คุณสามีพันล้าน - บทที่ 439 แบตบอสหน้าเนื้อใจเสือ
แต่การที่นฤเบศวร์ไม่ได้ฉวยโอกาสในตอนที่เธอเดือดร้อนอยู่นั้น จุดนี้ทำให้กนกอรพอใจในตัวเขามาก
ไม่ได้มองนฤเบศวร์ด้วยสายตาที่มีอคติอีก และสามารถค้นพบจุดเด่นของนฤเบศวร์เยอะมาก
ตอนที่กนกอรอาบน้ำ นฤเบศวร์ก็โทรศัพท์หาบอดี้การ์ดธาม สั่งธามว่า “ธาม นายรีบไปที่ตระกูลภูสิทธ์อุดม ไม่ว่าจะเจอคุณแม่ยายหรือคุณปู่ชรัณ นายล้วนพูดเหมือนกันว่า ให้พวกเขาหยิบเสื้อผ้าของอรชุดหนึ่งให้นายเอามาส่ง”
“พวกเขาถามอะไรนาย นายก็บอกไปว่าไม่รู้ ปล่อยให้พวกเขาคิดจินตนาการกันเอง
คนตระกูลภูสิทธ์อุดมรู้ว่ากนกอรมางานเลี้ยงเข้าสังคมเป็นเพื่อนเขาเมื่อคืน คนตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่ได้ห้าม หรือห้ามแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่ายังไง เรื่องที่กนกอรลวนลามเขา และนอนกับเขาคืนหนึ่ง เขาก็ต้องให้คนตระกูลภูสิทธ์อุดมรู้
คนตระกูลภูสิทธ์อุดมซื่อตรง และอยู่ในกรอบประเพณีมาก หลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว จะต้องกลายเป็นเทพผู้ช่วยในการตามจีบภรรยาจองเขาแน่นอน เขาจะได้อุ้มสาวงามกลับไปเร็วๆ
อธิบายให้ลึกอีกขั้นหนึ่ง คนตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่ช่วยเขาเร่งกนกอรให้แต่งกับเขา เขาก็สามารถหน้าหนาไปหาถึงบ้าน เพื่อปรึกษาเรื่องรับผิดชอบกับผู้อาวุโสตระกูลภูสิทธ์อุดม
สรุปแล้ว เรื่องเมื่อคืน สำหรับนฤเบศวร์มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย
นฤเบศวร์ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนถ่อยอยู่บ้างในจุดนี้ เดิมเขาก็ไม่ใช่คนดีเท่าไร ไม่มีความกดดันในจิตใจ
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
ธามรับคำ รอนฤเบศวร์ตัดสายโทรศัพท์ไป เขาก็รีบไปตระกูลภูสิทธ์อุดมทันที
คุณปู่ชรัณไม่อยู่บ้าน
มีแค่ทักษอรที่ตากผ้าอยู่ในลานบ้าน
ธามกดกริ่งประตู ทักษอรเดินมาดู เห็นธาม ก็จำได้ จึงเปิดประตู พลางถาม “คุณคือบอดี้การ์ดของคุณเบศวร์สินะ มีธุระหรอ คุณเบศวร์ของพวกคุณล่ะ”
“สวัสดีครับคุณนายทักษอร ผมชื่อธาม เป็นบอดี้การ์ดของคุณเบศวร์ คุณชายของพวกเรายังอยู่ที่โรงแรมแอคเซสซ์ เมื่อวานดื่มเยอะไปในงานเลี้ยงเข้าสังคมครับ”
ธามไม่ได้เข้าไปในลานบ้าน ยืนพูดอยู่ที่ประตู เขาเอ่ยด้วยท่าทางเคารพนบนอบ “คุณนายทักษอร คุณชายของพวกเราให้ผมมาขอเสื้อผ้าของคุณกนกอรชุดหนึ่งจากคุณ แล้วให้ผมนำไปครับ”
รอยยิ้มบางๆของทักษอรแข็งค้างทันที
พวกเขาทั้งครอบครัวล้วนรู้เรื่องที่ลูกสาวไปงานเลี้ยงเข้าสังคมเป็นเพื่อนนฤเบศวร์เมื่อคืน
ไม่ใช่ว่าไม่โน้มน้าว แต่ลูกสาวตัดสินใจแล้ว พวกเขาพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
