ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ - ตอนที่ 2.2 Chapter 1.2 - เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
- Home
- ความสัมพันธ์ลับ ๆ ที่บอกใครไม่ได้ของผมกับยัยเทพธิดาซึนเดเระ
- ตอนที่ 2.2 Chapter 1.2 - เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
Chapter 1.2 : เพื่อนบ้านคนแรกของฉัน
โรงเรียนหญิงล้วนชิรามิเนะ เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ได้ยินมาว่าจะถามถึงภูมิฐานนครอบครัวตั้งแต่สมัครเข้า ดังนั้นนักเรียนหญิงส่วนใหญ่ที่เข้าเรียนจึงเป็นพวกลูกคุณหนูแท้ ๆ และฉันก็คิดว่ายูกิมิยะก็คิดว่าเธอเป็นหนึ่งในนั้นโดยปกติ แต่ยูกิมิยะดันอยู่ที่นี่ ไม่ใช่คฤหาสน์หลังใหญ่ ไม่ใช่โรงแรมสูงระฟ้า ไม่ใช่ชั้นบนสุดของคอนโด แต่อยู่ข้างห้องของฉัน
「 ห๊ะ…แล้วพ่อแม่ของเธอล่ะ…? 」
「 ไม่ค่ะ! พวกเขาไม่ได้อยู่ ฉันอยู่คนเดียว และ… 」
「 อ่า! เข้าใจล่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน 」
「 คะ-ค่ะ… 」
…การสนทนาที่ไร้ความดำเนินต่อไป แต่ฉันเข้าใจบางอย่างจากการสนทนานี้
ยูกิมิยะอยู่ตัวคนเดียว หมายความว่าเธอถูกบังคับให้อยู่คนเดียวเนื่องจากสถานการณ์ หรือนโยบายของครอบครัว อะไรทำนองนั้น ฉันก็ไม่แน่ใจ ก่อนที่ฉันจะจัดระเบียบความคิดปัจจุบุันเสร็จ ยูกิมิยะที่ฟื้นตัวจากอาการช็อคก่อน จ้องมองฉันด้วยสายตาเย็นชาตามปกติของเธอ
(หยุดเลยนะ เป็นต้นฤดูใบไม้ผลิแท้ แต่มันชักจะหนาวไปแล้ว)
「 ฉันสงสัยว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? 」
「 ก็อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ ฉันย้ายมาที่นี่ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ 」
「 คุณคงรู้ว่าฉันอาศัยอยู่ที่ไหนสินะ ก็เลยย้ายมาที่นี่ เจ้าสตอล์คเกอร์ 」
「 ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่ย้ายมาที่นี่หรอก 」
แม้ว่าวันนี้ฉันจะโดนความคิดเห็นแย่ ๆ มาจากที่โรงเรียนแล้วก็เถอะ แต่เธอจะรู้สึกแบบไหนล่ะ ถ้าหากเธอโดนคนอื่นทำตัวไม่ดีใส่บ้างน่ะ ฉันก็ไม่ใช่พวกมาโซซะด้วย แต่กังวลเล็ก ๆ เหมือนกัน การโดนจ้องอย่างเย็นชาแบบนั้นมันก็… เรื่องนี้ไม่ได้โกหกนะ
ขณะที่ฉันถอนหายใจเบา ๆ ฉันสังเกตเห็นว่าแกงกะหรี่ในมือเริ่มเย็นแล้ว ดูเหมือนว่าจะพูดกันมาระยะหนึ่งแล้ว จากนี้ไปเราคงต้องเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วล่ะนะ
เอ๊ะ!? ฉันอดไม่ได้ที่จะละสายตาจากยูกิมิยะ แล้วจ้องมองไปที่ห้องด้านหลังเธอ
「 ตอนนี้… 」
「 ไม่ว่างนะ 」
「 เอ่อ… 」
「 ก็บอกไม่ว่างไง 」
「 อย่าพูดอย่างงั้นสิ 」
ฉันยกทัปเปอร์แวร์ขึ้นเพื่อทดสอบ ยูกิมิยะที่จับพิรุธได้ และเงยหน้าขึ้นมองตาม เมื่อส่ายไปมา เธอแกว่งตัวไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่ละสายตา เหมือนแมวที่กำลังรออาหารอยู่เลย ฉันคิดว่ามันดูน่ารักนิดหน่อยแหะ?
