ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 96 เรื่องราวซับซ้อน
หลี่เจี่ยซินที่ไม่ได้นอนมาหลายวันแล้วในตอนนี้กำลังหลับเป็นตาย เฉินเฟยอวี๋และหลิวไห่ต่างคิดว่าเธออาจจะหนีไปเพราะเข้าใจผิด ระยะหลังมานี่หลี่เจี่ยซินเหมือนมีเรื่องทุกข์ในใจไม่ยอมบอกใคร อาจจะเป็นเรื่องที่เธอรักเฉินเฟยอวี๋จริง ๆ แต่คิดว่าเฉินเฟยอวี๋ที่เป็นเกย์ไม่มีทางลงเอยกับตัวเองได้จึงเสียใจและคิดจะหลีกทางให้
เฉินเฟยอวี๋เองก็รู้สึกผิดที่ตัวเองทำให้หลี่เจี่ยซินเข้าใจแบบนั้น ถ้าความจริงถูกเปิดเผยออกมาและคนที่หลี่เจี่ยซินรักคือเฉินเฟยอวี๋ไม่ใช่หลิวไห่ล่ะ จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงหรือเปล่านะ หรือเธอจะยิ่งเสียใจที่ถูกหลอกมาจนถึงตอนนี้
และถ้าเธอโกรธแล้วระงับอารมณ์ไม่ได้กลับพลั้งมือฆ่าทุกคนทิ้งล่ะจะทำยังไง
“นายก็คิดบ้าไปแล้ว เธอจะฆ่าพวกเราได้ยังไง”
หลิวไห่หัวเราะขันกับความคิดประสาทแดกของน้องชาย
“หลี่เจี่ยซินระยะหลังมาเหมือนเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ และเริ่มจะใช้กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ พี่ไม่เห็นนี่”
หลิวไห่ส่ายหน้า
“เห็นสิ แต่อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนของผู้หญิงก็ได้ถึงทำให้เธอเป็นแบบนี้”
“พี่แน่ใจนะ”
“ใช่ แต่ถ้านายกลัวฉันจะเป็นคนบอกเธอเอง นายไม่ต้องอยู่ด้วยหรอก”
เฉินเฟยอวี๋ส่ายหน้า
“ไม่เอาหรอก ฉันต้องแสดงความจริงใจต่อเธอสิ”
“แล้วแต่นาย”
หลิวไห่สบายใจขึ้นมาก อย่างน้อยหลี่เจี่ยซินก็ยังกลับมาด้วยสภาพที่ครบสามสิบสองประการ เขายังต้องสอบสวนเด็กพวกนั้นต่อ
เขาเดินเข้าไปยังห้องที่ขังเด็กขี้ยาพวกนั้นเอาไว้ เพราะถูกขังและยาทั้งหลายของพวกเขาก็ถูกหลี่เจี่ยซินโยนทิ้งไประหว่างทาง จึงทำให้ตอนนี้พวกเขาเกิดอาการลงแดงเพราะขาดยา ทั้งคลุ้มคลั่งทั้งร้องโวยวายไม่หยุด
หลิวไห่ได้ยินเสียแล้ว เขาจึงคิดช่วยคนอีกสักครั้ง ขังพวกเขาต่อไปไม่เข้าไปสนใจ ถ้าจะตายก็ให้ตายในนั้นมีเพียงข้าวกับน้ำที่ให้คนเอาไปวางไว้ให้แล้วให้รีบออกมาอย่างรวดเร็ว
จากการที่ถามพวกเขาในเบื้องต้น รู้แต่ว่าหลี่เจี่ยซินโบกรถและพวกเขามีน้ำใจมาส่ง แต่ดูแล้วคนพวกนี้เห็นหลี่เจี่ยซินทีสวยและบอบบางขนาดนี้ คงถูกรูปร่างของเธอลวงตาและคิดจะทำร้ายมากกว่า จึงให้เธอขึ้นรถและสุดท้ายกลายเป็นทาสรับใช้ของหลี่เจี่ยซินเสียเอง
นอกจากนี้หลี่เจี่ยซินยังข่มขู่ใช้เงินพวกเขาเหมือนเงินตัวเอง อยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากกินอะไรก็กิน จนเงินของทุกคนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยวนเดียว
หลิวไห่สมเพชคนพวกนั้นเป็นอย่างมาก
จังหวะนรก สุดซวยในชีวิตที่มาเจอหญิงแกร่งอย่างหลี่เจี่ยซินเข้า
