คลั่งไคล้ใคร่รัก - ตอนที่ 2กินของหนูให้อิ่ม ๆ
จังหวะกระทั้นเริ่มเร็วแรง จังหวะสุดท้ายเขาดันเข้าไปจนสุดลิ่มลำแล้วปลดปล่อยน้ำรักในโพรงปากนุ่ม
ร่างใหญ่กระตุกเบา ๆ เกร็งค้างลิ้มรสสวาทจากปากเด็กสาวอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงมันออกมาช้า ๆ
เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองด้วยดวงตาใสแจ๋วไร้เดียงสา น้ำรักของเขามากเหลือเกิน แม้จะกลืนลงไปแล้วแต่ก็ยังเอ่อล้นและมันกำลังไหลย้อยลงมาที่มุมปาก
เขาใช้นิ้วโป้งปาดมันแล้วยัดกลับเข้าไปในปากเธอ เด็กสาวเลียแล้วดูดกินราวกับมันเอร็ดอร่อยนักหนา
“ อิ่มไหม ” เขาถามเย้า เธอพยักหน้า
“ หนูอิ่มค่ะ แต่พี่ซันยัง ” พูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วผลักร่างใหญ่ให้เป็นฝ่ายลงไปนั่งบ้าง
เธอถลกกระโปรงขึ้นเหนือเอว ยกขาข้างหนึ่งพาดเข้าที่บ่าแข็งแรงของเขา อีกมือกระชากจิกเส้นผมบนศีรษะอีกฝ่ายแล้วกดลงมาที่ตรงกลางระหว่างขาตัวเอง
“ กินสิคะพี่ซันขา กินของหนูให้อิ่ม ๆ ”
พลางถูไถใบหน้าหล่อเหลาเข้ากับเครื่องเพศอันเยิ้มฉ่ำไปด้วยน้ำกำหนัดจนเปียกเปื้อนไปหมด กลิ่นสาปคาวสาวกระตุ้นเร้าให้เขา โคตรเงี่ยน
เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วแสยะยิ้มอย่างพึงใจ
สาวน้อยบ้านนาไร้เดียงสา บัดนี้กลับกลายเป็นเสือสาวผู้โหยหิวอย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นไปได้
และเธอกำลังทำให้เขาคลั่งไคล้ ปรารถนาเพียงเธออย่างไม่มีวันจบสิ้น…
***
สองอาทิตย์ก่อน
“ หูย สวยจังเลยค่ะคุณครู สวยเหมือนในละครที่หนูเคยดูเลย ”
เสียงอุทานอย่างตื่นเต้นดังมาจากของเด็กสาวผอมบางร่างเล็ก ผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนประดับเบิกมองสิ่งแวดล้อมรอบตัว จมูกโด่งรั้นเล็ก ๆ รับกันดีกับริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่มที่อ้าหวอแล้วร้องอู้หู โอ้โห ไม่หยุดหย่อน เธออยู่ในเครื่องแบบมัธยมปลายของรัฐบาล เสื้อขาวที่หมองไปทางเหลืองขุ่น กระโปรงน้ำเงินที่ค่อนข้างเก่าซีด ด้วยฐานะการเงินทางบ้านที่ลำบากลำบน จะให้ซื้อเครื่องแบบใหม่บ่อย ๆ อย่าพูดถึง แค่มีอาหารกินไปวัน ๆ หนึ่งยังลำบาก
เธอเป็นกำพร้า พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก เติบโตมากับยายเพียงลำพัง กระนั้นเธอก็ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา เป็นเด็กดีของยาย ตั้งใจเรียนจนกระทั่งเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียน โชคดีเหลือเกินที่ได้รับความเมตตาจากผู้อุปการคุณคนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาตั้งแต่มัธยมหกจนถึงจบมหาวิทยาลัย
นายแพทย์ดุจตะวัน ภควัตโชติกุล คือผู้อุปการคุณแสนใจดีคนนั้น
และบ้านหลังใหญ่หลังโตนี้ที่เด็กสาวกำลังประหลาดใจกับมันก็คือบ้านของเขา
“ พอแล้วยัยแก้ว ตาจะทะลักออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว ” ครูรุ่งรัตน์ ครูประจำวิชาแนะแนวที่เป็นผู้ขอทุนนั้นให้กับเด็กสาวที่เป็นนักเรียนของท่านพูดขึ้นอย่างเอ็นดู
แก้วกานดา ผาเจริญรุ่ง หรือแก้ว คือชื่อของเด็กสาววัยสิบแปดย่างสิบเก้าคนนี้
“ เดี๋ยวยังไงเชิญคุณครูและคุณแก้วกานดาเข้ามาที่เรือนรับรองแขกก่อนเลยค่ะ ” เสียงเรียบนิ่งดังมาจากปากผู้หญิงวัยราวห้าสิบเบื้องหน้า ที่รวบผมมวยตึง สวมชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อน กระโปรงยาวสีน้ำตาลเข้ม บุคลิกของเธอดูราวกับคุณครูฝ่ายปกครอง
เธอแนะนำตัวกับแขกผู้มาเยือนทั้งคู่ว่า ชื่อคุณวันเพ็ญ เป็นแม่บ้านของที่นี่
“ นายรุ่ง เดี๋ยวหิ้วกระเป๋าสัมภาระของคุณทั้งคู่ไปเก็บที่เรือนรับรองด้วยนะ ” เธอหันไปสั่งกับคนขับรถวัยราวสี่สิบที่ตอบอย่างพินอบพิเทา
“ ครับ คุณแม่บ้าน ”
เด็กสาวแอบมอง ท่าทีของคุณแม่บ้านช่างสง่าน่าเกรงขามราวกับเธอเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง
“ เชิญคุณทั้งคู่ตามฉันมาเลยค่ะ ” คุณแม่บ้านหันมาบอกกับทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าก่อนเดินนำไป
แก้วกานดากับครูรุ่งรัตน์เดินเคียงกันตามไป ขณะเดิน สายตาของเด็กสาวในชุดมัธยมปลายก็ยังคงกวาดมองทั่วบริเวณอย่างทึ่ง ๆ
‘ คุณหมอท่านเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อในกรุงเทพ ฯ ที่เป็นทั้งโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปและศัลยกรรมความงาม ’
นั่นคือสิ่งที่ครูรุ่งรัตน์บอกข้อมูลผู้มีอุปการคุณของเธอ
“ คุณหมอคงจะรวยมาก ” เธอแอบคิดในใจ