรๆของเมียเขาแล้วน่ะสิ เขาไม่ยอมหรอก โกรธมาก เฮ้อแต่ทำอะไรไม่ได้ ต่อไปถ้ามีลูกด้วยกันอีกจะต้องเป็นหมอผู้หญิงเท่านั้น ชายหนุ่มคิดในใจ
“เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ เราค่อยๆคิดหาวิธีให้คุณแม่หายโกรธแล้วกลับไปอยู่บ้านกับคุณพ่อจะดีกว่านะครับ คุณแม่หนูชอบไม่ชอบอะไรหนูรู้ไหมครับ”
“รู้ค่ะ คู๊นแม่ไม่ชอบอากาศร้อน คู๊นแม่บอกว่าตอนน้องพายเด็กๆกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ติดแอร์เลยค่ะ คู๊นแม่บอกว่าอยากให้น้องพายนอนหลับสบายๆ ยุงไม่กัด”
“แล้วชอบอะไรอีกไหมครับ”
“คู๊นแม่ชอบทานผลไม้ทุกอย่างเลยค่ะ คู๊นแม่บอกว่ามันมีประโยชน์ทำให้ผิวของน้องพายสวย คู๊นแม่เลยให้น้องพายทานเยอะเลยค่ะ น้องกินผักได้ด้วยนะคะ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงค่ะ แต่น้องพายไม่ชอบมะเขือเทศแดงๆเลยค่ะ มันเหม็นมากๆเลย”
“ฮ่าๆ ไม่ชอบเหมือนพ่อเลยครับ งั้นข้อนี้แสดงว่าเราเหมือนกัน คู๊นแม่ให้ทานบ่ายเลยหรอครับ”
“บ่อยค่ะ คู๊นแม่อยากให้ผิวน้องพายสวยๆ”
“ทานสักหน่อยก็ดีนะลูก ตอนที่แม่มาอยู่ที่นี่พ่อคิดถึงแม่มาก พ่อเลยทานมะเขือเทศเพื่อให้คลายความคิดถึงครับ”
“มันช่วยได้หรอคะ”
“ช่วยได้ครับ เพราะเมื่อทานแล้วพ่อจะนึกถึงเมื่อก่อนที่เวลาพ่อเอามะเขือเทศทิ้งคุณแม่ของหนูก็จะบ่นๆๆคุณพ่อไม่หยุดเลยครับ”
“คู๊นแม่ก็อยากให้คู๊นพ่อผิวสวยด้วยหรอคะเนี่ย”
“น่าจะใช่ครับ”
เมื่อหญิงสาวเห็นทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่จึงเดินมาเคาะประตูให้ออกมมทานข้าวกัน
“ก๊อกๆๆๆ มาทานข้าวกันได้แล้วนะคะ”
“คู๊นแม่มาตามแล้วค่ะ”
“ครับ กำลังไปครับ”
“มาทานข้าวกันค่ะ คุณทานข้าวมาหรือยังคะ”
“ยังเลยครับผมขอฝากท้องด้วยสักมื้อนะครับ”
“ได้เลยค่ะ” สาวน้อยชิงตอบผู้เป็นมารดาออกไปทันที นี่แสดงว่าสองคนนี้เขาคืนดีกันแล้วหรอเนี่ย ทำไมมันถึงได้ง่ายดายจัง