ตอนที่ 6: คุณซาโกะอยากจะคุยด้วย?
ฉันละสายตาจากตารางเวลา ยัดหนังสือเรียนกับสมุดลงกระเป๋า เรื่องพวกนี้กลายเป็นกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำก่อนเข้านอนของฉัน
“การบ้าน…ก็เสร็จเรียบร้อย”
จากที่มายุโกะเคยบอก ฉันเป็นคนฉลาดและฉันก็รู้เรื่องนั้นดี แล้วก็ฉันก็มองว่าเป็นจุดแข็งด้วย ทว่าฉันต้องเลิกเป็น ‘แม่คนแสนดี’
เนื่องจากถ้าฉันยังเป็นแบบนี้อยู่ ฉันจะไม่มีวันได้คบกับสึโยชิคุง เขามองฉันเหมือนกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรเทือกนั้น ที่จริงอยากจะเป็นอย่างฉันด้วยซ้ำ เป็นเพราะความไร้ที่ติของฉันแท้ๆ
ฉันอยากให้เขาคิดว่าฉันไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพื่อการนั้นฉันจะใช้มาตรการของฉันเอง อย่างแรกเลย ฉันจะทำเป็นว่าลืมเอาการบ้านมา ด้วยวิธีนั้นจะทำให้เขาเห็นว่าฉันเองก็มีข้อบกพร่องเหมือนกัน
…
ผมไปโรงเรียนเช้ากว่าเดิมนิดหน่อย ตอนนี้ก็เลยกำลังฟุบอยู่บนโต๊ะเพื่อพักผ่อน หลังจากที่ถูกคุณซาโกะกระตุ้นไป ผมก็เลยกลับมาตั้งใจเรื่องเรียนอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่หวัง เพราะว่าผมทิ้งช่วงเรื่องเรียนมากไป เลยกลับไปมีความตั้งใจแบบม.ต้นไม่ได้ ทำเอาเมื่อวานลำบากแทบแย่
พอหันหน้าไปก็พบกับทาคุมินั่งหลับอยู่อย่างเคย
ด้วยความที่ไม่มีใครคุยด้วย ผมตัดสินใจรอจนกว่าออดจะดัง แต่พอผมหลับตาลง ก็มีเสียกชื่อผมดังขึ้น
“สึโยชิคุง หลับอยู่รึเปล่า?”
เสียงอันนุ่มนวลนั่นทำเอาหูผมจั๊กจี้ไปหมด
“เปล่าหรอก ผมตื่นอยู่”
“ขอโทษที่มารบกวนตอนพักผ่อนนะ”
ผมเงยหน้า ขึ้นแล้วก็ได้เจอกับคุณซาโกะที่กำลังรู้สึกผิด กับผมอยู่
“พอดีลืมเอาการบ้านวิชาภาษาญี่ปุ่นมาน่ะ แบบว่า…ถ้าไม่ว่าอะไร ขอดูหน่อยจะได้ไหม?”
“อา ภาษาญี่ปุ่นสินะ เข้าใจแล้ว”
ผมเอาสมุดออกมาแล้วส่งให้เธอ
“ขอบคุณนะ ช่วยได้มากเลย!”
“ไม่เป็นไร”
“จริงสิ สึโยชิคุงทำโจทย์ข้อสุดท้ายของการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ได้รึเปล่า?”