ในระหว่างทีหลิวไห่รอหลี่เจี่ยซินตื่น เขาก็โทรศัพท์ถึงลุงเฉิง
“เธอกลับมาแล้วครับ ปลอดภัยดี”
“ดูแลเธอให้ดี เหมือนว่าเธอก็เป็นที่ต้องการของประธานกู้ ลุงกำลังสืบดูว่าเพราะอะไรกันแน่”
“ขอบคุณครับ”
หลิวไห่กลับเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง เขาอ่านผลรายงานของสูตรลับที่พ่อเขาเก็บเอาไว้แล้วถอนหายใจออกมา ผลการวิจัยออกมาแล้วพบว่าหนูทดลองที่ได้รับสารกระตุ้นพวกนี้แข็งแรงจนถึงขนาดสามารถัดกรงเหล็กขาดได้ แต่พวกมันกลับมีชีวิตเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็ตาย
และหนูทุกตัวที่แข็งแรงจนน่าตกใจล้วนตายทุกตัว ไม่มีตัวไหนหนีรอดออกมาได้
นั้่นแสดงว่าประธานกู้กำลังทดลองเรื่องพวกนี้ในคนเหรอ แล้วที่เขาจับหญิงสาวที่เก่งด้านต่าง ๆ ไปนั้นเพราะเหตุใด หรือกำลังหาใครสังคนที่สอดคล้องกับคนที่เขาต้องการอยู่ จะใช่หลี่เจี่ยซินหรือเปล่า
ปัญหามีให้ขบคิดมาก หลิวไห่เองก็กังวลใจมาก ด้วยความคิดว่าจะไม่ลากหลี่เจี่ยซินเข้ามาเกี่ยวข้องแต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเธอเป็นตัวชนวนเสียเอง เขาจะทำยังไงดี ในเมื่อความทรงจำของหลี่เจี่ยซินเองก็ยังไม่กลับมา
สูตรยาลับที่เขาได้มาตอนนี้อยู่ในมือของลุงเฉิง ซึ่งลุงเฉิงเองก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับสูตรนั้นดี มีอีเมลส่งมาถึงเขาพร้อมข้อความที่เข้ามาถึงพร้อมกัน เป็นดวงตาสวรรค์ที่ส่งข้อความเข้ามา
“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกัน”
หลิวไห่รีบเปิดดูอีเมล พบว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับคาร์บอมในหลายพื้นที่ ทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก ทั้งในสถานทูต ในทำเนียบรัฐบาลของหลายประเทศ รวมทั้งในทำเนียบรัฐบาลในอเมริกา
และที่น่าประหลาดใจคือ ทุกคนที่ติดระเบิดคาร์บอมนั้นล้วนเป็นเด็กหญิงอายุไม่เกินห้าขวบ และข่าวนี้ก็เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในวันเด็กที่สถานที่สำคัญถูกเปิดให้เด็กเข้าไปดู หลิวไห่ตกใจเป็นอย่างยิ่ง เรื่องนี้ข่าวหลายสำนักวิเคราะห์ว่าเด็กพวกนี้เป็นเด็กที่กลุ่มก่อการร้ายส่งเข้ามา หรือเป็นเหยื่อที่ถูกซุกระเบิดเอาไว้โดยไม่รู้ตัว
แต่หลิวไห่กลับไม่คิดแบบนั้น
หรือว่าเด็กกลุ่มนี้ จะเป็นเด็กที่มีใครบางคนสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่พวกนี้และส่งขายให้กลุ่มก่อการร้ายหรือคนที่ต้องการไปทั่วโลกกันแน่
เขาปริ้นข้อมูลพวกนี้ออกมาดูอย่างละเอียด เรื่องที่ปะติดปะต่อไม่ได้มานานเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง
ประธานกู้อาจไม่ได้ร่ำรวยมาจากธุรกิจที่ใสสะอาดที่แท้จริง แต่เขาร่ำรวยมาจากชีวิตมนุษย์โดยมีพ่อบุญธรรมของเขารู้เห็น และยังเป็นผู้ริเริ่ม กระทั่งพ่อของเขาขอถอนตัวและแอบนำสูตรยานี้ออกมา เมื่อประธานกู้รู้เรื่องจึงได้ให้คนตามหาและฆ่าพ่อของเขาในที่สุด
ในตอนนี้ประธานกู้ยังไม่รู้เรื่องนี้ หลิวไห่ต่อสายถึงลุงเฉิงอีกครั้ง
“ผมมีเรื่องที่คิดว่า เข้าใจได้ถูกต้องมาเล่าให้ลุงฟังครับ”
หลิวไห่เริ่มต้นเล่าเรื่องที่เขาปะติดปะต่อได้ ลุงเฉิงตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก
“คิดไม่ถึงว่าประธานกู้จะเลวขนาดนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และทำให้เรื่องการผลิตยาเสพติดเป็นเรื่องเล็กไปเลย ลุงจะหารือกับหน่วยงานระดับสูงที่พอมีเส้นสายอยู่บ้าง เพื่อทำลายประธานกู้เสีย ที่แผ่นดินใหญ่หาให้เจอว่าประธานกู้มีแหล่งกบดานอยู่ที่ไหนบ้าง แล้วส่งให้หน่วยงานรัฐ”
แน่นอนว่าลุงเฉิงต้องช่วยหลิวไห่อย่างเต็มที่ การจำกัดประธานกู้ย่อมเท่ากับกำจัดศัตรูทางธุรกิจหมายเลขหนึ่งของเขา เมื่อไม่มีประธานกู้ก็ย่อมไม่มีเสี้ยนหนามอีกต่อไป
หลิวไห่วางสายแล้ว เขาเข้าไปดูหลี่เจี่ยซินอีกครั้ง คราวนี้เห็นน้องชายตัวโตของตัวเองนอนจับมือของเธออยู่ จึงปลุกเขาเบา ๆ
“ไปนอนเถอะ ดึกมากแล้วพี่จะดูแลเธอเอง”
เฉินเฟยอวี๋งัวเงียตื่น เขาพยักหน้าก่อนจะหาวหวอดทั้งบิดตัวแล้วลุกขึ้น
“พี่ก็พักผ่อนด้วยนะ อย่าหักโหมเกินไป”
หลิวไห่พยักหน้า เฉินเฟยอวี่เดินผ่านเขาไปแล้วหันหลังกลับมาคล้ายจะนึกถึงอะไรบางอย่างได้
“พี่ฉันมีของจะให้พี่ดู ฉันบังเอิญกลับบ้านแม่แล้วไปรื้อของในตู้หากุญแจเซฟ เลยเจอภาพนี้ในเซฟ”
เพราะตื่นเต้นที่เจอหลี่เจี่ยซินแล้ว เฉินเฟยอวี๋ที่ตั้งใจว่าจะนำภาพนี้มาให้พี่ชายดูจึงได้ลืมไปเสียสนิท หลิวไห่รับภาพนั้นมาดูแล้วตกใจอยู่ไม่น้อย
“ในนี้เป็นภาพพี่และฉันตอนเด็กใช่หรือเปล่า เหมือนพวกเราจะเพิ่งเกิดเลย”
แล้วเขาก็ชี้ไปที่ผู้ชายและผู้หญิงที่อุ้มพวกเขาอยู่
“นี่แม่บุญธรรมของฉัน และนี่ พ่อบุญธรรมของพี่ พวกเขาแต่งตัวเหมือนคุณหมอหรือนักวิจัยอะไรสักอย่าง พี่ดูสิข้างหลังยังลงวันที่อีกด้วย”
ในข้อความข้างหลังทำให้หลิวไห่ยิ่งตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก
“สุขสันต์วันเกิดลูกชายฝาแฝดของฉัน หวังว่าพวกเขาจะรอดชีวิต”
หลิวไห่ขมวดคิ้ว เด็กน้อยสองคนเป็นเด็กแรกเกิด หากจะบอกว่าเป็นลูกของคนสองคนนี่ แต่ทำไมแม่บุญธรรมของเฉินเฟยอวี๋จึงดูไม่เหมือนคนเพิ่งคลอดลูกเลยสักนิด เธอดูปกติและผอมบาง ในขณะที่พ่อของเขาเองก็ไม่ได้มีท่าทางบ่งบอกว่าดีใจที่ได้ลูกชายเพิ่งคลอดเท่าไหร่
หลิวไห่พิจารณาอย่างละเอียด ภาพพวกนี้เขาคล้ายจะเห็นมาแล้ว แต่ตอนนั่นมีคนมากมายในภาพ หลิวไห่มองหน้าเฉินเฟยอวี๋แล้วบอกกับเขา
“สงสัยว่าเราต้องกลับไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วสืบหาความจริงกันเสียที”