คุณสามีแห่งชาติของฉัน - ตอนที่ 27 ขอบคุณที่ช่วยนะคะ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เฉียวอันห่าวก็ออกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเธอกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงผู้คนส่วนใหญ่ได้ออกไปแล้วและมันแทบจะไม่มีใครอยู่แล้ว
เมื่อไปถึงเธอเห็นว่าที่จอดรถเต็ม เธอจึงจอดรถไว้ไกล ๆ จ้าวเมิงไปเอารถมาในขณะที่เฉียวอันห่าวอยู่ในห้องน้ำ
เมื่อเธอไปถึงประตูโรงแรม จ้าวเมิงยังมาไม่ถึง เธอรออยู่ที่ด้านข้างและเห็นลู่จินเหนียนเดินออกมาจากโรงแรม ตำแหน่งของเธออยู่ตรงหน้าโรงแรม ดังนั้นหากลู่จินเหนียนเดินตรงมา เขาก็จะเจอเธออย่างแน่นอน
ลู่จินเหนียนไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับเธอในที่สาธารณะ และเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบกัน เขาจะเพิกเฉยต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นอากาศที่เบาบาง
แทนที่จะรอให้เขาเพิกเฉยต่อเธอ เธอตัดสินใจที่จะยืนอยู่ข้างๆซ่อนตัวจากเขา
เฉียวอันห่าวหันไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เดินไปข้างหน้าเมื่อเธอเห็นว่าเขากำลังมองไปทางอื่นอยู่ ก่อนที่เธอจะเดินไปไกล ทันใดนั้นรถก็หยุดอยู่ข้างๆเธอ กระจกรถลดลงและมีคนเรียกชื่อเธอว่า
“เฉียวเฉียว”
เฉียวอันห่าวหันศีรษะ และเห็นโปรดิวเซอร์ซุนนั่งอยู่ข้างคนขับ เธอทักทายเขาอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะ คุณซุน”
โปรดิวเซอร์ซุนยื่นศีรษะออกไปนอกหน้าต่าง
“เฉียวเฉียว ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่คนเดียว คุณไม่มีรถงั้นหรอ?”
ขณะที่เขาพูดโปรดิวเซอร์ซุนออกมาจากรถ เพื่อช่วยเปิดประตูให้กับเฉียวอันห่าวเป็นการส่วนตัว
“คุณอาศัยอยู่ที่ไหน ฉันสามารถไปส่งคุณได้นะ”
เฉียวอันห่าวรีบส่ายหัวแสดงความขอบคุณ
“คุณซุน ขอบคุณมากนะคะ แต่คงไม่ต้องเดือดร้อนคุณหรอกค่ะ ผู้จัดการของฉันกำลังไปนำรถมารับฉัน”
“โอ้ .. ” สายตาของโปรดิวเซอร์ซุนเสียใจ ขณะที่เขายังคงจ้องไปที่เฉียวอันห่าว ยิ่งเขามองเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความงามของเธอ เขาถามอย่างหุนหันพลันแล่น
“เฉียวเฉียว คุณมาจากมหาวิทยาลัยไหน?
แม้ว่าเฉียวอันห่าวต้องการหลีกเลี่ยงลู่จินเหนียน แต่เธอก็ไม่ต้องการทำให้โปรดิวเซอร์ซุนขุ่นเคืองใจเธอตอบคำถามของเขาอย่างสุภาพว่า
“มหาวิทยาลัย X ค่ะ”
“มหาวิทยาลัย X … นั่นเป็นมหาลัยที่ดีจริงๆ”
ก่อนที่เฉียวอันห่าวจะเห็น ลู่จินเหนียนเขาก็ได้เห็นเธอแล้ว นาทีที่เธอสบตากับเขา เธอหลบเขาอย่างเห็นได้ชัด
หลู่จินเหนียนหยุดชั่วขณะ สายตาของเขาขุ่นมัว ในขณะที่เขาเตรียมพร้อมที่จะเดินไปที่รถของเขา เขาก็เห็นรถของโปรดิวเซอร์ซุนจอดอยู่ข้างๆเธอ
ลู่จินเหนียนอยู่ไกลเกินกว่าที่จะได้ยินการสนทนาของพวกเขา แต่เขาสามารถบอกได้ว่าพวกเขาสนุกกับการสนทนากัน เฉียวอันห่าวยังคงยิ้มให้กับโปรดิวเซอร์ซุน เผยให้เห็นฟันที่เรียงสวยไร้ที่ติของเธอ
ในท้ายที่สุดโปรดิวเซอร์ซุนก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา และพิมพ์อะไรบางอย่างในขณะที่เฉียวอันห่าวพูด หลังจากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอที่สว่างขึ้นมีสายโทรเข้ามา
พวกเขาแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันใช่มั้ย?
