คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 18 : อยู่กับฉันแล้วอึดอัดใช่ไหม?
ซ่งอีนั่วไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะถูกจ้องมองด้วยสายตาของเหล่านักธุระกิจใหญ่เช่นนี้ เมื่อกลายเป็นจุดสนใจของพวกเขา เธอก็เกิดประหม่าขึ้นมา ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างใน ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในห้องนี้ คนเดียวที่เธอที่รู้จักและถือว่าคุ้นเคยมากที่สุดก็คือเสิ่นฉวนชี เธอมองไปที่เขาเพื่อขอความช่วยเหลือ หวังให้เขาพูดอะไรบ้างเพื่อบรรเทาบรรยากาศอึดอัดนี้
เสิ่นฉวนชีบีบบุหรี่อยู่ในมือ รอบตัวเขาถูกปกคลุมไปด้วยควัน เขานั่งตัวตรงหลังพิงโซฟา เธอมองสีหน้าของเขาได้ไม่ค่อยชัด เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองมาที่เธออย่างเงียบๆ แววตาคู่นั้นลึกล้ำราวกับต้องการจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
ซ่งอีนั่วคิดไม่ถึงว่าเขาจะ ‘เห็นคนตายแล้วยังไม่ช่วย’ แบบนี้ เธอเริ่มโกรธขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เธอเกาศีรษะเบาๆ ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อ พูดขึ้นอย่างเขินอาย “เอ่อ ฉันมาเอากระเป๋าค่ะ มารบกวนเวลาปาร์ตี้ของพวกคุณ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แล้วฉันจะออกไปทันที”
ปี้หยุนเทาเริ่มกังวลเมื่อเห็นเสิ่นฉวนชีเมินเฉยต่อซ่งอีนั่ว และยังไม่แนะนำเธอให้ทุกคนรู้จัก เขายังเชื่อว่าทั้งคู่ต้องทะเลาะกันอยู่แน่ๆ เขาขยิบตาให้ซ่งอีนั่วจนตาเป็นตะคริว แต่เธอก็ยังไม่สนใจ
เมื่อเธอเดินเข้าไปหาเสิ่นฉวนชี ปี้หยุนเทาก็กลายเป็นผู้สร้างสันติทันที “พี่สะใภ้ กว่าพวกเราจะได้เจอพี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ อย่าเพิ่งไปเลย พี่สี่มีอะไรจะคุยกับพี่น่ะ”
อีกทั้งสามคนมองหน้ากัน เมื่อมองหน้าเสิ่นฉวนชีอีกครั้งก็เห็นว่าเขาหน้าดำคร่ำเครียดราวกับก้นหม้อ จึงรู้ว่าหนุ่มสาวทั้งคู่ต้องกำลังทะเลาะกันอยู่แน่ ไม่แปลกใจตอนที่เล่นไพ่อยู่เสิ่นฉวนชีก็เอาแต่เหม่อลอย ที่แท้ก็กำลังทำสงครามกันอยู่นี่เอง
“คุณอย่าเรียกแบบนั้นเลยค่ะ ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของคุณ” ซ่งอีนั่วพูดความจริงออกไป เธอไม่อาจปล่อยให้พวกเขาเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเสิ่นฉวนชีผิดไปได้
แต่เธอกลับไม่รู้ว่าคำพูดที่เธอเพิ่งพูดไปนั้น ไม่เพียงล้มเหลวในการชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเสิ่นฉวนชี แต่มันกลับยิ่งทำให้พวกเขาเข้าใจผิดมากขึ้น ดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงการทะเลาะกันธรรมดา แต่ถึงขั้นต้องหย่าร้างกัน
ว่ากันว่าขุนนางผู้ซื่อสัตย์ก็ยากที่จะตัดสินเรื่องภายในครอบครัวได้ เยว่จิงตาไวมือไวรีบดึงปี้หยุนเทาเข้ามาถามไถ่ มองไปที่เขาแล้วส่ายหัว
ซ่งอีนั่วเดินไปข้างๆ เสิ่นฉวนชี เธอไม่เห็นกระเป๋าของตัวเอง เมื่อกำลังจะเอ่ยถาม จู่ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกเขาคว้าไว้ เขาออกแรงเพียงเล็กน้อยเธอก็ล้มลงไปนั่งอยู่ข้างๆ เขาแล้ว เธอรีบลุกขึ้น แต่ฝ่ามือใหญ่โอบเอวเธอไว้แน่น เธอจึงเคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้
กลิ่นลมหายใจผสมกับกลิ่นบุหรี่ใหม่ๆ โอบล้อมเธอไว้ทันที ซ่งอีนั่วตัวแข็งทื่อ เอื้อมมือไปผลักเขาออกโดยอัตโนมัติ
“อยู่กับฉันแล้วอึดอัดงั้นเหรอ อืม?” ทันใดนั้นเสิ่นฉวนชีก็กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเธอ แม้ว่าน้ำเสียงจะแผ่วเบา แต่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนในห้องได้ยินอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ลมหายใจร้อนรดลงมาที่ใบหูเธอ ซ่งอีนั่วตัวสั่นเทา ใบหูของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ความโกรธและความอับอายผุดขึ้นมาในใจ เธอขัดขืนอย่างหนัก แต่ไม่ว่าจะต่อต้านอย่างไร เขาก็ไม่ไหวติง แต่กลับจับเธอไว้แน่นยิ่งขึ้น
“ปล่อยฉัน!” ซ่งอีนั่วคำรามเสียงต่ำ แบบนี้ยิ่งจะทำให้พวกเขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่ เธอเงยหน้ามองเขา เขาก็จ้องมองเธอเช่นกัน
สีหน้าของเสิ่นฉวนชียังนิ่งสงบเหมือนเคย แววตาที่มองเธอช่างซับซ้อน ราวกับว่าที่พวกเขากอดกันอยู่แบบนี้ไม่ได้ผิดอะไร ซ่งอีนั่วหวาดกลัวจนใจเต้นผิดจังหวะ เขาใจกล้ากว่าที่คิด ถ้าให้เพื่อนเขารู้ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาคือคุณอาและหลานสะใภ้กัน แล้วหลังจากนี้เธอจะกล้าพบหน้าผู้คนได้อย่างไร?
ซ่งอีนั่วครุ่นคิด และพยายามดิ้นรนอย่างหนัก
เสิ่นฉวนชีเหลือบมองดูคนทั้งสี่ที่กำลังรับชมอยู่อย่างสนุกสนาน เขาเกาหูเธอ ก่อนจะใช้คำพูดคุกคาม “ถ้าเธอดิ้นอีก ฉันจะจูบเธอต่อหน้าทุกคน”