คุณสามีพันล้าน - บทที่ 440 จัดการ
กนกอรถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง ถึงได้ยื่นมือไปรับน้ำแกงสร่างเมาชามนั้นมา และเอ่ยกับเขาว่า “สมกับที่เป็นผู้นำRA กรุ๊ป แผนการเยอะมากจริงๆ”
นฤเบศวร์มองคำพูดของเธอเป็นคำชม “ขอบคุณคำชมของอร ขอแค่คุณไม่บอกว่าผมโง่ก็พอ”
กนกอร “…”
ตอนนี้โทรศัพท์ของกนกอรพลันดังขึ้น
“โทรศัพท์มือถือฉันล่ะ”
นฤเบศวร์หันกลับไปช่วยหยิบโทรศัพท์มือถือมาส่งให้เธอ เขามองสายเรียกเข้าแวบหนึ่ง เป็นแม่ยายในอนาคตของเขาโทรมา
กนกอรเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากคุณแม่ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
เธอฝืนกดรับสายโทรศัพท์จากมารดา
“แม่คะ”
“ลูกยังต้องการร้านนี้อยู่มั้ย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ยังไม่กลับมาดูร้านอีก ในร้านมีลูกค้าเยอะขนาดนี้ น้องพนักงานยุ่งจนทำไม่ทันแล้ว”
ทักษอรไม่ได้เอ่ยถามว่าลูกสาวกำลังทำอะไรอยู่ตรงๆ
ทว่า เธอเปิดปากมาก็ด่าเลย ทำให้กนกอรรู้ว่าเพลิงโทสะของมารดาสูงปรี๊ด
“แม่คะ หนู หนูจะไปเดี๋ยวนี้ นี่ใกล้จะเที่ยงแล้ว ยังมีคนเยอะขนาดนี้เลยหรอคะ”
“ทำไม ลูกรังเกียจที่ค้าขายได้ดีเกินไปหรอ”
“แม่คะ ไม่ใช่แบบนั้น หนู หนูจะกลับไปตอนนี้เลย”
ทักษอรแค่นเสียงตอบ “รีบกลับมา”
เธอรอลูกสาวกลับมาให้ระบายโทสะ โดยที่เพลิงโทสะสุมเต็มท้อง
กนกอรรอคุณแม่เธอวางสายโทรศัพท์ เธอไม่กล้าเป็นฝ่ายตัดสาย
โชคดีที่ทักษอรจบการสนทนาอย่างรวดเร็ว
“แม่ฉันเร่งให้ฉันกลับไปแล้ว ตอนนี้เธอจะจะต้องอยู่ที่ร้านฉันแน่ๆ ฉันนอนนานขนาดนี้ ลืมไปเลยว่าต้องเปิดร้าน”
กนกอรรีบดื่มน้ำแกงสร่างเมาชามนั้นจนหมด วางชามไว้ในมือนฤเบศวร์ แล้วหมุนตัวจากไป
“ผมจัดการให้คนไปช่วยแต่เช้าแล้ว ภายในร้านยุ่งยังไง ก็รับมือไหว”
นฤเบศวร์วางชามลง เดินตามเธอไป “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ ผมจะไปส่งคุณ”
เขาเล่นแง่ แม่ยายในอนาคตโมโห เขาต้องไปส่งเธอ เพื่อเผชิญหน้าเพลิงโทสะของคุณแม่ยายเป็นเพื่อนเธอ
กนกอรไม่ได้ตอบ
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายตัวมาก ปวดหัวสุดๆ
ถ้าไม่ใช่ว่ามารดาโทรมาเร่ง เธอยังอยากจะนอนหลับต่ออีก
นฤเบศวร์จัดบอดี้การ์ดไปช่วยจริงๆ ที่นั่งในร้านเต็มหมดจนไม่เหลือที่ว่าง แต่ก็ยังสามารถรับมือได้
ทั้งสองคนรีบร้อนออกจากโรงแรม
บอดี้การ์ดหลายนาย ในตอนนี้มีแค่ธามที่รอนฤเบศวร์อยู่นอกโรงแรม
“คุณชาย คุณนายน้อย”
ธามก้าวเข้ามาต้อนรับ