กนกอรไม่ได้กลับมาเมื่อคืน ทักษอรหลับไม่สบาย
คิดมากเกินไป
คิดว่าลูกสาวเป็นเด็กสาวที่รักษาความสะอาดบริสุทธิ์ ไม่กระทำความชั่ว ทักษอรคิดว่าลูกสาวไม่กลับมาเมื่อคืน ก็ไม่มีทางมีอะไรกับนฤเบศวร์
ตอนนี้ธามมาเอาเสื้อผ้าของกนกอร ทักษอรก็นิ่งไม่ไหวแล้ว
“อรอ้วกหรอ”
ทักษอรโอบกอดความโชคดีเอาไว้ แล้วหยั่งเชิงถาม
ธามเอ่ยอย่างขออภัย “คุณนายทักษอร ผมไม่ทราบเหตุการณ์จริงครับ คุณชายโทรศัพท์หาผม สั่งให้ผมมาเอาเสื้อผ้าของคุณกนกอร ผมก็มา เรื่องอื่นๆนั้นผมไม่รู้จริงๆ แต่ตอนนี้คุณชายอยู่กับคุณกนกอร เรื่องนี้ผมรู้ครับ”
ทักษอรสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง
รู้ว่าถามไม่ได้อะไร เธอก็ไม่รีรอ รีบกลับบ้าน ขึ้นไปช่วยหยิบเสื้อผ้าของลูกสาวที่ชั้นบน
ในไม่ช้า เธอก็ถือถุงใบหนึ่งออกมา แล้วยื่นถุงนั้นให้ธาม
ธามรับถุงมาแล้วเอ่ยว่า “คุณนายทักษอร อย่างนั้นผมรีบไปโรงแรมก่อนนะครับ”
“อืม”
ทักษอรรับคำ เธอมองส่งธามที่หิ้วถุงเสื้อผ้าของกนกอรเอาไว้จากไปอย่างรีบร้อน ครู่หนึ่ง เธอก็ถอนหายใจในที่สุด มือกลับขยับ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อสามีตัวเอง รอพ่อสามีรับโทรศัพท์ เธอก็เอ่ยว่า “ดิฉันไปช่วยอรดูร้าน อีกครู่หนึ่งคุณพ่อทำอะไรกินเองนะคะ หรือไปกินที่ร้านอาหารก็ได้”
“อืม เธอไปเถอะ”
คุณปู่ชรัณกำลังเล่นหมากรุกกับเพื่อนเก่า จึงไม่ถามอะไรมาก
หลังจากทักษอรวางสายโทรศัพท์ ก็รีบตากเสื้อผ้าที่ยังตากไม่เสร็จให้เรียบร้อย และเข็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนั้นของเธอออกมา สวมหมวกกันน็อค ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าออกจากบ้านไป
เธอจะไปรอลูกสาวที่ร้านกาแฟ ถามให้เข้าใจชัดเจน
กนกอรไม่รู้ว่านฤเบศวร์จะหน้าเนื้อใจเสือขนาดนี้
เธอนึกว่านฤเบศวร์ให้คนไปซื้อชุดใหม่มาให้เธอ
แช่น้ำในอ่างอาบน้ำอยู่นาน แช่จนน้ำเย็น เธอถึงได้ลุกขึ้น
สวมเสื้อผ้าของนฤเบศวร์ ตอนออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงนฤเบศวร์ปิดประตูห้องพอดี
“ใครมาหรอ”
รอนฤเบศวร์หิ้วถุงใบหนึ่งเข้ามา กนกอรก็ถามเขา
“ธาม”
นฤเบศวร์เดินเข้ามา แล้วพิจารณามองเธอขึ้นๆลงๆ อย่างไม่รีบร้อนส่งถุงให้เธอ “ถ้าคุณสูงกว่านี้อีกหน่อย กำยำกว่านี้อีกนิด ก็จะใส่เสื้อผ้าผมได้พอดี”
เธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเขาเป็นครั้งแรก
ครั้งนั้นที่ถูกเขาจับได้ที่คลับ รักนะ เขาคลุ้มคลั่ง เธอก็เคยใส่เสื้อผ้าของเขา
“นี่คุณรังเกียจที่ฉันเตี้ย? ฉันเป็นผู้หญิง ถ้าฉันกำยำขึ้นมาจริงๆ คุณตกใจตายแน่”
