คิงส์แมน ระบบโคตรคนบ่มพยัคฆ์ทะลุโลก - ตอนที่ 47 หน่วยสืบราชการลับ คิงส์แมน
คิงส์แมน ระบบโคตรคนบ่มพยัคฆ์ทะลุโลก
ตอนที่ 47 หน่วยสืบราชการลับ คิงส์แมน
หัวหน้าของหน่วยคิงส์แมน ของ เชสเตอร์ คิง วิลเลี่ยมเคยดูหนังเรื่อง “คิงส์แมน” และรู้ว่าชายชราที่ดูใจดีคนนี้เป็นคนที่มีนิสัยโหดเหี้ยมและเขาคงต้องระวังตัวมากขึ้นถ้าเฒ่าคนนี้จะมาหาเขา
เชสเตอร์ คิง ยิ้มพลางพูดว่า “วิลเลี่ยมฉันไม่รู้ว่าเธอรู้จักเราหรือเปล่า แต่ฉันพบความคุ้นเคยได้จากสายตาของเธอ การคาดเดาของฉันถูกต้องใช่ไหม?”
เชสเตอร์ คิง หยุดพูดชั่วคราวและมองไปที่วิลเลี่ยมอย่างจริงจัง
วิลเลี่ยมย่อมด้อยกว่าทหารผ่านศึกเหล่านี้ที่ทํางานมาตลอดชีวิต แต่เขาไม่อาจคิดหาเหตุผลที่สมบูรณ์แบบพอจะแก้ตัวกับอาร์เธอร์ แน่นอนเขาไม่สามารถพูดได้ว่าฉันเคยเห็นคุณในภาพยนตร์ดังนั้น เขาจึงได้แต่นิ่งเงียบ
” ฉันคิดว่าเฮนรี่อาจจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ และเขาอาจทิ้งข้อมูลของฉันไว้ให้เธอด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ทําให้ฉันคิดว่าเธอรู้จักเราอยู่แล้วตอนที่เธอเห็นเราครั้งแรก ฉันพูดถูกใช่ไหมวิลเลี่ยม” เชสเตอร์ คิงพูดเพื่อยืนยัน
ฮ่าๆ วิลเลี่ยมรู้สึกขบขัน จู่ๆ ก็มีเหตุผลที่ดีพอเขาไม่จําเป็นต้องกังวลหรือคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อาร์เธอร์ให้เหตุผลกับเขาเอง
วิลเลี่ยมพยักหน้าให้กับเชสเตอร์ คิงพลางพูดว่า “ผมทราบว่าคุณยังมีแฮร์รี่ ฮาร์ทและผู้ฝึกสอนและเป็นฝ่ายเทคนิคเมอร์ลิน”
” อาฮะ เหมือนที่ M พูดเฮนรี่ วินสตัน เดวอนเซอร์ชายชราคนนี้ทิ้งไฟล์ลับเกี่ยวกับอังกฤษไว้ให้คุณมากมายจริงๆ”
ดวงตาที่ยิ้มของเชสเตอร์ คิงเริ่มเย็นชามองไปที่ วิลเลี่ยมราวกับเขากําลังจะแดกวิลเลี่ยม
วิลเลี่ยมรีบพูดว่า “เปล่าผมเพิ่งเห็นข้อมูลของหน่วยข่าวกรองลับคิงส์แมน เฮนรี่คิดจะจัดให้ผมเรียนที่หน่วยข่าวกรองลับคิงส์แมน ดังนั้นผมจึงได้แผนที่จะ สถาบันหน่วยข่าวกรองที่ว่าหน่ะ”
เชสเตอร์ คิง คืนรอยยิ้มและพูดว่า “ไม่น่าใช่นะ วิลเลี่ยม เดวอนเชอร์คุณกําลังโกหก เมอร์ลินเข้าร่วมกับคิงส์แมนเมื่อ 8 ปีก่อนและเฮนรี่ก็เสียชีวิตไปแล้วในตอนนั้น คุณโกหกวิลเลี่ยม”
เช็ดเข้ นี่เขาต้องถูกฆ่าตายเพราะหนัง คิดถึงหนังที่ออกมาสิบกว่าปีต่อมาเขาจะรู้ได้ไงว่าเมอร์ลินไปเข้าร่วม Kingsman ปีไหนน่ะ
เนื่องจากคําอธิบายไม่ชัดเจนวิลเลี่ยมจึงต้องหุบปากและไม่พูดอีกต่อไป เดี๋ยวแม่มจะเกินเบอร์ไปหากพูดมากกว่านี้ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกคนแก่พวกนี้ในตอนนี้
แต่วิลเลี่ยมเห็นแฮร์รี่ ฮาร์ทจากสายตาของเขา เขามองวิลลี่ต่างออกไป มันมีทั้งพอใจ ชื่นชมและก็เรื่องเอ็นดูนี่มันอะไรกันเนี่ยฉันเห็นคําว่าห่วงใยได้จากสายตาที่มองมา
วิลเลี่ยมรู้สึกแปลกเล็กน้อยเกี่ยวกับการแสดงออกของแฮร์รี่ฮาร์ท แต่เมื่อเขามองไปที่แฮร์รี่ ฮาร์ทอีกครั้งการแสดงออกของแฮร์รี่ ฮาร์ทก็กลายเป็นปกติ
