คุณสามีพันล้าน - บทที่ 460 เกือบตกหลุมพราง
ทางด้านนฤเบศวร์หลังจากได้รับโทรศัพท์ธามเขาก็โมโหสุดขีดจนต้องออกจากห้องประชุมกะทันหัน ก่อนจะรีบไปอธิบานกับกนกอร ทางด้านกนกอรหลังจากอึ้งอยู่สักพัก เธอก็ได้สติ เธอมองกระดาษผลตรวจครรภ์อีกครั้งแล้วมองอีกฝ่าย
“ผู้ชายของฉันเหรอ คุณคะ คุณรู้ไหมว่าผู้ชายของฉันเป็นใคร”
“เมื่อกี้ฉันแอบตามหลังพวกเธอมา เห็นเธอขึ้นไปนั่งบนรถของเขา ก่อนจะออกรถเธอยังซื้อซาลาเปากับน้ำเต้าหู้ให้เขาด้วย และเขาเป็นคนมาส่งเธอที่นี่ ฉันเห็นทุกอย่าง แต่ว่า ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร เขานอนกับฉัน ซึ่งนั่นเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เด็กในท้องของฉันเป็นลูกของเขาจริง ๆ ฉันไม่รู้จักชื่อของเขา แต่รูปร่างหน้าตาของเขาฉันจำได้ดี”
กนกอร “…”
ปกตินฤเบศวร์ชอบสังสรรค์เข้าสังคมมาก บางทีเขาอาจจะดื่มจนเมาแล้วก็มีอะไรกับคนอื่นจริง ๆ ก็ได้
“แล้วคุณก็ต้องท้อง? ลูกของแบตบอส? ถ้าอย่างนั้นเธอก็ควรจะไปหาเขาสิ มาหาฉันเพื่ออะไร”
กนกอรพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ค่อยดีนัก
เธอรู้ว่านฤเบศวร์เป็นคนให้ความสำคัญกับความรักความรู้สึกมาก แต่เขาเข้างานสังสรรค์เยอะ ใครจะรับประกันได้ว่าหลังจากดื่มจนเมาแล้วจะไม่ไปหลับนอนกับคนอื่น
“คุณนายน้อยครับ”
ธามรีบเดินเข้ามาเพื่อปกป้องคุณชายของเขา “คุณนายน้อยอย่าไปฟังเรื่องเหลวใหลของเธอนะครับ คุณชายของพวกเรารักษาตัวและเคารพความรักมาตลอด ต่อให้ดื่มหนัก พวกเราก็จะเป็นคนไปส่งเขากลับถึงที่บ้าน เขาไม่เคยได้อยู่กับผู้หญิงคนไหนสองต่อสองเวลาเมาเลยนะครับ”
“ใครสั่งเธอมา?”
ธามดึงผู้หญิงคนนั้นและพยายามผลักเธอออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
พนักสาวของร้านก็เข้ามาพูดกับกนกอรว่า “พี่อร พี่จะฟังความของเธอฝ่ายเดียวไม่ได้นะ เอไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของคุณเบศวร์ด้วยซ้ำ คุณเบศวร์เป็นใคร สถานที่ที่เขาไปแต่ละที่มีแต่ระดับไฮเอนด์ทั้งนั้น ถ้าผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับคุณเบศวร์จริง ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักว่าคุณเบศวร์เป็นใครหรอก”
“บางทีอาจจะเป็นคนอื่นสั่งให้เอมาจริง ๆ ก็ได้ จงใจมาเพื่อทำให้พวกพี่เข้าใจผิดกัน จนขัดแย้งทะเลาะกัน บางทีอาจจะเป็นคุณณัฏฐาคนนั้นสั่งมาก็ได้”
เปรมาเข้าคุกไปแล้ว คุณณัฏฐาคงจะไม่อยากให้คุณเบศวร์กับพี่อรคบกัน เลยทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างความเข้าใจผิดก็เป็นไปได้
“อย่าผลักฉันนะ กนกอร เด็กในท้องของฉันเป็นลูกของผู้ชายของเธอจริง ๆ นะ”
ผู้หญิงคนนั้นสะบัดธามออก แล้วเดินมาหากนกอรอีกครั้ง และพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน รอให้ผู้ชายของเธอมาก่อนก็ได้ ฉันจะพิสูจน์กับเขาแบบต่อหน้าเลย”
