คุณสามีพันล้าน - บทที่ 510 พวกเรามีเวลากันทั้งชีวิต
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 510 พวกเรามีเวลากันทั้งชีวิต
ถ้าเป็นเมื่อก่อน กัญณิศาจะหาข้ออ้างว่าจะควบคุมหุ่น ไม่กินมื้อดึกเป็นเพื่อนพี่สาว แต่คืนนี้เธอไม่สนแล้ว
ถ้าเธอไม่กินเป็นเพื่อนด้วย ไม่เป็นก้างขวางคอ ใครจะไปรู้ว่าพี่สาวกับพี่ชเนนทร์จะกินกันถึงเมื่อไหร่?
ทั้งสองคนจู๋จี๋กัน ไม่แน่อาจจู๋จี๋กันถึงสว่างก็เป็นได้
คืนนี้ณิศาจะออกไปอีกครั้ง
ต้องขอโทษพี่สาวด้วย ที่มาเป็นก้างขวางคอ
และเป็นไปตามที่คิดไว้จริง เมื่อมีกัญณิศาอยู่ด้วย ชเนนทร์กับกิติยาพูดคุยกันแต่เรื่องธุรกิจ มีแค่บางครั้งที่ทั้งสองคนส่งความรักให้กันผ่านสายตาเท่านั้น
“ณิศา เธออย่ากินเยอะ เดี๋ยวนอนไม่หลับ แล้วต้องไปเดินออกกำลังกายหลายรอบที่สวนอีก”
กิติยารู้ดีว่าหลังจากที่น้องสาวกินอิ่ม จะนอนไม่หลับ เมื่อเห็นคืนนี้น้องสาวกินเยอะมาก จึงพูดเตือนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
จากนั้นถามขึ้นมาอีกว่า: “เธอไม่ได้กินมื้อเย็นเหรอ?”
เพราะปรกติน้องสาวไม่เคยกินมื้อดึกเป็นเพื่อนเธอเลย
งานของเธอเยอะ และเธอต้องใช้พลังงานเยอะ กลางคืนกลับมาต้องกินมื้อดึกตลอด แต่ก็สามารถควบคุมหุ่นให้ดีได้ เพราะที่บ้านมีห้องออกกำลังกาย และกิติยาก็ออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้ว
น้องสาวอ่อนโยน ทำให้คนอื่นรู้สึกอ่อนแอเหมือนโดนลมพัดก็ล้มลงได้ กิติยาไม่ได้บังคับให้น้องสาวออกกำลังกายพร้อมเธอ แต่น้องสาวรักษาหุ่นด้วยกันกินน้อย เธอไม่เห็นด้วย
“ไม่นะ ฉันกินมื้อเย็นแล้ว ก็แค่กินคนเดียวมันไม่อร่อย ฉันเลยกินไม่เยอะ”
เมื่อกิติยาได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกผิดในใจ รู้สึกว่าช่วงนี้เธอห่างเหินกับน้องสาวมากเกินไป นานมากแล้วที่ไม่ได้กลับมากินข้าวเป็นเพื่อนน้องสาว
“พี่ พี่ไม่ต้องรู้สึกผิด พี่เป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลนนท์สัจทัศน์ มีพี่อยู่ ฉันถึงได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย พวกเราเป็นลูกสาวของตระกูลนนท์สัจทัศน์เหมือนกัน แต่ฉันช่วยเหลืออะไรพี่ไม่ได้เลย น่าจะเป็นฉันต่างหากที่ต้องรู้สึกผิด”
กัญณิศารู้จักพี่สาวดี เมื่อเธอพูดแบบนั้น พี่สาวต้องโทษตัวเองแน่นอน จึงรีบพูดเสริมขึ้นมา
เมื่อนึกถึงตัวเองงานยุ่งมาก ยากมากที่จะกลับมากินข้าวกับน้องสาวได้ทุกวัน กิติยาจึงพูดขึ้นว่า: “ต่อไปถ้าเธอรู้สึกว่ากินข้าวคนเดียวไม่อร่อย สามารถไปหาเพื่อนได้ ชวนพวกเธอกินข้าวด้วยกัน”
“นอกจากพวกกนกอร ฉันก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นอีก พี่ วางใจได้ ฉันดูแลตัวเองได้ ถ้าฉันเบื่อก็จะวาดรูป หรือไม่ก็ไปที่ร้านของกนกอร”
กิติยาตอบอืมออกมา
