คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ - บทที่ 1310
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1310
แดร์ริลไม่ได้สังเกตุเห็นปฏิกิริยาของอีวาน ในเวลานั้น เขาเปิดฝาโลงศพคริสตัลของลิโป้ออก
แคร่ก!
หลังจากที่เปิดฝาโลงศพแล้ว แดร์ริลกำลังจะยื่นมือไปหยิบไข่มุกแห่งจิตวิญญาณขึ้นมา
“เอ๊ะ! นั่นอะไร?” ในเวลานั้น จูปาเจี๋ยเดินไปข้างหน้าพร้อมตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจ
นอกจากภายในโลงศพของลิโป้จะมีลูกแก้วแห่งจิตวิญญาณที่บรรจุเคล็ดวิชาศึกโลหิตแปดทิศอยู่ พวกเขาก็เหลือบไปเห็นกล่องสีทองที่มีการแกะสลักลวดลายอันวิจิตรบรรจงวางอยู่ด้านใน
แดร์ริลลืมหยิบลูกแก้วและมุ่งความสนใจไปที่กล่องที่อยู่ด้านในโลงศพทันที จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ กล่องสีทองและพูดขึ้นว่า “พี่จู คุณว่าภายในกล่องสีทองใบนั้นมีอะไร?”
เดบร้ายืนมองกล่องสีทองอย่างอยากรู้อยากเห็น
“เรามาเปิดดูกัน!” จูปาเจี๋ยหยิบกล่องสีทองขึ้นมาและเปิดมันออก
เมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน พวกเขาทั้งสามคนก็ต้องตกตะลึง โดยเฉพาะแดร์ริลที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ในขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
พวกเขาได้เห็นโอสถสีทองแวววาวอยู่ภายในกล่อง มันมีกลิ่นหอมและมีพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์
“โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทอง?!” แดร์ริลตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น
โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองเป็นโอสถที่หายากที่สุด! ในคัมภีร์โอสถแห่งอนันต์ได้ถูกบันทึกเอาไว้ว่า โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทอง สามารถใช้ฟื้นคืนชีพของคนตายได้! อย่างไรก็ตาม การตามหาส่วนผสมเพื่อกลั่นโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะรู้วิธีการกลั่นโอสถนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถตามหาส่วนผสมทั้งหมดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยกลั่นโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองมาก่อน
“โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองงั้นเหรอ?” จูปาเจี๋ยหันมองแดร์ริลอย่างงุนงง “แดร์ริล เจ้ารู้เหรอว่าสิ่งนั้นคืออะไร?”
เดบร้าเองก็หันมองแดร์ริลด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
จูปาเจี๋ยและเดบร้าต่างก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการกลั่นโอสถ
แดร์ริลสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพูดขึ้นว่า “โอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทอง เป็นโอสถที่หายากที่สุดในโลก เพราะโอสถวิเศษนั้น สามารถชุบชีวิตคนตายได้!”
จากนั้นแดร์ริลก็กล่าวต่ออย่างจริงจังว่า “มีโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองอยู่เพียงหนึ่งเดียวที่นี่ เห็นได้ชัดว่า เมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะตาย พวกเขาจึงต้องการให้อีกฝ่ายกินโอสถเจ้าสวรรค์และมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพัง ดังนั้นโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองจึงถูกเก็บไว้จนถึงทุกวันนี้”
แดร์ริลถอนหายใจและพูดต่อว่า “การอยู่และตายด้วยกันช่างเป็นเรื่องที่น่าอิจฉาจริง ๆ!”
แดร์ริลพูดถูก ในสมัยก่อนลิโป้เคยเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ในระหว่างการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขาและเธอต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อพวกเขารู้ตัวว่าพวกเขากำลังจะไม่รอด พวกเขาจึงดิ้นรนออกมาจากสนามรบ ในตอนนั้น ลิโป้มีโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองอยู่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมกินโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทอง เพราะว่าพวกเขาทั้งสองคนเลือกที่จะตายอยู่เคียงข้างกัน
ในเวลานั้น เดบร้ากัดริมฝีปากแน่นขณะที่เธอดึงแขนแดร์ริลเบา ๆ และพูดขึ้นว่า “แดร์ริล ถ้าวันหนึ่งมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ฉันก็ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้คนเดียวเหมือนกัน!”
แดร์ริลทั้งรู้สึกประทับใจและคิดว่ามันน่าขบขันในเวลาเดียวกัน เขายกมือขึ้นบีบจมูกของเดบร้าและพูดขึ้นว่า “เด็กโง่ สามีของคุณไม่ตายง่าย ๆ หรอก ผมยังอยากมีลูกกับคุณสักโหล!”
เดบร้าหน้าแดงระเรื่อ เธอหันมองเขาและพูดขึ้นว่า “แดร์ริล พี่จูก็อยู่ที่นี่ด้วย คุณกล้าพูดจาเช่นนั้นออกมาได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จูปาเจี๋ยก็หัวเราะและพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าทั้งสองแค่แสร้งทำเป็นว่าข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ได้ พวกเจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจพวกเจ้าได้เลย!”
ในขณะที่กล่าวเช่นนั้น จูปาเจี๋ยก็หยิบโอสถลี้ลับเจ้าสวรรค์สีทองขึ้นมาและถามแดร์ริลว่า “แดร์ริล เมื่อกี้เจ้าบอกว่าโอสถลี้ลับจ้าวสวรรค์สีทองสามารถชุบชีวิตคนตายได้อย่างนั้นเหรอ? ถ้าเช่นนั้น มันสามารถชุบชีวิตเตียวเสียนได้หรือไม่?”