ตอนที่ 1: เพราะเธอสมบูรณ์แบบเกินไป
“…สึโยชิคุง…ฉันมีเรื่องที่อยากจะบอกน่ะ…”
สาวงามที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมกำลังจับปกคอเสื้อของตัวเองพร้อมจ้องมองมาที่ผม
“สึโยชิ ฮารุคุง…ฉันชอบคุณค่ะ”
เสียงของเธอสั่นเครือ คงจะเป็นเพราะความประหม่า ถึงแบบนั้นเสียงของเธอก็ยังใสกังวาล คุณซาโกะ -คุณซาโกะ มาจิกะ- เป็นคนที่ขี้นชื่อเรื่องรูปร่างหน้าตา ด้วยใบหน้าที่งดงาม ดวงตาที่กลมโตไร้เดียงสา ผมสีดำยาวเงางามและรูปร่างที่สมส่วน อีกทั้งกระโปรงพลีท(กระโปรงมีจีบ)ที่ยาวอย่างพอดี ทำให้เธอมีภาพลักษณ์ที่ดูสุภาพเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งเข้ากับเธอแบบสุดๆ
อย่างไรก็ตาม รูปลักษณ์ของเจ้าตัวไม่ได้เป็นอย่างเดียวที่สมบูรณ์แบบ ด้านการเรียนก็สุดยอด ระดับที่ได้ท็อปของห้องทุกครั้ง ต่อให้เทียบกับรุ่นพี่ชั้นปีสูงกว่าของโรงเรียนมัธยมนิชิจินที่พวกเราเรียนอยู่ก็ยังถือว่าเก่ง แล้วด้านนิสัยก็ไร้ที่ติ ขนาดที่ทำให้ทุกคนชื่นชอบในตัวเธอ ผมพนันได้เลยว่าต้องมีพวกนักเรียนไม่น้อยที่แอบปิดบังความรู้สึกที่มีต่อเธอเอาไว้ ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ไม่ว่าคุณ-ไม่ว่าใครๆที่ได้พบเห็นเธอ ก็ต้องบอกว่าเธอเป็นเด็กสาวแสนสมบูรณ์แน่ๆ
แล้วเด็กสาวที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น จู่ๆเรียกผมมาหาที่ห้องเรียนไร้ผู้คน ทำเอาผมสับสนเลยล่ะ ไม่อยากพูดให้มากความ แต่เราไม่ควรจะมาเกี่ยวข้องกันเลย ไม่นึกด้วยซ้ำว่าจะได้มาคุยกันสองต่อสองแบบนี้ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่จู่ๆเธอสารภาพรักกับผมซะงั้น แล้วราวกับรอคำตอบของผมอยู่ ขาของเธอสั่นระริก แก้มก็แดงระเรื่อ ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและความลังเล ซึ่งดูจากท่าทางแล้ว ไม่น่าใช่พวกเกมลงโทษหรือเล่นตลกอะไรแน่ๆ หรือก็คือ ผมต้องให้คำตอบที่จริงจังกับเธอ
เพื่อที่จะทำให้หัวผมเย็นลงสักหน่อย ผมเลยมองออกไปนอกหน้าต่าง ไปจากคุณซาโกะ
เหมือนวันนี้จะฝนตกหนักเป็นพิเศษ สนามหญ้ากลายเป็นสีเทา และเพราะบรรยากาศแบบนี้ ทำให้ไม่ได้ยินเสียงของพวกชมรมกีฬาเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกันผมกลับได้ยินแต่เสียงสายฝนเท่านั้น แล้วผมก็ได้คำตอบ ผมเบือนหน้ากลับไปหาคุณซาโกะ และจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ
“ขอโทษครับ แต่ผมคบกับคุณซาโกะไม่ได้หรอก”
“ทำ…ไมล่ะ…” น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตาของคุณซาโกะ ราวร้องขอเหตุผล
“เพราะคุณซาโกะน่ะ มีเสน่ห์เกินไป”
“มีเสน่ห์…เกินไป…?”
“อื้ม คุณซาโกะน่ะน่ารัก ผมก็สลวย จะมองมุมไหนก็สวยไปหมด”
“…เอ๋?”
