คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 17 : รักมากกว่าที่พูดไป
ซ่งอีนั่วคิดว่าพนักงานเข้าใจผิด จึงกำลังจะอธิบาย แต่เพียงแค่เปิดปาก ก็เห็นเสิ่นฉวนชีเดินออกมาจากข้างในห้อง เขาสวนเสื้อเชิ้ตสีขาวพับครึ่งแขน ล่วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างสบายๆ แสงสลัวจากโคมไฟติดผนังห้องโถงตกกระทบลงมาบนไหล่ของเขา ราวกับว่าถูกปกคลุมด้วยแสงสว่างบางๆ และใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ พลางจ้องมองมาที่เธอ
ซ่งอีนั่วที่กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่จู่ๆ ก็ลืมว่าตนเองกำลังจะพูดอะไร
เมื่อเสิ่นฉวนชีกวาดสายตาไปที่พนักงาน เขาก็เดินจากออกไปทันที
ณ ประตูห้อง ซ่งอีนั่วและเสิ่นฉวนชีต่างฝ่ายต่างยืนจ้องหน้ากันและกัน เธอรู้สึกว่าเขามีอะไรผิดแปลกไป โดยเฉพาะสายตาคู่นั้นที่เขามองเธอ มันช่างดูซับซ้อน เป็นความรู้สึกที่อธิบายออกมาไม่ได้ ไม่ใช่สายตาที่ผู้ใหญ่มองเด็กอย่างเธอ แต่เป็นสายตาที่ชายหนุ่มใช้มองหญิงสาว
“พี่สี่ พี่สะใภ้มาแล้วเหรอ? รีบพาเธอมาให้ทุกคนรู้จักเร็ว” ทันใดนั้นเสียงที่ดูตื่นเต้นหน่อยๆ ก็ดังออกมาจากข้างในห้อง ทำลายความเงียบระหว่างพวกเขาทั้งคู่
เสิ่นฉวนชีจึงเอ่ยตอบกลับไป “รีบอะไรหนักหนา” ข้างในไม่มีเสียงตอบกลับมา เขาจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วพูดกับเธอว่า “เข้ามาสิ”
ซ่งอีนั่วถูฝ่ามือไปมาอย่างประหม่า คนในห้องเข้าใจผิดว่าเธอเป็นใคร เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้กับเสิ่นฉวนชี และก็ไม่อยากไปสังสรรค์กับเสิ่นฉวนชีและเพื่อนๆ ด้วย “งั้น พี่เขยรบกวนคุณช่วยเอากระเป๋ามาให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่อยากเข้าไปข้างใน”
สีหน้าอ่อนโยนของเสิ่นฉวนชีกลายเป็นเย็นชาทันที บรรยากาศรอบตัวก็ดูกดดันยิ่งขึ้น เขาพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “จะเข้าไม่เข้าก็แล้วแต่คุณ” แล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปข้างใน
ซ่งอีนั่วไม่รู้ว่าตัวเองไปยั่วโมโหเขาตรงไหน เธอรออยู่ที่หน้าประตูสักพัก แต่ก็ไม่เห็นเขาเดินออกมาสักที ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธเธอเข้าจริงๆแล้ว แต่เขาจะโกรธเธอเรื่องอะไรล่ะ?
เธอยืนอยู่หน้าประตู จะเข้าก็ไม่เข้าจะไปก็ไม่ไป เธอตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาดเดินออกมาจากข้างในห้อง เมื่อเขาเห็นเธอ ก็เหมือนกับแมลงวันได้เจอเนื้อก้อนโต เขารีบเข้ามาต้อนรับเธอย่างกระตือรือร้น “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พี่สี่นี่พี่ซ่อนไว้ซะดีเลยนะ พวกเราเฝ้ารอมาตั้งนาน ในที่สุดก็หวังว่าเขาจะเต็มใจพาคุณออกมาให้เราได้เจอบ้าง มาเร็ว เข้าไปข้างในกัน”
ซ่งอีนั่วขมวดคิ้ว เกือบหนึ่งปีแล้วที่เสิ่นฉวนชีและซ่งจื่อจินแต่งงานกัน เขายังไม่พาเธอมาแนะนำกับเพื่อนๆ เขาอีกงั้นเหรอ?
เมื่อปี้หยุนเทาเห็นเธอขมวดคิ้ว เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่พี่สี่เข้าไปข้างในสีหน้าเขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์ เขาคิดในใจว่า ทั้งคู่อาจจะทะเลาะกันอยู่ก็ได้? เขากลอกตาไปมา ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างออก เขายิ้ม “พี่สะใภ้ บุคคลิกภายนอกพี่สี่แกก็เงียบขรึมแบบนี้แหละ เขาเป็นคนประเภทรักมากกว่าที่พูดน่ะ ตอนที่พี่ยังมาไม่ถึง เขาก็เอาแต่ดูนาฬิกาและดูโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ ปกติพี่สี่เขาจะไม่ใช่คนที่อยู่ไม่นิ่งแบบนี้”
เมื่อรู้ว่าเขากำลังเข้าใจผิด ซ่งอีนั่วจึงรีบอธิบาย “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ใช่…”
“ผมไม่ได้เข้าใจผิด พี่สี่เหม่อลอยเพราะพี่ยังไม่มา พี่สะใภ้เข้าไปหน่อยนะ ออดอ้อนพี่สี่เบาๆ อ่อนโยนกับเขาสักนิด ผมรับปากว่าเขาจะไม่โกรธ ได้โปรดเถอะนะพี่สะใภ้ เวลาที่พี่สี่โกรธเขาดุร้ายมากเลยนะ” ปี้หยุนเทาโค้งคำนับ
ซ่งอีนั่วยากจะปฎิเสธต่อความรักอันแรงกล้านี้ เธอคิดถึงกระเป๋าของตัวเองที่อยู่กับเสิ่นฉวนชีข้างในนั้น จึงได้แต่กัดฟันฟืนเดินเข้าไป
ภายในห้องสว่างเจิดจ้า ซ่งอีนั่วมองเห็นเสิ่นฉวนชีนั่งอยู่บนโซฟาข้างหน้าต่าง และมีคนอีกสามคนนั่งอยู่ตรงข้ามเขา พวกเขาดูสนิมสนมกันมาก หน้าตาราศีจับของพวกเขาทั้งหมดมักจะปรากฎตามข่าวเศรษฐกิจการเงินอยู่บ่อยครั้ง
ทันทีที่เธอเดินเข้ามา สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอ