คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 54 เจอฉันก็จะหนี
ซ่งอี่นั่วถึงได้ถึงบริษัท พนักงานในออฟฟิศมองเธอด้วยสายตาที่มีลับลมคมใน หยุนหยุนผู้ช่วยผู้จัดการได้ลากพาเธอที่ยังไม่รู้ชัดเจนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไปยังมุมที่ไม่มีคนเห็น ค่อยๆกระซิบกับเธอ "พี่ซ่ง พี่เมิ้งน่าอิจฉาพี่ที่หัวหน้าได้เอาบัตรเชิญงานเลี้ยงให้กับพี่ ทุกที่ก็พูดถึงพี่ในเรื่องไม่ดีแบบนี้"
ซ่งอี่นั่วหัวเราะแล้วบอกว่า"มือสะอาดไม่จำเป็นที่จะต้องล้างหรอก"
หยุนหยุนได้ฟังเธอพูดแบบนี้ ก็รู้สึกโกรธแทนเธอ "คำพูดของพี่เมิ้งน่าไม่น่าฟังเอาซะเลยนะ ฉันฟังต่อไปไม่ได้แล้ว เขาบอกว่าเธอกับหัวหน้าลี่เป็นชู้กัน หัวหน้าลี่ถึงเอางานสำคัญให้กับเธอทำ หัวหน้าเสิ่นไม่ได้บ้าผู้หญิง เขาไม่มีวันจะหลงกลเธอหรอก….."
"หยุนหยุน คำพูดพวกนี้แค่ฟังก็พอแล้ว ใครพูดอะไรก็อย่าไปพูดตามเลย" ซ่งอี่นั่วขัดจังหวะเธอเอาไว้ ไม่รู้ว่าทำไม ตอนที่หยุนหยุนพูดในทางไม่ดีให้กับเสิ่นฉวนซี ในใจของเธอรู้สึกว่าไม่สบาย แม้ในใจของเธอเสิ่นฉวนซีจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นผู้ชายคนแรกที่ให้ความรักและดูแลเธอเป็นคนแรกในรอบห้าปีที่ผ่านมา เธอไม่ยอมที่จะให้คนอื่่นพูดให้เขาในทางเสียหายลับหลัง
หยุนหยุนไม่เคยเห็นเธอโกรธอย่างนี้มาก่อน ในครั้งนี้ก็ได้แต่ตกใจหวาดผวา "พี่ซ่ง ฉันไปทำงานก่อน"
ซ่งอี่นั่วได้มองฉากหลังของเธอที่เดินจากไป แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ที่นี้ที่ทำงานเหมือนกันสนามรบ เวลาเกิดอะไรที่มีผลกระทบต่อประโยชน์ของตัวเอง ก็จะเกิดอาการโกรธขึ้นมาทันที
หลังจากเวลาพักได้สิ้นสุดลง ซ่งอี่่นั่วได้โดนหนัวหน้าลี่เรียกให้หยุดอีกครั้ง หัวหน้าลี่ได้ถามเธอถึงความรู้สึกหลังจากได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเมื่อวานตอนเย็น เธอคิดไปคิดมา แค่พูดประโยคเดียวว่า "จุดสูงสุดของการทำงานเป็นคู่แข็งที่แข็งแกรง"
สายตาดำคล้ำไม่ชัดเจนของหัวหน้าลี่ได้จ้องมองมาที่เธอ "เธอมีความมั่นใจที่จะแย้งผลงานของตระกูลซ่งจากมือพวกเขาเหรอ"
"ฉันมีความมั่นใจ" ซ่งอีนั่วพูดอย่างเด็ดเดียว ตัวเธอเองเป็นคนขี้ขลาด แต่เมื่อวานตอนเย็นต่งอี๋เซวียนเดามั่วๆเอา ไม่แยกแยะว่าอะไรถูกอะไรผิด ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเสี่ยงกับเขาให้ถึงที่สุด เพียงแค่ใช้ความสามารถของเธอรับภารกิจนี้ เขาก็จะได้เห็นความสามารถของเธอ และจะไม่ต้องได้พูดไม่ดีอีกต่อไป
สายตาที่ชื่มชมของหัวหน้าลี่ ได้ยื่นมือตบที่บ่าของเธอ "เสี่ยวซ่ง ฉันดูไม่ผิดจริงๆ ภารกิจนี้ฉันไว้ใจถูกแล้วที่มอบให้เธอทำ"
ซ่งอี่นั่วได้เดินออกจากห้องประชุม ทุกคนมองเธอด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ เธอได้แต่หัวเราะ สังคมในตอนนี้ ไม่ว่าจะมีความสามารถที่เก่งแค่ไหน แต่ความสามารถนั้นอยู่กับผู้หญิง ก็จะอ่อนแอลงไป เพราะว่าพวกเขาจะมองไม่เห็นความสามารถของคุณ แต่จะเห็นแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเท่านั้น
