คุณสามีพันล้าน - บทที่ 370 ในงานเลี้ยง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 370 ในงานเลี้ยง
เทวิกาเผยสีหน้าสุขุม ท่าทางผ่าเผย ปล่อยให้ท่านจอมมองสำรวจเธอ
ท่านจอมลอบพยักหน้า แม้เทวิกาจะเติบโตมาในครอบครัวสามัญชน แต่เธอมีออร่าความสูงศักดิ์มาแต่เกิด ไม่ว่าจะด้านไหนก็ไร้ที่ติจริงๆ ถือว่าเหมาะสมกับคุณพัฒน์
นี่เองก็เป็นผู้หญิงที่มีวาสนา
แม้ตอนอายุครึ่งขวบจะประสบเคราะห์ร้าย แต่ท้ายที่สุดเคราะห์ร้ายก็กลายเป็นความโชคดี ก่อนหน้าที่ยังตามหาพ่อแม่แท้ๆไม่เจอ แม้จะเป็นหญิงสามัญชนก็สามารถมัดใจคุณพัฒน์ได้ ได้ยินมาว่าคุณพัฒน์เองก็รอเธอเติบโต รอแต่งงานกับเธอมานานถึงสิบปี
ท่านจอมเองก็นับถือคนตระกูลอริยชัยกุล ตอนที่เทวิกายังเป็นหญิงสามัญชน ก็สามารถยอมรับเทวิกาเป็นคุณนายน้อยของตระกูลอริยชัยกุลได้ ให้อิสระในการเลือกคู่ครองกับลูกหลานแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะมีในตระกูลเศรษฐีทั่วไปหรอกนะ
อย่าว่าแต่ตระกูลเศรษฐีเลย แม้แต่ครอบครัวธรรมดาที่ฝ่ายหนึ่งฐานะดีหน่อย แล้วอีกฝ่ายฐานะด้อยกว่า พ่อแม่ของฝ่ายที่ฐานะดีกว่าก็ไม่มีทางยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกันได้
ถึงว่าทำไมตระกูลอริยชัยกุลถึงสามารถยืนหยัดในเมืองแอคเซสซ์ได้ ซ้ำยังยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งอยู่ยิ่งรุ่งเรือง ลูกหลานก็ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ อีกทั้งยังโดดเด่นกันทุกคน พวกเขาคงไม่รับรู้ว่ามีคนอิจฉาปู่ภูธิปมากขนาดไหน
“ได้ยินชื่อเสียงของคุณนายบุญเยี่ยมมานานแล้ว คืนนี้ได้พบเจอก็สมกับที่เล่าลือกันจริงๆ”
ท่านจอมสำรวจเทวิกาเสร็จก็ยื่นมือขวาไปจับมือกับเทวิกายิ้มๆ
เทวิกาจับมือกับเขาตามมารยาท และทักทายคนอื่นๆของตระกูลกรภัควัฒน์
“คุณพัฒน์ คุณนายบุญเยี่ยม เชิญเข้าข้างในครับ”
ท่านจอมเชิญสองสามีภรรยาเข้าไปข้างใน
คุณนายน้อยของตระกูลกรภัควัฒน์คือนายหญิงตระกูลคนต่อไป เธออยู่เป็นเพื่อนเทวิกา ทั้งคู่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แต่ด้วยฐานะของเทวิกา คุณนายน้อยตระกูลกรภัควัฒน์ก็ควงแขนเทวิกาอย่างเป็นมิตรและเป็นกันเอง พาเธอเข้าไปในข้างในไปพลางหาเรื่องคุยไปพลาง
“พี่”
หลังจากที่เห็นชเนนทร์ เทวิกาก็หยุดฝีเท้าและยิ้มทักทายพี่ชาย
คุณนายน้อยตระกูลกรภัควัฒน์ปล่อยมือที่ควงแขนเทวิกาออกอย่างรู้กาลเทศะ
ชเนนทร์เดินมา เขาทักทายท่านจอมก่อน แล้วค่อยทักทายคนอื่นๆต่อ สุดท้ายก็จึงจะยิ้มตอบน้องสาว
ดังนั้น ชเนนทร์เองก็ถูกพาเข้าไปข้างในด้วยเช่นกัน
ประธานรุ่นอาวุโสและภรรยาของพวกเขาที่มาถึงกันก่อน เมื่อเห็นคู่สามีภรรยายศพัฒน์เข้ามา ถ้าไม่เดินไปทักทาย ก็ยกแก้วขึ้นแสดงความเคาพ
ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก สองสามีภรรยายศพัฒน์ก็ล้วนพยักหน้ายิ้มตอบ
งานเลี้ยงที่ตระกูลกรภัควัฒน์จัดขึ้น เดิมทีก็เป็นงานเลี้ยงธุรกิจอยู่แล้ว ทุกคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงล้วนมาด้วยจุดประสงค์ที่จะพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ สานสัมพันธ์กับนักธุรกิจที่ช่วยเหลือตัวเองได้
ยศพัฒน์คือประธานบริษัทที่อายุน้อยที่สุดในเมืองนี้ ซ้ำยังเป็นผู้นำของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด เพียงแค่เขาปรากฏตัว ก็ย่อมเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในงาน รอบตัวก็ล้อมไปด้วยคนมากมายที่เข้ามาพูดคุยด้วย
ส่วนเทวิกาก็มาด้วยความคิดที่จะมาเรียนรู้ จึงอยู่ข้างยศพัฒน์ตลอดเวลา
หลังจากที่ชเนนทร์เข้ามาก็แยกจากสองสามีภรรยา
เขาขอไวน์สองแก้วแล้วออกจากคฤหาสต์ที่หรูหรา ยังไงซะ บรรดาแขกเหรื่อในคืนนี้ เขาก็คือคนที่มีสถานะต่ำสุด เพราะเห็นแก่น้องสาวและน้องเขย ก็เลยไม่มีใครกล้าเมินเขา ทว่าเขาอยากไปไหน ก็ไม่มีใครสนใจจริงๆ
ชเนนทร์รอกิติยาอยู่ข้างนอก
เอ็มอาร์ กรุ๊ปไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่แข็งแกร่งกว่าบริษัทของชเนนทร์มากๆ กิติยาย่อมงานยุ่งกว่าเขา สองวันมานี้ ชเนนทร์ก็ไม่ได้เจอเธอเลย
เมื่อรักใครสักคน หากไม่ได้เห็นคนคนนั้นแค่วันเดียว ก็ราวกับจากกันสามปี
จู่ ๆ ชเนนทร์ก็นึกถึงน้องเขยที่รอน้องสาวเขามานานถึงสิบเอ็ดปี ซ้ำยังต้องกำจัดศัตรูหัวใจมากมายลับหลัง ความอดทนและความรักใคร่นี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้จริงๆ
ยศพัฒน์: ซาบซึ้งใจสุดๆ ในที่สุดพี่ชายภรรยาก็เข้าใจเขาแล้วสักที
“พี่คะ”
ชเนนทร์กำลังจ้องมองประตู จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหู เขาหันไปมองก็พบกับเทวิกาที่เดินถือแก้วไวน์ออกมาเหมือนกัน
เขายิ้มเอ่ยว่า “ทำไมเธอถึงออกมาด้วยล่ะ? ไม่อยู่เป็นเพื่อนพัฒน์ ก็สามารถเรียนรู้จากเขาได้ เรื่องออกงาน เธอเรียนรู้จากเขาก็ไม่มีผิดแน่นอน”
เทวิกายิ้ม “หนูก็อยู่เป็นเพื่อนเขามานานแล้ว ก็อยากออกมาสูดอากาศหายใจน่ะ”
อันที่จริงเธอไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้ แต่เพื่อกลับไปช่วยพี่ชายที่เมืองซูเพร่า ต่อให้เธอไม่ชอบแค่ไหนก็ต้องทน อีกทั้งตอนนี้เธอเองก็ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว เธอคือคุณนายน้อยอริยชัยกุล เป็นพี่สะใภ้คนโต อนาคตก็คือนายหญิงตระกูล งานเลี้ยงแบบนี้เป็นสิ่งที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชเนนทร์รู้ว่าน้องสาวไม่ชอบงานแบบนี้ เขาเอ่ยเสียงเบาว่า “ค่อยๆชินก็จะดีขึ้นเอง”
เทวิกาพยักหน้า จากนั้นก็จงใจแซวพี่ชายว่า “พี่มาจ้องประตูบ้านคนอื่นทำไมกัน? พี่รอคนอยู่เหรอ?”
