คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 869 วางแผนอย่างรอบคอบ

ตอนที่ 869 วางแผนอย่างรอบคอบ

…………….

ที่จริงฉินหลิวซีไม่จำเป็นต้องให้หยวนอิงนำทางถึงจะสามารถหามู่ซีเจอได้ แต่ที่นี่เป็นโลกแห่งความว่างเปล่า นางเองก็เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก หากนางอยู่คนเดียวก็ไม่กลัวที่จะผจญภัย แต่มีคนอยู่รอบตัวมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสหายนักพรตที่ดี การจะปล่อยให้พวกเขาต้องพบกับอันตรายที่นี่คงไม่ดีนัก โดยเฉพาะสหายนักพรตที่มีความสามารถสูงหาได้ยากยิ่ง เพราะยังมีปีศาจใหญ่ที่รออยู่ด้านหลัง ดังนั้นการมีพันธมิตรที่ช่วยได้ ดึงมาช่วยได้ก็ดึง

รอนางผูกมิตรกับสหายนักพรตเหล่านี้ ถึงตอนนั้นเตรียมพร้อมในการจัดการกับเจ้ามารซื่อหลัว เฮ้ย ลูกศรดอกเดียวพุ่งเข้าหัวใจ ทหารนับพันนับหมื่นมาพบหน้า ชื่นใจเหลือเกิน

ดังนั้น ฉินหลิวซีคิดว่าการหาพันธมิตรในโลกแห่งความว่างเปล่านั้นมีความสำคัญมาก นอกจากจะช่วยให้เดินทางง่ายขึ้นแล้ว ยังสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโลกแห่งความว่างเปล่าได้มากขึ้น ที่สำคัญที่สุด นางต้องการตามหาเห็ดหลินจือพันปีซึ่งต้องการพันธมิตรจากในพื้นที่ มิฉะนั้นจะต้องหาถึงเมื่อไร

การพูดคุยตลอดการเดินทาง ฉินหลิวซีและคนอื่นๆ จึงได้รู้ว่าผีสตรีตนนี้มีนามว่าหยวนอิง ตายไปแล้วพันปี ตอนที่ตายนางกำลังเตรียมตัวจะไปเกิดใหม่กลับเข้ามายังโลกแห่งความว่างเปล่า จึงต้องอยู่ที่นี่และบำเพ็ญตบะมานานนับพันปี

นางมีอาณาเขตของตัวเอง ไม่ก่อกวนและไม่กลัวการก่อกวน วิญญาณของนางยังนับว่าสะอาด ไม่เหมือนกับปีศาจร้ายที่พวกเขาเคยต่อสู้ด้วยที่มีบาปสีดำแดงเช่นนั้น

หยวนอิงถือเป็นผีผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ของนาง มีนางอยู่ที่นี่ก็ไม่น่าจะมีผู้ใดมาหาเรื่อง

อย่างไรก็ตาม จากคำบอกเล่าของนาง โลกแห่งความว่างเปล่ามีปีศาจยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งทว่าเรียกว่า ‘คุณชายแห่งความว่างเปล่า’ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามาจากที่ใดหรือเมื่อไหร่ อย่างไรก็ไม่เคยมีผู้ใดกล้าหาเรื่องเขา

“คนผู้นั้นต้องมีสาวใช้สวยๆ ยกเกี้ยวไปหรือไม่ หรือต้องโรยดอกไม้ไปด้วยหรือไม่” ฉินหลิวซีมีจินตนาการประหลาดขึ้นมา เอ่ยถาม

หยวนอิง “เจ้าเคยเจอหรือ”

ฉินหลิวซีส่ายศีรษะ แต่ก็นึกถึงบุคคลหนึ่งที่เป็นเช่นนี้ เคยเจอที่ใด แต่ความทรงจำกลับลืมไปแล้ว

“ไม่ถึงกับต้องมีสาวใช้ยกเกี้ยว เกี้ยวนั้นทำจากกระดูกขาว สามารถลอยไปเองได้ เขาเพียงนั่งทำตัวหล่อเหลาเหมือนเซียนท่ามกลางพัดที่โบกพัดก็พอแล้ว” หยวนอิงเอ่ยอย่างดูหมิ่น “ดินแดนแห่งความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยพลังหยิน เขามีพัดติดตัวตลอดเวลา ไม่กลัวว่าพัดนั้นจะทำให้เป็นไข้กระมัง ข้าคิดว่าเขาคงใช้พัดเก่ามาแสดงโอ้อวด บวกกับแววตาที่เศร้าและผ่านโลกมาเยอะล่ะก็ บรรดาสาวๆ ทั้งหลายคงจะยกย่องเขาราวกับเป็นเทพเจ้าเลยทีเดียว ฮึ นี่มันวิธีใหม่ในการจีบสาวหรืออย่างไร”