“คุณน่ะทุ่มสุดตัวกับทุกเรื่องว่าเรื่องอะไร แล้วยังเรียนเก่งอีกต่างหาก ผลการเรียนก็อยู่ระดับในระดับท็อปตลอดเลยนี่”
“กะ ก็…”
“นิสัยก็สุดแสนวิเศษ ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบในตัวคุณซาโกะกันทั้งนั้น”
“มะ ไม่ขนาด…’
“ทั้งฉลาด ใจดี แล้วก็-”
“พอได้แล้ววววว!”
คุณซาโกะเอาสองมือปิดหน้าจนมิด แต่หูของเธอยังแดงแปร๊ดจนมองจากไกลๆยังมองรู้ว่าแดง
“ถ้ายังชมฉันต่อแบบนั้นล่ะก็ ฉันได้ตัวแตกตายแน่เลย…”
“ขะ ขอโทษนะ”
อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของผม-หรือจะให้มากกว่านั้น ในมุมมองของทุกคน เธอเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกัน ผมเป็นแค่ไอ้หนุ่มดวงซวยที่ทำอะไรก็ไม่เคยดีสักอย่าง ไม่ว่าอะไรก็อยู่ในค่าเฉลี่ยทั้งหมด ถ้าจะให้แนะนำตัวเองคร่าวๆก็คือคุณชายค่าเฉลี่ยน่ะแหละ
ที่จะสื่อก็คือ คุณซาโกะกับผมน่ะอยู่คนละโลกกัน
“ผมไม่ใช่คนที่วิเศษวิโสอะไร ออกจะเฉิ่มเบ๊อะด้วยซ้ำไป เป็นพวกชนชั้นล่าง แรงก็ไม่มี พรสวรรค์อะไรก็ไม่มีอีกต่างหาก ผมมองไม่เห็นภาพที่ผมจะเคียงข้างคุณซาโกะได้เลยสักนิด คนอย่างผมน่ะไม่คู่ควรที่จะเคียงข้างคุณซาโกะผู้สมบูรณ์แบบหรอก เพราะอย่างนั้น…ผมถึงคบกับคุณไม่ได้หรอก”
ขณะที่ผมอธิบายเหตุผลอย่างใจเย็น สีหน้าต่างๆก็ได้หายไปจากใบหน้าแดงเรื่อของคุณซาโกะ จนกลายเป็นหน้าซีด เธอเริ่มเอามือออกจากใบหน้าและเริ่มร้องไห้ เธอพยายามจะคุมตัวเองให้ได้โดยการปิดริมฝีปากให้แน่น แต่น้ำตาของเธอก็ไม่อาจหยุดไหลได้
“ทั้งที่ต้องเป็นสึโยชิคุงเท่านั้นแท้ๆ…!”
เธอกระซิบด้วยเสียงอันแผ่วเบา แล้ววิ่งออกไปจากห้อง
หลังจากประตูปิด เสียงสายฝนก็กลับมาให้ผมได้ยินอีกครั้ง
“นี่น่ะดีที่สุดแล้ว”
น้ำตานั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าความรู้สึกของคุณซาโกะเป็นของจริง แต่ผมก็ยังเหยียบย่ำความรู้สึกนั้นโดยไม่แม้แต่ลังเล เพราะผมไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ถูกต้อง ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึกผิดเลย
“ถึงอย่างนั้น ทำไมเธอถึงเลือกคนอย่างเรากันนะ?”
