คุณมาฮินะกับชมรมพฤกษศาสตร์ที่ไม่มีใคร - ตอนที่ 2 ฮิบิยะ คาสึโอะ
“ฮิบิยะ คาสึโอะหรอ ? รู้จักซิๆ !”
ในโถงทางเดินระหว่างห้องเรียนที่ค่อนข้างเงียบสงบแม้จะเป็นเวลาพักกลางวัน เด็กสาวผมสีดำตรงยาว มัดแกละต่ำสองข้าง เจ้าของแว่นกลมโต ‘ทนโด คุเรนะ’ ตอบเพื่อนสนิทเสียงใส
เธอออกจะเป็นคนตัวเล็กอยู่เล็กน้อย เข้ากับเครื่องแบบนักเรียนที่ถูกโหวตว่าน่ารักเป็นอันดับ 12 ของจังหวัดอยู่พอควร
เครื่องแบบของโรงเรียนคือเชิ้ตสีขาว คอซองโบว์สีแดง และกระโปรงลายสก้อตสีดำ เนื่องจากตอนนี้อากาศค่อนข้างเย็น โรงเรียนจึงอยู่ในช่วงที่ให้นักเรียนใส่เบลเซอร์สีฟ้าเข้ม และสเวตเตอร์ของทางโรงเรียนสีเหลืองนวล กฎของโรงเรียนนั้นบังคับความยาวกระโปรง ห้ามใช้สเวตเตอร์และเสื้อเชิ้ตตัวในแบบอื่น บังคับใส่คอซองโบว์สีแดง และผู้ชายบังคับให้ผูกไทค์สีแดงเข้ม
สำหรับฮิบิยะคุงที่ใส่เบลเซอร์ทับเสื้อเชิ้ตตัวในซึ่งไม่ติดกระดุมสองเม็ดบนและไม่ผูกไทค์แล้ว ก็นับได้ว่าผิดระเบียบ
“ทำไมคุเรนะตัวถึงรู้จักล่ะ” มาฮินะถามคนตัวเล็ก เพื่อนสนิทของเธอนั้นเป็นพวกที่มุ่งอยู่แต่กับการศึกษาวิชาที่ชอบ เป็นพวกหายากที่เข้าชมรมของวิชาที่ชอบเพื่อคลุกอยู่กับมันทั้งวัน
“เพราะเป็นพวกที่ได้ท็อปวิชาเดียวตลอดเวลา แต่เฉียดตกวิชาอื่นทุกวิชาไงเหมือนกันไง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างคุเรนะพูดขึ้น
‘ซาซากิ เคียว’ มีผมหยักศก แต่งกายถูกระเบียบ ส่วนแว่นเหลี่ยมที่โค้งมนเล็กน้อยหนาเตอะ เขามีร่างกายสูงใหญ่ และเพราะออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีมวลกล้ามเนื้อค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับคนอื่นในโรงเรียน
“แถมยังเป็นด้านตรงข้ามของคุเรนะจังด้วยนะคะ” หญิงสาวที่อยู่ถัดออกไปอีกพูดเสริม เธอมีผมตรงยาวสีอ่อน ดวงตาคมโต เป็นสาวงามอย่างแท้จริง
‘ซาโต้ สุมิเระ’ เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ เป็นสาวน้อยที่ให้ความรู้สึกของคุณหนูออกมาอย่างชัดเจน ปัจจุบันเธอเป็นสมาชิกสภานักเรียน และคงจะได้เป็นประธานนักเรียนเมื่อขึ้นชั้นปีที่ 3
“ใช่แล้ว ! ถ้าเค้าเป็นสุดเทพเลข คุณฮิบิยะก็เป็นสุดเทพชีวะไงล่า !” คุเรนะกล่าวจบเสริม
‘อย่างนี้นี่เอง..’
‘ถ้าเป็นแบบนี้ การที่คุณฮิบิยะจะเข้าชมรมพฤกษศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย’ มาฮินะเหม่อลอย เด็กสาวนึกย้อนไปถึงตอนที่พบกับอีกฝั่งเป็นครั้งแรกในห้องชมรม ‘ตอนที่เราเดินเข้าห้องชมรมไปคุณฮิบิยะก็กำลังยืนมองต้นไม้ในห้องชมรมอยู่สินะ..’
‘อุหวา..’ แล้วฉับพลันเธอก็รู้สึกกังวลในใจขึ้นมา
‘แบบนี้ต้องแย่แน่เลย เขาต้องไม่ชอบใจชั้นที่เป็นสมาชิกครึ่งๆ กลางๆ แน่เลยแบบนี้’ ‘สมาชิกแบบคุณทำให้ชมรมของเราเสื่อมเสีย.ถ้าจะทำครึ่งๆ กลางๆ ก็ไปเป็นสมาชิกเงาจริงๆ เถอะครับ’ เขาอาจจะคิดแบบนี้อยู่ก็ได้นะ!?
“คุเรนะจัง..แบบว่า ชั้นจะลดสถานะตัวเองลงเป็นสมาชิกเงาเพิ่มอีกซักคนดีไหมน้า..”
“เอ้ะ ไม่ได้ซิ ! ถ้ามาฮินะไม่เป็นสมาชิกกึ่งเงาชมรมพฤกษศาสตร์ก็ไม่เหลือใครแล้วอะดิ!”