ฉินหลิวซี “…”

ข้ามองว่าเจ้าเข้าใจได้ดี

ซู่หมิงกระซิบกับเถิงเจาอย่างลับๆ “ผีสตรีผู้นี้ตอนมีชีวิตเกรงว่าคงเป็นคนพูดมากกระมัง ข้ารู้สึกว่านางชอบซุบซิบนินทา เหมือนกับพวกสตรีในตลาด”

เถิงเจามองไปอย่างเฉยเมย ขยับออกห่างสักหน่อย ไม่คุ้นเคย ไม่ต้องเข้ามาใกล้

ซู่หมิงเห็นเขาหลบไปก็ยังไม่รู้ตัว ขยับตามไปอีกครั้ง พูดพร่ำต่อไปอีก เนิ่นนานเห็นเขาไม่เอ่ยตอบแม้เพียงคำเดียว จึงเอ่ย “นี่ เจ้าเด็กนี่ยังเงียบอยู่อีก มันยากนักหรือที่จะเอ่ยอะไรออกมา”

เถิงเจา จะให้ข้าบอกเจ้าเรื่องที่ข้าเก็บตัว มีอาการป่วยหรือ

กลุ่มคนทั้งหมดมาถึงพื้นที่ของฉังอู๋จี๋อย่างรวดเร็ว

“ถึงแล้ว” หยวนอิงเอ่ยพร้อมกับกอดอก “ข้ายังแนะนำให้อย่าได้เอาชีวิตไปทิ้ง ดูสิ่งเหล่านี้นี่มันอะไรกัน”

ทุกคนต่างเป็นผู้บำเพ็ญเพียร มีหูตาแจ่มแจ้ง จากที่ตำแหน่งของพวกเขามองลงไป ไม่ใกล้ไม่ไกล สามารถมองเห็นสถานการณ์ในหุบเขาได้อย่างชัดเจน

ที่นั่นมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ ใจกลางแท่นมีเสาไม้ห้าเสา รอบๆ มีโลงหิน และข้างๆ โลงหินมีโคมไฟสี่สิบเก้าดวง[1] ซึ่งโคมไฟเหล่านี้ไม่ธรรมดา

“โคมไฟพวกนี้…” เซียวเหยาจื่อเห็นว่าโคมไฟเหล่านี้ไม่ปกติ มีพลังชีวิตและความเครียดแค้น

“ใช้วิญญาณชีวิตใส่ในโคมไฟ” ฉินหลิวซีเอ่ยอย่างเยือกเย็น

โคมไฟทั้งสี่สิบเก้าดวงแต่ละดวงมีรอยต่อของจิตวิญญาณ

“อะไรนะ มู่ซื่อจื่อ…” ทุกคนตกใจ หรือซื่อจื่อโชคร้ายผู้นั้นตายไปแล้วหรือ

มู่ซื่อจื่อ ยังไม่ตาย แต่ก็ใกล้แล้ว เฮ้อ ข้าต้องฝากชีวิตไว้ที่นี่ในที่ที่น่าสะพรึงกลัวนี้

ฉินหลิวซีตรวจสอบ ส่ายศีรษะ “ยังไม่ตาย มีโคมไฟบางดวงเป็นวิญญาณที่มีชีวิต”

นั่นหมายความว่า เขายังไม่ตาย แต่คนที่มากับเขานั้นไม่แน่

“พวกเจ้าดูที่รอบนอก นั่นไม่ใช่กองทัพหยินหรือ” อู๋โหย่วจื่อชี้ไปยังทหารผีสวมเกราะและปล่อยพลังมืดรอบๆ แท่นบูชา

ปรมาจารย์ไท่เฉิงส่ายศีรษะ “ไม่น่าใช่กองทัพหยินจากยมโลก เพราะยมโลกไม่อาจควบคุมที่นี่ได้ แต่ก็ไม่แน่ เขาอาจจะมีวิธีการทำให้กองทัพหยินจากยมโลกมาที่นี่ได้”

หากเป็นเช่นนั้นยมโลกก็อาจจะมีปัญหา ทหารของเขาอาจจะหายไปโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นช่องโหว่

“ทุกท่านเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวให้พร้อม ลงไปได้เลย” ฉินหลิวซีไม่ดูต่อ

