คัดลอกพรสวรรค์ - ตอนที่ 10: อสูรงูดำยักษ์
เปลี่ยนคำว่า “พื้นที่ป่าขนาดเล็ก” เป็นคำว่า “เขตเสี่ยวเย่”
“ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?”
เย่ เทียนถาม
“จริงแท้แน่นอน!”
จาง เป่ายืนยัน
“ฉันเฝ้ามองนักเรียนของสถาบันที่หนึ่งร่วมมือกันจัดการกับงูที่มีความยาว 10 เมตร จากระยะไกล แต่สิ่งที่พวกเขาทำมันกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า และตอนนี้มีนักเรียนจำนวนมากทำการปิดล้อมงูดำตัวนั้นอยู่!”
“แล้วอยู่ทางไหนงั้นเหรอ”
เย่ เทียนถาม
“ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้น่ะ”
จาง เป่ากล่าวพลางทำท่าชี้ไปทางเดียวกับที่พูด
ฟิ้ว!
เย่ เทียนวิ่งไปอย่างรวดเร็วจนหายไปจากการมองเห็นของพวกเขา
ในเวลานี้จาง เป่ามองไปทิศที่เย่ เทียนวิ่งไป และถอนหายใจออกมา
“เดิมทีฉันคิดว่าเย่ เทียนมีความแข็งแกร่งพอๆกับฉัน แต่ไม่คิดว่าเขาจะซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้ดีขนาดนี้ ด้วยพรสววรค์ของเย่ เทียนเขาจะกลายเป็นนักรบอย่างแน่นอน และเขาอาจจะกลายเป็นนักรบชั้นยอดเลยก็ได้”
จะบอกว่าเขาไม่อิจฉาก็คงไม่ผิด แต่อิจฉาไปก็เท่านั้น ยุคนี้เป็นยุคที่มนุษย์ให้ความสำคัญกับพรสวรรค์ ซึ่งเขาที่มีพรสวรรค์ระดับอ่อนแอคงทำอะไรได้ไม่มาก
“พวกเราออกไปกันเถอะ”
จาง เป่ากล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“ออกไป และหยุดล่าอสูรไว้เท่านี้งั้นเหรอ?”
นักเรียนคนหนึ่งกล่าวอย่างไม่พอใจ
“พวกเราจะไม่ล่าอสูรอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าพวกเราจะรวมพลังกันก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับเลือดของอสูร อันที่จริงฉันควรรู้ว่าการทดสอบนี้เป็นเพียงโอกาสสำหรับนักเรียนชั้นนำจากห้าสถาบัน เพราะพวกเขาต้องการสร้างนักรบอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ใช้วิทยายุทธ์อย่างพวกเรา นายคิดว่าคนเหล่านั้นจะมาสนใจความเป็นความตายของพวกเรางั้นเหรอ”
จาง เป่ายิ้มอย่างขมขื่น
นักเรียนคนอื่นๆไม่ได้พูดอะไรออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นด้วยโดยปริยาย
โลกนี้ช่างโหดร้าย สำหรับนักรบแล้ว ชีวิตของคนธรรมดาและผู้ใช้วิทยายุทธ์นั้นไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาของพวกเขา
การทดสอบนี้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ก็จริง แต่การทดสอบนี้มีไว้สำหรับนักเรียนระดับสูงเท่านั้น
นักเรียนบางส่วนออกไปจากเขตเสี่ยวเย่พร้อมกับความผิดหวัง
….
หลังจากวิ่งไปอยู่นาน เย่ เทียนก็หยุดลง
ตอนนี้เขาแบกของมากมายไว้บนหลังของเขา แม้ว่ามันจะไม่หนักมากนัก แต่ก็มีผลต่อการต่อสู้อย่างมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อสู้อย่างเต็มที่ขณะที่เขาแบกของเหล่านี้อยู่บนหลังอยู่ตลอดเวลา
โดยปกติมี 2 วิธี ในการจัดการเรื่องนี้ วิธีที่หนึ่ง คือ กลับไปที่ทางเข้าหุบเขาและแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นคะแนน แต่มันจะใช้เวลานานเกินไปที่จะกลับไปกลับมา
และวิธีที่สอง คือ ซ่อนชิ้นส่วนเหล่านี้ และค่อยกลับมาเอามันไป
“งั้นฝังพวกมันไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาเอา”
เย่ เทียนขุดพื้นอย่างรวดเร็ว และทำการฝังชิ้นส่วนทั้งหมด แล้วจึงกลบมันอีกที
เขตเสี่ยวเย่มีขนาดใหญ่มาก และโอกาสที่จะถูกคนอื่นพบนั้นมีต่ำมาก และอสูรทั่วไปนั้นไม่สนใจชิ้นส่วนเหล่านี้
เมื่อจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่ เทียนก็เร่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ตู้ม!!!
มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้นจากระยะไกล และจากเสียงสามารถรู้ได้ว่าการต่อสู้นั้นมันดุเดือดแค่ไหน
“พวกเขายังสู้กับอสูรงูดำปลอมแปลงอยู่งั้นเหรอ?”
เย่ เทียนคาดเดา
แม้ว่าอสูรปลอมแปลงจะทรงพลัง แต่คราวนี้ยังมีผู้ใช้วิทยายุทธ์ชั้นแนวหน้าหลายคน หากพวกเขาต่อสู้กับอสูรปลอมแปลงแล้วล่ะก็ มันคงตายไปนานแล้ว
“หวังว่าจะมันจะยังไม่ตายก่อนนะ”
เย่ เทียนแอบหวัง
30 วินาทีต่อมา เย่ เทียนก็มาถึง แต่สถานการณ์ต่างจากที่เขาคาดไว้
“นี่มัน…”
ม่านตาของเย่ เทียนหดตัว
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ผู้ใช้วิทยายุทธ์จำนวนหนึ่งโหลหรือมากกว่านั้นกำลังปิดล้อมงูที่บาดเจ็บ งูที่เห็นนี้ไม่ได้มีขนาด 10 เมตรอย่างที่จาง เป่ากล่าวก่อนหน้านี้ แต่มันมีขนาดถึง 12 เมตร
“อสูรงูดำตัวนี้เป็นอสูรระดับที่อ่อนแอที่สุด”
เย่ เทียนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
อสูรนั้นไม่ได้แบ่งความแข็งแกร่งตามขนาด งูดำตัวนี้นั้นจัดว่าเป็นตัวที่ใหญ่มากแม้แต่ในหมู่อสูรด้วยกัน แต่มันไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และพละกำลังของมันยังอ่อนกว่าอสูรทั่วไปอีกด้วย
แต่งูดำที่มีความแข็งแกร่งเท่านี้จะเป็นอสูรได้อย่างไร?
ไม่ใช่เย่ เทียนเท่านั้นที่แปลกใจ นักเรียนคนอื่นๆก็แปลกใจเช่นกัน
แต่ในเวลานี้ไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้มากนัก เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดคือการฆ่าอสูรงูดำตัวนี้
อสูรงูดำปลอมแปลงมีค่า 500 แต้ม แต่อสูรงูดำยักษ์นั้นมีค่าอย่างน้อย 1,000 แต้ม
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทำการอสูรยักษ์ เลือดของอสูรตัวนี้ก็เพียงพอที่จะให้นักเรียนหลายคนนำไปดูดซับ เพื่อปรับแต่งร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น
พูดได้เลยว่างูดำตัวนี้เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า
โชคดีที่งูดำตัวนี้เพิ่งเลื่อนขั้นเป็นอสูรยักษ์ และความแข็งแกร่งของมันไม่ได้มากไปกว่าจุดสูงสุดของวิทยายุทธ์ ไม่อย่างนั้นนักเรียนที่เป็นผู้ใช้วิทยายุทธ์เหล่านี้คงไม่กล้าที่จะล้อมอสูรตัวนี้อย่างแน่นอน
ถึงกระนั้นก็ยังมีนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และถอนตัวออกมาทีละคน
เย่ เทียนไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่เฝ้าสังเกตอยู่นิ่งๆ
ผ่านไปประมาณ 10 นาที เหลือนักเรียนเพียง 5 คนที่สามารถต่อสู้ได้ โดยนักเรียนทั้ง 5 คน เป็นนักเรียนอัจฉริยะและมีพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะระดับกลางจากสถาบันการต่อสู้ที่หนึ่ง พวกเขาได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่อสูรงูยักษ์นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส มีลูกธนูจำนวนมากปักอยู่ที่ตัวของมันและยังมีบาดแผลที่เกิดจากการฟันเป็นจำนวนมาก มีแม้กระทั่งรอยดาบที่ปรากฏตรงหว่างคิ้ว ช่างน่าอนาถยิ่งนัก