สมองของวิลเลี่ยมที่เปลี่ยนไปตามระบบกําลังทํางานอย่างรวดเร็ว อาจเป็นไปได้ว่าแฮร์รี่ ฮาร์ทเคยเป็นสมาชิกของ W ตอนที่หน่วยยังอยู่ในมือของตาเขาเฮนรี่วินสตันเดวอนเชอร์ พอวิลเลี่ยมคิดได้ก็รู้สึกตกใจกับความคิดของเขา
ฉันยังจําสิ่งที่ตาของฉันพูดในจดหมายว่าวิลเลี่ยมไม่ควรไว้ใจใครเฮนรี่น่าจะคิดว่าสมาชิกของกลุ่ม W จะมาหาวิลเลี่ยม แต่หลังจากผ่านไปกว่าสิบปีไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าอดีตสมาชิกของ กลุ่ม W จะกลายเป็นอิหยัง? พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าคนพวกนี้จะพบเขาด้วยจุดประสงค์ใด
แม้ว่านี่จะเป็นโลกแห่งภาพยนตร์ แต่ก็เป็นโลกแห่งความจริงเช่นกัน วิลเลี่ยมไม่กล้าที่จะเชื่อใจใครสักคนแบบลวกๆ แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ชั่วร้ายต่อวิลเลี่ยม แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะไม่เป็นคนชั่วในอนาคต
” ช่างมัน เราได้แต่เดาว่าคุณตาเฮนรี่คนนี้จะทิ้งอะไรไว้ข้างหลังแต่เรายังไม่แน่ใจ ตอนนี้เรามั่นใจได้แล้ววิลเลี่ยมเธอเป็นคนฉลาดแบบนี้มาเกือบสิบปีแล้วและมันควรจะมีสิ่งที่เฮนรี่สอนเธอ เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเธอ ฉันไม่รู้ว่าเฮนรี่สอนอะไรเธอ แต่ฉันหวังว่าเธอจะมาที่คิงส์แมนของเราและเรียนรู้อีกครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีสําหรับเธอ”
ก็มีเรื่องดีๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ ที่เขาอยากจะให้วิลเข้าไปในสถาบันเพื่อสังเกตวิลอย่างใกล้ชิดและเขาก็ไม่อยากไปที่หน่วยสืบราชการลับคิงส์แมนเพื่อถูกทําร้าย เขามีความรู้เรื่องสายลับ เหล่าเอเจนท์ในหัวของเขาอยู่แล้ว เขาสามารถเรียนรู้อะไรก็ได้ที่เขาต้องการ ใช้ระบบสอนย่อมไม่มีแนวโน้มที่เขาจะถูกทําร้าย
วิลเลี่ยมรีบปฏิเสธ : “ไม่ครับอาเธอร์ ผมไม่มีเวลาไปที่คิงส์แมนและผมก็ไม่สนใจ สิ่งที่ผมชอบคือการหาเงิน ผมอาจทําเงินได้มากขึ้นถ้ามีเวลานั้น ถ้าเฮนรี่ไม่ต้องการให้ผมสืบทอดธุรกิจของเขา ผมก็คงไม่สนใจ ผมไม่ต้องการเป็นสายลับพิเศษ ผมไม่ได้สนใจที่จะก่อตั้งกลุ่ม W เลย เยี่ยมมากตอนนี้ไม่ใช่ของเฮนรี่แล้ว สิบปีผ่านไปนี่มันปี 90”
“อย่าโง่น่าวิลเลี่ยมเดวอนเชอร์ ฉันเดาได้ว่าเฮนรี่จะทิ้งข้อมูลไว้ให้เธอและคนอื่นๆ ก็เดาได้พวกเขาไม่ได้คุยง่ายเหมือนฉัน เธอคิดว่าเธอมีความสามารถในการปราบ 007 เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของเธอตอนนี้มันล้าหลังเกินไป สิบปีที่แล้วเทคนิคและอาวุธต่างๆ ได้เปลี่ยนไปสิ่งที่เฮนรี่สอนคุณเมื่อสิบปีก่อนในตอนนี้มันใช้ไม่ได้ ” เวลา
“และวิลเลี่ยม เธอต้องคิดด้วยว่าแม่ของเธอเป็นแค่คนธรรมดา”
เมื่อวิลเลี่ยมได้ยินเชสเตอร์ คิงใช้ลีน่าแม่ของเขามาขู่เขา บรรยากาศในบาร์ก็เปลี่ยนไปทันที ทั้งอาร์เธอร์ เชสเตอร์คิง, กาลาฮัด แฮร์รี่ฮาร์ทและเมอร์ลินต่างก็รู้สึกเหมือนว่าพวกเขากําลังถูกสิงโตหรือไม่ก็เสือจ้องมองอยู่ในระยะประชิด ขนทั่วทั้งสรรพร่างกายลุกฮือทันใด