ปกติ การบ้านวิชาคณิตจะมีแค่ใช้สูตรแก้โน่นแก้นี่เฉยๆ แต่ครั้งนี้ข้อสุดท้ายมันยากพอตัว เป็นโจทย์ที่มีให้สำหรับพวกนักเรียนที่ทำโจทย์ธรรมดาๆแล้วไม่สาแก่ใจ ถึงอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้
จนถึงตอนนี้ผมเอาแต่ข้ามไม่สนใจมาโดยตลอด แต่เรื่องจากผมกลับใส่ใจเรื่องเรียนอีกครั้ง ก็เลยลองทำมันดูสักตั้ง ซึ่งมันยากแบบสุดๆ ถึงอย่างนั้นผมก็คิดว่าได้คำตอบที่ถูกอยู่นะ
“ก็ได้นะ และเพราะแบบนั้นผมเลยนอนไม่ค่อยพอตามที่เห็นนี่แหละ”
“อย่างนี้นี่เอง กะจะตอบแทนเรื่องการบ้านภาษาญี่ปุ่นสักหน่อย แต่คงไม่จำเป็นแล้วเนอะ”
“อื้ม ถึงอย่านั้นผมก็ขอบคุณนะ ไว้ถ้าผมมีเรื่องให้ช่วยผมจะไปหาเอง”
“แน่นอนจ้ะ! แค่มองตาหมีแพนด้าของสึโยชิคุง ฉันก็รู้แล้วว่าพยายามหนักแค่ไหน”
“เพราะคุณซาโกะให้แรงบันดาลใจกับผมนั้นล่ะ”
“เฮะๆ ไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตขนาดนั้นสักหน่อยนึง”
เพราะผมน่ะนับถือคุณซาโกะ… อย่างสุดหัวใจ นั้นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผมหวังจะเคียงข้างเธอ และเพื่อการนั้นผมต้องเอาชนะเธอในการสอบครั้งหน้าให้ได้
“มีปัญหาอะไรกับโจทย์ข้อนั้นรึเปล่า?”
ผมถาม ท่าทีราวกับการดูเชิง
“มันก็ไม่ได้ง่ายหรืออะไรหรอก แต่ฉันก็ทำได้อยู่ล่ะนะ”
“สมกับเป็นคุณซาโกะ…”
ศัตรูของผมนี่น่ายำเกรงดีจริงๆ
“เฮะๆ ขอบคุณจ้ะ ยังไงก็แล้วแต่ ฉันจะรีบๆลอกไอ้นี่ก่อนน้า”
คุณซาโกะพูดแล้วเดินกลับไปที่นั่งตัวเอง
ทันใดนั้น แผ่นหลังกำยำของทาคุมิก็เคลื่อนไหว
“สนิทกันพอควรเลยไม่ใช่หรอนั่น? เผลอๆนี่คุยกันมากกว่าตอนก่อนปฏิเสธอีกนะ”
“นี่ทาคุมิแอบฟังพวกผมเหรอ?”
“ก็ไม่ได้บอกนิว่าฉันหลับ”
“ก็จริงนะ แต่ว่า…”
โดนเจ้าทาคุมิแซวแบบนี้ไม่ค่อยเท่าไรเลยแฮะ แต่ก็ยังดีที่ยังไม่มีบรรยากาศน่าอึดอัด
“แล้วซาโกะก็ยังลืมของอีกสินะ…”
ทาคุมิพึมพำ
“นั่นก็สองวันติดกันแล้วสินะ?”
“…ไม่คิดว่ามันแปลกๆหน่อยเหรอ ที่ซาโกะดันขี้ลืมขึ้นมาขนาดนี้น่ะ?”
“หืม? แบบว่าปกติผมก็ลืมของตลอดอยู่แล้วด้วยสิ”
“นายกับซาโกะเหมือนกันที่ไหนล่ะเห้ย ซาโกะเหมือนคนที่จะลืมอะไรสักอย่างรึไง? นั่นระดับนักเรียนดีเด่นเลยนะ”
“นั่นคือที่อยากจะสื่องั้นเหรอ…..?”
“อ่าฮะ”
ทาคุมิแสยะยิ้ม
“เอาเป็นว่า ไว้ครั้งหน้าที่ซาโกะลืมเอาอะไรสักอย่างมาอีก ไว้เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เอง”
ดูเหมือนว่าหมอนั่นกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ รู้สึกน่าเป็นห่วงแปลกๆแฮะ
ครั้งต่อมาที่คุณซาโกะลืมของคือสองวันให้หลัง แล้วก็เป็นตามที่ผมกับทาคุมิพูดกันไว่ก่อนออดดัง คุณซาโกะก็เดินตรงมาหาพวกเรา
“สึโยชิคุง ขอทาที่มารบกวนอีกนะ แต่ว่าขอดูการบ้านวิชาประวัติศาสตร์หน่อยได้ไหม?”