ผมรู้ดีว่าตัวเองไม่มีอะไรพิเศษ หรือเสน่ห์อะไรเลย จะเรื่องเรียนหรือกีฬาก็ไม่เด่นสักอย่าง ไม่ได้เข้าสังกัดชมรมอะไร และไม่มีพรสวรรค์อะไร แน่นอนว่าผมไม่เคยถูกสารภาพรักมาก่อน ตัวผมนั้นเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับคุณซาโกะโดยสิ้นเชิง ผมคิดว่าพวกเราไม่เหมาะสมกันแม้แต่น้อย และถึงเราจะคบกันจริงๆ ผมก็มีแต่จะฉุดคุณซาโกะลงไปเปล่าๆ
ผมไม่เสียใจที่ปฏิเสธเธอ แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ใบหน้าของเธอ ตอนที่ร้องไห้นั้นก็ยังสลักอยู่ในหัวของผม ผมไม่คิดว่าผมจะลืมภาพนั้นได้ในเร็วๆนี้แน่ๆ และในขณะที่ผมกำลังทนทุกข์กับการตัดสินใจนั้น ผมก็เอากระเป๋ามาพาดบ่า
…
ฉันเดินกลับบ้านท่ามกลางฝนห่าใหญ่โดยไม่แม้แต่ใช้ร่ม น้ำค่อยๆซึมเข้าเสื้อกั๊กหน้าร้อนจนเริ่มหนักขึ้น เสื้อเบลาส์ที่เปียกปอนค่อยๆแนบกับผิวของฉันเรื่อยๆ แต่ต้องขอบคุณสายฝนพวกนี้ ที่ทำให้หน้าของฉันไม่เหลือคราบน้ำตาอีกแล้ว ในตอนที่ร่างกายค่อยๆเย็นขึ้น ฉันก็กลับมาถึงบ้านพอดี พอเข้าไปในบ้าน ก็พูดว่า’กลับมาแล้ว’อย่างแผ่วเบาโดยหวังว่าคุณแม่จะไม่ได้ยิน
ฉันเดินตรงไปที่ห้องน้ำพร้อมกับทิ้งคราบน้ำฝนไว้ตามทางแล้วส่องกระจก ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด สภาพดูไม่ได้เลยสักนิด ตายังคงแดงก่ำจากการเช็ดน้ำตาหลายต่อหลายครั้ง แน่นอนว่ามันดูน่ามัวหมองเหลือทน แล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรแท้ๆ แต่ขณะมองตัวเองในกระจก คำพูดของสึโยชิคุงก็แล่นเข้ามาในหัว
(คนอย่างผมน่ะไม่คู่ควรที่จะเคียงข้างคุณซาโกะผู้สมบูรณ์แบบหรอก)
เราไม่เคยคิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบเลยแท้ๆ แต่สึโยชิคุงก็ยังมองเราแบบนั้น และเพราะแบบนั้นเราถึงโดนเขาปฏิเสธ
ใจจริงแล้ว ฉันค่อนข้างชอบหน้าตาของตัวเองเลยล่ะ ไม่มีสิ่งไหนเลยที่ฉันอยากจะแก้ไข และฉันก็ขอบคุณคุณแม่ที่คลอดฉันออกมาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันนึกสาปแช่งใบหน้าของตัวเอง เพราะมันสมบูรณ์แบบมาก มากเกินไปจนความรู้สึกของฉันไม่ได้รับการตอบรับ ทันใดนั้น มือของฉันก็เอื้อมไปหยิบกรรไกรจากชั้นวางของในห้องน้ำ
ฉันรวบหน้าม้าที่เปียกโชกด้วยมือซ้าย จับกรรไกรด้วยมือขวา หลังจากลังเลอยู่สักพักฉันก็เริ่มตัด ตัด ตัด แล้วก็ตัด จนผมหน้าม้าเริ่มเละขึ้น สั้นขึ้น จนเห็นเหม่งขาวๆจั๊วะของตัวเอง และคิ้วของฉันก็เริ่มปรากฎชัด ปกติคิ้วของฉันดูยาวๆตกๆ มันทำให้ฉันรู้สึกตะหงิดๆมาโดยตลอด พวกมันไม่น่ารักเลยสักนิด
หลังจากฉันตัดหน้าม้าเสร็จ หน้าตาของฉันตอนนี้มันดูไม่ได้เลย จนถึงขั้นอยากเบือนหน้าหนีจากกระจกด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่น่าเกลียดและน่าสมเพชที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และฉันก็นึกขึ้นได้ว่านี่คือสิ่งที่ห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว ถ้าเกิดว่าว่าเขาเห็นเราเป็นแบบนี้ คำตอบจะเปลี่ยนไปไหมนะ? ถ้าเกิดสารภาพในสภาพนี้ เขาจะตอบว่ายังไงกันนะ? เขาจะตอบรับความรู้สึกของเราไหมนะ?
“เราไม่สมบูรณ์แบบแล้ว”
ฉันหยิบกรรไกรขึ้นมา ร่างกายถูกเติมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ในตอนนี้ผมสีดำยาวของฉันถูกรวบไว้ด้านหลัง ทรงผมนี้เต็มไปด้วยความเป็นผู้หญิงและเป็นทรงผมที่ฉันชอบที่สุดด้วย แต่ถึงแบบนั้น ฉันก็ใช้กรรไกรตัดมันโดยไม่ลังเล ตัด ตัด แล้วก็ตัด กรรไกรในมือขยับไปเองราวกับบรรเลงเพลง
ตัวฉันตอนนี้ในกระจกมีความมืดมนอยู่ในดวงตา แต่อย่างน้อยๆแล้วก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ช่างเป็นการแสดงออกที่ขัดแย้งกันเหลือเกิน
“มาจิกะ?! ทำอะไรน่ะลูก!”
