ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 95 ความจริง
หลี่เจี่ยซินตามผู้หญิงคนนั้นมาจนถึงสถานที่ลับแห่งหนึ่ง และในที่นี้เธอก็ได้เผชิญหน้ากับประธานกู้เป็นครั้งแรก พวกเขาฉีดบางอย่างเข้าที่ร่างกายของเธอ หลี่เจี่ยซินรู้สึกว่าหมดเรี่ยวแรงแล้ว กระทั่งแรงที่จะยกมือยังไม่มี
“พวกคุณทำอะไรกับฉัน”
ประธานกู้ยิ้มอบอุ่นเหมือนคนแก่ใจดีคนหนึ่งที่ได้พบหน้ากับหลานสาวที่รักนาน
“ไม่ต้องกลัว เราไม่ทำอะไรหนูหรอก หนูเองก็เหมือนเป็นลูกสาวของฉันนะ”
หลี่เจี่ยซินคุ้นหน้าชายชราคนนี้เป็นอย่างมาก เธอแน่ใจว่าเคยเห็นเขาบ่อย ๆ
“คุณคือ”
“ประธานกู้ เรียกฉันว่าท่านประธาน”
ประธานกู้หัวเราะเบา ๆ หลี่เจี่ยซินไม่ได้ถูกจับหรือถูกมัดเอาไว้ นั่นเป็นเพราะยาที่พวกเขาฉีดให้เธอส่งผลให้เธอหมดแรงนั่นเอง ประธานกู้ยังพูดต่ออีกว่า
“ไม่ต้องกลัวนะ ที่นี่ก็เหมือนบ้านของเธอเองคนคุ้นเคยทั้งนั้น จำได้หรือเปล่า”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า เธอจำอะไรไม่ได้
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอก็จำได้ ฉันสร้างเธอขึ้นมาให้เป็นยอดคน ไม่ว่าเรื่องอะไรไม่นานเธอก็จะเรียนรู้และทำได้ทุกอย่างโดยไร้คู่ต่อสู้”
หลี่เจี่ยซินหลี่ตา
“คุณสร้างฉันขึ้นมาเหรอคะ หมายความว่ายังไง”
“ว่าแล้วเรื่องมันยาว ให้ดอกเตอร์เจี่ยอธิบายจะดีกว่า”
ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างประธานกู้ ที่หลี่เจี่ยซินตามมาใบหน้าของเธอดูเหมือนคนอายุสามสิบกว่า ๆ หรืออ่อนกว่านั้นแต่ท่าทางคล้ายกับคนชราคนหนึ่งแล้ว
เมื่อถูกหลี่เจี่ยซินมองดอกเตอร์คนนั้นจึงหัวเราะแล้วส่งยิ้มหวานให้เธอ
“ฉันเป็นคนเปลี่ยนถ่ายพันธุกรรมของเธอกับมือ ดังนั้นเธอก็คือลูกสาวคนแรกของฉัน แต่ก่อนไม่ได้ตามหาเพราะคิดว่าตายไปแล้ว ความจริงเด็ก ๆ ของเรามีอายุไม่เกินห้าขวบ หากเกินห้าขวบก็ไม่สามารถมีชีวิตได้ถึงยี่สิบปี ซึ่งตั้งแต่ทดลองมาคนที่มีอายุเกินห้าขวบต่างก็กลายเป็นคนพิการ ร่างกายเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ แต่หลี่เจี่ยซินเธอดูตัวเธอสิตอนนี้จะอายุยี่สิบห้าแล้ว เธอเป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง”
หลี่เจี่ยซินกลอกตา สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดเธอคล้ายจะเข้าใจแล้ว ที่แท้เธอก็คือตัวทดลองที่หลุดออกจากแลปแห่งนี้นั่นเอง