“เข้าใ-”
“เดี๋ยวฉันให้เธอดูเอง ลายมือหมอนั่นอาจจะเละก็ได้”
ก่อนที่ผมจะทันตอบ ทาคุมิก็เข้ามาแทรกซะก่อน
ส่วนคุณซาโกะก็โบกมือแล้วปฏิเสธอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอ่านได้”
“ไม่หรอก ยืมของฉันดีกว่าน่า ถ้าแค่อยากจะดูการบ้านของคนอื่นล่ะก็ จะของฉันก็ได้อยู่แล้ว แถมลายมือฉันอ่านง่ายด้วยนะ”
“เออ…”
คุณซาโกะดูเหมือนเจอกับปัญหาและชำเลืองมาทางผม ไม่เข้าใจเลยว่าเลิ่กลั่กเรื่องอะไร
“นี่ ดูลายมือฉันซะก่อน”
ทาคุมิเอาสมุดการบ้านออกมา
แล้วก็อย่างที่คุยไว้ ทุกอย่างดูสะอาดโล่งตาแล้วยังอ่านง่ายอีก แถมใช้ปากกาสีบางจุดทำให้อ่านง่ายขึ้นอีก
“ไงล่ะ? ของฉันดีกว่าเยอะเลยว่าปะ?”
“นั่นก็จริง…”
เธอพยักหน้า แต่ก็ยังลังเลที่จะรับสมุดของทาคุมิ
“เข้าใจความรู้สึกของเธออยู่หรอกนะซาโกะ ถ้าอยากยืมสมุดของสึโยชิล่ะก็ ฉันจะถอยให้ก็ได้ แต่เธอต้องซื่อตรงหน่อยนะ”
“อืม…ก็ได้…”
คุณซาโกะดูกำลังสับสน ทั้งเอานิ้วชี้แตะแก้มทั้งสายตาที่กวาดมองไปทั่ว ทำไมถึงต้องลังเลขนาดนั้นด้วยนะ? ถ้ายืมของทาคุมิน่าจะมีประสิทธิภาพกว่าแท้ๆ
แล้วยังมองมาทางผมเพราะอะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือ แถมสภาพยังเหมือนลูกหมาน้อยที่ถูกทิ้งกลายสายฝนอีก
ท่าทางนั้นปลุกความอยากปกป้องในตัวผม แล้วยังทำให้ผมรู้สึกไม่ดีด้วย
“เอาน่า ใจเย็นก่อน คุณซาโกะดูไม่ดีแล้วนะ”
“เห้ย นี่นายเข้าข้างซาโกะเรอะ…?”
“เพราะสำหรับฉัน เหมือนนายกำลังรังแกคุณซาโกะอยู่เลยน่ะสิ”
ทาคุมิส่ายหน้า
“โทษที ให้สึโยชิโชว์การบ้านให้เธอดูก็ได้”
ผมส่งสมุดให้คุณซาโกะ พริบตานั้นใบหน้าของคุณซาโกะก็ปรากฏรอยยิ้มสดใส ตรงข้ามกับก่อนหน้านี้สิ้นเชิง
“ขอบคุณนะ ฉันจะลอกให้ไวเลย!”
คุณซาโกะวิ่งออกไป ขณะเดียวกันทาคุมิก็ยัดหนังสือกลับที่เดิมพร้อมถอนหายใจ
“ยังไม่รู้สึกตัวอีกเหรอสึโยชิ?”
“เรื่องอะไร?”
