คิงส์แมน ระบบโคตรคนบ่มพยัคฆ์ทะลุโลก - ตอนที่ 36
วิลเลี่ยมพบซิการ์ของบาร์นี่คนนี้ในกระเป๋าของเขา วิลเลี่ยมเลยจุดไฟซิการ์ของเขาและสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ ในรถพลางมองไปที่นาฬิกาของเขาอย่างชิวๆ เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงวิลเลี่ยมรู้สึกได้ว่ามีคนตื่นขึ้นมาคือหยิงหยางที่ตื่นขึ้นมาก่อน เป็นอถึงจะเป็นหยิงหยางเฟยหง ฉันไม่ได้คาดหวังว่าท่านปรมาจารณ์ที่เป็นคนที่เตี้ยที่สุดจะตื่นก่อน
วิลเลี่ยมนั่งอยู่ในรถและพูดอย่างสบายๆ ว่า : “โอ้ว เป็นคุณหยิงหยางนี่เองที่ตื่นคนแรก หยิงหยางเมื่อคุณตื่นขึ้นมาแล้วก็อย่าแกล้งทําเป็นหลับเลยครับ เรามาคุยกันดีกว่า จากข้ มูลของผมบอกว่าคุณมีลูกสาวอยู่สองคนในลอสแองเจลิส คุณอยากโทรหาพวกเขาไหมครับพวกเขาจะได้ไม่กังวลเกี่ยวกับคุณ”
เมื่อได้ยินวิลเลี่ยมถึงกับเอาลูกสาวเขามาขู่ หยินหยางก็หยุด แกล้งตายทันทีแล้วรีบพูดว่า “อย่าไปยุ่งกับลูกสาวฉัน ถ้ามีอะไรก็มาหาฉันนี่” จริงๆ แล้วหยิงหยางทําได้แค่ตะโกนใส่เขามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดจากที่นี่ตอนนี้เขาทําอะไรไม่ได้
วิลเลี่ยมสวมเสื้อโค้ดผ้าคลุมหัวปิดหน้าเดินไปหาหยิงหยางพร้อมเปิดไฟล์ข้อมูลเหล่าญาติๆ ของหยิงหยางพลางบอกว่า : “จากข้อมูลผมเห็นว่าคุณจ้างพี่เลี้ยงให้ลูกสาวของคุณ มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่นะครับ เอาอย่างนี้ไหม คุณมาทํางานให้ผม ผมมีเงินให้ หรือคุณว่ายังไง?”
หยิงหยางมองไปที่ไฟล์ข้อมูลที่แสดงโปรไฟล์สมาชิกใน ครอบครัวแล้ว แม่มเมิงเถอะ แม่มสืบค้นประวัติสมาชิกใน ครอบครัวทั้งหมดของเขา รู้ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหนเรียนโรง เรียนอะไร ไอ้เช็ดแม่มเอ๊ยฉันจะทําไงดีล่ะทีนี้ ในใจหยิงหยางกังวลมาก แต่ไม่มีความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเขา
บาร์นี่เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมาเต็มที่ก็ตอนที่วิลเลี่ยมลงจากรถแล้วเดินไปหาหยิ่งหยาง เขาได้ยินว่าวิลเลี่ยมขู่เขากับครอบครัวของหยิงหยาง บาร์นี่รีบพูดว่า “เฮ้ยพวก!! ต้องการให้เราทําอะไรกันแน่ ฉันให้สัญญากับนายเลย ไม่จําเป็นต้องเอาครอบครัวหยินหยางไปขู่เขา มั่นใจได้ว่าเรายังมีประโยชน์ ไม่งนก็ฆ่าเราซะ”
วิลเลี่ยมมองไปที่บาร์นีย์ด้วยสายตาหดหู ถ้าจะทําลายกําแพงเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากและเขาไม่รู้ว่าเขาจะรับ มือกับดาราใหญ่เหล่านี้ได้หรือไม่
“หึหึบาร์นีย์ สมแล้วที่คุณเป็นหัวหน้าทีมโคตรมหากาฬ ช่างสงบได้เร็วเหลือเกิน สมเป็นทหารผ่านศึกที่ต่อสู้มาตลอดชีวิตแต่คุณไม่ควรมาที่ลอนดอนเลย แถมตอนนี้ยังมาทําให้เรื่อง มันยากขึ้นมาอีก ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวคุณ… ไว้ผมจะมาเคลียร์กับ คุณเป็นคนสุดท้าย..”
