คุณสามีพันล้าน - บทที่ 516 ดวงความรักสั่นไหวแล้วใช่ไหมล่ะ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 516 ดวงความรักสั่นไหวแล้วใช่ไหมล่ะ
“พวกเรามากันเช้าขนาดนี้ หลัก ๆ ก็เพราะอยากให้ไซม่อนช่วยออกหน้าให้ แต่ตอนนี้ไซม่อนก็ไปแล้ว พลอย พวกเรากลับบ้านกันก่อนเถอะนะ เดี๋ยวรอพ่อหนูกลับมาแล้ว พ่อหนูต้องมาทวงความยุติธรรมให้หนูแน่”
คุณแก้วเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวกลับบ้านก่อน
ในเมื่อทิศทางลมของตระกูลสาระทาเปลี่ยนไปแล้ว ถึงพวกเธอจะเข้าไปได้ ก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้แน่
และที่สำคัญณิชกานต์ก็ยังอยู่ ถ้าณิชกานต์เข้ามาตบตีโดยไม่สนใจอะไรแบบเมื่อวานอีก คนที่ขายหน้าก็จะเป็นพวกเธอ
ไม่ว่ายังไง พวกเธอก็ไม่ใช่ฝ่ายที่มีเหตุผล
ส่วนชลนั้น ในเมื่อเขายังไม่ได้หย่า ถ้าลูกสาวเธอกับชลกลับมาเยาะเย้ยเมียหลวง ก็เท่ากับมาหาเรื่องเจอดีเอง
เฮ้อ!
คุณแก้วถอนหายใจในใจไปทีหนึ่ง
ลูกสาวนั้นถูกสามีตามใจจนเสียคน นิสัยก็เหมือนสามี นอกจากปวดใจแล้ว เธอก็ไม่มีทางเกลี้ยกล่อมได้เลย
แล้วก็รู้สึกเสียใจ เสียใจที่ตอนนั้นตัวเองซื้อน้ำหอมนั่นมาให้ลูกสาว ถ้าไม่มีกลิ่นหอมนั่น ก็จะไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้แล้ว
“คุณพลอย พวกคุณกลับไปก่อนเถอะนะคะ คุณนายของเราอย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และคุณหนูใหญ่ถึงจะใบหน้ายิ้มแย้มให้ทุกคนตลอด แต่กลับเป็นเสือหน้ายิ้มที่กินคนไม่คายกระดูก ถึงคุณเข้าไปได้ อย่าว่าคุณนายสามจะหาเรื่องคุณเลย คุณนายกับคุณหนูใหญ่ก็ไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่”
เมื่อก่อนคุณพลอยก็หัวเราะเยาะและกลั่นแกล้งคุณนายไว้ไม่น้อย
ตอนที่คุณนายบ้านั้น จะกลัวคุณพลอยมาก เพราะถูกคุณพลอยรังแกมากเกินไป
ป้านิ้งเองก็เกลี้ยกล่อมให้พลอยไพลินกลับไปก่อน
พลอยไพลินปาดน้ำตาออกทีหนึ่ง แล้วเอากระเป๋าของตัวเองมา แล้วหยิบกล่องผ้าสีแดงอันหนึ่งออกมาจากด้านในกระเป๋า เธอเอากล่องผ้าอันนั้นยัดใส่มือป้านิ้ง แล้วป้านิ้งก็รีบซ่อนกล่องผ้าอันนั้นไปอย่างรวดเร็ว
“ป้านิ้ง ขอบคุณนะ”
ในคำพูดของพลอยไพลินมีความหมายแอบแฝงอยู่
คืออยากให้ป้านิ้งอยู่ข้างเดียวกับเธอต่อไป
ญาณินกลับมาแล้วยังไง?
เธอจะต้องรู้ทุกความเคลื่อนไหวของสองแม่ลูกญาณินตอนอยู่ที่บ้านตระกูลสาระทา
“คุณพลอย พวกคุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ”
พลอยไพลินตอบอืมไปคำหนึ่ง
แล้วก็กลับบ้านไปกับแม่แบบไม่เต็มใจมากนัก
ไซม่อนกลับไปบริษัทแล้ว เธอจะไปหาไซม่อนแล้วขอให้เขาให้ความยุติธรรมกับเธอที่บริษัทไม่ได้
แบบนั้นจะทำให้ไซม่อนโกรธเธอมากยิ่งขึ้น
ต้องโทษชลไอ้ลามกเฒ่าคนนั้น!
เขาเป็นคนทำลายเธอ!
บ้านหลังที่สามของตระกูลสาระทา เธอจะต้องไปโวยวายให้ฟ้าถล่มดินทลาย จะให้อยู่กันแบบกระสับกระส่ายกัน จะทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่งั้นเธอจะไม่ชื่อว่าพลอยไพลินอีกเด็ดขาด!
