คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 1 ตกลงไปในน้ำ
เสียงเรียกเข้าดังฝ่าความมืดอันเงียบสงัด ซ่งอีนั่วสะดุ้งตื่นขึ้นมา และมองไปที่โทรศัพท์ข้างเตียงที่สั่นไม่หยุด ก่อนจะนวดขมับคลายความปวด พลางเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“สวัสดีครับ คุณนายถัง โทรมาจากหน่วยตรวจสอบการจราจรนะครับ รถของสามีกับพี่สาวของคุณพลัดตกลงไปในน้ำ รบกวนคุณช่วยเตรียมชุดมาสองชุด…..” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จราจรพูดอะไรต่อไปอีก ซ่งอีนั่วก็ไม่ได้ฟังเข้าหูอีกต่อไปเลย สมองของเธอยังคงวนเวียนอยู่กับประโยคนั้น รถของสามีกับพี่สาวของคุณพลัดตกลงไปในน้ำ….
ให้ตาย มันต้องรุนแรงแค่ไหน ถึงพลัดตกลงไปในน้ำได้
“ฮัลโหล คุณนายถัง คุณได้ยินที่ผมพูดมั้ย”
ซ่งอีนั่ววางโทรศัพท์ไปเงียบๆ เธอบีบโทรศัพท์แน่น ทันใดนั้นแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอก็ส่องประกายเข้ามากระทบดวงตาของเธอจนเคียงตา เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าจะมีวันนี้ แต่ทำเธอถึงยังเจ็บและเสียใจแบบนี้
กว่าซ่งอีนั่วจะมาถึงที่หน่วยตรวจสอบจราจรก็เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว เจ้าหน้าที่จราจรที่มารับเธอเป็นสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งรู้สึกเห็นใจเธอมาก “ทำไมคุณถึงเอาเสื้อผ้ามาด้วยจริงๆคะ คนเลวๆแบบนี้สมควรให้เขาจมน้ำตายไปซะ”
ซ่งอีนั่วยิ้มบางๆ พร้อมตอบอย่างแสนเศร้า “ฉันเลือกเองค่ะ”
“…..” เจ้าหน้าที่จราจรสาวมองเธออย่างไม่เข้าใจ ปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนี้ดูแปลกๆ ปกติแล้วถ้าเห็นสามีนอกใจ ผู้หญิงทุกคนต้องร้องไห้ โวยวาย และด่าทอ แต่เธอกลับนิ่งสงบสุดๆ
ซ่งอีนั่วดำเนินการทุกอย่างเสร็จ เข้าหน้าที่ก็เอาตัวถังโย่วหนานสามีของเธอกับซ่งจื่อจินพี่สาวของเธอออกมา ซ่งอีนั่วมองพวกเขาอยู่ไกลๆนานมาก ก่อนจะกำสายกระเป๋าแน่น และเดินออกไปจากหน่วย
ท่ามกลางความหนาวช่วงกลางดึก ซ่งอีนั่วยืนกำประตูรถอยู่ข้างรถตัวสั่นๆอย่างกลั้นไม่อยู่ ตอนที่เห็นพวกเขา เธอแทบจะทนไม่ไหว เข้าใจฆ่าหญิงชั่วชายเลวคู่นั้น
เธอเปิดประตู เตรียมจะเข้าไปนั่ง แต่ข้อมือก็ถูกดึงไว้ก่อน ทำให้เธอเกร็งค้างในทันที ก่อนจะค่อยๆมองตามมือเรียวนั้นขึ้นไป จนเห็นใบหน้าสวยของผู้หญิงคนนั้น เธอขมวดคิ้ว และพูดอย่างขยะแขยง “อย่าแตะต้องตัวฉัน สกปรก”
ซ่งจื่อจินไม่ได้ปล่อยมือ แต่กลับจับแน่นขึ้น เธอมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของซ่งอีนั่ว และพูดอย่างร้ายกาจ “อีนั่วอย่าโกรธสิ ฉันช่วยเธอดูแลโย่วหนาน เพื่อไม่ให้มีบ้านเล็กบ้านน้อย และยังช่วยรักษาตำแหน่งคุณนายถังของเธอให้ด้วย เธอควรจะขอบใจสิ”
ซ่งอีนั่วพูดอย่างโกรธแค้น “จะมีใครหน้าด้านได้เท่าเธออีกมั้ย เขาเป็นน้องเขยของเธอ เธอเป็นพี่สะใภ้ของเขา เธอมีหน้าไปขึ้นเตียงกับเขาได้ยังไง ถึงเธอจะไม่เห็นแก่ฉัน ก็เห็นแก่ตำแหน่งพี่สะใภ้ของตัวเองหน่อยไม่ได้หรอ”
ซ่งจื่อจินพูดอย่างไม่เห็นด้วย “เห้อ ดูพูดเข้าสิ ฉันนี่ถือว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีเลยนะ ในเมื่อเธอให้ความสุขสามีไม่ได้ ฉันในฐานะพี่สาวก็ต้องปรนนิบัติสามีแทนเธอสิ”
ซ่งอีนั่วโหรธจนตัวสั่น มืออีกข้างที่อยู่ข้างลำตัว อดไม่ได้ที่จะง้างขึ้นมาเตรียมตบ
แต่มือของเธอเพิ่งง้างมาได้ครึ่งทางก็ถูกซ่งจื่อจินสะบัดออกอย่างรุนแรง เพราะซ่งอีนั่วใส่ส้นสูง ทำให้เธอล้มลงไป ข้อศอกกระแทกกับพื้นจนถลอก และทำให้รู้สึกเจ็บจนต้องกัดฟัน หายใจเข้าลึกๆ
ซ่งจื่อจินย่อตัวลงมาอยู่ตรงหน้าของเธอ พลางยื่นมือมาบับคางเรียวไว้ “อ้อใช่สิ ไหนๆเธอก็เห็นใจพี่เขยเธอขนาดนั้นแล้ว เรามาแลกสามีกันมั้ยล่ะ อีกคนเย็นชา อีกคนไร้ความสามารถ เหมาะกันดีหนิ”