นฤเบศวร์หัวเราะฮาๆ “เป็นความผิดของผมเอง ผมพูดผิดเอง คุณไม่ได้เตี้ย เหมาะกับผมพอดี ผมยืนข้างคุณ คุณแอบอิงในอ้อมแขนผม ตัวเล็กๆน่ารักๆ เหมาะสมกันมาก ผมชอบ ผมพอใจมาก”
กนกอรยกเท้าถีบเขา
ไม่มีความสัตย์จริงหรือเรื่องดีๆจากปากคนเลว ยังคงพูดจากวนประสาทแบบนั้น
“อร นี่คือเสื้อผ้าของคุณ”
ถูกเธอถีบไปทีหนึ่ง นฤเบศวร์ก็ไม่โกรธ แต่กลับยิ้มอย่างเบิกบานใจยิ่งกว่าเดิม
เขาท่องในใจเงียบๆ : เตะคือจูบ ด่าคือรัก
กนกอรรับถุงมา เมื่อก้มหน้าดู ก็หน้าเปลี่ยนสี ยื่นมือไปหยิบเสื้อผ้าในถุงออกมา “นี่เป็นเสื้อผ้าของฉันจริงๆ”
“ใช่แล้ว นี่คือเสื้อผ้าของคุณ ผมเห็นคุณใส่นับครั้งไม่ถ้วน เป็นของคุณแน่นอน ไม่ใช่ของผม”
กนกอรถลึงตาใส่เขา ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “แบตบอส คุณรอก่อน!”
เธอหมุนตัวกลับไปในห้องอาบน้ำ
นฤเบศวร์ยังคงแกล้งทำท่าทางเป็นผู้บริสุทธิ์ เดินตามเธอมา พลางเดิน พลางถาม “อร เป็นอะไรไป ผมทำอะไรผิด? ทำไมจู่ๆคุณถึงโมโห นี่เป็นเสื้อผ้าคุณจริงๆนะ!”
แน่นอนว่าเสื้อผ้าเป็นของเธอ!
ไม่ต้องถาม ก็รู้ว่าเขาให้คนช่วยไปเอาเสื้อผ้าให้เธอที่บ้านเธอ
ดูท่าคุณแม่ของเธอจะมอบเสื้อผ้าของเธอให้กับคนของเขาเพื่อนำมาส่ง
เมื่อกนกอรคิดว่ากลับไปแล้วต้องเผชิญกับไม้ขนไก่หรือการบิดหูจากคุณแม่ ก็ปวดหัว
นฤเบศวร์ไม่ได้ให้คนซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอ คาดว่าคงพิจารณาถึงเรื่องที่เสื้อผ้าใหม่ต้องซักก่อนถึงจะใส่ได้ ดังนั้นจึงให้คนไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเธอ แต่การทำแบบนี้กลับทำให้คนในครอบครัวเธอคิดเหลวไหล
เป็นการเอาเธอไปเผาบนกองไฟจริงๆ
เธอไม่เชื่อว่าเขาจะไม่ได้พิจารณาถึงจุดนี้
เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจ
คนหน้าเนื้อใจเสือ เต็มไปด้วยแผนการชั่วร้าย เรียกเขาว่าแบตบอสก็ไม่เกินไปเลยสักนิด!
ตอนที่กนกอรเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาใหม่ ก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร
“อร นี่คือน้ำแกงสร่างเมา คุณดื่มก่อน แบบนี้จะได้รู้สึกดีขึ้นหน่อย”
น้ำแกงสร่างเมาชามหนึ่งที่มีควันอุ่นร้อนถูกยื่นมาตรงหน้าเธอที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
และเมื่อมองใบหน้าหล่อเหลาที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มของนฤเบศวร์
สิ่งที่เรียกกันว่าตัดใจทำร้ายคนที่ยอมรับผิดกับตัวเองไม่ลง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังยื่นน้ำแกงสร่างเมาให้เธอชามหนึ่ง เอาใจใส่ขนาดนั้น แล้วเธอจะจัดการฆ่าเขาทิ้งได้ยังไง!
ได้ยินเขาเอ่ยวาจาอ่อนโยน “อร ผมรู้ว่าตอนนี้คุณโมโหมาก แต่ดื่มน้ำแกงก่อนค่อยโมโห จะได้ไม่ทำให้ปวดหัวหนักกว่าเดิม”