พูดถึงคนที่เหลือที่ดูเหมือนจะแกล้งตายอยู่วิลเลี่ยมที่สังเกตุเห็นอยู่ก่อนก็กล่าวว่า : “กันเนอร์คริสต์มาส ผมไม่แนะนําให้พวกคุณแอบหยิบมีดที่ซ่อนอยู่หรอกนะ ผมก็ไม่คิดว่าพวกคุณสองคนจะเก็บมีดไว้ในที่แบบนั้นนะซ่อนได้ดีจริงๆ แต่ผมว่าปีนในมือของผมเร็วกว่ามีดของพวกคุณนะ คงไม่ดีใช่ไหมถ้าอยู่ๆ ก็มีกระสุนไม่โผล่อยู่ที่กะโหลกเพราะการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ น่ะ”
พอคริสต์มาสกับกันเนอร์ได้ยินวิลเลี่ยมค้นพบการกระทําเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเขา ก็พากันหันไปมองที่ Glock 17 ซึ่งวิลเลี่ยมเพิ่งหยิบออกมาคลิกและกระสุนเต็มแม็กก็ไม่ขยับอีกต่อไป แต่ปากของคริสต์มาสก็แข็งมาก : “บางที เราน่าลองดูว่าใครกันแน่ที่ปเร็วกว่ากัน”
วิลเลี่ยมไม่สนใจคริสต์มาสเขารู้ว่ามีดบินของผู้ชายคนนี้ทรงพลังมาก แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายที่เขากําลังเผชิญหน้าไม่ใช่คนธรรมดา
วิลเลี่ยมหันไปเผชิญหน้ากับบาร์นี่และพูดว่า: “ตั้งแต่ที่พวกคุณบุกเข้ามาก็ไม่สามารถตําหนิผมได้ หลังจากใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย ผมคงต้องได้รับบางอย่างจากคุณ บาร์นีย์….บอกผมที่ว่ามิสเตอร์เชิร์ชของ CIA คือใคร”
รูม่านตาของบาร์นีย์หดตัวลงจากนั้นมองลงไปที่พื้นและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่านายกําลังพูดถึงใคร ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องมิสเตอร์เชิร์ช แต่ฉันรู้จักผู้ชายที่ชื่อว่าเทรนช์บางที่นายอาจกําลังมองหาเขา หมอนี่อยากเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมโคตรมหากาฬขํากันคิกคักหลังจากได้ยินหัวหน้าทีมเปิดหัวเรื่องนี้
“ใช่ใช่ ฉันยังได้ยินมาว่าเทรนช์เมาเซอร์คนนี้อยากเป็นประธานาธิบดีจริงๆ”
“ใช่ฉันก็ได้ยินเช่นกันฉันได้ยินมาว่าครอบครัวของภรรยาของเทรนซ์มีอํานาจมาก เขาอาจจะสร้างเป็นสนามเพลาะจริงๆ ก็ได้”
วิลเลี่ยมรู้สึกขบขันในใจ เรื่องนี้ในภาพยนตร์ก็ยังมีอยู่ในโลกความจริงเดิมด้วย ว่ากันว่าผู้ว่าราชการคนเหล็กของเราไม่มีโอกาสจะได้เป็นประธานาธิปดีของอเมริกาในชีวิตก่อนหน้านี้ของวิลเลี่ยม ท่านผู้ว่าราชการกับภรรยาของเขาหลุด โผลไปก่อน
เมื่อนึกถึงคนเหล็กคนนี้วิลเลี่ยมก็หัวเราะเต็มเสียงดังลั่นทันใดนั้นวิลเลี่ยมก็ยกมือขึ้นยิงใส่หัวของคริสต์มาสที่กําลังฮัมเพลงไปได้สองสามคํา เสียงจึงเงียบไป..