ฉันตกใจจนหันไปมองที่ประตู แล้วก็เห็นคุณแม่กำลังรีบวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ วินาทีที่คุณแม่เห็นหน้าของฉัน สีหน้าก็เริ่มจริงจังยิ่งขึ้น ต้องสงสัยอยู่แล้วว่าทำไมฉันถึงมีสภาพแบบนี้
“มาจิกะ…ลูกร้องไห้เหรอ?”
พอถูกบอกแบบนั้นนั้น ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าลืมล้างคราบน้ำตาบนหน้า
“หนู…ไม่ได้ร้อง”
“มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นรึเปล่า?”
แม่จ้องมองมาที่ฉันอย่างตรงไปตรงมา และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรนะมาจิกะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จะอยู่กับลูกเสมอนะ”
พอได้ยินคำพูดที่อ่อนโยนและอบอุ่นแบบนั้น ฉันก็ทนเก็บความรู้สึกอะไรไม่ได้อีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างในอกได้ล้นทะลักออกมาจนหมดสิ้น
“ผู้ชายที่หนูชอบ…เขาปฏิเสธหนู…”
คุณแม่ที่รับฟังคำพูดของฉันแล้วพยักหน้าราวกับรู้อยู่แล้ว
“งั้นเหรอ นั้นคือเรื่องที่เกิดขึ้นสินะ เดี๋ยวแม่จะเตรียมอ่างอาบน้ำให้ เพราะงั้นไปอุ่นร่างกายก่อนซะนะ แล้วแม่จะตัดผมทรงใหม่น่ารักๆให้ด้วยหลังลูกอาบน้ำเสร็จ”
ด้วยความรักที่บริสุทธ์ของคุณแม่ สุดท้ายฉันก็ปล่อยกรรไกรในมือ
“แม่คะ…!”
ฉันกระโดดเข้าอ้อมแขนของคุณแม่และร้องไห้โห่ออกมาจนไม่มีน้ำตาให้ไหลออกมาอีก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ คุณแม่ก็มาจัดการทรงผมให้ ผมที่เคยยาวของฉันตอนนี้กลับกลายเป็นผมทรงบ็อบหน้าม้าไปซะแล้ว รูปลักษณ์ของฉันเปลี่ยนไปมากจนเผลอนึกว่าเป็นตัวเองไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไปแล้ว คงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะส่องกระจกได้โดยไม่ตกใจล่ะนะ หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแล้ว ฉันก็โดดลงเตียงแล้วโทรไลน์หาคุณเพื่อนทันที ทันทีที่หล่อนรับสาย ฉันก็ได้ยินเสียงสุดตื่นเต้นดังเข้ามาในหู
[ผลเป็นไงบ้างอะ?!]
คนที่ฉันคุยด้วยคือนิชิดะ มายุโกะ ฉันรู้จักหล่อนครั้งแรกตอนสอบเข้าม.ต้นโรงเรียนนิชิจิน แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตั้งแต่นั้นมา
[ถูกปฏิเสธมาน่ะ]
[……เอาจริงดิ? ขอโทษนะ]
โทนเสียงของเธอต่ำลงทันที
[ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก]
[แบบว่า ใครจะไปคิดว่าหมอนั่นจะปฏิเสธกันเล่า! ไอ้สารเลวสึโยชินั่น ฉันไม่ให้อภัยเด็ดขาด]
[ใจเย็นๆก่อนเถอะ ฉันไม่ยอมแพ้เรื่องสึโยชิคุงหรอก]
[เอ๋ เอางั้นเหรอ?]
[เขาปฏิเสธฉันเพราะว่าฉันน่ะ’สมบูรณ์แบบเกินไป]
[โห้?]