คนอื่นจะพูดถึงเธอยังไง เธอไม่ได้สนใจอะไรเลย แค่ต่งอี๋เซวียน……. เธอถึงจะเจ็บปวด
ผ่านไปแปปเดียวก็ถึงสุดสัปดาห์ ซ่งอี่นั่วสองสามวันนี้ได้แต่ตามแก้ไขผลงานของเฮ้อตงเฉิน เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะออกแบบวาดภาพบ้านเดียวสุดหรู่อันดับหนึ่งของเมือง เมื่อสองวันก่อน เธอได้ไปเยี่ยมเสิ่นฉวนซีที่ตระกูลเสิ่น จุุดประสงค์แรกเพื่อคุยธุรกิจ อีกจุดประสงค์หนึ่งคือนำไข่มุกกับชุดสูทคืนให้กับเขา
หน้าเคาเตอร์บอกกับเธอว่า หัวหน้าเสิ่นไม่อยู่ ไปสัมมนาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงจะกลับ เธออยากจะโทรศัพท์หาเขา แต่นึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของเขา
เธอไม่เคยรบโดยไม่เตรียมตัวมาก่อน ดังนั้นได้ถือเอาโอกาสที่เสิ่นฉวนซีไปสัมมนา เธอได้เริ่มออกแบบแก้ไขผลงาน รอเขากลับมา เธอถึงจะมีอะไรเพื่อพูดโน้มน้าวเขา
วันศุกร์ตอนบ่าย เฮ้อตงเฉินก็ได้มาที่สถานที่แก้ไขงาน ในเวลานั้นซ่งอี่นั่วได้สวมหมวกนิรภัย กำลังช่วยคนงานย้ายวัสดุแก้ไขงาน เธอได้สวมใส่เสื้อยืดสีเทาง่ายๆสบายๆ กางเกงยีนขาสั้นกับร้องเท้าผ้าใบสีขาว ขาวสะอาดเหมือนหญิงสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปด
เฮ้อตงเฉินได้เล่นหยอกล้อจากด้านหลัง เธอที่อยู่ในสถานที่นั้นไม่คิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ กลับตลกตกใจ "คุณซ่ง"
"คุณเฮ้อ คุณมาได้ยังไง ที่นี้มันลกมาก ก่อนคุณมาคุณควรโทรบอกฉันก่อน ฉันจะได้ให้พวกเขาเก็บกวาดให้สะอาด จะได้ลดการบาดเจ็บให้กับคุณได้ "ซ่งอี่นั่วรู้สึกประหลาดใจแล้วบอกได้กับเขา
"ในเมื่อคุณอยู่นี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันพาฉันเดินดูรอบๆหน่อย จะได้รายงานความคืบหน้าของการแก้ไขงาน" เฮ้อตงเฉินไม่ได้ปิดบังจุดประสงค์ที่หยอกล้อของตัวเอง ดูเหมือนว่า ในคำพูดจะไม่ได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้น
ซ่งอี่นั่วหยิบหมวกนิรภัยส่งให้กับเขา หลังจากนั้นพาเขาเดินเข้าไปยังด้านใน เดินไปด้วยรายงานความคืบหน้าการแก้ไขไปด้วย เฮ้อตงเฉินคำพูดไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่เพ่งความสนใจไปยังการฟังรายงานของเธอ
ซ่งอี่นั่วรายงานความคืบหน้าของงานเสร็จสิ้น เวลาได้เดินไปในเวลาหกโมงเย็น เฮ้อตงเฉินมองดูเหงือที่ไหลลงมาบนแก้มของเธอกับดวงตาที่เป็นประกาย "คุณซ่ง ตอนเย็นไปทานข้าวด้วยกันไหม ผมยังมีความคิดที่จะแก้ไขอีกนิดหน่อย เราจะได้กินไปด้วยแล้วคุยไปด้วย"
คำปฎิเสธที่ติดอยู่ที่ปากของซ่งอี่นั่วก็ได้กลืนกลับมาไป ลูกค้ามีความคิดใหม่ เธอจะไม่ฟังไม่ได้
เฮ้อตงเฉินได้เลือกร้านอาหารที่เงียบร้านหนึ่ง เพลงไวโอลีนในร้านอาหารฟังแล้่วสบายหู พวกเขาเดินเข้าไปในร้านอาหาร ซ่งอีนั่วได้เห็น เสิ่นฉวนซีที่นั่งอยู่ติดกับหน้าต่าง เขากำลังนำถาดสเต็กยื่นเปลี่ยนให้กับซ่งจือจิน
