คุณสามีแห่งชาติของฉัน - ตอนที่ 25 ราชาแห่งภาพยนตร์
แม้แต่เฉียวอันห่าวก็ไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นของเธอไว้ได้
ในภาพยนตร์เรื่องนี้นักแสดงนำหญิงคนที่สอง และนักแสดงนำชายคนที่สองมีปฏิสัมพันธ์กันมากมาย แต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร …
ทุกคนให้ความสนใจไปที่โปรดิวเซอร์ที่เหมือนกำลังจะเผยคำตอบที่ทุกคนสงสัย แต่ในตอนนั้นเอง ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างหันไปมองที่ประตู โปรดิวเซอร์ซุนได้กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดลงคอไป ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล
เมื่อสังเกตการกระทำของเขาทั้งโต๊ะจึงมองไปที่ประตู
โปรดิวเซอร์ซุนยิ้มอย่างกระตือรือร้น
“คุณลู่ในที่สุดคุณก็มาแล้ว! มานั่งลงเถอะ”
เฉียวอันห่าวหันไปทางประตูเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ เมื่อผ่านไปครึ่งทางคำพูดของโปรดิวเซอร์ซุน หัวใจของเธอก็สั่น และก่อนที่เธอจะสามารถแยกแยะคำพูดของเขาได้เต็มที่
เฉียวอันห่าวหายใจเข้าลึก ๆ เธอได้ยินเสียงฝูงชน และคำพูดด้วยที่เต็มไปด้วยความสับสน
“ราชาแห่งภาพยนตร์เป็นนักแสดงนำคนที่สองงั้นหรอ?”
“โอ้พระเจ้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข่าวนี้ถูกปิดเอาไว้ นี่เป็นข่าวใหญ่แน่ๆ ฉันแน่ใจว่าใน weibo จะต้องเป็นบ้ากันแน่ๆ!”
แม้ว่าลู่จินเหนียนจะเริ่มต้นจากการเป็นนักแสดง แต่ตอนนี้เขาก็ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ ฮวนหยิง เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของศิลปินในห้องจัดเลี้ยงได้รับการเซ็นสัญญาภายใต้ ฮวนหยิง เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และนักลงทุนหลักของ ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ ก็คือลู่จินเหนียนเช่นกัน
ฝูงชนลุกขึ้นยืนตามโปรดิวเซอร์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ผลิตและผู้กำกับต้องการรอเขาก่อนที่จะสั่งอาหาร
เฉียวอันห่าวไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ เธอยังคงนั่งอยู่แม้ว่าคนอื่น ๆ จะยืนกันแล้วก็ตามจ้าวเมิง ต้องเอื้อมมือออก และดึงเธอขึ้นมา เพราะเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ลู่จินเหนียนสวมสีหน้าไร้อารมณ์ตามปกติโดยไม่สนใจฝูงชนที่ยืนอยู่ เขาก้าวย่างก้าวไปยังที่นั่งว่างเพียงที่เดียวและนั่งลง ผู้ที่เคยร่วมงานกับลู่จินเหนียนเคยชินกับการไม่แสดงออกของเขา
หลังจากเห็นว่าเขาได้ที่นั่งแล้วโปรดิวเซอร์นั่งลง
เขาโบกมือให้บริกร เพื่อขอเมนูก่อนที่จะส่งให้ลู่จินเหนียนเป็นการส่วนตัว
“คุณลู่ คุณอยากกินอะไร?”