เนื่องจากผมอภัยทาคุมิที่รังแกคุณซาโกะไม่ได้ ผมจึงตอบไปด้วยท่าทีรำคาญ
“ยัยนั่นเอาแต่ยืมของของนายตลอดเลยใช่ไหมล่ะ? ดูอย่างเมื่อกี้ก็ได้ ซาโกะลังเลที่จะรับสมุดของฉันชัดๆเลย ฉันว่าเจ้าตัวคงแค่หาข้ออ้างเพื่อมาคุยกับนายเท่านั้นแหละ”
“รู้ได้ไง? บางทีอาจจะเจออะไรหลายๆเรื่องก็ได้ แบบว่าเยอะจนลืมของเรื่อยๆไรงี้”
“ไม่ ไม่ใช่แน่ๆ ไอ้แบบนี้มันตั้งใจชัดๆ ไม่ก็บางทีอาจจะมีการบ้านอยู่แล้วแต่ทำเป็นลืม”
“ไม่มีทางหรอก”
ดวงตาของทาคุมิส่วงประกายวาบ
“ฉันคิดไม่ผิดแน่นอน แล้วก็มีวิธีพิสูจน์ด้วย”
เช้าวันต่อมา พวกเราแอบสังเกตคุณซาโกะอย่างลับๆ
พอเธอมาถึงโรงเรียน ก็ไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง ค้นกระเป๋า จากนั้นก็ลุกขึ้นมองไปรอบๆ เป็นแพทเทินที่เห็นตลอดในช่วงนี้ แล้ววันนี้ก็แหมือนจะลืมของอีกแล้ว
ทาคุมิกระซิบข้างผม
“มาแล้ว ทำให้แน่ใจว่าจะเป็นฝ่ายทักก่อนนะ”
“อะ-อื้ม”
คุณซาโกะมาถึงที่นั่งผม เราสบตากัน
“สึ-”
“คุณซาโกะ”
“จะ-จ๊ะ?”
“ขอดูการบ้านหน่อยได้รึเปล่า?”
“แน่นอนจ้ะ! วิชาไหนล่ะ?”
“เออ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น”
“ประวัติศาสตร์นะ ได้เลย”
คุณซาโกะกลับไปที่ที่นั่งตัวเอง แล้วเอาสมุดออกมาให้ผม
“ช่วงนี้ฉันเอาแต่พึ่งสึโยชิคุงตลอดเลย เพราะงั้นต้องตอบแทนสักครั้งอยู่แล้วล่ะ”
“มันก็ต้องมีเวลาแบบนี้กันบ้าง ถือว่าเจ๊ากันแล้วกัน”
“สึโยชิคุงนี่ใจดีจังเลยนะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
พูดจบคุณซาโกะก็กลับไปนั่งที่
เดี๋ยวนะ นี่คุณซาโกะไม่ได้ลืมของงั้นเหรอ? นึกว่าจะเป็นแบบทุกทีซะอีก…แล้วทำไมทาคุมิยิ้มแบบนั้นล่ะเนี่ย?
“ลองดูสมุดกันหน่อยดีกว่า”
เพระผมโกหกว่าลืมเอามา จริงๆไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ ยังไงก็ตาม ผมเองก็อยากเห็นสมุดคุณซาโกะเหมือนกัน
ผมเลยพยักหน้าแล้วเปิดสมุดออกอย่างนุ่มนวล
“โห้”
แล้วก็พบกับงานคุณภาพสูงสุดๆ ผมจ้องมันด้วยความตกตะลึง ลายมือของคุณซาโกะมันทั้งสวยและอ่านง่าย มาร์คจุดสำคัญไว้หมด มีการใช้ขนาดอักษรเล็ก-ใหญ่เพื่อเน้นยำความสำคัญอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นยังมีการเล่นคำตามจุดต่างๆเพื่อให้จำง่าย แถมยังวาดรูปบุคคลในประวัติศาสตร์เป็นเวอร์ชั่นจิบิด้วย น่าร้ากอะ
“สุดยอดจริงๆ”
ทาคุมิเองก็มีสภาพไม่ต่างจากผมเท่าไร
“ถ้าทำละเอียดถึงขนาดนี้ คิดว่าเจ้าตัวจะลืมของพวกนี้ไว้ที่บ้านเรอะ?”
“ไม่มีทาง ต่อให้มาสายก็ต้องหยิบมาด้วยแน่ๆ”
“ใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นยอมรับเถอะ ยัยนั่นก็แค่อยากหหาข้ออ้างมาคุยกับนายเฉยๆแหละ”
ถึงจุดนี้ ผมคงต้องยอมรับทฤษฎีของทาคุมิซะแล้ว คุณซาโกะแกล้งทำเป็นลืมการบ้านเพื่อที่จะได้เข้ามาคุยกับผม
“แต่…ถ้าแค่จะคุยกับผม ทำไมถึงต้องใช้วิธีอ้อมค้อมขนาดนั้นด้วยล่ะ?”