“เธอมันไร้ยางอาย” ซ่งอีนั่วสะบัดมือเธอออก เธอโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอหน้าด้านได้ขนาดนี้เลยหรอ แม้แต่ของแลกสามีก็พูดออกมาได้ ถ้าพี่เขยรู้ เขาจะเสียใจขนาดไหน
ซ่งจื่อจินลุกขึ้นมาสะบัดมือ และก้มหน้าจ้องซ่งอีนั่ว ก่อนจะแสยะยิ้มพูดอย่างพอใจ และหน้าด้าน “อีนั่ว เธอกลับไปคิดถึงข้อเสนอของฉันดีๆนะ ฉันจะรอคำตอบ”
ซ่งอีนั่วโกรธจนตัวสั่น เธอมองถังโย่วหนานที่เพิ่งออกมาจากหน่วยตรวจสอบจราจรจากไกลๆ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอมองเขาที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยไ ก่อนจะถามอย่างสงสัย “ถังโย่วหนาน ทำไมต้องเป็นเธอตลอด”
ถังโย่วหนานทำหูทวนลม ไม่คิดจะอธิบาย เขาเดินมาข้างซ่งจื่อจิน ดึงมือเธอขึ้น และพาเธอเข้าไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นก็เดินมาข้างซ่งอีนั่ว หยิบกุญแจรถที่ตกอยู่บนพื้น และเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ
ซ่งอีนั่วมีปฏิกิริยาไวมาก เธอลุกขึ้นมาจากพื้น เปิดประตูรถ และจ้องไปที่ถังโย่วหนานอย่างโมโห “บอกฉันมา ตลอดหลายปีมานี้ ในใจคุณเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่”
ถังโย่วหนานมองเธอ พลางแสยะยิ้มออกมา “อีนั่วคุณกลัวอะไรหรอ สบายใจเถอะ ไม่มีใครไปสั่นคลอนตำแหน่งคุณนายถังได้หรอก”
ซ่งอีนั่วเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เขาคิดว่าเธอแค่อยากได้ตำแหน่งคุณนายถังแค่นั้นหรอ เธอค่อยๆปล่อยประตูรถ และวินาทีต่อจากนั้น ก็ได้ยินเสียงประตูปิด ‘ปัง’ พร้อมกับรถสีดำขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ซ่งอีนั่วยืนอยู่กับที่ มองรถสีดำค่อยๆลับตาไป เธอนั่งลงยองๆอย่างอ่อนแรง ยกมือขึ้นมากอดร่างสั่นๆของตัวเอง และน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด สายลมเย็นๆของกลางดึกที่พัดมา ทำให้เธอรู้สึกราวกับล่องลอยไปในความมืดมิด
ไกลออกไป รถมายบัคสีดำจอดลงที่ข้างถนน ก่อนจะมีชายร่างสูงโปร่งออกมาจากรถ เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแลค พลางเดินทอดน่องมาหาซ่งอีนั่ว ก่อนจะใช้รองเท้าเขี่ยเธอเบาๆ “จะนั่งอยู่ตรงนี้ตลอดไปรึไง”
เสียงต่ำของผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยความขบขัน ซ่งอีนั่วเวยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่กระทบกับแสงไฟพอดี เมื่อเห็นว่าคนที่มาคือใคร เธอก็พูดติดอ่างทันที “พะ….พี่เขย ทำไมพี่ถึงอยู่นี่ล่ะคะ”
ทุกครั้งที่ซ่งอีนั่วเห็นเสิ่นฉวนชี เธอมักจะเรียกเขาไม่ค่อยถูก เขาเป็นคุณอาสี่ของถังโย่วหนาน ดังนั้นเธอก็ควรจะเรียกเขาว่าอาสี่เหมือนสามี แต่เขาดันแต่งงานกับซ่งจื่อจิน เขาจึงกลายเป็นพี่เขยเธอโดยปริยาย ดังนั้นเธอจะสับสนมากทุกครั้งที่เจอเขา
เสิ่นฉวนชีเป็นคนที่หล่อเหลาสง่างามมาก เขาค่อยๆโน้มหน้าลงมา ใช้ดวงตาคมจ้องเธออย่างลึกซึ้ง พร้อมกับพ่นลมหายใจอันน่ามัวเมาผ่านใบหน้าของเธอ ทำให้เธอหน้าแดง หูแดง ใจเต้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนต้องถอยหลังหนี
เธอก้าวถอยหลังเร็วเกินไป และเพราะนั่งยองๆจนขาชา ทำให้เธอจะล้มลงอีกครั้ง
แต่ก็มีมือใหญ่มาดึงมือสั่นๆเพราะความตกใจของเธอไว้ จากนั้นก็ใช้แรงดึงเธอขึ้นมา
ซ่งอีนั่วตกใจ หลับตาแน่นด้วยความกลัว เสียงลมพัดผ่านหูเธอไป เธอคิดว่าเธอต้องล้มลงอย่างหมดสภาพแน่ๆ แต่วินาทีถัดจากนั้น กลับมีคนดึงเธอขึ้นมา เธอเปิดเปลือกตาขึ้น ก่อนเห็นตัวเองกำลังตรงไปที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มอยู่…..