……
เมืองแอคเซสซ์
ที่ร้าน One Day In Coffee
กัญณิศาขับรถมาจอดตรงหน้าร้านกาแฟ พอกนกอรเห็นเธอ ก็ออกมาต้อนรับจากข้างในร้าน และยิ้มให้ก่อนที่จะพูด
“ณิศา”
“อรุณสวัสดิ์”
กัญณิศากล่าวทักทายกนกอรอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ถูกกนกอรลากเข้าไปในร้าน
“กนกอร ขอ Bitter Coffeeให้ฉันแก้วหนึ่งซิ”
พอเข้ามาในร้านแล้ว กัญณิศาก็ขอให้กนกอรทำกาแฟให้เธอแก้วหนึ่ง เมื่อคืนถูกประยสย์ทำให้โมโหจนนอนหลับไม่สนิท ต้องดื่มกาแฟสักแก้วให้กระปรี้กระเปร่าสักหน่อย
“ได้ เธอไปนั่งก่อนนะ”
กนกอรคลายมือออก แล้วให้กัญณิศาไปนั่งลง
กัญณิศาเห็นว่าในร้านไม่มีลูกค้าอะไร ก็เลยเดินไปนั่งลงตรงที่นั่งที่เธอชอบนั่งประจำ แล้วถามกนกอรอย่างห่วงใยไปประโยคหนึ่งว่า “วิกากลับไปที่เมืองซูเพร่าแล้ว ไม่มีผลกระทบอะไรกับกิจการในร้านใช่ไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่มี ลูกค้าประจำก็มีแล้ว น่าจะไม่มีผลกระทบอะไรหรอกมั้ง”
ตอนแรก ทุกคนมาเพราะเทวิกา
พอเคยมาแล้ว ทุกคนก็ชอบสิ่งแวดล้อมของที่นี่ กาแฟรสชาติไม่เลว ขนมก็อร่อย สิ่งแวดล้อมก็ดี การบริการก็ใช้ได้ ก็เลยทำให้มีลูกค้าประจำขึ้นมา
ตอนนี้พอไม่มีเทวิกาที่เป็นคุณนายน้อยแห่งตระกูลอริยชัยกุลอยู่ประจำการแล้ว แต่ยังมีกนกอรอยู่ กนกอรนั้นคือคุณนายน้อยที่ตระกูลเดชอุปใกล้จะแต่งเข้าบ้านแล้ว
กนกอรเอาขนมมาให้ณิศาหลายจาน แล้วมานั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามณิศา พอมองสำรวจณิศาดี ๆ ไปครู่หนึ่ง ก็ถามขึ้นมาว่า “ณิศา เมื่อคืนเธอไม่ได้นอนหลับดี ๆ เหรอ?”
“อืม นอนไม่ค่อยหลับ ดึกมากกว่าจะหลับได้ ท่าทีจึงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
กนกอรยิ้มตาหยีแล้วพูดขึ้นมาว่า “ดวงความรักสั่นไหวแล้วใช่ไหม มัวแต่คิดถึงหนุ่มหล่อบางคน ก็เลยนอนไม่หลับใช่ไหม”
กัญณิศาตำหนิเธอขึ้นมา “นี่เธอดูดวงเป็นด้วยเหรอ? มองตรงไหนถึงดูออกว่าดวงความรักฉันสั่นไหวแล้วหึ?”
กนกอรใบหน้ายิ้มแฉ่ง “ล้อเธอเล่นน่ะ พูดแล้ว ณิศา หน้าตาเธอก็สะสวย เสน่ห์และความสามารถก็ไม่เป็นรองใคร เดินอยู่กลางถนน ผู้ชายเห็นเธอแล้วต้องเหม่อจนเดินชนเสาไฟข้างถนน เธอไม่มีผู้ชายที่ชอบบ้างเลยเหรอ?”