“ไม่นี่ พี่ก็แค่ดูไปเรื่อย”
ชเนนทร์ไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังรอกิติยา
งานเลี้ยงก็เริ่มแล้ว กิติยาก็ยังไม่มา
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า
ขเนนทร์กังวลใจเล็กน้อย คิดว่ารอต่ออีกสักหน่อย หากกิติยายังไม่มา งั้นเขาก็จะโทรไปถาม
กิติยาเป็นคนที่ตรงต่อเวลามากๆ สิ่งที่ทำให้เธอสายได้ ก็คงไม่พ้นน้องสาวสุดที่รักของเธอ
ชเนนทร์รักกิติยา กิติยาเองก็ปฏิบัติกับเขาไม่ค่อยเหมือนคนอื่น แต่เขาเองก็ไม่เคยเจอกัญณิศามาก่อน กิติยาปกป้องน้องสาวไว้ดีเกินไป
เทวิกาหมุนไวน์ในแก้ว มองดูไวน์ในแก้ววาดเส้นโค้งที่สวยงามออกมา เธอยิ้มเอ่ยว่า “พี่ พี่กำลังรอว่าที่พี่สะใภ้ของหนูอยู่สินะ ครั้งก่อนพี่เคยพูดถึง หนูก็รู้แล้วว่าเธอคือใคร”
ชเนนทร์ “……วิกา เสียงเบาหน่อย อย่าให้ใครได้ยินเด็ดขาด ฉันกับเธอยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย อย่าทำเธอเสื่อมเสียชื่อเสียง”
เขาพูดเสียงเบาต่อว่า “เธอก็ใช่ว่าจะต้องใจพี่”
เขากับกิติยาก็ยังคงถือว่าแตกต่างกันมาก
เพื่อจะไล่ตามกิติยาให้ทัน ตอนนี้ชเนนทร์ก็พยายามมากๆ เจรจาธุรกิจไปทั่ว พยายามทำให้บริษัทตัวเองแข็งแกร่งขึ้นในเร็ววัน เพื่อที่เขาจะสามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับกิติยาได้
เทวิกาไม่ชอบที่พี่ชายพูดแบบนี้ เธอเอ่ยว่า “พี่หนูยอดเยี่ยมขนาดนี้ เป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก ว่าที่พี่สะใภ้ของหนูจะไม่ชอบได้ยังไงกัน? ใครแต่งงานกับพี่ก็ต้องมีความสุขแน่ ๆ”
ชเนนทร์ยื่นมือไปแตะหน้าผากของน้องสาวเบาๆ ยิ้มเอ่ยว่า “ในสายตาเธอ พี่คือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลก แต่ในสายตาของเธอคนนั้น พี่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก”
“ไม่ว่าจะยังไง พี่ก็ต้องมั่นใจหน่อย สู้ๆ!”
“อืม พี่ไม่ยอมแพ้หรอก พี่ก็จะอายุสามสิบแล้ว กว่าจะรักใครสักคนได้ก็ไม่ง่าย จะพยายามแน่นอน จริงสิ พ่อแม่กับปู่ย่าได้บอกไหมว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่?”
บ้านที่เขาพูดถึงคือบ้านตระกูลวาชัยยุง
เทวิกาย่อมหวังว่าครอบครัวจะอยู่ในเมืองต่ออีกสักระยะหนึ่ง แต่ดูจากท่าทางของคนในครอบครัว เดาว่าคงกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับในสองวันนี้แล้ว
เธอเอ่ยว่า “ฟังจากคำพูดของแม่ก็น่าจะกลับในสองวันนี้ แม่บอกว่าพวกเขาออกมาเที่ยวกันนานขนาดนี้ ก็ควรจะกลับไปดูที่บ้านหน่อยแล้ว จะขอให้พวกลุงกับอาช่วยดูแลตลอดก็ไม่ได้ บ้านเราปลูกพืชเกษตรเยอะขนาดนั้น ซ้ำยังเลี้ยงสัตว์เยอะแยะอีกต่างหาก”
ตอนที่พ่อแม่เข้ามาเที่ยวในเมือง ก็ขอให้พวกลุงกับอาช่วยดูแลบ้าน