“ในตอนที่เธอหายไป เธอทำร้ายคนของเราจนตายไปหลายคน ไม่มีใคจับเธอได้ เธอไม่กลัวปืน เธอรวดเร็วและสุดท้ายหายไป เราคิดว่าเธอตายในกองเพลิงแล้วแต่ที่ไหนได้เธอไม่ตาย ยังใช้ชีวิตของหลี่เจี่ยซินต่อไปได้อีกโดยที่เราไม่สงสัย”
หลี่เจี่ยซินเริ่มจะแก้ไขปัญหาที่ตัวเองสงสัยได้ทีละจุด ผู้หญิงคนนี้แม้จะหน้าตาและท่าทางยังอายุน้อย แต่ความจริงเธอแก่มากแล้วเป็นแน่ นี่มันวิทยาการอะไรถึงได้หยุดอายุผิวของคนได้ดีขนาดนี้
“หลี่เจี่ยซินตัวจริงตายแล้วใช่หรือเปล่า”
ด็อกเตอร์พยักหน้า
“ก็ไม่นับว่าตาย ในเมื่อหัวใจที่เธอใช้และความทรงจำบางอย่างที่เหมือนเธอจะจำได้ยังเป็นของหลี่เจี่ยซินอยู่ ยังมีอวัยวะอีกหลายชิ้นที่เราเปลี่ยนถ่ายมาใส่ในร่างของเธอ เด็กคนนั้นจึงนับว่าคือเธอในบางส่วน ความจริงมันน่าเศร้าที่เราไม่สามารถรักษาชีวิตเธอเอาไว้ได้แม้จะทดลองหลายอย่างก็ตาม”
หลี่เจี่ยซินคล้ายจะรู้สึกว่า ในตอนที่ถูกทดลองหนูหน้อยหลี่เจี่ยซินคนนั้นคงทรมานเป็นอย่างมากเป็นแน่
“คุณจะบอกว่า ฉันใช้อวัยวะของหลี่เจี่ยซิน และฉันเป็นตัวทดลองของพวกคุณที่บังเอิญมีชีวิตยืนยาว ที่ฉันดันหนีออกไปในตอนเด็ก”
ด็อกเตอร์พยักหน้า
“เธอยังเก่งเหมือนเดิมนี่ เคยสงสัยหรือเปล่าล่ะ ว่าทำไมตัวเองถึงได้ต่อสู้เก่ง แรงเยอะขนาดนั้น ยังมีความสามารถด้านอื่น ๆ ที่คนระดับไอคิวสูงยังทำไม่ได้ แต่เธอไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรืออย่างอื่นสามารถทำได้ดีจนน่าทึ่ง พ่อของเธอคงซ่อนเธอไว้อย่างดีล่ะสิ ถึงได้ให้อาศัยอยู่ในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เก่า ๆ นั่น คงไม่อยากให้ใครพบและที่สำคัญจิตใต้สำนึกของเธอเองก็กำลังบอกตัวเองว่าอย่าโดดเด่นเป็นอันขาดใช่หรือไม่”
หลี่เจี่ยซินเข้าใจแล้ว เธอกระจ่างแจ้งทุกอย่าง
“คุณทดลองไปเพื่ออะไร”
ด็อกเตอร์คนนั้นหัวเราะ
“ก็แค่ธุรกิจ อันที่จริงพวกเธอก็เกิดจากหลอดทดลองอยู่แล้ว แต่ความสามารถมากมาย ส่งไปเป็นสายลับให้กับรัฐบาลต่าง ๆ หรือกระทั่งเข้าร่วมสงครามระเบิดพลีชีพ ก็ต้องใช้คนที่ใจกล้า เพียงแต่ว่าทุกคนล้วนอายุไม่เกินห้าปีทุกอย่างก็เริ่มถดถอยลงแล้ว ขายไม่ได้ราคาดีเท่าไหร่แต่คนก็ยังต้องการ มีใครจะสงสัยเด็กกันบ้างล่ะ เธอว่าหรือเปล่าว่าเด็กน้อยตาดำ ๆ พวกนั้นจะกล้าพกระเบิดไปกลางชุมชนและฆ่าคนไม่เลือกหน้าได้”
แท้ที่จริงแล้วธุรกิจนี้ช่างทารุณเป็นอย่างยิ่ง หลี่เจี่ยซินแทบจะร้องไห้ออกมา นี่เธอถูกสร้างมาเพื่อทำลายโลกหรอกหรือ