จากที่เห็นว่าวิลเลี่ยมซึ่งยังคงเป็นเหมือนเด็กตัวโตขี้อายในที่แรก จู่ๆ ก็กลายเป็นวิญญาณชั่วร้ายและกําลังจะกลืนพวกเขาเข้าไปในคําเดียว เมอร์ลินอาจารย์ผู้สอนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจมากนักก็ก้าวถอยไปด้วยความหวาดกลัว เหงื่อออกท่วมตัว ร่างกายของเขาสั่น หอบตัวโยน ชี้ไปทางวิลเลี่ยมพลางตัวสั่นร้องมาไม่เป็นภาษา : ”คะ คะ คุณ..คุณ
เชสเตอร์ คิง กับแฮร์รี่ ฮาร์ท ก็ไม่ค่อยดีกว่ากันสักเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถอยห่างเพราะความกลัว แต่เหงื่อพวกเขาก็หลั่งออกมาไม่ต่างกับเมอร์ลิน
การกดขี่คนธรรมดาด้วยการปลดปล่อยพลังทางจิตนั้นดูจะหนักหนาเกินไป
วิลเลี่ยมบีบเค้นปล่อยพลังจิตอย่างกะทันหันพลางพูดกัดฟันใส่เชสเตอร คิงต่อไปทันทีว่า : “ไม่ว่าใครที่กล้ามาแหยมกับลีน่าผมจะฆ่าพวกมันให้เกลี้ยงและผมทําจริง อีกอย่างนะคุณเชสเตอร์ คิง…ผมไม่เชื่อว่าคุณจะรอเวลาเป็นสิบปีโดยไม่ได้สืบเรื่องผมกับลีน่าอย่างจริงใจ เฮนรี่คงต้องทิ้งบางสิ่งไว้เลยทําให้คุณรอบคอบแอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง เชสเตอร์คิงไปบอกคนที่ต้องการสร้างปัญหาให้ผมว่าอย่ามายุ่งกับผม หากไม่กลัวว่าจะทําให้ผมเป็นบ้าจนถึงขั้นไม่สนใจกฏ และความรู้สึกผิดอีกปกติแล้วผมไม่คิดจะฆ่าใคร แต่ถ้ายังมายุ่งกับลีน่าล่ะก็ผมจะฆ่าล้างตระกูลของเขาให้เหี้ยนไม่เหลือตอไว้เลย…”
จากนั้นวิลเลี่ยมก็ดึงพลังจิตเวทกลับคืนมา เชสเตอร์ คิงก็รู้สึกดีขึ้น แล้วคิงก็ถอนหายใจด้วยความหวาดกลัว “เฮนรี่สอนบ้าอะไรให้วิลเลี่ยมกันแน่ มันทําให้ฉันขยาดเขาไปหลายสิบปีเลย มันไม่เกิดขึ้นกับฉันมาก่อน
เมอร์ลินจ้องไปที่วิลเลี่ยมด้วยความหวาดผวา เมื่อครู่เขารู้สึกเหมือนกําลังจะตาย ตอนนี้เขามองไปที่ดวงตาของวิลเลี่ยมและรู้สึกกลัว เขาคิดกับตัวเองว่าถ้าไม่จําเป็นเขาไม่อยากเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้อีกแล้ว ไม่กี่วันก่อนก็ใช้มือเปล่าตัวคนเดียวเอาชนะ 007 และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารชั้นยอดสามคนพร้อมปืนโดยใช้เพียงแค่เหรียญ กุญแจและเข็มขัดเท่านั้น
แฮร์รี่ ฮาร์ทมองวิลเลี่ยมด้วยความประหลาดใจเท่าที่เขารู้ว่าเฮนรี่แสดงไม่เก่ง เขาพูดได้แค่นั้น เฮนรี่ทิ้งอะไรไว้ให้วิลเลี่ยมกันหนอขนาดทําให้เขาซ่อนตัวเป็นสิบปีภายใต้สถานการณ์ที่มีองค์กรหลายองค์กรจับตาดูเขาอยู่ เขาสามารถฝึกฝนอย่างหนักได้ยังไงภายใต้สถานการณ์แบบนั้น
เชสเตอร์ คิงซึ่งเป็นหัวหน้าของสายลับคิงส์แมนสงบลงอย่างรวดเร็วและพูดกับวิลเลี่ยมว่า : “วิลเลี่ยมวิธีที่ดีที่สุดสําหรับเธอตอนนี้คือการพิสูจน์ว่าเธอและเราอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ตราบใดที่เราคิดว่าเธอกับเราเป็นหนึ่งเดียวอย่างน้อยพวกเราก็จะไม่ดําเนินการทําอะไรกับเธอรวมไปถึงรัฐบาลอังกฤษก็จะไม่ดําเนินการกับเธอ ภารกิจนี้เป็นโอกาสที่ดีวิลเลี่ยมจะแสดงให้พวกเราทุกคนเห็นหากคุณต้องการเข้าร่วมกลุ่มคุณต้องฉลาดมากพอที่จะเข้าใจเรื่องนี้”
อ่าว มันไม่ใช่แค่ใบรับรองหรอ? มีคํากล่าวไว้เมื่อนานมาแล้วในซ้องกั๋ง* ทําในสิ่งที่ทุกคนต้องทําเพื่อที่คุณจะได้เข้าร่วม? ใครจะไม่เอา?