จู่ๆ วิลเลี่ยมเปิดฉากใส่ยิงคริสต์มาสโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทําให้สมาชิกอีกห้าคนของทีมโคตรมหากาฬทุกคนถึงกับตะลึงจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ร้องตะโกน คําหยาบคายมากมายหลุดออกมาจากปากของพวกเขา
วิลเลี่ยมเซอร์ไพรส์เล็กน้อยที่เขายังฟังคําด่าคนแบบนี้เป็นภาษาอังกฤษแล้วรู้เรื่องหมด ไม่ใช่ว่าคนอเมริกันมักจะด่าและก่นด่าอยู่ตลอดเวลาหรอที่นี้เขาจึงได้ยินคําด่าแรงๆ มากมาย
โลกของภาพยนตร์ก็สมเป็นโลกของภาพยนตร์จริงๆ มีคําศัพท์มากมายแล้วทําไมเขาถึงได้เข้าใจมันทุกประโยคได้ฟร่ะวิลเลี่ยมเวียนหัวเล็กน้อยอาจจะเป็นเพราะ Marvel ที่เป็นระบบอเมริกัน หัวเขาเลยเข้าใจคําสบถสาบานได้ไม่มีตกหล่น
“ผมก็บอกแล้วว่าอย่าเคลื่อนไหวยุกยิก นี่ทําต่อหน้าต่อตาบาร์นีย์ ที่นี้คุณจะบอกผมได้หรือยังว่ามิสเตอร์เชิร์ชคือใครหรือผมต้องให้ยิงเขาด้วยอีกคน บาร์นี่”
วิลเลี่ยมพูดจบก็หันปืนไปที่กันเนอร์และพูดว่า : “กันเนอร์ได้ยินมาว่าคุณใช้มีดเก่งมากเหมือนกันแต่คุณกําลังจะตาย กันเนอร์มองไปที่บาร์นีย์สิ ดูเหมือนเขาไม่ได้จริงจังกับชีวิตของคุณนะ”
กันเนอร์จ้องเข้าไปในดวงตาของวิลเลี่ยมและพูดอย่างเฉยเมย : “ หรือไม่เมิงก็ปล่อยกรู แล้วเรามาใช้มีดแก้ปัญหากัน ถ้าเมิงชนะกรูจะพูดอย่างนั้น” ทันใดนั้นกันเนอร์ก็ตะโกนใส่บาร์ นีย์: “บาร์นีย์เฮียบอกแม่งไม่ได้นะเว้ย พวกเรายอมตายดีกว่าให้เฮียพูด”
วิลเลี่ยมยิงกันเนอร์โดยไม่ปล่อยให้กันเนอร์พูดจบ
“แม่งเอ๊ย แม่งเอ๊ย กรูจะฆ่าเมิง กรูจะฆ่าเมิงแน่นอน” บาร์นี่โกรธจัดจนเส้นเลือดสีฟ้าปรากฏขึ้นทั่วร่างกายของเขา ดวงตาของเขาเป็นสีแดงและเชือกที่ผูกไว้รัดแน่นจนเลือดซิบพลางกระทืบเท้าเร่าๆ
คนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกันซีซาร์สาปแช่ง : “เอาเลยยิ่งกรูนี่ บาร์นีย์ แม่งอยากรู้ว่ามิสเตอร์เชิร์ชคือใคร แม่งคงไม่ฆ่าคุณบาร์นีย์เฮีย เฮียไม่ต้องพูด ต่อให้พวกเราตายกันหมด เฮียก็ห้ามบอกบาร์นีย์ เฮียต้องรอดเพื่อล้างแค้นให้เรา มาไอ้สัตว์นรถมายิงกรุนี่” ซีซาร์เบิกตาจ้องเขม็งใส่วิลเลี่ยม เขายอมตายไม่ยอมหลบตา
วิลเลี่ยมไม่สนใจคําด่าของคนเหล่านี้หลังจากเบื่อหน่ายกับการดุด่าเป็นเวลาสิบนาทีวิลเลี่ยมก็เล็งปืนไปที่หยินหยาง
“ไม่ๆๆ อย่ายิงๆ ฉันพูดแล้ว” บาร์นีย์มองไปที่ปากกระบอกปืนของวิลเลี่ยมที่จ่อไปทางหยินหยาง เขารีบบอกอย่างรีบร้อน เพราะว่าเขาสูญเสียเพื่อนสองคนไปแล้ว และเขาไม่ต้องการให้ลูกสาวของหยินหยางเสียพ่อไป
หยินหยางรีบตะโกน: “อย่าบอกบาร์นีย์ เฮียบอกไม่ได้นะเขาจะฆ่าพวกเราทั้งหมด บาร์นีย์ เฮียต้องมีชีวิตอยู่ เฮียมีโอกาสดูแลครอบครัวของฉันถ้าเฮียมีชีวิตอยู่”
“ไม่พวก ฉันไม่สามารถปล่อยให้ลูกของนายเป็นพ่อฉันบอกว่าชื่อเต็มของมิสเตอร์เชิร์ชคือบรูซวิลลิสฉันไม่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาควา มปลอดภัยของ CIA ในนิวยอร์ก” (เป็นอีกครั้งที่นักเขียน เอาชื่อตัวจริงมาเป็นชื่อในตัวละคร)
ทันใดนั้นบาร์นีย์ก็ได้ยินเสียงหายใจของคริสต์มาส คริสต์มาสโอดครวญและก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งจากนั้นกันเนอร์ก็ร้องโอยตามกลับมามีชีวิตอีกคนในเวลาไม่นาน
วิลเลี่ยมสอด Glock 17 กลับเข้าไปในซองหนังใต้แขนของเขาและสาปแช่ง : “โคตรห่วย ยาสลบโคตรกากเลยให้คนตื่นขึ้นมาในเวลาไม่ถึง 20 นาที”
จากนั้นสมาชิกที่เหลืออีกสี่คนของทีมโคตรมหากาฬก็รู้ว่ากระสุนปืนที่ยิงกันเนอร์และคริสต์มาสของวิลเลี่ยมไม่ได้ยิงโดนพวกนั้นด้วยซ้ํา