ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 47 ควงผู้ชายมาหยาม
ใครว่าหลิวไห่ไม่อยากไปงานเลี้ยงของกู้เมิ่ง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่พลาด ในคืนนี้เขายืนอยู่ในงานเรียบร้อยแล้วในฐานะลูกชายของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเขาตั้งแต่อยู่ที่ฮ่องกง
หลิวไห่ปลอมตัว เขาใส่แว่นใส่หนวดและยังทำผมสีขาวแทบจะไม่มีใครสังเกตุว่าเขาเป็นใคร ในงานนี้ทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือสร้างสัมพันธ์กับกู้เมิ่ง นายทุนยักษ์ใหญ่ที่จะมาลงหลักปักฐานในแผ่นดินใหญ่
ว่ากันว่ากู้เมิ่งมีอิทธิพลมากกระทั่งนักการเมืองระดับชาติเขาก็ซื้อตัวมาเป็นพวกเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเป็นดาวเด่นในงานอย่างแท้จริง
งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างราบรื่น ดูเหมือนว่าน้องสาวของเขาเฉินอิ่งจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกู้เมิ่งเป็นอย่างมาก เธอเป็นคนสวยแน่นอนว่าย่อมเข้าตากู้เมิ่ง และท่าทางสนิทสนมนั้นก็ทำให้ใครหลายคนในงานต่างมองพวกเขาว่ามีย่อมมีเบื้องหลังที่มีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อนแน่นอน
มิน่าล่ะ เฉินอิ่งจึงทำทุกวิธีทางที่จะควบรวมกิจการให้กับกู้เมิ่ง ในขณะที่เฉินเฟยอวี๋วัน ๆ คิดแต่เรื่องใช้เงิน บริษัทที่พ่อแม่บุญธรรมก็ถูกเฉินอิ่งวางแผนขายมานานแล้วสิท่า
หลิวไห่คิดไม่ออกว่าเฉินเฟยอวี๋จะทำยังไงหากไม่มีเขา จะไม่อดตายอยู่ข้างถนนหรอกหรือ
ในขณะที่หลิวไห่กำลังสังเกตในงานอย่างละเอียด พลันเขาก็สะดุดเข้ากับคนคนหนึ่ง
เขาจ้องผู้ชายคนนั้นเขม็ง สายตาแข็งกร้าว ความรู้สึกในวันนั้นกลับมาอีกครั้ง
ผู้ชายคนนั้นคือคนที่จับเขาโยนลงน้ำเป็นเหยื่อล่อจรเข้ และอาจเป็นคนที่ฆ่าพ่อของเขาด้วย
หลิวไห่ตามหาตัวมันมาหลายปี สุดท้ายก็โผล่หางออกมาจนได้
เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตหลิวไห่เริ่มต้นสนทนากับใครบางคนในงานด้วยเรื่องธุรกิจของพวกเขา หลิวไห่เองก็มีความชำนาญและความรู้รอบตัวอยู่มาก ไม่ว่าใครจะคุยด้วยเรื่องอะไรเขาก็สามารถโต้ตอบได้อย่างมีความรู้
เขาค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นทีละก้าว จวบจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ที่หลังผู้ชายคนนั้นโดยที่เขาไม่ทันระวัง
ในใจของเขาอยากจะชักมีดออกมาฆ่าคนให้สมกับความแค้นนัก แต่เรื่องของเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เขาจะทำให้พวกมันได้รับกรรมอย่างสาสม
ทั้งเรื่องพ่อของเขา และเรื่องที่ทำให้เขาต้องติดคุก