วิลเลี่ยมพูดกับเชสเตอร์ คิงว่า: “เฮอะ ยังไงก็เป็นธุระของผมอยู่ดีสินะ แต่ไม่ต้องห่วงเราอยู่กลุ่มเดียวกันได้อยู่แล้วอาเธอร์ ผมจะใช้บางอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ จะรับมือได้”
เชสเตอร์ คิงยิ้มพลางพูดว่า: “เยี่ยมที่สุดวิลเลี่ยม เรากําลังรอโชว์ของเธออยู่อย่าทําให้ทุกคนผิดหวังล่ะวิลเลี่ยม”
เมื่อวิลเลี่ยมได้ยินชายชราพูดว่าเขากําลังรอชมโชว์ของเขา เขาก็เสียใจ พลางคิดว่านายมันไม่ใช่ผู้พลีชีพที่ซื่อสัตย์และฉันจะฆ่าคุณเมื่อคุณทรยศ.
วิลเลี่ยมยังยิ้มและพูดว่า: “คุณจะได้เห็นอาเธอร์ บางที…คุณอาจจะประหลาดใจเมื่อเราพบกันครั้งต่อไป”
ครั้งต่อไปที่ฉันเห็นคุณฉันจะฆ่าคุณ วิลเลี่ยมแอบคิดในใจ ตอนนี้เขาได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการความมั่นคงแล้ว เขาจะตรวจสอบใครก็ตามที่เขาต้องการตรวจสอบ อย่าให้เขาพบสิ่งที่ผิดปกติละกัน หากเขาพบขึ้นมาวันนั้นคือวันโลกาวินาศของคุณ
เชสเตอร์ คิงตัวสั่นอย่างกะทันหันและเขารู้สึกขนหัวลุกเล็กน้อยในใจ แต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรสิ่งนี้ทําให้เขากังวลนิดหน่อย หลังจากทํางานเป็นเอเจนท์มาหลายปี ลางสังหรของเขาบอกว่าจะมีบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้น
เชสเตอร์ คิงจับมือกับวิลเลี่ยมเพื่ออําลาและวิลเลี่ยมจับมือกับเมอร์ลินกับแฮร์รี่ ฮาร์ท หลังจากทั้งสามออกไปแล้ววิลเลี่ยมก็เดินไปที่มุมของบาร์นั่งลงและมองไปที่โน้ตที่แฮร์รี่ ฮาร์ทอื่นให้เขาตอนเขาจับมือกัน มันบอกว่าอย่าไว้ใจใคร
แม่มเอ๊ย ต้องระดมความคิดอีกแล้ว แน่นอนฉันไม่เชื่อใครเลยไม่แม้แต่กับคุณแฮร์รี่ ฮาร์ท แล้วถ้าเหล่าสายลับเชื่อถือได้หมูแม่มก็ปีนต้นไม้ได้
*ซ้องกั๋ง หรือ Water Margin เป็นวรรณกรรมที่แต่งขึ้นปลายสมัยราชวงศ์หมิงโดย ซื้อนัยอัน เรื่องราวกล่าวถึงพี่น้องในกลุ่มผู้กล้า 108 คนในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าซ่งฮุยจงฮ่องเต้ที่รวมตัวกันปกป้องบ้านเมืองจากการกดขี่ของเหล่าขุนนางชั่ว โดยได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 4 สุดยอดวรรณกรรมอมตะของจีนร่วมกับ ไซอิ๋ว, สามก๊ก และความฝันในหอแดง