เสียงท้องของยูกิมิยะก็ดังขึ้น ดูเหมือนเธอจะหิวพอสมควรเลยแหะ
「 ฉันคิดว่าเธอคงจะหิวนะ 」
「 ฉันบอกไปแล้วนะ ไม่ว่าง คิดว่าฉันจะประมาทคุณเหรอ!? 」
「 ถ้าอย่างนั้น ทำไมเธอไม่ลองมองไปทางอื่น แล้วพูดค่อยดูล่ะ? 」
(เธอดื้อขนาดไหนกันเนี้ย?)
「 ······เอ๊ะ? 」
「 …ประธานยัตสึฮาชิ กำลังมองอะไรอยู่? 」
ในที่สุดยูกิมิยะก็รู้ตัวว่าฉันกำลังดูข้างในห้องของเธอจึงหน้าแดง และปิดประตูด้านหลังเธอ
「 เห็นมันมั๊ย? 」
「 เธอจะเชื่อมั๊ยล่ะ!? ถ้าฉันบอกว่าไม่เห็น 」
เขาพอจะเข้าใจความลำบากในห้องนี้ แต่ยังไงก็เถอะ เธอก็คงไม่ชอบใจหรอกที่โดนจับตาดูโดยไม่ได้รับอนุญาติ และใบหน้าบูดบึ้งของเขาก็ไม่เปลี่ยนแปลง มันช่วยไม่ได้แหะ…
ฉันพลางถอนหายใจ ตะลึงในความดื้อรั้นของยูกิมิยะ … สิ่งที่อยู่ภายในห้องมันสะดุดตาฉัน ขณะที่ฉันเข้าไป
(นี่มัน… อะไรกันเนี้ย?)
เสื้อผ้าจำนวนมากกองอยู่ที่ทางเดิน ถุงใบใหญ่มีบะหมี่ถ้วยเปล่า และถาดเบนโตะของร้านสะดวกซื้อ ขวดน้ำพลาสติกยังคงอยู่ในกล่องกระดาษแข็ง อ่างล้างจาน มีถ้วยจานแช่อยู่เป็นจำนวนมาก โดยไม่รู้ว่าแช่มานานแค่ไหน ห้องนั่งเล่นเองก็เหมือนกัน พูดตามตรงก็คือ หายนะสุด ๆ ตรงอินเตอร์คอมยังเต็มไปด้วยกองขยะซ้อนกัน และจนเข้าใกล้ไม่ได้
(ไม่รู้ว่ามีใครเคยมาหรือเปล่า?)
(แต่ยัยนี่อยู่ในห้องแบบนี้งั้นเหรอ…?)
ยูคิมิยะเบือนหน้าหนีอย่างเงียบ ๆ กับแสงเจิดจ้าที่เธอมอบให้มา ฉันเคยนึกภาพออกว่าเธอทำอาหาร หรือทำความสะอาดไม่เป็น เพราะเธอยังเป็นเด็กม.ปลาย แต่นี่มันสกปรกเกินกว่าจะจินตนาการจริง ๆ
「 ยูกิมิยะ รอตรงนี้เดี๋ยวนะ… 」
「 เอ๊ะ……ค่ะ 」
ทิ้งให้ยูกิมิยะที่สับสนไว้ข้างหลัง ฉันรีบกลับไปที่ห้อง แล้วหยิบของที่เหลือติดมาด้วย
「 เอานี่ ฉันเอาข้าวมาด้วย กินนี่ซะ 」
「 …คุณหมายความถึง? 」
「 ฉันไม่คิดว่าเธอจะหุงข้าวในห้องแบบนี้ได้หรอกนะ 」
เมื่อพิจารณาถึงความหายนะที่อยู่อีกด้านของประตู ไม่คิดว่าจะมีคนสามารถใช้ชีวิตตามปกติในที่แบบนั้นได้ คนที่ใช้ชีวิตแบบนี้มีหรอที่จะหุงข้าวเป็น ในทัปเปอร์แวร์มีข้าวแกงกะหรี่อยู่ ซึ่งดูจากดวงตาที่เป็นประกายสดใสของยูกิมิยะ
「 …ไม่ขอรับความเห็นใจค่ะ 」
「 เห็นแบบนี้ ฉันละสายตาจากเธอไม่ได้หรอก 」
เมื่อฉันยัดเยียดกล่องทัปเปอรืแวร์ให้ เสียงกลืนน้ำลายมากจากยูกิมิยะ ยูกิมิยะมีบุคลิกที่ทำเข้าใจง่ายจริง ๆ แกงกะหรี่เผ็ดปานกลาง กำลังพยายามปรับให้มันไม่เผ็ดเกินไป อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ายูกิมิยะจะใช้วิธีที่แตกต่างออกไปและจ้องมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่สงวนท่าทีกลับมา