หลิวไห่เงี่ยหูฟังเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นกำลังพูดคุยกับใครบางคน ข้างในนี้มีเสียงที่ค่อนข้างดังมากเขาจึงไม่ได้ยินเสียงกระซิบของผู้ชายคนนี้ ท่าทางแบบนี้คล้ายกับมีเรื่องสำคัญ
หลิวไห่ค้อมตัวลงเมื่อคนที่เขาสนทนาด้วยขอตัวไปคุยกับใครอีกคน พร้อมทั้งทายทายด้วยความดีใจ
“สวัสดีครับผู้กองหูไม่คิดว่าคุณจะมาร่วมงานนี้ด้วย”
หลิวไห่ได้ยินชื่อนายตำรวจคนนั้นอย่างชัดเจน เขาจึงหันขวับมามองผู้ชายคนนั้นทันใด
ที่แท้เป็นหูเสี่ยวเทียน เพื่อนวัยเด็กของหลี่เจี่ยซิน วันนี้เขาสวมชุดสูทแปลกตายังควงมากับสาวสวยคนหนึ่งแต่งหน้าจัดจ้านแต่ก็ดูแล้วสวยสะดุดตาไม่เบา แต่ เอ๊ะ
หลิวไห่แทบจะทำแก้วไวน์ในมือหลุดลงบนพื้น
หลี่เจี่ยซิน
ทำไมผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่กัน และยังกล้าควงคู่มากับคนอื่นอีกด้วย เธอกล้าดียังไง เธอมีเขาอยู่แล้วนะ และทำไมเธอต้องแอบมาโดยไม่บอกเขาสักคำ ทำไมล่ะหลี่เจี่ยซิน เธอคิดอะไรอยู่
หลิวไห่ขยับตัวมาแอบฟังพวกเขาคุยกัน และจากการสนทนาของพวกเขาหลิวไห่ก็ได้รู้ว่าผู้กองหูคนนี้เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทใหญ่คนหนึ่ง ร่ำรวยไม่ใช่เล่นแต่เขาชอบเป็นตำรวจมากกว่าเป็นนักธุรกิจ
คำถามว่า ทำไม? ทำไม? ทำไม? วนเวียนอยู่ในหัวของหลิวไห่ เขาคิดสมองแทบแตกที่พบคู่หมั้นของตัวเองเอ๊ยของน้องชายอยู่ที่นี่ด้วย
ผู้ชายคนนั้นถามหูเสี่ยวเทียนต่อ ในขณะที่หลิวไห่ขยับตัวประชิดเขาจนแทบที่จะสิงร่างของชายคนนั้นอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาคงจะอึดอัดจึงขยับออกไป
เป็นครั้งแรกที่หลิวไห่ใจลอย เขาไม่มีสติแล้วจึงทำเรื่องโง่ ๆ พวกนั้นออกไป
“คือคุณหลิวครับ ผมว่าคุณอยู่ใกล้ผมเกินไป”
ผู้ชายคนนั้นเริ่มไม่สบายใจแล้วเมื่อหลิวไห่ในคราบของบุตรชายประธานหลิวประกบหลังเขาจนชิดจนเป้าแทงก้นของเขาแบบนี้
หลี่เจี่ยซินชะโงกหน้ามาดู แน่นอนว่าเธอย่อมจำได้ว่าเขาคือใคร แต่มองอย่างประหลาดใจแต่ไม่เปิดโปงเจ้านายของตัวเอง เธอบอกเขาว่าจะมาเที่ยวกับเพื่อนเก่า เขาก็อนุญาตส่วนตัวเขาเองบอกว่าต้องการพักผ่อน ไม่คิดว่าเขาจะเสี่ยงมาที่นี่คนเดียว
ที่รักของเธอตอนนี้กล้าหาญจนน่าประทับใจ
ไม่ว่าเขาจะปลอมตัวยังไงเธอย่อมจำเขาได้ หลี่เจี่ยซินไม่ใช่คนธรรมดาเธอเป็นอัจฉริยะ เธอเก่งทุกด้านและไม่ใช่เก่งแบบธรรมดา หลี่เจี่ยซินเป็นคนเก่งระดับประเทศ หรือจะเรียกว่าระดับโลกก็ได้ หากความสามารถของเธอไม่ถูกพ่อแม่ยับยั้งเอาไว้ให้อยู่แต่ในโรงฝึกซ้อมเธอคงใกล้เคียงไอสไตลไปนานแล้ว แน่นอนว่านี่คือความคิดของตัวเธอเองและยังไม่มีบทพิสูจน์ และหลี่เจี่ยซินเองก็ไม่มีความฝันอย่างอื่นนอกจากทำให้พ่อแม่มีความสุข