เฉียวอันห่าวได้พูดคุยกับโปรดิวเซอร์ซุน และก่อนที่พวกเขาจะแยกทางกัน เขาขอเบอร์ติดต่อของเธอเพื่อที่เขาจะได้ติดต่อประสานงานกับเธอสำหรับการถ่ายทำที่เหมาะสมในอนาคต
เฉียวอันห่าวไม่พบสิ่งผิดปกติเลยให้เบอร์ติดต่อของเธอไป
หลังจากแลกเปลี่ยนเบอร์กันแล้วโปรดิวเซอร์ซุนก็วางโทรศัพท์ จากนั้นก็พูดว่า
“เฉียวเฉียว ฉันไม่มีอะไรแล้ว งั้นฉันขอตัวไปก่อนนะ”
เธอรีบเอื้อมมือไปช่วยโปรดิวเซอร์ซันเปิดประตูรถ เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วเธอก็ปิดประตูรถโบกมือให้กับโปรดิวเซอร์ซุน เธออำลาเขาด้วยความหวานว่า
“แล้วเจอกันนะคะ โปรดิวเซอร์ซุน“
โปรดิวเซอร์ซุนโบกมือกลับ และขับรถออกไป
เธอยังคงมีรอยยิ้มของเธอ แม้ว่ารถจะอยู่ไกลออกไปในระยะไกลก็ตาม ในตอนนั้นเองที่จ้าวเมิงยังไม่มาถึง เธอเอื้อมมือถือและโทรออกไปยังหมายเลขของจ้าวเมิง ในขณะที่มองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาเธอ แต่เธอไม่อยู่ในสายตา
ก่อนที่เฉียวอันห่าวจะโทรออก เธอก็เห็นลู่จินเหนียนเดินมาหาเธอโดยไม่รู้ตัวเธอ เธอตัวแข็งและก้มหน้าลง
เฉียวอันห่าวคิดว่าลู่จินเหนียนจะไม่สนใจ เธอเดินตามปกติ แต่คราวนี้เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
หัวใจของเธอเต้นเร็ว เธอเงยหน้าขึ้นมองลู่จินเหนียนด้วยความกังวล
เขายังคงนิ่งเฉยสายตาของเขาจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือของเธอโดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ
เฉียวอันห่าวมีภูมิต้านทานต่อท่าทางเย็นชาของลู่จินเหนียนอยู่แล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจ้องที่โทรศัพท์ของเธอด้วยความรุนแรงเช่นนี้
นิ้วของเธอแข็งขึ้นจากการจ้องมองที่เยือกเย็นของลู่จินเหนียน เธอกำโทรศัพท์ให้แน่นขึ้น เนื่องจากลู่จินเหนียนไม่ได้แสดงเจตนาที่จะพูด เธอจึงพยายามไม่ให้เกิดความลำบากใจโดยเปลี่ยนหัวข้อ และพูดว่า
“เอ่อ ขอบคุณที่ช่วยฉันในตอนนั้นนะคะ”
ความจริงแล้ว การที่ลู่จินเหนียนช่วยเธอในสถานการณ์แบบนั้น ทำให้เธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ในตอนนั้นเธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอเบ่งบานในสวนขนาดเล็ก เธอมีความสุขอย่างมา แม้จะผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ความอบอุ่นและความหวานก็ยังบีบหัวใจเธอทุกครั้งที่ได้นึกถึง
เขาได้ช่วยเธอจริง ๆ … หมายความว่า .. ลึก ๆ ในใจเขาไม่ได้เกลียดเธอขนาดนั้นใช่มั้ย?
ลู่จินเหนียนได้ยินเฉียวอันห่าว และสายตาของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนจากโทรศัพท์มาที่ใบหน้าของเธอ
เมื่อแสงไฟถนนสลัวกระทบผิวของเธอ ก็ทำให้ผิวของเธอดูอ่อนลง จึงทำให้เธอดูอ่อนหวานและอ่อนโยนมากขึ้น