เฮ้อตงเฉินเห็นเธอหยุดนึ่งไป มองที่เธอด้วยความไม่เข้าใจ เห็นเธอมองเหมอไปด้านหนึ่ง เขาเลยใช้สายตากวาดตามสายตาของเธอไป ก็ได้เห็นเสิ่นฉวนซีกับซ่งจื่อจิน "พวกเธอรู้จักกันเหรอ"
"ไม่รู้จัก" ซ่งอีนั่วได้เก็บสายตาของตัวเอง ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ไม่โกรธ และก็ยังอยู่ด้านนอก ความเคยชินของเธอกับตระกูลซ่งได้ขีดเส้นไว้อย่างชัดเจนแล้ว ไม่อยากจะให้คนอื่นรู้ว่าเธอเป็นลูกคนที่สองของตระกูลซ่ง
เฮ้อตงเฉินมองที่เธออย่างมีเลศนัย หลังจากนั้นก็เดินผ่านเข้าไปทางโต๊ะของเสิ่นฉวนซี ซ่งอี่นั่วเมื่อได้เห็นก็ได้แค่เดินตามเข้าไป
"หัวหน้าเสิ่น โลกแคบจริงๆเลย พวกเราเจอกันอีกแล้ว" มือสองข้างของเฮ้อตงเฉินได้ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ท่าทางดูเป็นผู้ดีมาก
เสิ่นฉวนซีได้ว่างมีดและซ้อมลง แต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมา สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรแล้วมองที่ซ่งอี่นั่ว หลังจากนั้นก็มองไปที่เฮ้อตงเฉิน "โลกแคบจริงๆ เดินๆหมุนๆ อยากจะเจอหน้าก็ได้เจอหน้า"
"คุณเสิ่น ถ้าไม่ถือสาก็นั่งด้วยกันเถอะ" เฮ้อตงเฉินได้มองซ่งจื่อจิน ซ่งจือจินก็ได้รีบลุกขึ้นมา ยิ้มแล้วพูดว่า"จะถือสาได้อย่างไรกัน พวกเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว อี่นั่ว มานั่งข้างๆพี่สิ"
ซ่งจื่อจินฝืนยิ้ม ไม่ง่ายเลยที่เธอจะนัดเสิ่นฉวนซีออกมาข้างนอกหลังจากที่เขากลับการสัมมนา อยากจะถือโอกาสตอนเวลากินข้าว พูดโน้มน้าวให้เขาลงทุนจำนวนมากให้กับตระกูลซ่ง ใครจะไปรู้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาอีกสองคนมาทำลายแผนการที่คิดเอาไว้ของเธอ
เฮ้อตงเฉินนั่งลงไปข้างโต๊ะที่ว่างอยู่ด้านข้างของเสิ่นฉวนซีโดยไม่ขออนุญาตใคร มองพี่สาวน้องสาวที่อยู่ด้านนั้น อุทานออกไปว่า "ที่จริงแล้วคุณซ่งเป็นน้องสาวของคุณซ่งนี้เอง โลกนี้มันชั่งเล็กมากๆเลย"
ซ่งอี่นั่วนั่งอยู่ข้างๆของๆซ่งจื่อจิน เหมือนกับนั่งกันอยู่บนกองไฟ ปกติของสองคนนี้ที่เจอหน้ากันมักจะทะเลาะกันเสมอ ต้องนั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ สำหรับเธอคงคิดว่าเป็นเรื่องที่ทรมานมากมาก เธอลุกขึ้นแล้วบอกว่า "ฉันขอตัวไปทำห้องน้ำก่อนนะ"
ซ่งอี่นั่วยืนอยู่ข้างอ่างล่างมือ จ้องมองน้ำที่ไหลผ่านก๊อก ไม่รู้ว่าในใจทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจ ด้านหลังก็ได้ยินเสียง "ก๊อกแก๊ก" เธอหันกลับไปมอง ประตูของห้องน้ำนั้นโดนคนล็อคเอาไว้ และเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตู เป็นเสิ่นฉวนซีที่ออกไปสัมมนามาหนึ่งอาทิตย์
หน้าอกของซ่งอี่นั่วได้เต้นแรง ที่นี้เป็นห้องน้ำหญิง เขาบุกเข้ามาแบบนี้ เขาคิดจะทำอะไรกันนะ เธอไปปิดก๊อกน้ำด้วยการร้อนรน ก้าวข้ามเขาไปเพื่อนที่จะเปิดประตู มือพึ่งจะถึงกลอนประตู หน้าอกที่อบอุ่นก็ได้แนบเข้ามา มือที่ใหญ่ได้ประกบอยู่ด้านหลังมือของเธอ จับไว้อย่างแน่น ล่มหายใจที่พ้นออกมาอย่างช้าๆและร้อนผิดปกติข้างหูของเธอ "เจอฉันก็จะหนี จะหนีไปไหน"