หลิวไห่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกหลี่เจี่ยซินจับได้แล้ว เขาขยับตัวออกห่างผู้ชายคนนั้นพร้อมกับกล่าวคำขอโทษด้วยความสุภาพ
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันมอง”
“ไม่เป็นไรครับ”
ผู้ชายคนนั้นขยับตัวถอยหนีเขายังคุยต่อกับผู้กองและคู่ควงของเขา หลายครั้งที่หันมามองหลิวไห่อย่างหวาดระแวง
“ไม่ทราบว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นี่แฟนใช่หรือเปล่าครับไม่เคยเห็นหน้าเลยสวยมากเลยนะครับ”
หลิวไห่กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมา
กล้าดียังไงมาถามว่าคู่หมั้นของเขาเป็นแฟนคนอื่นหรือเปล่า
หูเสี่ยวเทียนยิ้มแก้มฉีกจนถึงใบหู
“อ้อ เพื่อนครับ เพื่อนของผมเองแต่ดีใจนะครับที่คุณคิดว่าเธอเป็นแฟนของผม”
หลี่เจี่ยซินแสร้งปิดปากหัวเราะ พร้อมกับค้อมตัวลงอย่างสุภาพ
“ฉันหลี่เจี่ยซินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
หลี่เจี่ยซินปลายตามองเฉินเฟยอวี๋ในคราบนักธุรกิจอาวุโสผมหงอกใส่แว่น เธอหัวเราะในลำคอท่าทางมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
หูเสี่ยวเทียนขยับตัวมาโอบเอวของเธอ เมื่อเพลงเต้นรำดังขึ้น
“เต้นรำกันมั๊ย”
หลี่เจี่ยซินส่ายหน้า
“ฉันเต้นไม่เป็น”
หูเสี่ยวเทียนดึงมือของเธอ การใกล้ชิดกับผู้ชายในฝันทำให้ผู้หญิงที่แสร้งทำเป็นอ่อนแอใจพองโต
“ไม่เป็นไร ฉันสอนให้”
เอาล่ะสิ หลี่เจี่ยซินปลากินเบ็ดแล้ว เธอมีหรือจะปฏิเสธ ในใจลิงโลดคล้ายกำลังถูกลอตเตอรี่ใบใหญ่ แสงไฟพลันสลัวทำนองเพลงหวานดังพลิ้วไหว หลายคู่ต่างออกไปเต้นรำ ในท้องของหลี่เจี่ยซินดูเหมือนจะมีผีเสื้อนับล้านตัวบินวน
ผู้ชายรูปหล่อคนนี้กำลังประคองเธออย่างทนุถนอมไปกลางฟลอร์เต้นรำ ท่ามกลางสายตาของคนนับร้อยและคู่รักคู่อื่นที่ทยอยกันออกมา ช่างเป็นงานเลี้ยงที่มีความสุขและเป็นกันเองอย่างยิ่ง
ในขณะที่หลายคนกำลังมีความสุข ในมุมหนึ่งไฟแห่งความริษยากำลังแผดเผาผู้ชายคนหนึ่งอย่างน่าสงสาร
แก้วในมือของหลิวไห่แตกไปแล้ว เขาโกรธจนไม่รู้จะแสดงออกยังไง บริกรที่อยู่ตรงนั้นตกใจรีบวิ่งมาเช็ดแก้วที่หล่นกระจายอยู่บนพื้น โดยที่ไม่ทันมองว่าเป็นใครที่ทำแก้วหล่น
หลี่เจี่ยซินเอนตัวเข้าซบลงบนอกอบอุ่นของหูเสี่ยวเทียน แต่เธอต้องชะงักเมื่อรู้สึกว่าไม่ชอบน้ำหอมของเขาเสียจริง หากเธอเป็นแฟนกับเขาคงต้องซื้อให้ใหม่ ตรงกันข้ามกับน้ำหอมของเฉินเฟยอวี๋ ก่อนหน้านั้นเขาใช้ในสิ่งที่เธอเลือก เธอจึงชอบกอดเขานัก
ว่าแล้วเธอก็มองหาเฉินเฟยอวี๋ แต่ว่าตอนนี้เขาหายไปแล้ว