ตอนที่ 2: ฉันดูเป็นยังไงบ้าง?
เช้าวันต่อมาช่างสดใสอย่างไม่น่าเชื่อ ทำเอาสงสัยเลยว่าใช่เดือนมิถุนาแน่รึเปล่า หลังจากลุยอากาศชื้นไปที่โรงเรียน ในที่สุดผมก็ได้เปิดประตูสู่ห้องเรียนของผมสักที
แล้วเดินไปประจำที่ของตัวเอง จากนั้นเจ้าคนที่นอนฟุบอยู่โต๊ะข้างๆก็เงยหน้าขึ้นมา
“…โย่ สึโยชิ”
“อรุณสวัสดิ์ ทาคุมิ”
อิซากะ ทาคุมิ เป็นเพื่อนที่เจอกันที่โรงเรียนนี้ มีรูปร่างสูงโย่งกับตัดผมสั้น แล้วยังเป็นแคชเชอร์ของชมรมเบสบอลอีกด้วย กลับกันหมอนี่กลับมีแววตาหมดอาลัยตายอยาก
ชอบหลับในห้องเรียน หลับสนิทยังกับเด็กก็มิปาน ทั้งๆที่ดูเผินๆก็ดูเป็นคนเร่าร้อนแท้ๆ
ทาคุมิเอามือเท้าคางพร้อมกับหรี่ตาแล้วจ้องมองมาที่ผม
“นอนไม่พอใช่ไหม นายน่ะ”
พอถูกบอกตรงๆแบบนั้น ผมก็รู้สึกเกร็งขึ้นมา
“…มันดูเป็นแบบนั้นเหรอ?”
“นายไม่น่าจะโต้รุ่งหรืออะไรแบบนั้นแน่ๆ เพราะนายไม่ใช่พวกมนุษย์กลางคืนอะไรเทือกนั้น…งั้นคงมีบางอย่างที่ทำให้นายหลับไม่ลงสินะ?”
ในเวลาแบบนี้ทาคุมิจะกลายเป็นพวกหลักแหลมจนน่ากลัวเลยล่ะ
วินาทีที่หมอนี่เห็นผมก็มองผมออกในทันที จริงๆแล้วเมื่อคืนผมก็นอนไม่พอจริงๆนั้นแหละ
ทั้งๆที่ผมเป็นคนปฏิเสธคุณซาโกะเองแท้ๆ แต่ไม่ว่าทำยังไงก็สลัดภาพที่คุณซาโกะร้องไห้ออกจากหัวไม่ได้สักทีเพราะแบบนั้นหัวยุ่งเหยิงไปหมด แม้แต่จะตั้งสมาธิก็ยังทำไม่ได้เลย
“นี่ก็แค่ถามเผื่อไว้ก่อน แต่นายไม่เป็นไรแน่นะ? คงจะเป็นเรื่องใหญ่พอควรเลยสิ ถึงขั้นที่ทำให้นายนอนไม่หลับเนี่ย”
ทาคุมิกับผมเข้ากันได้ดีตั้งแต่ปี 1 แล้วยังเป็นคนที่ผมไว้ใจได้อีกด้วย พอคิดแบบนั้นแล้ว การที่ผมระบายมันออกมา อาจเป็นเรื่องดีก็ได้ ผมเลยเริ่มเปิดปากพูด
“ถูกคุณซาโกะสารภาพรักมาน่ะ”
“โฮ่ว”
“แล้วก็ตอบปฏิเสธไปแล้ว”
ทาคุมิถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วลุกขึ้นมานั่งเต็มตัว
“ไม่เข้าใจเลยว่านายจะปฏิเสธไปทำไม คนที่ทั้งหน้าตาดี เรียนก็เก่ง บุคลิกก็ดี แถมยังดูเป็นแม่ศรีเรือนอีกต่างหาก นายอาจจะไม่รู้นะ แต่ซาโกะเนื้อหอมสุดๆเลยล่ะ”
“เรื่องเนื้อหอมน่ะผมเข้าใจดี แต่…”
“ไม่เลย นายไม่ได้เข้าใจเลยสักนิด ซาโกะน่ะดูจากนิสัยแล้วไม่ได้เป็นพวกที่อยากโดดเด่นขนาดนั้น แค่เห็นหล่อนทำอะไรสักอย่างก็ถือเป็นบุญแล้ว แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้พวกผู้ชายบางส่วนคิดว่าตัวเองก็พอมีลุ้น เลยทำให้เธอเป็นที่นิยมไงเล่า”
“พูดยังกับเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เลยนะ”
“ก็เพราะเป็นจริงๆไง กลางค่ายฝึกฤดูร้อนปีที่แล้ว พวกฉันก็พูดเรื่องอะไรทำนองนั้นอยู่เหมือนกัน มันมีคนนึงที่จู่ๆก็พูดว่าชอบซาโกะ จากนั้นพวกปี 1 กว่าครึ่งก็มาสารภาพว่าจริงๆแล้วพวกตัวเองชอบซาโกะ”
“นั่นก็เว่อร์ไปหน่อยมั้ง?”