“ไม่ต้องกลัว เราแค่ต้องการตัวเธอมาวิจัยว่าทำไมเธอจึงมีอายุยืนกว่าคนอื่น และยังอยู่ในสภาพที่สมบูณณ์แบบนี้”
ประธานกู้พูดขึ้น เขาไม่ปิดบังอะไรหลี่เจี่ยซินเพราะอีกไม่นานผู้หญิงคนนี้คือสิ่งล้ำค่าของเขา ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จแล้ว
“ฉันกำลังจะตาย มีก้อนเนื้อในสมองที่โตขึ้นทุกวันและโตอย่างรวดเร็ว โอกาสผ่าตัดแล้วหายมีน้อยมาก อีกไม่กี่เดือนก็อายุยี่สิบห้าปีแล้ว”
หลี่เจี่ยซินสารภาพ เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไรกับ ตัวทดลองที่กำลังใกล้ตาย เท่าที่ฟังมาหลี่เจี่ยซินไม่ได้แปลกใจหรือตื่นเต้นเลย นั่นคงเป็นเพราะว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเองก็รู้เรื่องนี้ แต่ใจไม่อยากยอมรับและพยายามปฏิเสธและปิดกั้นความทรงจำนี้เอาไว้
เธอเป็นคนพิเศษ การปิดกั้นนี้เธอสามารถทำได้ง่ายดาย
เมื่อเธอสารภาพดูประธานกู้จะตกใจไม่น้อย ของล้ำค่าของเขาที่แท้กำลังจะตายอย่างนั้นเหรอ
“ว่ายังไงด็อกเตอร์มีทางช่วยเธอหรือเปล่า”
ด็อกเตอร์ถอนหายใจ
“หากจะรักษาชีวิต ยับยั้งก้อนเนื้อนั้นต้องฉีดยาสลายให้เธอ ซึ่งจะทำให้กระทบถึงความพิเศษในตัว หลี่เจี่ยซินอาจจะมีชีวิตยืนยาวอีกสักสิบปีแต่เธอจะกลายเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถนำเนื้อเยื่อของเธอมาเพาะได้อีก”
ประธานกู้ไม่พอใจมาก
“แบบนั้นก็หาทางรักษา หรือไม่ก็รีบเลาะกระดูกเลาะเนื้อของเธอมาเอามาวิจัย ลูกค้าตื่นเต้นมากกับโปรเจคนี้ยังทุ่มไม่อั้นเพื่อได้เธอ หากเราสามารถสร้างคนอย่างหลี่เจี่ยซินได้เป็นกองทัพ โลกใบนี้ก็ตกอยู่ในมือของเราแล้ว”
ประธานกู้ออกไปแล้ว หลี่เจี่ยซินตกใจในความคิดของเขา ไม่ได้การแล้วเธอไม่ยินยอมให้ใครเอาเนื้อเยื่อของเธอไปเพาะเป็นอันขาด ถึงเธอต้องตายเธอก็ไม่ยินยอม หลี่เจี่ยซินมองด็อกเตอร์ด้วยสายตาอ้อนวอน
“ด็อกเตอร์คะ คุณบอกว่าเหมือนแม่ของฉัน แบบนี้จะช่วยฉันได้หรือเปล่าคะ ฉีดยาสลายก้อนเนื้อให้ฉันเถอะค่ะ ได้โปรด”
ด็อกเตอร์ส่ายหน้า
“ยานี่มีอันตรายและยังมีผลข้างเคียงที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ เราใช้กับเด็กหลายคนแล้วหลังจากลองฉีดดูพวกเธอแม้จะมีชีวิตอยู่รอดแต่กลายเป็นคนพิการไปแล้ว เธอยอมเหรอ”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า เธอไม่ยินยอมที่จะเป็นคนพิการ แบบนี้ขอตายดีกว่า
