คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 5 คนที่โดนนอกใจคือหนู
ซ่งอีนั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความเจ็บปวด และพูดเสียงสั่นๆ “แม่ หนูก็เป็นลูกของแม่นะ ตอนที่แม่โทรมาถามหนู แม่เคยคิดถึงความรู้สึกหนูไหม ตอนนี้คนที่ถูกนอกใจคือหนู”
ปลายสายเงียบไปหลายวิ จากนั้นน้ำเสียงของคุณนายซ่งก็ดุร้ายกว่าเดิม “คนที่โดนนอกใจหรอ มียางอายบ้างมั้ย ถ้าแกคุมผัวตัวเองได้ เขาจะนอกใจมั้ย ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าแกตั้งใจรึเปล่า เห็นว่าพี่ตัวเองแต่งงานได้ดี มีความสุขกว่าตัวเอง แกเลยใช้วิธีนี้มาทำลายการแต่งงานของพี่สาว”
“แม่!” ซ่งอีนั่วกรีดร้องออกมาทันทีที่ได้ยินความคิดข้างๆคูๆของคุณนายซ่ง และในที่สุดน้ำตาที่กลั้นมานานก็ไหลออกมา เธอตัดสาย และนั่งลงสะอื้นบนทางเดินอย่างหมดแรง ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าซ่งจื่อจินจะทำผิดขนาดไหน แม่ก็หาเหตุผลมาแก้ตัวให้เธอได้เสมอ แต่กับเธอ แม้จะเรียนดี โดดเด่นแค่ไหน แม่ก็มักหาข้อเสียมาทำลายเธอได้เสมอ
ห้าปีก่อน ก่อนที่เธอกับถังโย่วหนานจะแต่งงานกันหนึ่งคืน ตอนแรกสิ่งนั้นเป็นฝันร้ายของซ่งจื่อจิน แต่มันกลับถูกทำให้เป็นฝันร้ายของเธอ ผู้ชายในความมืดคนนั้นพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป และเพราะอย่างนี้ หลังจากแต่งงานกับเขามาห้าปี เขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลย
ค่าที่เธอต้องเสียให้กับความเจ็บปวดในคืนนั้น เพียงแค่คิดก็ทำให้เธอปวดไปทั้งใจ
เธอคิดว่าถ้าเธอช่วยซ่งจื่อจิน แม่จะดีกับเธอเหมือนที่ดีกับซ่งจื่อจิน แต่เมื่อเธอรอดพ้นจากปากเสือกลับมาถึงบ้าน แม่กลับบอกเธอว่าถ้าจะโทษก็ให้โทษตัวเอง
เธอรู้ว่าแม่ไม่รักเธอ และออกจะเกลียดเลยด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่เคยรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร เธอก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แม่คลอดออกมาเหมือนกัน ทำไมแม่ถึงโหดร้ายกับเธอขนาดนี้
และในที่สุดเธอก็ได้รู้
“ประธานเสิ่น ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนจะเป็นหลานสะใภ้ของคุณครับ” เหล่าหวังคนขับรถมองไปที่นอกกระจก และเห็นซ่งอีนั่วนั่งยองๆร้องไห้อยู่บนทางเดินอย่างน่าสงสาร
ผู้หญิงคนนี้เจอทีไรก็มักจะเย็นชา เหมือนกับตอนที่ประธานเสิ่นส่งความรู้สึกให้เขาไม่มีผิด ทำให้เขารู้สึกได้อย่างลึกซึ้งมาก
เสิ่นเฉินชีเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ และมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะเห็นซ่งอีนั่วนั่งอยู่ที่ทางเดินร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ร้องไห้แล้วดูเหมือนหมาน้อยโดนเจ้าของทิ้งไม่มีผิด ทำให้คนสงสารมาก
เขาอยากจะเอาหมาน้อยตัวนี้กลับไปด้วย แต่ว่า…
“ไม่ต้องจอด ขับต่อไป” เสิ่นเฉินชีดึงสายตากลับมามองไปที่หนังสือพิมพ์เหมือนเดิม แต่มองไปนานมาก ตาของเขาก็ไม่ได้ขยับอ่านตามเลย
เหล่าหวังเปลี่ยนเท้าจากที่วางอยู่ตรงแป้นเบรคกลับมาอยู่ตรงคันเร่งอย่างรวดเร็ว รถมายบัคสีดำขับผ่านซ่งอีนั่วไป เขาเหล่ตามองเธอที่ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ ก่อนจะพูดอย่างสงสัย “ประธานเสิ่น คุณหนูซ่งร้องไห้จนผมสงสารไปหมด”
เสิ่นเฉินชีขมวดคิ้ว เหล่าหวังอยู่ข้างเขามาหลายปี เขาเคยมีความเห็นใจอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “นายคิดว่าคนวัยอาอย่างฉัน ไปเป็นห่วงหลานสะใภ้นั่นมันเหมาะสมหรอ”
เหล่าหวังคิด คุณอย่ามาแกล้งทำ มีใครไม่รู้บ้างว่าคุณเป็นคนไม่สนใจโลก เขาค่อยๆพูดว่า “คุณพูดก็มีเหตุผล แค่ถ้าเกิดคุณหนูคิดไม่ตก แล้วรถแถวนี้ก็เยอะ นักซิ่งก็เยอะ….”
เสิ่นเฉินชีคิดตามคำพูดของเหล่าหวัง พลางมองกระจกหลัง ซ่งอีนั่วกำลังลุกขึ้นมา ทำท่าเหมือนพร้อมจะวิ่งเข้าไปให้รถชนตัวเองตายได้ทุกเมื่อ เขารีบเก็บหนังสือพิมพ์ และพูดเสียงเข้ม “เหล่าหวัง ขับรถกลับไป”
เหล่าหวังรีบจอดรถข้างทาง กำลังบอกว่าอย่าล้อเล่น แต่เสิ่นเฉินชีกลับลงรถ และวิ่งไปไกลกว่าหลายสิบเมตรแล้ว