“ไม่หรอก แล้วด้วยความที่ซาโกะเป็นวงดุริยางค์ หล่อนเลยต้องมาเล่นเวลาที่ชมรมเบสบอลเขาแข่งกันบ่อยๆใช่ไหมล่ะ? แล้วนั้นแหละที่ทำให้เจ้าพวกนั้นหลงซาโกะแบบหัวปักหัวปำ เชื่อฉันเถอะว่าที่พูดมันไม่ได้เว่อร์เกินจริงสักนิด”
ถ้าที่ทาคุมิพูดเป็นเรื่องจริงล่ะก็ พวกเขาก็รู้จักกันผ่านทางชมรม ก็เลยดูไม่ได้เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าจะให้พูด พอรู้ว่ามีคนชอบคุณซาโกะมากขนาดนั้นก็แอบตกใจอยู่อะนะ
หลังจากอธิบายจบ ทาคุมิก็ยืดเว้นยืดสายแล้วหาวออกมาฟอดใหญ่
“ก็ตามนั้นแหละ นายนี่มันบื้อของโคตรบื้อเลยนะที่ดันปฎิเสธซาโกะไปเนี่ย”
“ก็สำหรับผม คุณซาโกะเป็นดอกฟ้าที่ไกลเกินเอื้อมนี่นา”
“แต่ดอกฟ้าที่ไม่ว่าใครก็เอื้อมไม่ถึงนั้นมาสารภาพรักกับนายนะ ถ้าได้มาแล้วจะมัวไปเปรียบเทียบทำซากอะไรล่ะ”
“อย่าไปคิดเรื่องเล็กเรื่องน้อยแบบนั้นเลยน่า ยังไงซะผมก็จินตนาการภาพที่ตัวเองเคียงข้างคุณซาโกะไม่ออกเลยสักนิด”
“คนที่ตัดสินว่านายคู่ควรหรือเปล่าน่ะ คือซาโกะต่างหาก”
“แล้วทาคุมิคิดว่าผมเหมาะกับคุณซาโกะเหรอ?”
“ก็ไม่ค่อยนะ”
“จริงๆนายก็ไม่คิดไม่ใช่เรอะ”
แน่นอนว่าผมเข้าใจสิ่งที่ทาคุมิกำลังพูด แล้วก็รู้ด้วยว่าเขาขัดใจกับการตัดสินใจของผม แต่ถึงอย่างนั้น ความจริงที่ว่าผมกับคุณซาโกะไม่ได้คบกันก็ไม่เปลี่ยนแปลง
“ผมว่าทาคุมิเหมาะกับคุณซาโกะกว่าผมอีกนะ ทั้งแข็งแรง เรียนก็ดี สูงก็สูง หล่อก็หล่อ แถมลึกๆแล้วเป็นคนใจดีด้วย แล้วยังคิดถึงคนรอบข้างอยู่เสมออีก”
พอผมพูดจบ ทาคุมิก็ทำหน้าหยี๋ใส่ทันที
“อย่าพูดชมแบบกะทันหันฉันแบบนั้นสิ ขนลุกเลยเนี่ย”
“แอบเสียใจเลยนะเนี่ย”
“ก็นะ…บางทีซาโกะอาจจะชอบนายที่จุดนี้ก็ได้”
“หืม? พูดเรื่องอะไร-”
ไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากทางหน้าห้อง ตามด้วยเสียงฮือฮาของพวกผู้หญิง ที่ดังขนาดที่พวกผมซึ่งอยู่หลังห้องยังได้ยิน
“มาจิกะ?! ทำไมทรงผมเป็นแบบนั้นล่ะ!”
นั้นคือเสียงคุณนิชิดะ ที่มักจะตัวติดกับคุณซาโกะตลอดเวลา
“เอะเฮะๆ ฉันตัดมันเองล่ะ”
“ฉันว่าตัดเยอะไปหน่อยมั้ง”
การพูดคุยสั้นๆเมื่อกี้มันสะกิดใจผมจนต้องหันไปมองแหล่งที่มาของเสียงนั้น แล้วผมก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของคุณซาโกะ จากผมที่ยาวสลวย กลายเป็นทรงบ๊อบยาวประบ่าแทน หน้าม้าก็สั้นลงกว่าเดิมเยอะ จนเปิดเผยหน้าผากเนียนๆไปกว่าครึ่ง และเพราะแบบนั้น ผมก็เลยเห็นคิ้วที่ปกติโดนหน้าม้าปิดบังแบบชัดแจ่มแจ๋ว
คิ้วพวกนั้นดึงดูดผมแบบสุดๆ องศาเหมาะเจาะ โค้งเป็นรูปสะพานโค้ง ทำให้คุณซาโกะเหมือนมีสีหน้าที่ดูเศร้าหมองแม้จะยิ้มอยู่ก็ตาม มันปลุกเร้าสัญชาตญาณอยากปกป้องในตัวผม
ปกติคุณซาโกะจะให้ความรู้สึกที่ดูสงบเยือกเย็น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นความรู้สึกแบบลูกหมาตัวน้อยไปแล้วซะงั้น ทำให้ผมคิดว่าเธอช่างน่ารักอย่างเสียไม่ได้
หลังจากจ้องคิ้วพวกนั้นสักพัก ผมก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้คุณซาโกะกำลังจ้องผมอยู่
ผมรีบเบือนสายตาหนีสุดชีวิต แล้วฟุบลงกับโต๊ะทันที เพราะผมรู้ว่าตอนนี้หน้าผมมันแดงโคตรๆ นี่เราจ้องหน้าคุณซาโกะไปนานแค่ไหนกันนะ? แล้วเจ้าตัวรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย? ผมได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเข้ามาใกล้ ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเป็นฝีเท้าของคุณซาโกะ
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ แกล้งหลับมันเลยแล้วกัน
“อรุณสวัสดิ์ สึโยชิคุง”
แค่ได้ยินเสียงของคุณซาโกะ ก็ทำให้หวนนึกถึงการสารภาพรักเมื่อวันก่อนแล้ว ทำเอาหัวผมหัวหมุนไปหมด
“คิดว่าทรงผมใหม่ของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
หวังว่าจะไม่มีไอน้ำพุ่งมาจากหัวนะ เพราะตอนนี้ผมเขินจนแม้แต่เงยหน้ายังเงยไม่ได้ด้วยซ้ำไป
“เน่ สึโยชิคุงนี่ล่ะก็”
คุณซาโกะเขย่าไหล่ของผม
ผมได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องดังขึ้นเรื่อย ๆ บางทีคงจะสงสัยว่าทำไมคุณซาโกะถึงดั้นด้นมาถามความเห็นผมถึงที่แบบนี้ ประเด็นคือผมเป็นไม่ถนัดรับมือความสนใจแบบนี้ไง ขอล่ะให้ผมได้พักหายใจบ้างเถอะ
“เห้ย สึโยชิ ไม่ออกความเห็นแบบนี้มันเสียมารยาทนา”
ทาคุมิพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเมินคุณซาโกะต่อไป แต่จู่ๆก็มีแขนล่ำๆหนาๆสอดมาใต้แขนของผม แล้วดึงเอาตัวผมขึ้นจากโต๊ะ
คนที่ยกตัวผมอย่างกับลูกแมวแบบนี้ก็คือเจ้าทาคุมินั่นเอง
ผมถูกบังคับให้มองใบหน้าที่เปลี่ยนไปของคุณซาโกะตรงๆ จนถึงเมื่อวานเธอยังมีบรรยากาศแบบอ่อนโยนสบายๆอยู่เลย แต่ตอนนี้บรรยากาศพวกนั้นกลับหายไปหมด แลกกับบรรยากาศที่คล้ายๆกับเด็กแทน
แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆก็น่ารักโฮกเลยคร้าบบบ
“ตัดเยอะไปจนดูแปลกเลยใช่ไหมล่ะ? เห็นด้วยรึเปล่า สึโยชิคุง”
ผมไม่มีทางคิดว่าแปลกอยู่แล้ว แต่ช่างน่าเศร้าที่ผมไม่กล้าพอที่จะตอบแบบซื่อตรงได้ แล้วพอผมนิ่งเงียบ คุณซาโกะก็ทำหน้ามุ่ยใส่
“เฮ…ไม่แม้แต่จะออกความเห็นเหรอเนี่ย? น่าอายจัง ทั้งที่ฉันเตรียมตัวเตรียมใจตัดมาแท้ๆ”
นี่เค้าคิดจะแกล้งผมด้วยกริยาขี้งอนสุดน่ารักนั้นรึไง เมื่อกี้เกือบจะพูดโพล่งว่า’น่ารักโฮกเลยครับ’ไปแล้วนะ
“ผมคิดว่าหน้าม้ามันดูแปลกนิดหน่อยน่ะ”
“ใช่ม้า?!”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง คุณซาโกะดูจะมีความสุขกับคำตอบนั้นมาก ปกติมันต้องรู้สึกเสียใจไม่ใช่เหรอ?