ทีแรกกนกอรรู้สึกสับสนกระวนกระวายใจนิดหน่อย และเกือบจะเชื่อในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดแล้ว
แต่หลังจากได้ฟังสิ่งที่ธามกับพนักงานสาวในร้านพูดแล้ว กนกอรก็ใจเย็นลง
จากที่เธอรู้จักนฤเบศวร์ เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
ตอนที่เธอเมาแล้วแกล้งเขา เขายังอดทนและไม่ยอมแตะต้องเธอเลย
แสดงว่าเขาเป็นผู้ชายที่ควบคุมตัวเองได้ดีมาก ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าเขาจะไปไหนก็จะพากลุ่มบอดี้การ์ดไปด้วยตลอด จากที่ธามพูด ขนาดเวลาเขาดื่มจนเมาก็จะมีบอดี้การ์ดพาเขาไปส่งที่บ้าน มีเหรอจะยอมให้หมาให้แมวได้เข้าใกล้ประชิดตัวและเอาเปรียบเขาได้ มีลูกกับเขาอย่างนั้นเหรอ
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว กนกอรก็นึกอยากจะเปิดโปงคำพูดโกหกของอีกฝ่ายขึ้นมา จึงหันไปพูดกับธาม “ธาม ปล่อยให้เธอพูดไป เธอว่ามาว่าเธอต้องการอะไร”
ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่ธามกับคีท และมองไปทางพนักงานสาวน้อย แล้วพูดกับกนกอรว่า “เราคุยกันในนี้ไม่ได้ พวกเราออกไปข้างนอก ไปหาที่เงียบ ๆ นั่งคุยกันดี ๆ”
พูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็หยิบเอกสารผลตรวจครรภ์แผ่นนั้นแล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอก
กนกอรเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินอ้อมเคาน์เตอร์คิดเงินตามผู้หญิงคนนั้นไป
“คุณนายน้อยครับ”
ธามกับคีทรีบเดินตามมาด้วย
จู่ ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ชะงักฝีเท้า แล้วหันไปพูดกับกนกอร “กนกอร นี่เป็นการเจรจาระหว่างพวกเราสองคน อย่าให้พวกเขาตามมา”
กนกอรหันไปมองบอดี้การ์ดทั้งสองแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ใช่คนของฉัน ฉันไม่สามารถสั่งให้พวกเขาทำหรือไม่ทำอะไรได้ เจ้านายของพวกเขาบอกให้ตามฉันตลอดเวลา ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้”
“ก็ได้ รถของฉันจอดอยู่ทางนั้น เธอขึ้นรถไปกับฉัน แล้วพวกเราไปคุยกันในรถ ให้พวกเขารออยู่ข้างนอกรถ”
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่รถที่จอดอยู่ข้างทาง
กนกอรครุ่นคิดแล้วก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร
แต่หลังจากเดินตามอีกฝ่ายไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ ๆ เธอก็นึกถึงเรื่องที่เทวิกาถูกหลอกขึ้นรถและลักพาตัวขึ้นมาได้กะทันหัน
นฤเบศวร์อุตส่าห์จัดคนมาคอยติดตามเธอ เพื่อคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของเธอ
คนร้ายคงจะหาโอกาสลงมือกับเธอได้ยาก นอกเสียจากว่าจะหลอกล่อเธอเพื่อจะสะบัดบอดี้การ์ดสองคนนี้ให้หลุดก่อน…
พอคิดแบบนี้แล้ว กนกอรก็เริ่มระวังตัวขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนที่ใกล้จะถึงรถ จู่ ๆ กนกอรก็หยุดเดิน