ลู่จินเหนียนไม่ได้มองไปที่เมนู และพูดเบา ๆ ว่า
“อะไรก็ได้”
ความกระตือรือร้นของโปรดิวเซอร์ซุนไม่ได้ลดลง แม้ว่าลู่จินเหนียนจะเย็นชาก็ตาม ด้วยรอยยิ้มที่ฉาบบนใบหน้าของเขา เขาเปิดเมนูและสั่งอาหารที่แพงที่สุดในรายการก่อนที่จะบอกให้คนที่เหลือของโต๊ะสั่ง
ต่อหน้าเจ้านายของ ฮวนหยิง เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ไม่มีใครกล้าพอที่จะสั่งอะไรทุกคนปฏิเสธเมนูอย่างสุภาพเมื่อบริกรส่งให้
มีเพียงซ่งเซียงซี่เท่านั้นที่ดูเมนูอย่างสง่างาม เธอเปิดมันสั่งอาหารจานโปรดของเธอสองจาน
เฉียวอันห่าวกลับมารู้สึกตัวได้เมื่อเมนูมาถึงเธอ เธอยิ้มให้บริกรเล็กน้อย ขณะโบกมือแสดงว่าเธอไม่ต้องการสั่งอะไรก่อนที่จะคืนเมนูให้เขา
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟออกไป เฉียวอันห่าวก็เงยหน้าขึ้นมองลู่จินเหนียนที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ห้องจัดเลี้ยงสว่างสลัวด้วยแสงไฟอันอบอุ่น มีแสงส่องกระทบใบหน้าของลู่จินเหนียน ทำให้เขารู้สึกห่างเหิน ข้างๆเขาเป็นผู้กำกับของ ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ ลู่จินเหนียนส่ายหัวเล็กน้อยกับสิ่งที่ผู้กำกับพูดจากนั้นก็ฟังต่อ
ดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเฉียวอันห่าว ในขณะที่เขาหันกลับมามองตรงไปที่เธอ เธอหันไปด้วยความตกใจทันที แสร้งทำเป็นพูดกับจ้าวเมิง
เธอเกือบถูกจับได้ เฉียวอันห่าวไม่กล้ามองไปในทิศทางของลู่จินเหนียนอีก
ในมื้อเย็นแบบนี้คงจะมีแอลกอฮอล์แน่ ๆ
อาจเป็นเพราะการปรากฏตัวของลู่จินเหนียน โปรดิวเซอร์ซุนจึงสั่งวิสกี้อย่างดีสองขวด พนักงานเสิร์ฟเทเต็มแก้วให้ทุกคน และทุกคนต่างเติมอย่างน้อย 2-3 ครั้งก่อนที่บรรยากาศจะอบอุ่นและสนุกสนาน
ลู่จินเหนียนยังคงเงียบ แม้ว่าคนอื่นจะมาดื่มอวยพรเขาก็แทบไม่พูด แต่ยกแก้วขึ้น เมื่อคนอื่นเข้ามาทักทายเขา เขาจะพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาและไร้อารมณ์ทำให้รู้สึกว่าเขามาจากโลกอื่น
ในงานเลี้ยงอาหารค่ำเช่นนี้ ทุกคนพยายามสร้างความสัมพันธ์ แต่เนื่องจากลู่จินเหนียน เฉียวอันห่าว ยังคงนิ่ง ซึ่งแตกต่างจากนักแสดงคนอื่น ๆ ที่พยายามมีส่วนร่วมกับโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ เมื่อคนอื่นเข้ามาคุยกับเธอ เธอตอบสนองและยิ้มอย่างอบอุ่น
ในท่าทางไม่เป็นธรรมชาติของเฉียวอันห่าว ที่เธอพยายามนิ่งและไม่วุ่นวายกับใคร แต่ซ่งเซียงซี่ดูเหมือนเธอมาที่นี่เพื่อทานอาหารเย็นเท่านั้น ท่าทีของเธอสง่างาม เธอนั่งลงบนที่นั่งของเธอ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมา และกินทีละชิ้นอย่างสง่างาม มีการจิบน้ำเป็นครั้งคราว
ผ่านไปครึ่งมื้อค่ำโปรดิวเซอร์ข้างๆ เฉียวอันห่าว ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ เขาหันหน้าไปมองเฉียวอันห่าวก่อนจะตะโกนออกไป
“ฉันเกือบลืมไปแล้ว ทุกคนที่นี่เคยทำงานร่วมกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และต้องคุ้นเคยกันตอนนี้ฉันขอแนะนำนักแสดงนำหญิงคนที่สองของเรา”
โปรดิวเซอร์ต้องการพูดชื่อของเธอ แต่เขาจำนามสกุลของเธอได้เท่านั้น เขาหยุดชั่วขณะจากนั้นหันไปมองเฉียวอันห่าว
“ทำไม เธอไม่แนะนำตัวเองกับทุกคนล่ะ”