คุณสามีพันล้าน - บทที่ 035 ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่035 ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา
ทางด้านฝั่งของเปรมา พอรู้ว่ายศพัฒน์แต่งงานแล้ว ก็ช็อกไปอย่างรุนแรง
ส่วนทางด้านฝั่งของเทวิกา ยศพัฒน์ก็มาส่งเธอกลับมาถึงห้องเช่า
พอกลับมาถึงห้อง เทวิกาก็เริ่มค้นนั่นค้นนี่ทันที
“วิกา เธอหาอะไรน่ะ?”
ยศพัฒน์ถามด้วยความเป็นห่วง “บอกมาสิเดี๋ยวฉันช่วยหา”
“สัญญาไง พี่พัฒน์ สัญญาของพี่ล่ะ? รีบออกมาเร็ว พวกเรามาฉีกสัญญาทิ้งกันตรงนี้เถอะ ถือว่าเป็นโมฆะไป”
เทวิกาเจอสัญญาในลิ้นชักโต๊ะคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เธอทำเหมือนกับเจอขุมทรัพย์ รีบหยิบออกมา แล้วก็หันกลับมาหายศพัฒน์และถามถึงสัญญาของเขา
“พี่พัฒน์ ตอนนี้วิกฤตของฉันถูกยกเลิกชั่วคราวแล้ว ขอบคุณพี่มากที่ช่วยฉันไว้ ถึงแม้ว่าฉันจะเช่าที่มาเป็นแฟนได้ไม่กี่วัน แต่ว่าฉันจะจ่ายค่าเช่าให้พี่ 1 เดือน”
เธอพูดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และโอนเงินไปให้ยศพัฒน์สองหมื่นห้าทันที
โชคดีที่เงินที่เธอซื้อเสื้อผ้า ซื้อเตียง และซื้อเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันให้ยศพัฒน์นั้นเป็นเงินที่ยืมมาจากพี่ชาย ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงไม่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าหรอก
“พี่พัฒน์ ข้อตกลงของเราถูกยกเลิกก่อนกำหนด ขอบคุณมากนะที่พี่ช่วยฉันมาหลายวันเลย”
ยศพัฒน์จ้องมองไปที่เธอ และยื่นมือไปหยิบสัญญาของเธอมา ก้มหน้ามองแล้วก็ฉีกสัญญานั้นทิ้ง
“อืม ถือว่าเป็นโมฆะ”
คำพูดของเขา เทวิกาฟังแล้วกลับรู้สึกใจไม่ดี รู้สึกว่าคำว่า “เป็นโมฆะ” ของเขากับเธอมันไม่เหมือนกัน
“วิกา พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องมีสัญญาอะไร ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สัญญานี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”
เทวิกา: “……”
ซวยแล้ว!
พี่พัฒน์คิดจะมาไม้นี้เหรอ?
ไม่ยอมยกเลิกสัญญา!
“พี่พัฒน์ พวกเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันจะเช่าที่มาให้ปลอมตัวเป็นแฟนของฉัน เพื่อไปหลอกแม่ของฉัน ให้เลิกบังคับฉันไปนัดบอดสักที แล้วทำไมพี่ถึง……ไม่ทำตามที่พูดล่ะ”
เปลี่ยนเร็วเกินไปหรือเปล่า
คนคนนี้ยังเป็นพี่พัฒน์ คนที่อ่อนโยนเหมือนหยกที่เธอรู้จักอยู่หรือเปล่า?
“ตอนนี้พวกเราเป็นอะไรกัน?”