“ทำไมไม่เดินล่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นชะงักฝีเท้าหันมาถามกนกอร
กนกอรสังเกตเห็นเธอกำกระเป๋าแน่นเหมือนกำลังประหม่า และรู้สึกผิด
บนรถคันนั้นต้องมีคนอื่นอีกแน่ ถ้าเธอขึ้นรถก็คงจะถูกลักพาตัวไปเหมือนวิกา
“ตอนนี้ที่ร้านไม่มีลูกค้า ฉันให้พนักงานร้านไปซื้อผักที่ห้างฝั่งตรงข้าม ส่วนสองคนนี้ก็เฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ในร้านมีแค่เธอกับฉัน เธออยากจะเจรจาต่อรองกับฉันยังไงก็ได้”
กนกอรพูดพลางยื่นมือไปลากอีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่เหมือนรอยยิ้ม “ไปเถอะ กลับไปคุยในร้านกับฉันดี ๆ และบอกรายละเอียดที่เธอไปค้างกับแบตบอสมาทั้งหมด บอกกับฉันให้หมด ถ้าไม่มีลำดับเหตุการณ์อย่างละเอียด ฉันก็ไม่เชื่อว่าลูกในท้องของเธอเป็นลูกของเขา”
เธอพูดพลางฉุดกระชากผู้หญิงคนนั้นเดินกลับไปทางเดิม
ถ้ามาหลอกกนกอรถึงที่ ถ้าไม่จับถลกหนังบอกความจริงทั้งหมดก็อย่าเรียกเธอว่ากนกอร
จะหลอกเธอทั้งที ทำไมไม่หาอุบายดี ๆ กว่านี้หน่อย
“ฉันจะโทรหาแบตบอสเดี๋ยวนี้ และเรียกให้เขามาที่นี่ พวกเธอสองคนจะได้พิสูจน์กับแบบตัวต่อตัวเลย”
ผู้หญิงคนนั้นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
เธอพยายามสะบัดมือกนกอรออก
กนกอรเคยฝึกมาก่อน เธอแรงเยอะไม่ว่าจะทำยังไงก็สะบัดไม่หลุด จนถูกกนกอรลากกลับเข้าไปในร้านกาแฟ
“เชิญนั่ง”
กนกอรลากอีกฝ่ายไปจนถึงโต๊ะ แล้วกดให้เธอนั่งลง ก่อนจะสั่งให้พนักงานสาวร้าน “น้องจ้ะ ช่วยรินน้ำอุ่นให้คุณผู้หญิงคนนี้สักแก้วสิ ให้เธอดื่มให้ชุ่มคอ จะได้พูดได้ยาว ๆ”
ผู้หญิงคนนั้นใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือละลายใจ
เธอร้องออกมาว่า “กนกอร ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันพูดความจริง เด็กในท้องเป็นลูกของผู้ชายของเธอจริง ๆ เรียกให้มาเจอตัวต่อตัวฉันก็ไม่กลัว”
“ฉันไม่ได้บอกว่าคุณกลัวสักหน่อย ดื่มน้ำก่อนเถอะ แล้วก็บอกรายละเอียดทั้งหมดมาว่าคุณไปนอนกับแบตบอสได้ยังไง คุณอยากให้เขารับผิดชอบ อย่างน้อยคุณก็ควรจะทำให้ฉันเชื่อในคำพูดของคุณก่อนจริงไหม”
“พวกเราออกไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันข้างนอก”
“ฉันคิดว่าในร้านของฉันมันเงียบมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนที่”
“แต่ว่า…”
กนกอรฉีกยิ้ม “ถ้าคุณตะโกนเสียงดัง ต่อให้คุณจะหาที่เงียบมากแค่ไหน มันก็ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างอยู่ดีนั่นแหละ”
อีกฝ่าย “…”
ทำยังไงดี?
กนกอรคนนี้หลอกยากจริง ๆ
คนปกติแค่ได้ยินว่าผู้ชายของตัวเองทำตัวสำส่อนจนไปทำผู้หญิงคนอื่นตั้งท้องคงจะโกรธมากจนแทบเสียสติ พูดยั่วยุแค่สองสามคำ กนกอรก็ควรจะไปกับเธอแล้ว และภารกิจของเธอก็จะสำเร็จ
แต่ว่ากนกอรกลับแตกต่างไปจากคนอื่น
หรือว่าผู้ชายของกนกอรจะไร้สมรรถภาพ? หรือว่าจะเป็นโรคเป็นพวกภาวะมีบุตรยากเหรอ?
เพราะแบบนั้น กนกอรถึงได้ใจเย็นมาก