ด็อกเตอร์กระซิบกับเธอเสียงเบา
“แต่ยาล็อตล่าสุดตอนนี้รู้สึกว่าผลข้างเคียงจะมีน้อยมาก เธออาจจะอยู่ได้อีกสักห้าปีฉันเองก็เอาออกมาไม่ได้ เราเตรียมไว้ในอนาคตเผื่อคนที่แข็งข้อแต่ยังมีประโยชน์อยู่ อย่างน้อยฉีดยานี่จะทำให้พวกเขากลายเป็นคนปกติที่เชื่อฟัง แต่อย่างที่บอกว่าต้องให้ประธานกู้เป็นคนเปิดตู้ยา ฉันไม่มีสิทธิ์และแน่นอนว่าเขาไม่ช่วยเธอหรอก เธอคือเงินมหาศาลและอาจนำไปสู่การครองโลกใบนี้ของเขา”
หลี่เจี่ยซินถอนหายใจ ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็มีเวลาเหลืออีกไม่กี่เดือนแล้ว เธอลุกขึ้นแล้วบอกว่า
“ฉันต้องไปแล้วค่ะ มีคนรออยู่”
ด็อกเตอร์คนนั้นยิ้มแล้วส่ายหน้า
“เธอถูกฉีดยาให้อ่อนแรง ตอนนี้เธอไม่มีแรงเหมือนเดิมแล้ว เธอจะไปไหนได้ล่ะ”
หลี่เจี่ยซินมองไปรอบ ๆ ห้อง มีคนเฝ้าเธออยู่มากแต่ละคนล้วนเป็นเด็กตัวเล็ก และเป็นเด็กผู้หญิงท่าทางน่ารัก แต่ละคนมีผิวพรรณและหน้าตาที่ผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติ หลี่เจี่ยซินหัวเราะ
“เด็กพวกนี้จะทำอะไรฉันได้”
ด็อกเตอร์ยิ้ม
“แรงของพวกเขาเยอะมาก ไม่ต่างจากเธอเลย ถ้าในเวลาที่กำลังของเธอฟื้น พวกเขาจะสู้เธอไม่ได้แต่หากหลายคนรวมกันเธอก็สู้เด็กพวกนี้ไม่ได้ อย่าเสี่ยงเลย อยู่ที่นี่อย่างสงบให้ฉันหาทางช่วยเธอจะดีกว่า”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ ฉันจำได้ทุกอย่างแล้ว ไม่รบกวนแล้วปล่อยให้ฉันตายไปเงียบ ๆ เถอะค่ะ”
ด็อกเตอร์ผายมือ เธอเองก็อยากรู้ว่าหลี่เจี่ยซินที่ถูกฉีดยาควบคุมแบบนี้จะทำอะไรได้ ปืนจ่อเข้าที่ศีรษะของหลี่เจี่ยซินแล้ว เธอกลับยิ้มแล้วหัวเราะ
“คุณไม่กล้ายิงหรอก ฉันเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดไม่ใช่เหรอคะ”
ด็อกเตอร์ยิ้มสวย “จะว่าแบบนั้นก็ใช่ เอาล่ะในเมื่อเธอไปไหนไม่รอดแล้วก็รออย่างสงบ ฉันจะไปจัดเตรียมของแล้ว”
ตกดึกคืนนั้นหลี่เจี่ยซินก็ลอบออกมาจากห้องทดลองได้อย่างรวดเร็ว ด็อกเตอร์คนนั้นไม่รู้ว่าหลี่เจี่ยซินมีความสามารถในการขจัดพิษในร่างกายที่ดีเยี่ยม นี่เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากร่างกายของเธอเอง และหลี่เจี่ยซินก็แปลกใจเช่นกัน
เด็กพวกนั้นต่างคนต่างนอนสลบอยู่ตามทางเดิน สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ผู้คนวิ่งกันขวักไขว่ หลี่เจี่ยซินอาศัยความว่องไวหนีออกมาด้านนอกได้ในที่สุด