“ก็ไม่เชิงนะ….ไอ้การจะคุยกับนักเรียนคนอื่นที่นั่งกันคนละมุมห้องนี่ต้องใช้ความกล้ามากพอสมควรเลยนา เพราะงั้นการเปลี่ยนที่นั่งเลยมีความสำคัญยังไงเล่า ”
“อ่า ก็เข้าใจได้”
พูดอีกอย่างก็คือคุณซาโกะต้อวการหาข้ออ้างมาคุยกับผม คิดแค่นั้นผมก็ฟินสุดๆแล้ว แถมจั๊กจี้หน่อยๆด้วย ยังไงก็เถอะ ถึงจะแค่อยากคุยกับผม แต่ผมก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้คุณซาโกะใช้วิธีอ้อมค้อมขนาดนี้
ผมอยากจะคุยกับเธอด้วยตัวเอง และสนิทสนมกันมากขึ้นด้วยตัวเอง เพราะงั้นผมจะปล่อยให้คุณซาโกะทำอะไรแบบนี้ฝ่ายเดียวไม่ได้ ผมต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเองด้วย
พร้อมกับถือสมุดของคุณซาโกะ ผมยืนขึ้น
“สึโยชิ ทำอะไรน่ะ?”
“เอาสมุดไปคืนน่ะสิ”
“ใจกล้ากว่าที่คิดนะเรา”
ผมเมินคำพูดของทาคุมิแล้วเดินยืดอกไปหาคุณซาโกะ
“คุณซาโกะ พอเวลาสักหน่อยไหม?”
…
“คุณซาโกะ พอเวลาสักหน่อยไหม?”
ชื่อของฉันถูกเรียกโดยสึโยชิคุง ฉันหันเลยไปหา
ในมือขวาของเขาถือสมุดของฉันที่พึ่งให้ไป
“ลอกเสร็จแล้วเหรอ?”
“ไม่หรอก แต่เอาคืนไปเถอะ”
“อา จ้ะ”
ฉันรับสมุดคืนมา แต่เอาจริงๆ รู้สึกสับสนนิดหน่อย
“มีเรื่องอยากคุยด้วยนิดหน่อย มากับผมสักเดี๋ยวได้ไหม?”
“อะ-เอ๋!?”
พอเจอกับคำชวนที่ใจกล้าขนาดนี้ ถึงกับไปไม่เป็นเลย แล้วทำต้องเป็นเราสองคนด้วย? จะพูดเรื่องเรื่องอะไรกันนะ? ในหัวมีจุดให้สงสัยเต็มไปหมด แต่สายตาที่จ้องมองอย่างตรงไปตรงมาของเขาทำให้ฉันปฏิเสธไม่ได้
“ดะ-ได้สิ”
ฉันพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน
ขณะเดินผ่านที่นั่งของมายุโกะ ฉันส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหา แต่มายุโกะตอบกลับด้วยยกนิ้วให้
ไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้นสักหน่อย?!
พอเสียงออดช่วงเช้าจบลง มีผู้คนอยู่ไม่มากที่อยู่ด้านนอกของห้องเรียนแล้วก็มีพวกเรา 2 คน
นี่เขาอยากจะพูดอะไรกับฉันกันนะ? ตอนนี้ก็รู้สึกประหม่านิดหน่อยแล้ว
แล้วสึโยชิคุงก็เริ่มพูดออกมาเบาๆโดยที่มีแต่ฉันเท่านั้นที่ได้ยิน
“คุณซาโกะไม่ได้ลืมเอาการบ้านมาจริงๆ ใช่ไหมล่ะ?”
เอ๋!?
โดนซัดเข้าอย่างจังจนไม่รู้จะตอบยังไงเลย นี่จะแก้ตัวได้ไหมนะ? แล้วต้องทำอะไรต่อเนี่ย?
ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก สึโยชิคุงก็ถามต่อ
“ในที่สุดผมก็เข้าใจสักทีว่าทำไมคุณซาโกะถึงเอาแต่ลืมการบ้านอยู่ได้ ขอโทษที่ผมทึ่มขนาดนั้นนะ”
“อะ…”
เข้าใจเรื่องอะไรเนี่ย? ก็แค่อยากให้เห็นว่าฉันซุ่มซ่ามกับทึ่มๆหน่อยเท่านั้นเองนะ?
“คุณซาโกะอยากหาเหตุผลมาคุยกับผมใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นเลยทำเป็นลืมการบ้านมาโดยตลอด”
“….อะไรนะ?”
“ถ้ามาคุยกับผมในห้องมันจะเป็นปัญหา ก็เลยสร้างเหตุผลขึ้นมาใช่ไหม?”
“…อา ใช่ๆ ตามนั้นเลย”
ตกใจเลยแฮะ…แต่ก็รู้สึกว่าถูกความเข้าใจผิดที่คาดไม่ถึงนั่นช่วยเอาไว้เลย
ก็นะ อยากคุยกับเขาจริงๆนั่นแหละ จะพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก
“คุณซาโกะลังเลที่จะมาคุยกับผมในห้องสินะ?”
“อื้ม ประมาณนั้น”
ถ้าจะเรียกชื่อผู้ชายตอนมีคนอยู่รอบๆมันก็ต้องใจกล้าพอตัว แต่เขาก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันพยายามหาเรื่องคุยอยู่ดีนั้นแหละ
“เพราะงั้น…เพราะงั้นทำไมเราไม่เลิกมาคุยกันในห้องเลยล่ะ?”
รู้สึกเหมือนเลือดถูกดูดออกจากตัวจนหมด อย่างนี้นี่เอง เขาเห็นฉันเป็นตัวเกะกะขัดหูขัดตาสินะ
เจ็บ…จัง เหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อเลย
“ขอโทษ…ฉันจะไม่คุยกับสึโยชิคุงอีกแล้ว…”
“มะ-ไม่ใช่แบบนั้น ผมใช้คำผิดไปหน่อย หมายถึงทำไมเราไม่มาคุยกันในไลน์แทนล่ะ? ไม่ต้องทำเป็นลืมการบ้านเพื่อคุยกับผมหรอก”
“…อะ-อ้อ แบบนี้นี่เอง!”
ดีใจจนกระโดดโลดเต้นเลย! เขินชะมัดเลยอ่าาา!
“แล้ว…คิดว่าไง? ถ้าเราคุยกันในไลน์ เราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสายตาชาวบ้านด้วย”
“เย้! ด้วยความยินดีเลยจ้า!”
ฉันพยักหน้าถี่หยิบ
“ดีใจจัง งั้นมากันเถอะ”
“อื้ม!”
ด้วยเหตุนี้พวกเราเลยแลกไลน์กัน แล้วเสียงออดก็ดังขึ้นมาพอดีหลังจากนั้นพวกเราก็เลยกลับไปยังนั่งที่ของตัวเองแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิดแล้วฉันก็จิ้มส่งสติ้กเกอร์ไลน์อันโปรดไปหาเขา
Chapters
Comments
- ตอนที่ 13 พฤษภาคม 29, 2022
- ตอนที่ 12 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 11 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 10 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 9 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 8: ผมก็อยากจะเป็นเหมือนกับเธอนะ เมษายน 16, 2022
- ตอนที่ 7: ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ? เมษายน 10, 2022
- ตอนที่ 6: คุณซาโกะอยากจะคุยด้วย? เมษายน 6, 2022
- ตอนที่ 5: ความมั่นใจ เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 4: อร่อยมั้ย? มีนาคม 19, 2022
- ตอนที่ 3: แล้วชอบกระโปรงแบบไหนเหรอ? มีนาคม 15, 2022
- ตอนที่ 2: ฉันดูเป็นยังไงบ้าง? มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 1: เพราะเธอสมบูรณ์แบบเกินไป มีนาคม 11, 2022
MANGA DISCUSSION