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
อสูรงูดำยักษ์กระตุ้นพลังสายเลือดของมัน มันทำการกวัดแกว่งหางของมันออกไปอย่างรุนแรง จนฟาดนักเรียนทั้งห้ากระเด็นออกไปในครั้งเดียว
วินาทีต่อมาอสูรงูยักษ์ก็วิ่งวิ่งหนีออกไปไกล
อสูรงูดำยักษ์ที่กระตุ้นสายเลือดของมันนั้นมีความเร็วเท่ากับอสูร เว้นแต่จะเป็นนักรบเท่านั้นที่จะตามมันทัน
“แม่งเอ้ย อย่าปล่อยให้อสูรตัวนี้หนีไปได้ ทุกคนไล่ตามมันไป อสูรตัวนี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส มันคงวิ่งได้ไม่ไกลนัก”
โม่ เฉาเป่ยกล่าวอย่างโกรธเคือง
แต่ที่ทุกคนไม่รู้คือ มีร่างหนึ่งลอบไล่ตามพวกเขาอยู่
“ฮ่าฮ่าฮ่า พระเจ้าคงเข้าข้างฉันสินะ หลังจากที่ฉันใช้พรสวรรค์ความเร็วของฉันแล้ว ฉันสามารถไล่ตามอสูรงูดำยักษ์ตัวนี้ได้ทัน”
เย่ เทียนกล่าวอย่างตื่นเต้น
เขาตามรอยอสูรงูดำยักษ์ไปตลอดทาง หลังจากผ่านไป อสูรงูดำยักษ์ก็แบกร่างที่บาดเจ็บของมันเข้าไปในถ้ำ
เย่ เทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าไปในถ้ำ
ด้วยความเร็วของเขาแม้ว่าจะพบเจอกับอันตราย เขาก็สามารถวิ่งหนีเอาตัวรอดได้
ภายในถ้ำเย่ เทียนยังคงเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ
เขานั้นไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานาน แค่ไหนจนกว่าจะพบมัน จนในที่สุดเย่ เทียนก็มาถึงจุดที่อสูรงูดำยักษ์อยู่
แต่อสูรงูดำยักษ์ที่จะตายอยู่รอมร่อ ยังคงคลานเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ
เย่ เทียนในตอนนี้ไม่รอช้า เขาใช้พรสวรรค์ความเร็ว จับดาบที่ทำจากเหล็กอย่างดีและฟันร่างของอสูรงูดำยักษ์
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะน้อย แต่เขาก็สามารถฆ่าอสูรงูดำยักษ์ตัวนี้ได้
“ฉันต้องรีบเก็บเลือดอสูร”
เย่ เทียนยังไม่ลืมสิ่งที่สำคัญนี้
เขารีบหยิบขวดน้ำออกมาจากเอวของเขา และใช้ดาบแทงไปที่หัวใจของอสูรงูดำยักษ์ และเลือดของอสูรงูดำยักษ์ก็ไหลลงสู่ขวดน้ำทีละน้อย
อสูรงูดำยักษ์นี้เพิ่งเลื่อนขั้นเป็นอสูรยักษ์ และเลือดในร่างกายส่วนใหญ่ยังคงเป้นเลือดของอสูร มีเพียงเลือดตรงหัวใจเท่านั้นที่เป็นเลือดที่แท้จริงของอสูร เย่ เทียนจึงรวบรวมเดียงเลือดในหัวใจ ขณะที่เลือดจากที่อื่นนั้นไม่จำเป็นต้องเก็บ
ในไม่ช้าขวดก็เต็ม และเลือดตรงหัวใจของอสูรงูยักษ์ก็ไหลออกจนหมด
“มันเทียบเท่ากับเลือดของอสูรระดับต่ำ 5 ขวด ครั้งนี้ฉันได้กำไรมากเลยทีเดียว”
เย่ เทียนตื่นเต้น