“จะสร้างอาคารทั้งทีก็ยังสร้างเหมือนเดิมเป๊ะ ฉันน่ะจำได้อยู่แล้วว่าควรหนีแบบไหน”
หลี่เจี่ยซินเดินออกมาตามถนน เธอใช้ใบหน้าอันสวยงามของตัวเองโบกรถขอความช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีเมื่อคนที่รับเธอเป็นวัยรุ่นขี้ยาแก๊งค์หนึ่ง
“ฉันเตือนพวกนายว่าอย่ายุ่งกับฉันจะดีกว่า”
เธอเข้ามานั่งในรถ และแน่นอนว่าไม่ได้กลัวยังถูกลวนลามอีกด้วย หลี่เจี่ยซินที่นั่งนิ่ง ๆ ในตอนแรก ตอนนี้ได้หักมือของวัยรุ่นไปแล้วสองคน ทั้งยังทำปืนที่พวกมันชักออกมาหวังจะขู่เธอลั่นไปโดนขาของคนขับรถ
เด็กพวกนั้นจอดรถอยากจะปล่อยเธอลง แต่หลี่เจี่ยซินไม่ยินยอมเธอบังคับให้คนทั้งสี่คนในรถมาส่งจนถึงหน้าประตูบ้านของเฉินเฟยอวี๋ หลี่เจี่ยซินถูกจับตัวไปไกลมาก กว่าเธอจะกลับมาถึงบ้านก็กินเวลาไปเกือบสามวันเพราะความล่าช้าของคนขับที่ขับไปกลัวเธอไป ยังคิดจะหนีอีกหลายครั้ง
หลี่เจี่ยซินในตอนนี้รู้สึกเหงามาก เธออยากมีเพื่อนร่วมทางเยอะ ๆ ยังบังคับให้ขี้ยาทั้งสี่ร้องเพลงให้เธอฟังตลอดการเดินทาง หลี่เจี่ยซินโยนยาเสพติดของพวกเขาทิ้งระหว่างทาง เธอไม่หลับไม่นอนเพราะเอาแต่คิดถึงเฉินเฟยอวี๋ แต่เธอก็ไม่ได้โทรหาเขาคิดจะกลับไปเก็บของที่มีไม่กี่ชิ้นของเธอแล้วทิ้งจดหมายเอาไว้ออกจากบ้านหลังนั้นซะ
“พี่สาวใกล้ถึงหรือยัง พวกเราไม่ไหวแล้วนะพี่ใช้เงินพวกเราจนจะหมดอยู่แล้ว”
“อ้าว พวกนายบอกเองว่ามีน้ำใจจะไปส่ง ฉันถามแล้วว่าไกลนะยังจะไปอีกเหรอพวกนายต่างแข็งขันจะมาเอง ตอนนี้จะมาบ่นเดี๋ยวตบเข้าให้ หุบปากแล้วร้องเพลงเพราะ ๆ ให้ฉันฟังด้วย”
คนพวกนั้นกลัวหลี่เจี่ยซินจะตีจนตัวสั่น เมื่อใกล้จะถึงบ้านของเฉินเฟยอวี๋แล้วเกิดมีรถขับมาล้อมพวกเขาไว้ เด็กวัยรุ่นพวกนั้นกลัวจนฉี่ราด หลี่เจี่ยซินโกรธจึงป๊าบเข้าที่ลำคอของวัยรุ่นคนนั้นไปทีหนึ่ง
“กล้าดียังไงมาฉี่ใส่รถ แล้วจะเดินทางยังไง”
“พี่ดู มีคนมาล้อมรถของเรา”
หลี่เจี่ยซินเห็นแล้วว่าเป็นใคร ทั้งที่เธอคิดจะหนีจากเขาแท้ ๆ กลับทำใหญ่โตเอาคนมาดักเธอไว้ หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ไม่ต้องห่วง ผัวพี่เองแหละมาตามให้กลับบ้านเขาเป็นมาเฟีย เขาขี้หวงคนที่คิดทำร้ายพี่ก็ระวังตัวให้ดีเขาอาจฆ่าทิ้งได้”
หลี่เจี่ยซินข่มขู่เพราะสนุก แต่ทำเอาเด็กอีกสามคนฉี่ราดไปตาม ๆ กัน ในขณะที่เธอเปิดประตูและโผเข้าไปซุกในอ้อมกอดของเฉินเฟยอวี๋แล้วหลับไปทันที