น้องสาวมีเพื่อนอย่างพวกเทวิกาและกนกอร เธอรู้สึกดีใจแทนน้องสาว ไม่ว่าจะเป็นเทวิกาหรือกนกอร พวกเขาต่างเป็นคนรักเพื่อนมาก
เทวิกาเป็นน้องสาวสามีในอนาคตของเธอ กิติยายิ่งคาดหวังอยากให้น้องสาวตัวเองกลายเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวสามีในอนาคตยิ่งกว่า
“เธอเองก็เคยช่วยเหลือพี่เยอะมาก ต่อไปห้ามพูดคำพูดแบบนี้อีก”
เมื่อมีเรื่องต้องให้ไปตรวจสอบ น้องสาวก็สามารถช่วยได้ ผลสรุปที่ไปตรวจสอบมาทั้งแม่นยำและรวดเร็ว
กิติยาเคยถามน้องสาว แต่น้องสาวบอกว่าเป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันช่วยเหลือ อย่างอื่น น้องไม่พูดอะไรเยอะ โดยบอกว่าเพื่อความปลอดภัยต้องปิดเป็นความลับ กิติยาจึงไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก
หลังจากที่กินมื้อดึกเสร็จ กิติยามองดูเวลา และบอกให้ชเนนท์รกลับบ้านด้วยความอาลัยอาวรณ์ว่า: “ชเนนทร์ ดึกมากแล้ว คุณควรกลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว”
ชเนนทร์มองดูเวลา เกือบเที่ยงคืนแล้วโดยไม่รู้ตัว
เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน
เขาลุกขึ้น แล้วพูดขึ้นว่า: “ถ้างั้นผมกลับก่อน พรุ่งนี้ค่อยมารับคุณไปทำงานที่บริษัท”
“ไกลเกินไป คุณไม่ต้องมารับหรอก”
กิติยาไปส่งชเนนทร์นอกบ้าน ในขณะที่เดินนั้นได้พูดขึ้นด้วยว่า: “คุณนอนหลับเยอะหน่อย พักผ่อนเยอะๆ ฉันจะดีใจกว่าที่คุณมารับฉันไปทำงานเสียอีก”
“ไม่เป็นไร ผมกำลังหาบ้านอยู่ หาบ้านที่อยู่ใกล้บ้านคุณหน่อย แบบนี้ผมจะได้ส่งคุณทำงานทุกวันอย่างสะดวก”
ชเนนทร์พูดย้ำออกมาอีกครั้งว่า: “ผมเป็นแฟนของคุณ”
กิติยายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นก็ได้ คุณจะเปลี่ยนบ้านใหม่แล้วเหรอ?เช่าหรือซื้อ?”
“เช่าก่อนดีกว่า ถ้าหากจะซื้อ ผมอยากรอให้พวกเรามั่งคงแล้ว ค่อยตัดสินใจซื้อ ซื้อที่คุณช่วย สไตล์การตกแต่งก็ให้คุณตัดสินใจเอง”
อยู่เมืองแอคเซสซ์ชเนนทร์เช่าบ้านอยู่ตลอด เมื่อก่อนเขาเช่าบ้านอยู่ห่างไปจากร้านของน้องสาวไม่ไกลมากนัก เพราะต้องการไปดูแลและช่วยเหลือน้องสาวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้น้องสาวกลับเมืองซูเพร่าแล้ว ข้างกายก็มีผู้ชายอย่างยศพัฒน์ดูแลอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้พี่ชายคนนี้แล้ว
ชเนนทร์รู้สึกหดหู่ในใจเล็กน้อย
น้องสาวที่ตัวเองดูแลจนโต เขายังไม่ได้ดูแลเพียงพอเลย ก็ถูกคนอื่นมาช่วยดูแลแทนแล้ว
ยศพัฒน์ก็คือหมาป่าใหญ่ และเจ้าเล่ห์มาก กลายเป็นน้องเขยของเขาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย
จำได้ว่าตอนแรกที่เขาได้ยินจากเดชวิทย์ว่ายศพัฒน์จะแต่งงานสายฟ้าแลบ เขาดีใจและไม่คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แถมได้โทรศัพท์หายศพัฒน์ โดยบอกว่าทีมงานเพื่อนเจ้าบ่าวต้องเว้นไว้ให้เขาหนึ่งตำแหน่ง คิดถึงเรื่องนี้ทีไรยศพัฒน์ก็อยากชกยศพัฒน์สักตั้ง