“ฉันไม่ค่อยคบหากับใคร ผู้ชายหนุ่ม ๆ ที่รู้จักก็น้อยมาก ก็ไม่เห็นมีใครมาชอบฉันเลย”
“แล้วพี่สาวฉันก็ดูแลปกป้องฉันถึงบ้าน คนเมืองแอคเซสซ์เราต่างก็รู้ว่าพี่สาวฉันมีเรื่องด้วยไม่ได้ มีพี่สาวฉันอยู่ ไม่มีกล้ามาเข้าใกล้ฉันไปเรื่อยหรอก”
กนกอรพูดอย่างติดตลกขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าพี่ชายแท้ ๆ ของวิกาดูเหมาะสมกับเธอมากเลยนะ พวกเธอสองคน คนหนึ่งแข็งแกร่งเย็นชา อีกคนหนึ่งก็อ่อนโยนราวกับน้ำ ถ้าเป็นสามีภรรยากันก็จะได้แข็งอ่อนเสริมกันได้เลย เป็นคู่ที่สวรรค์สรรค์สร้างขึ้นมาเลย”
กัญณิศา “……”
“ฉันเห็นว่าวิกาดูเหมือนจะอยากจับคู่เธอกับพี่ชายแท้ ๆ ของวิกานะ”
“พี่สาวฉันจะกลายเป็นพี่สะใภ้ของเธอแล้ว เธอยังอยากได้ฉันอีกคนเหรอ?” กัญณิศาหลุดขำขึ้นมาไม่หยุด พอนึกการกระทำทุกอย่างของเทวิกาตอนที่อยู่ในเมืองแอคเซสซ์นั้น ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเทวิกามีความคิดแบบนี้จริง ๆ
แต่ประยสย์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ
และเธอก็แค่รู้สึกชื่นชมประยสย์
ส่วนประยสย์ก็แค่รู้สึกสนใจเกราะที่บังหน้าของเธอเท่านั้น……
ทั้งสองคนพูดคุยไปและกินขนมไปด้วย
พอผ่านไปพักหนึ่งแล้ว เด็กสาวในร้านก็เอากาแฟBitter Coffeeที่กัญณิศาสั่งมาให้
จ้องมองบอดี้การ์ดสองคนที่เช็ดโต๊ะอยู่ กัญณิศาก็หัวเราะขึ้นเบา ๆ “คุณเบศวร์ยังให้พวกเขาตามเธออยู่อีกเหรอ”
“พวกเขาจะคอยติดตาม ฉันก็คิดซะว่ามีพนักงานเพิ่มมาฟรี ๆ สองคน ณิศา เธออย่าพูดนะ พอมีพวกเขาสองคนแล้ว ร้านฉันมีลูกค้าสาว ๆ เพิ่มขึ้นมาตั้งเยอะ นั่นมันเป็นป้ายโฆษณาที่มีชีวิตสองอันชัด ๆ”
บอดี้การ์ดทั้งสอง : ……
กัญณิศาคลี่ยิ้มออกมา
ตั้งแต่ที่กนกอรตอบตกลงคำขอแต่งงานของนฤเบศวร์แล้ว ความรู้สึกของทั้งสองคนก็ก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนรู้สึกอิจฉามาก
ประตูกระจกถูกคนผลักเปิดออกจากด้านนอก
คนที่ไม่โผล่หน้ามาให้นานแล้วเดินเข้ามา
คือกันตภณ
พอเขาเดินเข้ามา ก็เห็นกนกอรอย่างรวดเร็ว เขาเดินไปทางเด็กสาวทั้งสอง
“คุณกันตภณ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
กนกอรลุกขึ้นมา จ้องมองกันตภณเดินใกล้เข้ามาด้วยใบหน้าอมยิ้ม แต่คำเรียกที่เรียกกันตภณกลับเปลี่ยนไปแล้ว
ตอนนี้เธอเป็นว่าที่ภรรยาของนฤเบศวร์แล้ว และเจ้าหมอนั่นก็ขี้หึงมาก ถึงกันตภณจะเป็นเกย์คนหนึ่ง แต่เธอก็ยังต้องรักษาระยะห่าง คำเรียกจึงเปลี่ยนเป็นดูเกรงใจขึ้นมา นฤเบศวร์จะได้ไม่ขี้หึงขึ้นมา แล้วบังคับให้เธอเรียกเขาว่านฤ
บางครั้ง เจ้าหมอนั่นก็เหมือนเด็กคนหนึ่งที่อยากได้ความรัก และขอขนมกิน
“กนกอร ไม่เจอกันนานเลย ทำไมถึงเรียกผมว่าคุณกันตภณล่ะ”
กันตภณดูซูบผอมไปหน่อย แต่ท่าทียังดูไม่เลว
“ก็คุณคือคุณกันตภณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉันคงเรียกคุณว่าคุณหนูกันตภณไม่ได้หรอกมั้งคะ”
กันตภณยิ้มขึ้นมา
ที่จริงเขาค่อนข้างชอบนิสัยของกนกอร
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน ก็ดีออก
เพียงแต่ว่า……
อย่าไปแหย่นฤเบศวร์เจ้าคนขี้หึงนั่นดีกว่า
“คุณคนนี้คือ?”
พอเห็นกัญณิศาที่อยู่ข้าง ๆ กันตภณตกตะลึงที่เห็นคนอยู่ตรงนี้
“คุณหนูรองแห่งตระกูลนนท์สัจทัศน์”
กันตภณเข้าใจขึ้นมา “เคยได้ยินชื่ออยู่เหมือนกัน”
เขาพยักให้ทักทายณิศา
กัญณิศายิ้มตอบกลับไป ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันมากเท่าไหร่ ไม่สนิทกัน
“คุณกันตภณ ที่คุณมาวันนี้เพราะ?”
กันตภณยังคงยิ้มแย้ม จ้องมองกนกอรไปตรง ๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “วันนี้ผมมาบอกลาคุณกนกอรครับ”
กนกอรเปลี่ยนคำเรียกไป พอกันตภณครุ่นคิดเล็กน้อยแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาว่าทำไม เขาเองก็เปลี่ยนคำเรียกไปเหมือนกัน
“ผมจะไปแล้ว ไปจากเมืองแอคเซสซ์”