[เขาบอกว่า เพราะฉันสมบูรณ์แบบเกินไป เขาเลยมองไม่เห็นตัวเองที่ยืนเคียงข้างกับฉันได้น่ะ]
[เอาง่ายๆคือ หมอนั่นจะบอกว่าพวกเราสองคนไม่คู่ควรกันสินะ]
[เพราะงั้นฉันถึงจะเลิกสมบูรณ์แบบยังไงล่ะ]
[หืม? คือไงอะ ไม่เข้าใจ]
[ฉันหมายถึง ถ้าเกิดการที่ฉันสมบูรณ์แบบมันรบกวนใจเขาล่ะก็ งั้นฉันก็แค่เปลี่ยนซะก็สิ้นเรื่อง]
ง่ายมาก ถ้าเกิดการที่เราสมบูรณ์แบบเกิดไปมันมาขัดขวางการที่เขาจะตอบรับเรา งั้นเราก็แค่รวบรวมจุดบกพร่องทุกอย่าง และทำลายภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบนั้นซะก็พอ
[งั้นถามแบบง่ายๆนะ…แล้วจะทำยังไงให้ตัวเองเลิกสมบูรณ์แบบกันล่ะ]
[บางทีปรับเรื่องบุคลิกคงจะช่วยล่ะมั้ง? ถ้าฉันแสดงเป็นเด็กผู้หญิงซุ่มซ่าม ขี้เล่น เรียนก็ไม่เก่งแล้วก็ไม่มีความเป็นผู้หญิงล่ะก็…]
[ซุ่มซ่าม ขี้เล่น เรียนไม่เก่งแล้วยังไม่มีความเป็นผู้หญิงอีก…เดี๋ยวนะ นั้นมันตรงข้ามกับเธอทุกอย่างเลยไม่ใช่รึไง! ไม่ไหวหรอกน่า!]
[แต่ฉันเหลือเวลาไม่มากแล้วนี่นา จะมามัวนั่งเลือกวิธีการไม่ได้หรอก]
[นั่น…มันก็จริงนะ แล้วเหลือเวลาอยู่อีกเท่าไรล่ะ]
[ประมาณ 2 เดือน]
แน่นอน ความรักย่อมมีเวลาจำกัด
[สองเดือนเหรอ…อารมณ์คล้ายคนป่วยที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงกำลังจะเด๊ดสะมอเร่เลยแฮะ]
ที่หล่อนพูดก็ไม่ผิดซะทีเดียว ความรักของฉันเองก็มีอายุขัย
[เพราะงั้นฉันจะทำทุกทางที่ทำได้ เพื่อที่จะได้อยู่กับสึโยชิคุง]
[เข้าใจแล้ว แบบนั้นก็สมเหตุสมผลอยู่ล่ะมั้งนะ]
[ขอบคุณนะมายุโกะ ฉันจะพยายามให้เต็มที่เลย]
ฉันอาจจะถูกปฏิเสธวันนี้ แต่ก็ยังห่างไกลจากเส้นชัยนัก ฉันจะใช้เวลาเฮือกสุดท้ายนี้ แล้วกลายเป็นคนแบบที่สึโยชิคุงชอบให้ได้ ตอนนี้รู้ถึงสิ่งที่ต้องทำแล้ว ความเจ็บปวดและอาการหายใจติดขัดจากการถูกปฏิเสธก็ทุเลาลงแล้วด้วย ความรู้สึกแน่นหน้าอกก็ลดลงไปเยอะแล้ว
รอก่อนเถอะ สึโยชิคุง ฉันจะเปลี่ยนตัวเองให้ดู
Chapters
Comments
- ตอนที่ 13 พฤษภาคม 29, 2022
- ตอนที่ 12 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 11 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 10 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 9 พฤษภาคม 20, 2022
- ตอนที่ 8: ผมก็อยากจะเป็นเหมือนกับเธอนะ เมษายน 16, 2022
- ตอนที่ 7: ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ? เมษายน 10, 2022
- ตอนที่ 6: คุณซาโกะอยากจะคุยด้วย? เมษายน 6, 2022
- ตอนที่ 5: ความมั่นใจ เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 4: อร่อยมั้ย? มีนาคม 19, 2022
- ตอนที่ 3: แล้วชอบกระโปรงแบบไหนเหรอ? มีนาคม 15, 2022
- ตอนที่ 2: ฉันดูเป็นยังไงบ้าง? มีนาคม 13, 2022
- ตอนที่ 1: เพราะเธอสมบูรณ์แบบเกินไป มีนาคม 11, 2022
MANGA DISCUSSION