การยอมรับในตัวยศพัฒน์ก็อีกเรื่องหนึ่ง
และเรื่องที่ยศพัฒน์หลอกล่อน้องสาวเขาไปโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ก็อีกเรื่องหนึ่ง
“เดี๋ยวฉันช่วยคุณลองถามดูว่าแถวๆ นี้มีบ้านที่ดีๆ หน่อยปล่อยเช่าไหม”
“ได้”
ทั้งสองคนเดินไปด้วยพูดคุยไปด้วย
กิติยาส่งชเนนทร์ไปจนถึงหน้ารถที่เขาจอดอยู่
ชเนนทร์ช่วยเธอจัดเสื้อสูทอย่างอาลัยอาวรณ์ มือจับใบหน้าของเธอไว้ นิ้วมือลูบไปที่ใบหน้าของเธอ แล้วพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า: “รีบพักผ่อนนะ”
กิติยาจับมือเขาไว้ ดึงลงมา แล้วเอาไปแนบไว้ที่ขอบปากตัวเอง เธอจูบลงไปที่ฝ่ามือของเขา และพยายามให้เสียงตัวเองอ่อนโยนที่สุด: “คุณก็เหมือนกัน ขับรถอย่างระมัดระวังนะ ห้ามซิ่งรถ ถึงบ้านแล้ว ส่งข้อความให้ฉันด้วย”
“ได้ แต่ว่า คุณเปลี่ยนที่จูบได้ไหม?”
ชเนนทร์ตบไปที่ปากของตัวเอง ความหมายชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด
กิติยายิ้ม เธอเอามือไปกอดคอเขาไว้อย่างเปิดเผย และเริ่มจูบเขาก่อน
หลังจากจูบเสร็จ กิติยาช่วยเขาเปิดประตูรถ
ชเนนทร์อาลัยอาวรณ์ “ต่อไปนี้พวกเราอย่าทำงานจนดึกดื่นถึงกลับบ้าน เพราะแบบนั้นจะทำให้เวลาที่พวกเราได้อยู่ด้วยกันน้อยลง”
“พวกเรามีเวลาทั้งชีวิต”
คำพูดนี้ของกิติยาทำให้ชเนนทร์ไม่บ่นต่ออีก
ใช่สิ พวกเขามีเวลาทั้งชีวิตเลยหนิ่!
กิติยาพูดแบบนี้ แสดงว่าตอบตกลงจะแต่งงานกับเขาแล้ว
ชเนนทร์ดีใจมาก
ตอนนี้เขาถึงเข้าใจยศพัฒน์และนฤเบศวร์เสียที ผู้ชายที่มีความรักมาหล่อเลี้ยง แตกต่างกันจริงๆ
ถึงแม้จะอาลัยอาวรณ์ ชเนนทร์ก็ยังคงขับรถ และขับรถออกไปจากคฤหาสน์ของตระกูลนนท์สัจทัศน์โดยมีกิติยายืนมองอยู่
เขาเคารพกิติยา ส่วนกิติยาก็รักนวลสงวนตัวดีมาก ทั้งสองคนไม่มีทางทำอะไรเกินเลยก่อนแต่งงานเด็ดขาด ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน กิติยาก็ไม่เคยเอ่ยปากให้เขาค้างคืนที่ตระกูลนนท์สัจทัศน์มาก่อน
เมื่อรถของชเนนทร์ขับไปลับตาแล้ว กิติยาถึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน
เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นน้องสาวกำลังนั่งสัปหงกอยู่ เธอเดินไปหา ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “ณิศา ง่วงก็เข้าห้องไปพักผ่อน พี่กลับมาแล้ว ไม่ต้องรอพี่แล้ว”
ณิศาลืมตาขึ้น ขยี้ตาเหมือนเด็กน้อย แล้วถามออกมาว่า: “พี่ พี่ชเนนทร์กลับไปแล้วเหรอ”
“อืม กลับไปแล้ว ขึ้นไปข้างบนพักผ่อนได้แล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องรอพี่อีกแล้ว”
“ฉันจะรอ พี่งานยุ่งขนาดนี้ ฉันก็มีแค่ตื่นเช้านอนสายถึงสามารถเจอพี่ได้”
ณิศาลุกขึ้นยืน กอดแขนพี่สาวไว้อย่างรักใคร่ สองพี่น้องขึ้นไปชั้นบนพร้อมกัน เธอยังคงออดอ้อนพี่สาวอยู่ เมื่อพี่สาวโทษตัวเองน้อยลงแล้ว เธอถึงกลับเข้าห้องไปอย่างพึงพอใจ