ทุกคนรีบเดินตามไป

หยวนอิงเห็นพวกเขามุ่งหน้าต่อไปอย่างไม่หวาดกลัว ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง กระทืบเท้า ถอนหายใจและเดินตามไป

ไม่ลงมือ แต่จะมาดูสถานการณ์

เมื่อมาถึงบริเวณรอบๆ ก็ยิ่งเห็นภาพแท่นบูชาได้ชัดเจน และสัมผัสได้ถึงอิทธิพลโดยรอบ

เงียบสงบ แต่แฝงไปด้วยลมพายุ

“นั่นคือมู่ซื่อจื่อ” เสวียนชิงจื่อมองไปยังตำแหน่งกลางเสาที่มีมู่ซื่อจื่อถูกมัดอย่างแน่นหนา

เจ้าเด็กน่าสงสาร ตอนนี้เขาถูกถอดเสื้อออก ด้านบนและใบหน้ามีการเขียนอักษรเวทย์ ถูกมัดเหมือนกับซาลาเปาบนเสาที่มีอักษรเวทย์สีแดงเขียนไว้ และใต้เท้าของเขามีสิ่งที่คล้ายกับกรวย ซึ่งฐานของกรวยนั้นมีร่องเชื่อมต่อไปยังพื้นโลงหิน

พื้นโลงหินผิวขรุขระ มีลักษณะเป็นแผนภาพ ส่งกลิ่นอายลึกลับ รอการเติมเต็ม

นอกจากมู่ซื่อจื่อแล้ว ยังมีชายหนุ่มอีกหลายคนที่อยู่ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ที่มีสถานการณ์เช่นเดียวกัน

ฉินหลิวซีเอ่ย “ช่วยพวกเขาก่อน”

นางคาดการณ์ได้ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เลือดเป็นอาหารของมนุษย์ และเป็นพลังชีวิต พวกเขาถูกมัดไว้ที่กรวยนั่น ถ้าหากกรีดเลือดออกและไหลลงไปในร่องนั้นจะทำให้แผนภาพบนพื้นมีชีวิตขึ้นมา

เมื่อมีชีวิตแล้ว ค่ายอาคมฟื้นคืนชีพก็จะได้รับพลังงาน เหล่ารูปที่วาดไว้บนร่างของพวกเขาก็คือสัญลักษณ์ดึงดูดวิญญาณ เพียงแค่ร่างกายของพวกเขาตาย วิญญาณจะถูกดึงเข้าสู่ค่าย เพื่อสร้างเป็นวิญญาณค่าย หากโชคดี วิญญาณที่มีฐานะสูงกว่าจะยิ่งดี หลังจากนั้นจะผ่านค่ายอาคมฟื้นคืนชีพแล้วถูกเปลี่ยนเป็นพลังก่อนจะตกลงไปในโลงหิน รอเวลาเพื่อเกิดใหม่

ในดินแดนแห่งความว่างเปล่า การทำเช่นนี้ไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของสวรรค์และโลก หากสำเร็จ คนในโลงหินหรือผู้ที่ทำพิธีอาจไม่ต้องรับผลของกรรม และไม่ต้องกลัวฟ้าผ่า นี่ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฆ่าและซ่อนศพอย่างยอดเยี่ยม

ฉังอู๋จี๋วางแผนได้ดีมาก!

การช่วยเหลือไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทันที ยามพวกเขาบุกเข้ามาในพื้นที่ก็ได้กระตุ้นระบบการเตือนภัยรอบนอกแล้ว กองทัพหยินที่สวมเกราะสังเกตเห็นพวกเขาและเริ่มมารวมตัวกัน

“พวกเจ้ารับมือไป ข้าจะไปทำลายค่ายอาคม อย่าทำให้มันยุ่งยาก จัดการให้เร็วที่สุด” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเข้มก่อนจะวิ่งไปข้างหน้า ดีดปลายเท้าขึ้นและเหยียบศีรษะของซู่หมิงและพุ่งขึ้นไปบนอากาศ มองไปรอบๆ แล้วคำนวณทิศทางด้วยนิ้วมือและลอยไปยังทิศที่ต้องการ

ซู่หมิง “?”

ทำไมต้องเหยียบหัวของข้าด้วยเล่า

[1] โคมไฟ 49 ดวง สามารถใช้เป็นวิธีการป้องกันหรือขับไล่สิ่งชั่วร้าย โดยเฉพาะในการจัดการกับภูตผีปีศาจ หรือการป้องกันสถานที่จากภัยอันตราย