“คุเรนะ .. ตะกี้ยังบอกว่าจำฮิบิยะได้อยู่เลยไม่ใช่เรอะ..” เคียวตบมุกเสียงหน่าย
อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันที่เธอต้องไปเรียนพิเศษ ดังนั้นมาฮินะจึงไม่ได้ไปห้องชมรมในตอนเย็น
มาฮินะเดินออกจากห้องเรียนหลังกริ่งโรงเรียนดัง เด็กสาวเงยหน้าไปมองห้องชมรมที่สามารถเห็นได้จากหน้าโรงเรียน ม่านของห้องชมรมถูกเปิดออกเล็กน้อย เป็นสัญญาณว่ามีใครบางคนอยู่ในนั้น
ในแววตาของเธอนั้นมีความประทับใจอยู่ เธอนั้นนับถือคนที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจน
มาฮินะนั้นเป็นนักเรียนประเภทที่ว่าทำได้ทุกวิชาเพราะขยันและรับผิดชอบ แต่เธอชอบวิชาอะไร อยากเรียนอะไรต่อนั้นเธอเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
เหมือนกับการทำอาหาร เธอนั้นทำเพราะเป็นความรับผิดชอบ ไม่ได้ทำเพราะชอบเลย เธอเพิ่งมาพบว่าเธอชอบทำไข่ม้วนเป็นพิเศษ และสนใจในเมนูจำพวกข้าวอบมากกว่าเมนูย่างก็เพิ่งไม่นานมานี้ และเธอเองก็หวังว่าสักวันนึงเธอจะตอบตัวเองได้เช่นกันว่าตัวเองชื่นชอบวิชาอะไรกันแน่
มาฮินะเหม่อลอยอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจากโรงเรียน วันนี้ตารางชีวิตก็เป็นแบบเดิม เลิกเรียน เรียนพิเศษ แวะซื้อของลดราคาหลังเลิกเรียน อ่านหนังสือทบทวน เตรียมเบนโตะสำหรับตอนเช้า
ชีวิตประจำวันในแต่ละวันของนักเรียนโรงเรียนนี้คือการเข้าเรียนตามเวลาและกลับไปเตรียมสอบในตอนเย็นกิจกรรมก็แทบจะไม่มี กิจกรรมชมรมก็ไม่ต้องเอ่ยถึง กิจกรรมระดับชั้นปีใหญ่ๆ มีกิจกรรมเดียวคืองานวัฒนธรรมที่ออกไปทางงานนำเสนอผลงานชมรมเสียมากกว่า
เพราะงั้นการที่พวกมาฮินะจะไม่ค่อยคุ้นหน้าฮิบิยะคุงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรขนาดนั้น
ครืด
เสียงประตูเปิดห้องชมรมเปิดออกมาฮินะยื่นหน้าเข้าไปในห้องชมรมอย่างกล้าๆกลัวๆ
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอกลัวจะไม่ได้อยู่ที่นี้ ‘ฮิบิยะ คาสึโอะ’ไม่อยู่ในห้องชมรมวันนี้
มาฮินะผ่อนลมหายใจอย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอบรรยากาศอึดอัดแสนประหลาดนั้นอีก แต่หากเป็นไปได้ เธอก็อยากทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชมรมเพียงหนึ่งเดียวอีกซัดนิดเหมือนกัน
เด็กสาวหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ในห้องชมรม เปิดหนังสือเล่มหนาออกมา หยิบดินสอกดคู่ใจแล้วเริ่มอ่านหนังสือเงียบๆ
บรรยากาศเงียบสงบ อุณหภูมิที่ไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป เสียงเดียวที่เธอพอได้ยินคือเสียงของดินสอที่ลากไปบนกระดาษ แต่ทว่านั่นแหละ คือเสียงที่ช่วยเพิ่มสมาธิให้กับเธอ
มาฮินะเอื้อมมือไปหยิบรายงานชมรมมาเปิดอีกครั้ง
เจ้าของลายมือไม่เป็นระเบียบที่เห็นบ้างบางครั้งในห้องชมรม เหมือนจะเป็นคาสึโอะ ไม่ใช่อาจารย์ที่ปรึกษาซินะ
มาฮินะปิดแฟ้มเอกสาร แล้วทบทวนในใจ
เธอเป็นพวกขี้เกรงใจที่มักจะโดนเอาเปรียบบ่อยๆ ตอนเด็กๆ แถมยังโดนโมโหใส่บ่อยๆ เวลาที่ทำอะไรไม่ถูกใจอีกฝั่ง
เพราะเธอเป็นคนทีไม่อยากเอาเปรียบคนอื่นเท่าไหร่
เพราะงั้นถึงแม้ว่าเธอจะพยายามทำงานชมรมเต็มที่แล้วในขอบเขตที่เธอสามารถทำได้ (ในฐานะสมาชิกคนเดียว) แต่พอรู้ว่าอีกคนพยายามอย่างเต็มที่อยู่เบื้องหลัง เธอก็รู้สึกเหมือนเอาเปรียบอีกฝั่งขึ้นมา แม้อีกฝั่งจะดูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอเท่าไหร่
แต่เธอก็ควรจะเสาะหาซักหน่อย เพื่อเสนอตัวช่วยงานหรือเปล่านะ
หรือยิ่งทำแบบนั้น อีกฝั่งจะรู้สึกว่าไม่ได้ต้องการให้มาช่วย รึเปล่านะ
เธอคิดทบทวนสับสน ยิ่งบวกกับชื่อเสียงที่ไม่ค่อยจะดีนักของอีกฝั่งทำให้เธอยิ่งกังวลว่าตัวเองจะไปทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า
แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าอาจจะเป็นเธอเองที่คิดมากไป มาฮินะนั่งรออยู่ในห้องเงียบๆ พลางคิดว่าหากฮิบิยะมาที่ห้องชมรมวันนี้ เธอจะสู้หน้าเขาไหวมั้ยนะ
และช่วงเวลาชมมตอนเย็นก็จบลงแค่นั้น ฮิบิยะ คาสึโอะไม่ได้เข้าชมรมในวันนั้นแต่อย่างใด