คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 16 : เด็กดี เรียกพี่สี่สิ
เมื่อขับรถออกมาได้สักพัก เสียงเพลงที่ไม่ค่อยเข้ากับสถานที่ก็ดังขึ้นมาภายในรถ
“……ไม่เคยคิดว่าเธอจะรังเกียจ อะไรที่เป็นเธอฉันล้วนต้องการ มีเธอทุกวันช่างสดใหม่ มีเธอแสงตะวันยิ่งสว่าง มีเธอค่ำคืนไม่มืดมิด เธอคือเมฆขาวฉันคือฟ้าคราม……”
เสิ่นฉวนชีมองดูกระเป๋าบนที่นั่งข้างคนขับทันที เสียงเพลงดังมาจากข้างในกระเป๋า เขาจอดรถไว้ริมถนน หยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วรูดซิบเปิดออก เสียงเพลงยังดังไม่หยุด “เธอผู้เป็นดั่งแอปเปิ้ลน้อยของฉัน รักที่ให้กันเท่าไรก็ไม่พอ……”
เสิ่นฉวนชีเม้มปากเล็กน้อย เพลงตลกๆ แบบนี้ มันเข้ากันดีกับเธอ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดรับสาย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงของซ่งอีนั่วก็ดังออกมาจากปลายสายทันที หลังจากพูดจบเธอก็เหนื่อยหอบ เห็นได้ชัดว่าร้อนใจมากแค่ไหน
“คุณหนูซ่งไม่เสนอราคามาก่อนดูละครับ ทำให้ผมพอใจ แล้วผมจะคืนกระเป๋าให้” เสิ่นฉวนชีตอบอย่างใจเย็น
ซ่งอีนั่วไม่เคยคุยโทรศัพท์กับเสิ่นฉวนชี แม้ว่าจะพูดคุยกันเพียงไม่กี่ครั้ง นับจำนวนครั้งจากนิ้วมือก็ยังได้ แต่เมื่อเสิ่นฉวนชีเปิดปากพูด เธอก็ฟังออกทันทีว่าเป็นเสียงของเขา “พี่เขย?”
“เด็กดี เรียกพี่สี่สิ” เสิ่นฉวนชีพูดแก้ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“……”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำช่างดึงดูดราวกับแม่เหล็ก หูของเธอคันขึ้นมาอีกครั้งอย่างแปลกประหลาด เธอจึงเปลี่ยนข้างคุยโทรศัพท์ ยกอีกมือขึ้นเกาหูอีกข้าง แล้วเอ่ยถามอย่างลังเล “แล้ว…กระเป๋าของฉันอยู่ที่ไหนคะ”
“อยากได้คืนไหม?” นิ้วเรียวยาวของเสิ่นฉวนชีลูบไล้ไปบนกระเป๋าของเธอเบาๆ พลางพูดหยอกล้อเธออย่างอารมณ์ดี
ไร้สาระอยู่ได้! ซ่งอีนั่วพึมพำในใจอย่างอดไม่ได้ แต่ใบหน้ากลับปรากฎรอยยิ้ม “พี่เขยอยู่ที่บริษัทใช่ไหมคะ ฉันจะไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ”
“น่าเสียดายจริงๆ ฉันไม่ได้อยู่ที่บริษัทน่ะสิ” น้ำเสียงของเสิ่นฉวนชีไม่ได้ดูเสียใจเลยแม้แต่น้อย “แต่…”
ซ่งอีนั่วรีบร้อนเอ่ยถามขึ้น “แต่อะไรคะ?”
“คืนนี้ฉันมีงานสังสรรค์ที่คลับส่วนตัวจินไห่ไถ เธอไปหาฉันที่นั้น ตามนี้นะ” เสิ่นฉวนชีพูดจบก็วางสายไป ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฎิเสธเลยสักนิด
“ฮัลโหล?” เสียงดี๊ดดังออกมาจากโทรศัพท์ ซ่งอีนั่วจ้องมองหูโทรศัพท์ด้วยความหดหู่ใจ
เสิ่นฉวนชีใส่โทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋า นิ้วมือของเขาบังเอิญไปสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่าง เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหยิบมันออกมา มันคือกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินทรงสี่เหลี่ยม เมื่อเปิดออกดูมีดอกกุหลาบสีแดงแห้งๆ นอนแน่นิ่งอยู่ด้านใน ดอกกุหลาบสีแดงยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างดี ด้านล่างกุหลาบสีแดงดอกนั้นมีการ์ดใบหนึ่งวางอยู่ พร้อมกับลายมือสวยๆ ที่เขียนไว้ด้านบนการ์ด
จู่ๆ สีหน้าของเสิ่นฉวนชีก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที
จินไห่ไถคลับเป็นคลับส่วนตัวระดับสูงสุดในเมืองถงเฉิง แขกที่มาที่นี่ได้ต้องรวยมากๆ ต้องขอบคุณความร่ำรวยของถังโย่วหนาน ซ่งอีนั่วรู้จักสถานที่แห่งนี้ แต่ไม่เคยย่างกรายมาสักครั้ง เพราะที่นี่คือสรวงวรรค์ของพวกผู้ชาย
เธอนั่งแท็กซี่มายังที่แห่งนี้ สถานบันเทิงยามค่ำคืนของจินไห่ไถเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เธอเดินไปมาอยู่ด้านนอกคลับสักพัก ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าเดินไปที่ประตูทางเข้า เพราะชุดที่ใส่มาเธอคิดว่าจะถูกไล่ออกไปซะแล้ว แต่พอเธอบอกว่ามาหาเสิ่นฉวนชี อีกฝ่ายก็พาเธอเดินเข้าไปยังด้านในทันที
ภายในจินไห่ไถคลับเปรียบเสมือนพระราชวังแวร์ซายเล็กๆ เจิดจรัสไปทั่วทุกที่ ซ่งอีนั่วเดินตามพนักงานไปอย่างใจจดใจจ่อ จู่ๆ เธอก็เกิดประหม่าขึ้นมา เมื่อกำลังจะหันหลังกลับและเดินออกไป พนักงานก็หยุดที่หน้าห้องพิเศษห้องหนึ่งซะก่อน
พนักงานบอกให้เธอรอสักครู่ เขาผลักประตูเข้าไปด้านใน เพียงไม่กี่นาทีเขาก็เดินออกมา แล้วพูดกับเธออย่างสุภาพ “คุณนายซ่ง ท่านประธานเสิ่นเชิญคุณเข้าไปด้านในครับ”