เทวิกาอ้าปากค้าง หลังจากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า “เป็นสามีภรรยากัน”
เพราะเขาจัดการพิธีการสมรสกันอย่างเป็นทางการ และจดทะเบียนสมรสตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นทะเบียนสมรสนั้นคือเรื่องจริง ก็แสดงว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน
ต่อให้พวกเขาจะเซ็นสัญญากัน แต่ก็ไม่สามารถลบการเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้
ยศพัฒน์หยิบทะเบียนสมรสออกมา
เทวิกาอึ้งไปเลย เขาเก็บทะเบียนสมรสไว้กับตัวด้วยเหรอ
และทะเบียนสมรสทั้ง 2 ฉบับอยู่ในมือของเขา
และสัญญาในมือของเธอก็ถูกเขาฉีกทิ้งไปแล้ว เธอไม่อยากจะยอมรับเลยว่าตัวเองไม่มีหลักฐานอะไรไปหักล้างเขาได้เลย
เทวิกาเพิ่งมารู้ตัวว่าตัวเองถูกยศพัฒน์กินจนเรียบ
ภายนอกเขาดูอบอุ่นเหมือนกับหยก แต่ความจริงแล้วเขาเป็นแค่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งเท่านั้น
กนกอรยังบอกเลยว่าเธอกล้าเกินไป ที่ไปหาคนมาแต่งงานด้วยมั่วๆ ซั่วๆ
ตอนนั้นเธอยังเถียงกนกอรกลับไปเลย ว่าพี่พัฒน์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย แต่เป็นคนที่เธอรู้จักมา 11 ปีต่างหาก
โอ๊ย โดนตบหน้ามันเจ็บแบบนี้นี่เอง!
“เมีย ทะเบียนสมรสอยู่ตรงนี้ พวกเราคือคู่สามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีการปลอมตัวอะไรทั้งนั้นแหละ”
ยศพัฒน์รีบเก็บทะเบียนสมรสทั้ง 2 ฉบับไปอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ดึงเธอที่กำลังตกตะลึงอยู่มากอดไว้ในอ้อมแขน
เทวิกาตัวแข็งทื่อทันทีกับการกระทำของเขา แล้วก็เตรียมจะผลักเขาออก
แต่ว่ายศพัฒน์รัดแขนแน่น จนเธอถูกเขากอดแน่นไม่สามารถผลักออกได้ เธอพยายามเงยหน้าขึ้นมามองเขา และเขาก็ก้มหน้าลงมาพอดี ทั้งสองคนก็สบตากัน
เขาในตอนนี้ สายตาร้อนแรงเหมือนกับไฟ ที่ทำให้หัวใจของเธอตื่นตระหนก
“พี่พัฒน์……การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตนะ……เอิ่ม ฉันจะบอกว่า พวกเราไม่ได้รักกันเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว การแต่งงานแบบนี้มันอยู่ได้ไม่นานหรอก เพราะฉะนั้น ตอนนี้ในเมื่อฉันจ่ายค่าเช่าไปแล้ว พวกเราก็ทำตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้เถอะ หยุดความร่วมมือไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพรุ่งนี้ ใช่ พรุ่งนี้พวกเราก็ไปทำเรื่องหย่ากัน”
ยศพัฒน์มองเธออย่างเร่าร้อน นัยน์ตาของเขาเหมือนกับแมงมุมที่กำลังทอใย สร้างตาข่ายเพื่อดักจับเทวิกา
“วิกา พวกเรามีเวลาทั้งชีวิตเพื่อที่จะสร้างความรัก และพัฒนาความสัมพันธ์กัน”
เทวิกา: “……แต่ แต่ว่า……พี่พัฒน์ พี่ปล่อยฉันก่อนเถอะ พวกเรานั่งคุยกันดีๆ โอเคไหม?”
