คุณสามีพันล้าน - บทที่ 257 พี่น้อง
นฤเบศวร์ไม่อยากกลับไปเร็วขนาดนี้ แต่เขาไม่กลับไม่ได้
เขาขยิบตาให้กนกอร แต่กนกอรกลับเอาแต่นิ่งเงียบ
“คุณป้าครับ ขอพวกนี้คุณป้ารับเอาไว้เถอะครับ ไม่อย่างงั้นผมคงจะรู้สึกเหมือนติดหนี้บุญคุณคุณกนกอร แล้วก็คงอยากหาโอกาสตอบแทนเธอตลอด”
ทันทีที่ทักษอรได้ยินแบบนั้นเธอก็คิดว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด
ถ้านฤเบศวร์มาหาลูกสาวของเธอบ่อย ๆ คงจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเอา
“อร ออกไปส่งคุณเบศวร์”
ทักษอรไม่ได้บออกให้เอาข้างของพวกนั้นกลับไป
ฉะนั้นนฤเบศวร์ก็รู้สึกโล่งใจ
หลังจากถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเดิม
ทักษอรยอมรับของขวัญเพราะไม่อยากให้เขามาหากนกอรอีก!
ทั้ง ๆ ที่เขาทั้งหน้าตาดี ทั้งยังหนุ่มยังแน่น แถมร่ำรวย ตามหลักการแล้วเขาควรดูเป็นตัวเลือกที่ดีในสายตาของแม่ยายสิ แต่นี่แม่ยายกลับไม่อยากให้เขาคบหากับกนกอร!
“ฉันไปส่งเอง”
หลังจากคุณปู่ชรัณสูบมอระกู่ไปพักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ วางมอระกู่ลง ยืนขึ้นบอกนฤเบศวร์ว่า “คุณเบศวร์ เชิญ!”
“คุณปู่ชรัณ คุณปู่เชิญนั่งเถอะครับ ผะ ผมกลับไปเอง ไม่ต้องไปส่งครับ”
นฤเบศวร์คงถูกคุณปู่ด่ามาฉาดใหญ่ เลยกลัวจะโดนไล่ตีอีกรอบ เขาจึงรีบเชิญคุณปู่นั่งลง ส่วนเขาลุกขึ้นยยืนแล้วรีบพาบอดี้การ์ดของเขาออกจากบ้านตระกูลภูสิทธ์อุดมทันที
หลังจากแต่งงาน ครั้งแรกที่มาเยี่ยมที่บ้านเพื่อแสดงตัวกลับยิ่งรู้สึกเหงาใจยิ่งกว่าเดิม
…
บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
เมื่อยศพัฒน์เดินเข้าไปในบริษัทก็พบว่าทุกคนกำลังมองเขาอย่างตกอกตกใจ
ยศพัฒน์ …
เขาหยุดเดินแล้วหันไปถามพนักงานต้อนรับสองคนว่า “พวกคุณมองผมแบบนั้นมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
พนักงานต้อนรับสองคนไม่กล้าพูดว่าเขาอาจจะกำลังถูกสวมเขาเลยได้ยิ้มตอบไปว่า “ท่านประธาน วันนี้คุณหล่อมากเลยค่ะ!”
ยศพัฒน์เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และพูดอย่างหลงตัวเองว่า “มีวันไหนที่ฉันไม่หล่อบ้าง?”
พนักงานต้อนรับทั้งสองยิ้มแย้ม “ใช่ค่ะ ท่านประธานหล่อขึ้นทุกวันเลย”
ยศพัฒน์ปล่อยทั้งสองคนไป แล้วเดินเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไร
เมื่อเขานั่งลิฟต์ไปถึงชั้นบนสุด ทันทีที่เขาก้าวออกจากลิฟต์เขาก็เห็นเหล่าน้องชายของเขา แม้กระทั่งเจ้าสิบที่กำลังจะเปิดเรียนก็อยู่ด้วยเหมือนกัน พวกเขายืนเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบ สวมชุดสูทราวกับกำลังเข้าประกวดหนุ่มหล่อ
ยศพัฒน์เกือบคิดว่ามาผิดที่
เขาหันตัวกะว่าจะเดินกลับ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือบริษัทของเขาจริง ๆ เขาก็ชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมาอีกครั้ง และมองไปทางเหล่าน้องชายทั้งเก้าคน
“พี่ใหญ่”
คุณชายน้อยทั้งเก้าคนขานเรียกเขาอย่างพร้อมเพียงกัน
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ พวกนายทุกคนกำลังตกทุกข์ได้ยากอยากจะให้พี่ช่วยสะสางเรื่องยุ่งเหยิงให้หรือไง”
“พี่ใหญ่ พวกเราแค่อยากมาเจอพี่ก็เท่านั้น”
กษิดิเป็นลูกคนที่สองเป็นคนตอบคำถามของเขา
“จะมาหัวเราะเยาะพี่หรือไง”
“พี่ใหญ่พี่รู้เรื่องคลิปวิดีโอแล้วเหรอครับ”
กษิดิฉีกยิ้ม
ยศพัฒน์พูดอย่างโกรธจัด “พวกนายทุกคนรู้กันหมดแล้ว มีเหรอพี่จะไม่รู้”
เขารู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
วิกาบอกว่าอยากเห็นฉากฉีกหน้าคนเลยขอว่าอย่างเพิ่งทำอะไรตอนนี้
เขาจึงต้องรอดูฉากสนุก ๆ ด้วยกันกับทุกคน
“ผมว่าแล้ว คนนอกไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้กับประยสย์ แต่คนในตระกูลของเรารู้ดี คลิปวิดีโอพวกนั้นมีแต่เอาไว้หลอกคนภายนอกเท่านั้นแหละ”
เซทท์รู้สึกผ่อนคลายและโล่งใจ
“ผมนึกว่าจะได้ใช้อะไรผมซะอีก ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่จำเป็นต้องใช้ผมแล้ว งั้นผมกลับไปนอนต่อดีกว่าเมื่อคืนเล่นเกมส์จนถึง…”
เจ้าสิบเควินยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกสายตาของพี่ชายทั้งเก้าตวัดมองแรง จดจ้องมาที่เขา จนทำเอาเขาหัวใจกระตุกสั่น
แย่แล้ว!
พูดหลุดปากจนได้!
“เจ้าแปด หิ้วเขากลับไป แล้วพวกนายทุกคนจัดการเอาข้อสอบมัธยมไปให้เขาฝึกทำสักสองสามลัง จะได้ไม่ต้องว่างจนเล่นแต่เกมส์แบบนี้”
ยศพัฒน์สั่งออกคำสั่ง
คุณชายแปดกับเควินเป็นลูกแม่เดียวกัน ให้เขาเป็นคนสั่งสอนเควินคงจะเหมาะสมกว่า
เควินรีบร้องขึ้น “พี่ใหญ่ ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วนะ แถมกำลังจะเปิดเทอมเร็ว ๆนี้แล้วด้วย ไม่เห็นจำเป็นค้องอ่านข้อสอบมัธยมเลย”
ช่วงสามปีตลอดเข้าเรียนมัธยมปลาย พี่ชายทั้งเก้าคนของเขาชอบให้ข้อสอบเป็นของขวัญแก่เขาตลอด ภายใต้แรงกดดันสูง ทำให้ผลการสอบเข้าวิทยาลัยของเขาเป็นที่น่าพอใจมาก และไม่ทำให้พี่น้องของเขาต้องขายหน้า
ไม่ง่ายเลยกว่าจะผ่านช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยและได้พักผ่อนในวันหยุดแบบนี้บ้าง เขาไม่อยากกลับไปทำข้อสอบอีกแล้ว การทำข้อสอบคือฝันร้ายสำหรับเขา
แอบบอกความลับด้วยว่าตั้งแต่สอบเสร็จ เขาก็เอาแต่ฉีกหน้าหนังสือ หน้าข้อสอบมาพับเครื่องบิน พับนกกระเรียบ ดวงดาวนำโชค ซึ่งเขาซ่อนมันเอาไว้อย่างดีทำให้พวกพี่ชายจับเขาไม่ได้
“ในเมื่อข้อสอบมัธยมปลายเป็นฝันร้ายของนาย งั้นก็ทำข้อสอบมัธยมปลายนี่แหละ”
