คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 15 : รังแกเด็กแบบนี้ได้อย่างไร?
ซ่งอีนั่วทั้งอับอายทั้งโมโห ใบหูยังชาจากลมหายใจอุ่นๆ ที่เขาหายใจรดลงมา เมื่อตอนที่เสิ่นฉวนชีขยับเข้ามาใกล้ หัวใจของเธอยิ่งเต้นเร็วขึ้น และยิ่งคำพูดเหิมเกริมของเขานั้นอีก ยิ่งทำให้จิตใจเธอว้าวุ่น
เสิ่นฉวนชีเงยหน้าขึ้นมองเธอ วันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีเทา ทำให้ใบหน้าเธอดูสะอาดบริสุทธิ์และงดงาม ผมยาวรวบมัดขึ้นเป็นหางม้า เมื่อเคลื่อนไหวยิ่งทำให้วาดเส้นสลวยงดงามอยู่กลางอากาศ ดวงตาไม่ใหญ่มาก แต่ดำและเป็นประกาย พวงแก้มถูกย้อมด้วยสีแดงจางๆ
เมื่อเปรียบเทียบลักษณะเมื่อครู่และลักษณะที่ตายซะยังดีกว่าอยู่ในตอนนี้ เธอโกรธจนหน้าดำหน้าแดง พลังกำลังก็เพิ่มมากขึ้น
ซ่งอีนั่วมีเหตุผลมากมายที่จะต่อว่าเขา เขาในฐานะผู้ใหญ่กว่า จะมารังแกลวนลามคนที่เป็นน้องแบบนี้ได้อย่างไร? แต่เมื่อมองดวงตาดำขลับคู่นั้นที่คล้ายกับว่ามองทะลุเข้าไปภายในใจของคนได้ เธอก็ตัวแข็งไป
เห็นได้ชัดเจนว่าเขารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และจะไม่ขอโทษเธอสำหรับการกระทำที่ตนเองได้ทำลงไป
จะไม่พูดยั่วเธออีกงั้นเหรอ? แม้ว่าจะกลัวแค่ไหน แต่ก็คงดีกว่าถูกปฎิเสธแล้วทำให้ตัวเองต้องอับอายขายขี้หน้า
“ร้อนจริงๆ ฉันอยากกลับไปตากแอร์แล้วค่ะ” พูดจบ ซ่งอีนั่วก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วแสง ชั่วพริตตาเธอวิ่งออกไปแล้วกว่าห้าสิบเมตร
เสิ่นฉวนชียังรอคำต่อว่าจากเธอ ผลจากที่เธอเก็บกดมันเอาไว้นานเกินไป สุดท้ายกลับกระโดดหนีราวกับกระต่ายน้อย เขาตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมา ผู้หญิงคนนี้น่ารักเกินไปแล้ว ทำไมเขาไม่พบเธอก่อนหน้านี้นะ?
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือดังขึ้น เขากดรับสายในวินาทีต่อมาด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม “ฮัลโหล?”
“พี่สี่?” ปลายสายคิดไม่ถึงว่าเขาจะกดรับสายเร็ว และน้ำเสียงร่าเริ่งขนาดนี้ เขาสงสัยว่าตัวเองจะโทรผิดหรือเปล่า จึงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาดูซ้ำ เพื่อยืนยันว่าหมายเลขที่โทรออกนั้นถูกต้อง จากนั้นเขาจึงพูดต่อ “พี่สี่ พี่ไปเจอเรื่องสวยๆงามๆมาใช่ไหมล่ะ?”
“พูดมาว่ามีธุระอะไร”
อีกฝ่ายเอามือแตะจมูกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขายิ้มแล้วพูดติดตลกว่า “เคียวโกะจะกลับมาแล้ว บอกว่าจะไปปาร์ตี้กันตอนเย็น พี่แต่งงานตอนที่เธอไปต่างประเทศ เลยอยากให้พี่พาพี่สะใภ้มาด้วยทุกคนจะได้รู้จัก”
“รู้แล้ว เจอกันที่เดิม” เสิ่นฉวนชีวางสายโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นสายตาพลันหันไปเห็นกระเป๋าใบหนึ่งตกอยู่บนพื้น เขาจำได้ มันเป็นของเธอ เขาก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาถือไว้ในมือ แล้วเดินไปที่เบนท์ลีย์คอนทิเนนทิลที่จอดอยู่ริมถนน
ซ่งอีนั่ววิ่งไปได้สักพักก็หยุดหอบหายใจ เธอหวาดกลัวที่ถูกพูดจาแทะลมใส่แบบนั้น ที่เธอคิดไม่ใช่ว่าจะอีกฝ่ายจะทำร้าย แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนีตัวซุกหัวซุนออกมาขนาดนี้
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไป เธอก็เริ่มรู้สึกจั๊กจี้หูขึ้นมาอีก เธอเกาหูแล้วเดินต่อ หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เมื่อก้มมองจึงพบว่ามือทั้งสองข้างของตัวเองว่างเปล่า กระเป๋าเธอหายไป!
เธอจำได้ ตอนออกมาจากบ้านตระกูลซ่งเธอนำกระเป่าติดตัวมาด้วย เธอเริ่มสับสนไม่รู้ว่าเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ที่ไหน เธอรีบหันกลับไปมองด้านหลังตลอดทางที่เดินผ่านมา กระเป๋าหายนั้นเรื่องเล็กน้อย แต่มีของสำคัญสำหรับเธออยู่ในกระเป๋า เธอต้องกลับไปเอา
เธอหาบริเวณรอบๆ ค้นหาทุกที่ที่ควรจะหา แต่ก็ยังไม่พบ เธอยืนอยู่ข้างๆ ม้านั่ง ดวงตาแดงก่ำด้วยความวิตกกังวล ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ เธอรีบหันหลังวิ่งไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อเจอตู้โทรศัพท์สาธารณะ เธอก็รีบกดเบอร์โทรหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองทันที โทรศัพท์ดังอยู่หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะมีคนกดรับสาย เธอรีบร้อนเอ่ยขึ้น “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ ขอถามหน่อยได้ไหมคุณเจอกระเป๋าของฉันอยู่ที่ไหนคะ เพียงแค่คุณคืนกระเป๋าให้ฉัน ฉันยอมจ่ายค่าตอบแทนให้คุณค่ะ”