「 อะไรคะ? 」
「 ไว่ค่อยล้างแล้วค่อยคืนก็ได้ …ไม่สิ เอาไปเถอะ เธอไม่จำเป็นต้องล้างมันมาคืนหรอก อ่างล้างจานที่ทิ้งไม่ได้ทำความสำอาจ แค่คิดก็อันตรายแล้ว 」
「 คุณต้องกล้าที่จะเลียเศษอาหารที่เหลือของฉันแน่ ๆ คุณคนโรคจิต 」
「 เดี๋ยวเหอะ อย่าคิดว่าเพราะเธอเป็นผู้หญิงแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ เห็นงี้ฉันก็เท่าเทียมทางเพศนะ ถ้าเกิดคิดจะทำฉันก็สามารถทำได้นะ 」
「 ล้อเล่นค่ะ 」
「 ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย หน้าตาบูดบึ้งนั่นมันอะไรคะ? …พอลองคิดดู นานมากแล้วที่ไม่ได้กินอาหารฝีมือคนอื่นเลย 」
「 หน้าเธอเนี้ย ทำเอาฉันแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนทีเล่นอันไหนทีจริง 」
รู้สึกอึดอัดใจเล็ก จึงได้แต่เกาแก้มแก้เขิน ยูกิมิยะก็กอดทับเบอร์ไว้ในอ้อมแขนของเขาราวกับว่ามันสำคัญ
ยูกิมิยะแสดงรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาออกมากับดอกตูมใต้ผืนหิมะ ฉันพูดไม่ออกเมื่อเห็นรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของเธอที่ทำให้ทุกคนที่เห็นเธอต้องตกหลุมรักอย่างที่ข่าวลือว่าไว้
ฉันรู้โดยสัญชาตญาณว่านี่แหละคือ รอยยิ้มที่แท้ใจของยูกิมิยะ
「 ขอบคุณประธานยัตสึฮาชิ มันดูน่าอร่อยมากเลยล่ะคะ 」
「 ถ้าเธอคิดอย่างนั้น ฉันเองก็ดีใจ 」
พ่อแม่ของฉันยุ่ง และไม่ค่อยได้อยู่บ้านแทบจะตลอดเวลา อย่างน้อยก็ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา …ถึงฉันจะแอบกังวลนิดหน่อย
「 ฉันจะล้างคืนให้คุณได้นะค่ะ คุณไม่ดูหมิ่นฉันเกินไปเหรอค่ะ 」
「 แต่เธอล้างไม่เป็นหนิ 」
「 ……….ฉันล้างมันได้ค่ะ 」
「 ยังไงบ้างล่ะ? สำหรับตอนนี้ตราบใดที่เธอส่งคืนอย่างถูกต้อง ฉันก็ไม่สนใจว่าจะล้างหรือไม่ก็เถอะ 」
「 ฉันกลับล่ะ 」
「 ค่ะ! ราตรีสวัสดิ์นะค่ะ 」
「 อา ราตรีสวัสดิ์ 」
หลังจากลายูกิมิยะด้วยท่าทีของฉัน ฉันก็กลับห้องตัวเอง
「 เห้อ…เหนื่อยชะมัด… 」
จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกเฉื่อยชาเนื่องจากความเหนื่อยล้าทางจิตใจ
ฉันไม่คิดเลยว่า ตัวเองจะได้ย้ายมาอยู่ข้างห้อง ยูกิมิยะ เฮียวกะ ฉันจะรู้สึกโชคดีถ้าได้พบกันเป็นครั้งแรก น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ เป็นไปได้ที่ได้ข้องเกี่ยวกัน ฉันไม่ได้คิดที่จะเข้าไปยุ่งด้วย และเธอก็ไม่อยากจะยุ่งกับฉันด้วยซ้ำ…
** ปิ๊งปอง ปิ๊งปอง ปิ๊งปอง ปิ๊งปอง ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง! **