“นี่ สึโยชิคุงก็เห็นด้วยเนอะ เนอะ?”
ดูเหมือนคุณซาโกะจะมีแผนการที่จะถามผมไปเรื่อย ๆจนกว่าผมจะตอบ แล้วต่อให้ผมอยากหนี ก็ดันโดนทาคุมิล็อคตัวอยู่อีก แล้วทำไมคุณซาโกะถึงตัดผมล่ะ? ทำไมถึงอยากฟังความเห็นของผมถึงขนาดนั้น? เป็นการลงโทษที่ปฏิเสธไปเหรอ? หรือทั้งหมดนี่เป็นความผิดของผม? ผมไม่รู้เลยว่าคุณซาโกะคิดอะไรอยู่ และต่อให้มานั่งคิดก็คงทำหัวผมระเบิดแน่
“อ๊ะ”
ในจังหวะวิกฤตินั้นเองเสียงออดก็ดังขึ้นมาแล้วอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องส่วนพวกเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆก็กลับไปนั่งที่กัน คุณซาโกะทำหน้าไม่พอใจแล้วกลับไปนั่งที่เช่นกัน ทางด้านทาคุมิเองก็ถอนหายใจก่อนจะปล่อยตัวผม ตั้งแต่ปฏิเสธคุณซาโกะไป นึกว่าเธอจะไม่มาคุยกับผมอีกซะแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้คุณซาโกะก็ดูอุกอาจกว่าเมื่อก่อนซะอีก สับสนจะตายอยู่แล้ว และจากระยะนี้ผมได้ยินเสียงทาคุมิกระซิบมา
“ไปปฏิเสธคนเขามาแท้ๆ ไหงดูสนิทกันจังล่ะนั่น?”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน”
ต่อจากนี้คุณซาโกะจะเข้าหาผมอีกเรื่อยๆเลยรึเปล่านะ? บอกไม่ได้เลยว่าตัวเองดีใจหรือกลัวกันแน่ แต่อย่างน้อย ถ้าเจออะไรแบบนั้นอีกคงไม่ดีต่อใจผมแน่ๆ คงได้แต่ภาวนาว่าต่อจากนี้ขอให้พวกเราเป็นได้แค่เพื่อนกันแล้วล่ะ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 13 พฤษภาคม 29, 2022
- ตอนที่ 12 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 11 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 10 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 9 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 8: ผมก็อยากจะเป็นเหมือนกับเธอนะ เมษายน 16, 2022
- ตอนที่ 7: ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ? เมษายน 10, 2022
- ตอนที่ 6: คุณซาโกะอยากจะคุยด้วย? เมษายน 6, 2022
- ตอนที่ 5: ความมั่นใจ เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 4: อร่อยมั้ย? มีนาคม 19, 2022
- ตอนที่ 3: แล้วชอบกระโปรงแบบไหนเหรอ? มีนาคม 15, 2022
- ตอนที่ 2: ฉันดูเป็นยังไงบ้าง? มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 1: เพราะเธอสมบูรณ์แบบเกินไป มีนาคม 11, 2022
MANGA DISCUSSION