ยศพัฒน์ไม่อยากจะปล่อยมือเลย
แต่ว่าสุดท้ายเขาก็ปล่อย
กับเธอแล้ว เขาต้องทำตัวสบายๆ และไม่กดดันจนเกินไป เพื่อไม่ให้เธอกลัวเขา
และแล้วสามีภรรยาคู่นี้ก็นั่งลงบนโต๊ะ ทั้งสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน
เทวิกาอยากจะดื่มน้ำ
“เดี๋ยวฉันไปรินมาให้ เธอนั่งอยู่ตรงนี้แหละ”
ยศพัฒน์กดเธอไว้ ไม่ให้เธอลุกขึ้น และเขาก็ไปเทน้ำมาให้เธอ
“ขอบคุณ”
เทวิกาดื่มน้ำไปครึ่งแก้วทีเดียว แล้วก็วางแก้วลง มองไปที่ยศพัฒน์ หลังจากนั้นหัวใจที่สับสนก็สงบลงได้บ้าง เธอพูดอย่างใจเย็นว่า “พี่พัฒน์ ตอนแรกฉันไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพี่ รู้แค่ว่าพี่เป็นเพื่อนที่มหาลัยของพี่ชายฉัน พวกเรารู้จักกันมา 11 ปี ถึงแล้วอยากให้พี่ช่วย”
“แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของพี่แล้ว ก็เลยคิดว่าเราควรจะรีบไปดำเนินพิธีการหย่าให้เร็วที่สุดน่าจะดีกว่า พี่พัฒน์ พี่เองก็มีคู่รักจากวัยเด็กของพี่ คุณเปรมาก็กลับมาแล้ว ฉันมองออกว่าคุณเปรมาชอบพี่มากเลยนะ ความจริงพวกเราต่างกันเกินไป แล้วก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกันด้วย จะเอาเรื่องหลอกๆ มาเป็นเรื่องจริงไม่ได้นะ”
“ฉันรู้ ว่าการที่ฉันทำแบบนี้มันเป็นการกลับคำพูดของตัวเอง และยกเลิกสัญญาโดยที่ยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันยอมจ่ายค่าชดใช้พี่พัฒน์นะ ชดใช้ที่พี่ต้องเสียชีวิตวัยรุ่นไปหลายวันนี้เพราะว่าฉัน”
เทวิกาพูดแล้วก็ส่งข้อความไปหาพี่ชายของตัวเอง ขอยืมเงินเขาเพื่อที่จะไปจ่ายค่าชดเชยให้ยศพัฒน์
ชเนนทร์ได้รับข้อความจากน้องสาวของตัวเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก็เลยโทรกลับมาทันที
“พี่ชายฉันโทรมา พี่พัฒน์ ฉันขอไปรับสายก่อนนะ”
เทวิกาพูดจบก็หยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งหนีออกมาทันที
ยศพัฒน์: “……”
เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตอนที่ยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา เธอก็เอาแต่เรียกเขาว่าพี่พัฒน์ พี่พัฒน์ทั้งวัน ไม่กลัวเขาแม้แต่นิดเดียว
แต่พอตัวตนคุณชายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุลถูกเปิดโปง แต่เธอกลับกลัวซะอย่างนั้น
เธอควรจะดีใจมากไม่ใช่เหรอ?
เพราะว่าเธอได้แต่งงานกับตระกูลอริยชัยกุลอย่างง่ายดาย และกลายมาเป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลอีกต่างหาก
ยศพัฒน์แอบยิ้ม “วิกาต่างจากคนทั่วไป เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นเลยสักนิด”
เธอไม่ได้อยากใช้เขาเพื่อมีเงินทองและอำนาจ
การที่เขาได้เธอมา ก็เพราะว่าแม่ยายของเขาเร่งเร้าเธอมากๆ จนเธอรู้สึกรำคาญ แล้วก็ “บังเอิญพอดี” ที่เธอได้มาเจอกับเขา เขาก็เลยได้เธอมาเป็นภรรยา
แต่ว่า ยังไม่ได้เป็นคู่สามีภรรยาที่แท้จริงขนาดนั้น
เทวิกาลงมาชั้นล่าง นอกคอนโดแล้วรับสายพี่ชายของตัวเอง
“พี่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
พอรับสาย เทวิกาก็พูดกับพี่ชายทันที “พี่ ฉันจะทำยังไงดี?”
ชเนนทร์ตกใจจนโทรศัพท์เกือบตกพื้นพอน้องสาวบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เขารู้สึกร้อนใจมาก แต่ก็พยายามทำหน้านิ่ง ปลอบใจน้องสาวตัวเองและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เทวิกา พูดช้าๆ อย่าตื่นตระหนก ไม่ต้องกลัว ต่อให้ฟ้าถล่มก็ยังมีพี่อยู่ตรงนี้”
เทวิกาสงบลงและบ่นว่า “พี่ พี่กับพี่พัฒน์เป็นเพื่อนมหาลัยกัน ทำไมถึงไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาได้? พี่รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?”