กนกอรมองข้ามคำเรียกขานของธาม แก้ไขไม่ได้ เธอก็ขี้เกียจจะไปแก้อีก
“ส่งคุณนายน้อยกลับร้านกาแฟ”
นฤเบศวร์สั่ง
เขาขึ้นรถไปกับกนกอร โดยมีธามเป็นคนขับ
หลังขึ้นรถแล้ว เขาก็โทรศัพท์หาธันวาและเลขาชายอีกสองคน เพื่อมอบหมายเรื่องเกี่ยวกับงานเล็กน้อย
ธันวาบอกเขาว่า “เจ้านาย วันนี้คุณพลอยไพลินคนนั้นมาหาคุณอีกแล้ว คุณพลอยไพลินมองดูแล้วมีท่าทางโมโหมากครับ”
นฤเบศวร์ขมวดคิ้ว “เธอไปจากเมืองแอคเซสซ์แล้วไม่ใช่หรอ”
พลอยไพลินไม่กล้าอยู่ที่เมืองแอคเซสซ์นานนัก เมื่อวานหลังจากไปหาเขาที่บริษัท ก็รีบนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับไปเมืองซูเพร่า
วันนี้ก็มาอีกแล้วหรอ
เพื่อโน้มน้าวให้เขาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการโจมตีคนอื่นของเธอ เธอขยันจริงๆ ถึงกับนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาหาเขาทุกวัน
สำหรับท่าทางโมโหมากของพลอยไพลิน นฤเบศวร์ไม่มีอารมณ์จะไปคาดเดาอารมณ์ของพลอยไพลินว่าดีหรือแย่
“บินมาอีกในเช้าวันนี้ครับ เธอเซ้าซี้หนักมาก ต้องการจะพบเจ้านายให้ได้ เลขารับมือไม่ไหว ผมจึงออกหน้าแทน ก่อนเธอจากไปก็ทิ้งคำพูดกดดันเอาไว้ว่า คุณเล่นแง่กับเธอ เธอจะทำให้คุณเสียใจในภายหลัง”
ฟังคำพูดที่ธันวากล่าวซ้ำ นฤเบศวร์ก็ยิ้มเย็น “กล่าวคำพูดกดดันในถิ่นของฉัน อวดดี ยโสโอหังจริงๆ คิดว่าที่นี่คือเมืองซูเพร่า?”
เดิมพลอยไพลินก็ถูกบิดามารดาตามใจจนเหลิง จึงมีนิสัยเย่อหยิ่งจองหอง หลังจากเป็นผู้ใหญ่ ก็ตามพัวพันคบไซม่อนไม่ยอมปล่อย จากนั้น เธอก็อาศัยว่ามีฐานะเป็นแฟนสาวของไซม่อนวางก้าม เดินกร่างไปทั่ว
คนที่คุ้นชินกับการแสดงความจองหอง แม้จะเปลี่ยนสถานที่ ก็เก็บงำสันดานนั้นเอาไว้ไม่อยู่
“ธันวา ช่วยจัดคนไปจับตาดูเธอ ขอเพียงแค่เธอมาที่เมืองแอคเซสซ์ ฉันต้องการจะรู้ร่องรอยของเธอตลอดเวลา”
สภาพแวดล้อมที่พลอยไพลินเติบโตมาทำให้เธอโหดเหี้ยมอำมหิต จึงจำเป็นต้องป้องกันสักหน่อย ตัวเขาเองนั้นไม่กลัว เขามีหน้ามีตา ออกจากบ้านมักจะพาบอดี้การ์ดติดตามมาด้วยเป็นโขยง
“ครับ”
ธันวารับคำ
หลังจากโทรศัพท์เสร็จ นฤเบศวร์ก็มองหญิงสาวข้างกาย
กนกอรขึ้นรถมาก็พิงเบาะหลับตาพักสมอง
รายละเอียดการสนทนาโทรศัพท์ของนฤเบศวร์กับธันวา เธอได้ยินแค่คำพูดของนฤเบศวร์ จึงเดาได้ว่าเขาอาจจะเจอกับเรื่องยุ่งยาก ตอนนี้เธอปวดหัวมาก จึงไม่มีอารมณ์จะถามเขา
“อร”
“มีอะไรก็พูดมาเลย”
“ผมจัดบอดี้การ์ดให้ปกป้องคุณข้างกายสองคนเป็นไง”
กนกอรลืมตา สบกับนัยน์ตาสีนิลของเขา
“คู่แค้นของคุณตามมาฆ่าคุณถึงที่? จะเดือดร้อนถึงฉัน?”