คำพูดของยศพัฒน์ไม่มีใครสามารถขัดได้
เควินแทบจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
พี่ใหญ่เป็นแบบนี้ตลอด ยิ่งเขากลัวอะไรพี่ใหญ่ก็จะเอาสิ่งที่เขากลัวมาทรมานเขาจนทุกข์ทรมานเจียนตาย
“กลับไปทำงานได้แล้ว”
ยศพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรื่องข่าวของพี่ชาย ไม่ได้มีให้พูดถึงง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก”
ทันทีที่พูดจบพวกคุณชายทั้งหลายก้รีบวิ่งหนีหายเร็วยิ่งกว่ากระต่าย
“กษิดิ”
คนที่วิ่งเร็วที่สุดอย่างกษิดิ กลับถูกพี่ชายเรียกชื่อเอาไว้เสียก่อน
ขาของกษิดิข้างหนึ่งที่ก้าวเข้าไปในลิฟต์ต้องถอยกลับมายืนตรงกับขาอีกข้างอย่างไม่มีทางเลือก เมื่อหันกลับไปเผชิญหน้ากับพี่ชาย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับกระต่ายตื่นตูม เหลือบมองพี่ชายอย่างระแวดระวัง
“ได้ยินว่าช่วงนี้นายไม่กลับบ้านหรอ”
กษิดิรีบตอบ “พี่ใหญ่ ทุกวันผมทำงานเลิกดึก ไม่อยากกลับไปรบกวนคนที่บ้านก็เลยไปนอนที่โรงแรมของเรา ถ้าไม่เชื่อที่ผมพูดถามเซทท์ดูก็ได้”
“ไม่ยอมกลับบ้านไม่ก็ไปเที่ยวกลางคืน คืนนี้รีบกลับบ้านนะ”
ยศพัฒน์พูดจบก็โบกมือให้เขา “ไม่มีอะไรแล้ว นายรีบไปทำงานเถอะ”
กษิดิ เข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิด เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหามิลินท์ทันที
เมื่อมิลินท์รับโทรศัพท์ เขาก็กัดฟันแล้วถามว่า “ยัยทอม นี่เธอฟ้องเรื่องฉันเหรอ”
มิลินท์กดวางสายโทรศัพท์ของเขาในทันที
“เฮ้ย เธอกล้าวางสายโทรศัพท์ฉันเหรอ อยากต่อยกับฉันใช่ไหม”
กษิดิก่นด่าออกมาอย่างโกรธเคือง
เสียงของเจ้าสี่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “พี่รอง พี่สู้ลินท์ไม่ได้หรอก”
กษิดิหันกลับมามองอย่างกะทันหัน ด้วยสีห้าตกใจราวกับเห็นผี “ณภัทร ทำไมแกมาอยู่ตรงนี้ได้”
“ผมเดินเข้าลิฟต์มาพร้อมกับพี่ไง”
กษิดิ “ทำไมฉันมองไม่เห็นนายล่ะ”
ณภัทรยิ้ม “พี่รอง ผมเรียนวิชาล่องหนมา ดังนั้นผมที่ตัวใหญ่ขนาดนี้เดินตามพี่มาตลอดทางแต่พี่ก็ยังมองไม่เห็นผม”
“…”
“เพราะทันทีที่พี่ใหญ่บอกว่าพี่รองไม่ยอมกลับบ้าน จิตใจของพี่รองก็ล่องลอยไปหาลินท์แล้วไง”
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พี่รองไม่เห็นเขา
กษิดิ “…เจ้าสี่ แกจำไว้เลยนะไม่ใช่ว่าฉันสู้ยัยทอมนั่นไม่ได้ แต่เป็นเพราะฉันยอมอ่อนข้อให้เธอต่างหาก เข้าใจไหม? เธอเป็นผู้หญิง ฉันเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่ดีไม่ต่อยตีผู้หญิง ฉันยอมอ่อนข้อให้ ยอมอ่อนข้อให้ทุกครั้งนั่นแหละ”
“พี่รอง ผมคิดว่าลินท์มีความเป็นผู้หญิงมากนะ ไม่เห็นเหมือนผู้ชายเลยสักนิด”
“ต่อยตีฉันอย่างโหดร้ายขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ทอมแล้วจะเป็นอะไร”
“พี่รองนี่ใจกว้างจริง ๆ เลยนะครับ ทั้ง ๆ ที่ถูกลินท์ทุบตีขนาดนั้นก้ยังยอมอ่อนข้อให้เธออีก ถ้าเป็นผมคงไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น ถ้าลินท์จะต่อยตีกับผม ผมคงจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะเธอให้ได้”
กษิดิ “…”
ไอ้น้องชายคนนี้น่ารำคาญจริง ๆ ถีบให้กระเด็นไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิกเลยได้ไหม