นฤเบศวร์รีบเอ่ย “ไม่ใช่ ผู้หญิงที่ชื่อพลอยไพลินคนนั้นบอกว่าผมเล่นแง่กับเธอ เป็นไปได้ว่าเธอจะสืบชัดเจนแล้วว่า ผมไม่มีทางร่วมมือจัดการ พัฒน์กับเธอ จึงโมโห ทิ้งคำพูดกดดันเอาไว้ว่า จะให้ผมเสียใจในภายหลัง ผมไม่ได้กลัวเธอ แต่ผมกลัวเธอจะระบายความโกรธกับคุณ”
“ฉันต่อสู้เป็น”
กนกอรเอ่ย
“อร ผมรู้ว่าคุณต่อสู้เป็น ผมขอพูดอย่างไม่กลัวคุณโมโหเลยว่า หมัดมวยปักบุปผาของคุณ รับมือกับคนบ้ากามทั่วไปได้ แต่จะให้รับมือกับคนโหดเหี้ยมอย่างพลอยไพลิน นั้นไม่มีประโยชน์แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องลงมือเอง ส่งลูกน้องคนไหนก็ได้ของตระกูลเลิศธนโยธามา คุณก็รับมือไม่ไหวแล้ว”
“ไม่ต้องพูดถึงลูกน้องของตระกูลเลิศธนโยธา กระทั่งบอดี้การ์ดของผม คุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ผมจะให้ธามกับคีทติดตามอยู่ข้างกายคุณ คุ้มครองคุณ ผมถึงจะวางใจได้เล็กน้อย อีกครู่หนึ่งผมต้องไปหายศพัฒน์ แม้ว่าผมจะไม่อยากร่วมมือกับเขา แต่พลอยไพลินมาระบายความโมโหกับผม เพราะสองสามีภรรยายศพัฒน์”
“จะให้ผมประมือกับพลอยไพลิน แล้วยศพัฒน์ยืนมองอยู่ข้างๆไม่ได้หรอกนะ ต้องดึงเขาเข้ามาด้วย ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นเพราะเทวิกา”
นฤเบศวร์ไม่มีทางยอมรับว่า ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเลิศธนโยธาเด็ดขาด
ตระกูลเลิศธนโยธาอยู่ไกลถึงเมืองซูเพร่า แรงคุกคามสะเทือนไม่ถึงเขา แต่ตระกูลเลิศธนโยธาสร้างเนื้อสร้างตัวจากวงการอิทธิพลมืด แม้ว่าจะล้างมือไปยี่สิบสามสิบปีแล้ว แต่ความโหดเหี้ยมนั่นยังคงอยู่ อีกอย่างตระกูลเลิศธนโยธาก็ยังมีอิทธิพลใต้ดิน นฤเบศวร์กลัวว่าตระกูลเลิศธนโยธาจะใช้วิธีการสกปรก
กนกอรไม่เหมือนเทวิกาที่มีตระกูลฝ่ายมารดากับบิดาที่แข็งแกร่งเป็นที่พึ่ง พลอยไพลินคิดจะจัดการกับเทวิกา แต่ไม่กล้าทำอย่างเปิดเผย และไม่กล้าลงมือในเมืองแอคเซสซ์
แต่จัดการกนกอร พลอยไพลินกล้าแน่นอน!
กนกอร “…”
“อร คุณวางใจได้ ธามกับคีทติดตามคุณ เพื่อคุ้มครองคุณ ไม่มีทางจับตาดูความเคลื่อนไหวของคุณเด็ดขาด รอพวกเพื่อนสนิทคุณชนะแล้ว จับหลักฐานความผิดของตระกูลเลิศธนโยธาได้ และกวาดเรียบไม่เหลือแล้ว ผมก็จะย้ายธามกับคีทกลับมา”
ตอนนั้นกนกอรก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว เขามีแต่จะจัดบอดี้การ์ดให้ติดตามกนกอรมากกว่าเดิม
ประโยคนี้ นฤเบศวร์ไม่ได้พูดออกมา
จะได้ไม่ทำให้กนกอรเกิดความรู้สึกต่อต้านในใจ
“นฤเบศวร์ อีกไม่กี่วันวิกาจะกลับเมืองซูเพร่า อันตรายมากมั้ย”
กนกอรนึกถึงความปลอดภัยของเพื่อนสนิท
“คุณยังรู้อะไรอีกบ้าง บอกฉันให้หมด ได้มั้ย”
วิกาไม่ยอมพูด ตอนที่เธอถาม วิกาก็มักจะเอ่ยยิ้มๆว่า เธอกลับไปสืบทอดกิจการหลายหมื่นล้านของครอบครัว เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวย