ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 97 เน้นเอื้อประโยชน์แก่ประชาชน ตอนที่ 98 ผู้ดำเนินกิจการที่ทำกำไรมหาศาลด้วยความไม่ชอบธรรม
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 97 เน้นเอื้อประโยชน์แก่ประชาชน ตอนที่ 98 ผู้ดำเนินกิจการที่ทำกำไรมหาศาลด้วยความไม่ชอบธรรม
ตอนที่ 97 เน้นเอื้อประโยชน์แก่ประชาชน
การให้ที่หลบภัยแก่อีกฝ่ายถือเป็นการกระทำความดีแล้ว จะให้คอยค้ำจุนดูแลเรื่อยไปคงไม่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นแม่นางผู้นั้นในเมื่อกล้าแต่งงานด้วย ก็ต้องรู้ฐานะตัวตนของฮั่วหรงอยู่แล้วว่าไร้ญาติไร้ศัตรู ถึงขั้นว่า…ไม่แน่ก็เพราะฐานะตัวตนนี้จึงได้กระโจนเข้าใส่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นยิ่งไม่ต้องแทรกมือเข้าไปใหญ่
หัวหน้าหมู่บ้านซิ่งฮวาผู้นั้น…
อยู่ในตำแหน่งนั้นมาหลายสิบปีแล้ว เป็นคนเช่นไรเขารู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ซึ่งเงินนั้นอีกฝ่ายก็จัดสรรได้อย่างดีเยี่ยม
ทว่า…
เอ่ยถึงฮั่วซ่งซื่อผู้นี้ กลับทำให้เขานึกถึงคุณหนูใหญ่ซ่งอีกท่านหนึ่ง
คุณหนูซ่งผู้นั้นขนาดขายผลไม้ป่ายังประหลาดเช่นนี้ เกรงว่าคงใจกล้าไม่น้อยเช่นกัน หากเรื่องราวตกไปอยู่ที่ตัวนาง ไม่แน่ว่าจะทำเรื่องพิสดารยิ่งกว่าแต่งงานกับคนตายก็เป็นได้
“จริงสิต้าเหริน ตอนที่ข้าอยู่ในอำเภอหลี่ได้ยินว่าภัตตาคารเย่ว์เฟิงมีบ๊ะจ่างทองคำชั้นยอดเพิ่มเข้ามา…วันหนึ่งขายแค่หนึ่งร้อยชิ้นเท่านั้น ข้าซื้อไม่ทัน ดังนั้น…” ฮั่วซื่อเซี่ยงฉีกยิ้มใสซื่อ
ฮั่วเจ้ายวนอ่อนใจ
ก็มีแต่ซื่อเซี่ยงเท่านั้นที่มีมิตรสัมพันธ์กับเขามาหลายปี ถึงได้…
“เอาเถอะ จัดวางสุราไว้ในศาลา ให้ทางห้องครัวนำบ๊ะจ่างที่ส่งมาอุ่นร้อนสักหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
ภัตตาคารเย่ว์เฟิงเป็นกิจการของสหายที่ดีของเขา ตัวคนอยู่ในเมืองหลวง ตัวอยู่ห่างไกลเกินกว่าจะดูแลจัดการได้ ส่วนเมืองยงเป็นถิ่นที่เขาได้รับมอบให้ปกครอง จึงใช้ผลกำไรสองส่วนมาเป็นตัวแลกเปลี่ยนกับการให้เขาดูแลจัดการ
แม้กล่าวว่าเป็นเพียงสองส่วน ทว่าหลายปีมานี้ก็ได้รับผลตอบแทนมากมาย
ฮั่วซื่อเซี่ยงสุขใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ไม่นานนัก นายบ่าวสองคนก็ร่วมกินดื่มกันในศาลา
สายลมเย็นพัดโบก แสงจันทรานวลผ่อง ผิวน้ำบริเวณโดยรอบเคลื่อนไหวเป็นระรอก แม้ไร้หญิงงาม แต่สุรารสเลิศ ก็ถือว่าช่วยให้สุขสบายใจไม่น้อยเช่นกัน
บ๊ะจ่างเป็นของที่ส่งมาถึงเรือนหลังใหญ่โตตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้แกะไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เมื่อถือขึ้นมา ฮั่วซื่อเซี่ยงก็เบิกตาโต “ต้าเหริน นี่เป็นบ๊ะจ่างทองคำจริงๆ หรือขอรับ ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“ดมดูก็กลิ่นหอมด้วย ทั้งยังเหมือนไม่ใช่กลิ่นหอมของบ๊ะจ่าง!” ฮั่วซื่อเซี่ยงกัดเข้าปากในทันที
ฮั่วเจ้ายวนกัดชิมรสหนึ่งคำเช่นกัน จากนั้นปมใจกลางคิ้วก็ค่อยๆ คลายออก
รสชาติ…มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง เพียงคำเดียวนี้ คล้ายขจัดความอ่อนล้าไม่สบายตัวออกไปจนหมดก็ไม่ปาน
เขาเป็นคนฝึกวรยุทธ์การต่อสู้ เป็นธรรมดาที่จะสัมผัสได้ว่า บ๊ะจ่างนี้ดูเหมือนเป็นยาวิเศษเทพเซียน มีฤทธิ์ในการฟื้นฟูพละกำลัง สติ และจิตใจให้สดใสปลอดโปร่ง ไม่รู้เช่นกันว่าใช้วัตถุดิบอะไร เกรงว่า…ไม่ด้อยไปกว่าของดีอย่างพวกโสมและเห็ดหลินจือเหล่านั้นก็ว่าได้กระมัง?
แค่บ๊ะจ่างธรรมดาชิ้นหนึ่ง ต้องลงทุนถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ผลกำไรของภัตตาคารเย่ว์เฟิงปีนี้คงจะไม่น้อยลงไปมากกระมัง?
ฮั่วเจ้ายวนไม่รู้ว่าบ๊ะจ่างนี้เป็นของที่ภัตตาคารเย่ว์เฟิงรับซื้อเข้ามา เดิมทีรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่คิดว่าคนเบื้องล่างก็คงเหน็ดเหนื่อยน่าดู สองปีนี้เขาเองก็กอบโกยผลกำไรได้ไม่น้อยเช่นกัน ถึงอย่างไรก็คงไม่ดีนักหากจะไม่พึงพอใจผู้น้อยเพียงเพราะบ๊ะจ่าง
“ตบรางวัล” ท้ายที่สุดก็ยังพยักหน้าแล้วกล่าว
“ต้าเหริน ได้ยินว่าบ๊ะจ่างนี้วันหนึ่งมีเพียงหนึ่งร้อยชิ้น จึงชิ้นละตั้งสองร้อยอีแปะเชียวละ! หรือไม่…ซื้อเหมามาทั้งหมดเลยดีหรือไม่ขอรับ” ฮั่วซื่อเซี่ยงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ฮั่วเจ้ายวนได้ยินดังกล่าว ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ของดีเช่นนี้ ราคาเพียงสองร้อยอีแปะ เกรงว่าเป็นเพราะความเอื้อประโยชน์แก่ประชาชนของภัตตาคารเย่ว์เฟิง กลายเป็นกิจการที่เข้าเนื้อแล้วจริงๆ
“ไม่ดี ของรสเลิศที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้ จะให้คนเดียวครอบครองทั้งหมดไม่ได้” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ฮั่วซื่อเซี่ยงทอดถอนใจ
เผยสีหน้าอย่างที่ว่า ว่าแล้วเชียวต้องเป็นเช่นนี้
นายท่านตระกูลเขาก็เป็นคนหนุ่ม แต่กลับดื้อรั้นมาก หากเทียบกับผู้เฒ่าที่ ‘ไม่สมประกอบ’ ผู้นั้น เขามีความยึดมั่นในระเบียบปฏิบัติเสียยิ่งกว่า น่าเสียดายที่คนใต้หล้ามีตาหามีแววไม่ มองนายท่านตระกูลเขาว่าเย็นชา พานพบประสบการณ์อันน่าเวทน่าตั้งแต่เยาว์วัย และยามที่เข่นฆ่าผู้คนดูโหดเหี้ยมไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นคือคิดว่านายท่านไม่ใช่คนดี
แต่เห็นๆ อยู่ว่า เขาดีเยี่ยมที่สุดแล้วต่างหาก แม้กระทั่งสาวชาวบ้านผู้น่าสงสารเขาก็ยังยินยอมช่วยเหลือ บนโลกนี้ผู้ที่ทรงอำนาจและสูงส่ง ยังมีผู้ใดเหมือนเช่นเขาอีกหรือ
ไม่ทันรู้ตัว บ๊ะจ่างหนึ่งจานก็หายไปหมดเกลี้ยง
คิดไม่ถึงว่า…รสชาติจะตราตรึงอย่างยิ่ง
…
สองวันถัดมา ยามที่ซ่งอิงนำบ๊ะจ่างมาส่งตามเคย ก็ถูกผู้ดูแลภัตตาคารเย่ว์เฟิงเชื้อเชิญเข้าไปด้วยตนเอง
สองสามวันมานี้ นางได้แต่เจอะเจอพูดคุยกับหัวหน้าจ้าวเท่านั้น ยังไม่เคยได้พบเจอผู้ดูแลร้านสักครั้งเดียว
ผู้ดูแลร้านแซ่อิน แววตาที่มองมาที่นางในเวลานี้ดูจิตใจดีมีเมตตา ทำให้ซ่งอิงอดเกิดอาการขนลุกขนชันไม่ได้
คงไม่ใช่ว่า…อยากบังคับหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ให้นางบอกกล่าวตำรับบ๊ะจ่างทองคำชั้นยอดออกมากระมัง? แต่เห็นผู้ดูแลร้านอ้วนท้วมคนนี้ดูมีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์จริงใจ ก็ไม่ค่อยเหมือนคนประเภทนี้นี่?
ตอนที่ 98 ผู้ดำเนินกิจการที่ทำกำไรมหาศาลด้วยความไม่ชอบธรรม?
ในสมองซ่งอิงเริ่มครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะต่อต้านอำนาจชั่วร้ายของอีกฝ่ายอย่างไร
“แม่นาง บ๊ะจ่างทองคำนี้ช่างมีความพิเศษยิ่งจริงๆ หลายวันมานี้บ๊ะจ่างนี่ทำให้กิจการของภัตตาคารเย่ว์เฟิงพวกเราดีขึ้นไม่น้อยเชียวละ…” ผู้ดูแลร้านกล่าว
เอาแล้ว! เอาแล้ว!
ถัดไปต้องถามสูตรตำรับลับจากนางเป็นแน่สินะ?
หากยังพอมีจิตสำนึกความเป็นคนอยู่บ้าง ก็ต้องเอ่ยปากขอซื้อเป็นแน่ หากไม่มีจิตสำนึก เป็นไปได้ว่าอาจแย่งกันซึ่งๆ หน้า!
ซ่งอิงแสร้งฉีกยิ้ม “ผู้ดูแลร้านกล่าวชมกันเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ภัตตาคารเย่ว์เฟิงใหญ่โตเพียงนี้ อาหารรสเลิศหากินได้ยากอันใดบ้างจะไม่มีอยู่ในที่แห่งนี้ จะเพราะบ๊ะจ่างธรรมดาๆ กิจการจึงเปลี่ยนไปดีขึ้นได้อย่างไรกันเจ้าคะ”
บ๊ะจ่างของนางราคาไม่แพง ขายในหนึ่งวัน ไม่แน่ว่ายังทำกำไรเทียบอาหารขึ้นชื่อสองอย่างของภัตตาคารนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ
“เอ้า? แม่นางถ่อมตัวเกินไปแล้ว! อำเภอหลี่แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ในอำเภอก็มีภัตตาคารน้อยใหญ่ไม่น้อย การแข่งขันจึงดุเดือดมาก บ๊ะจ่างของแม่นางทำให้กิจการของภัตตาคารเย่ว์เฟิงพวกเรามีผลกำไรเพิ่มขึ้นตั้งสองส่วน[1]เชียวละ!” ผู้ดูแลร้านอินชูนิ้วขึ้นแล้วยิ้มกล่าว
เขาไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด
บ๊ะจ่างทองคำชั้นยอดเยี่ยมนั้นมีปริมาณจำกัด คนที่ซื้อจำเป็นต้องมีการใช้จ่ายสอดคล้องกับเงื่อนไขของภัตตาคารเย่ว์เฟิง อีกทั้ง แม้แต่บ๊ะจ่างยิบย่อยต่างก็รสเลิศเพียงนั้น จึงเป็นธรรมดาที่พานให้คนอื่นรู้สึกไปเช่นกันว่า อาหารอื่นๆ ของภัตตาคารเย่ว์เฟิงก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน!
ซ่งอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ดูท่า ผู้ดูแลร้านอินผู้นี้มีความมั่นใจยิ่งว่าจะคว้าตำรับเอาไปได้?
เป็นพวกผู้ดำเนินกิจการที่ทำกำไรมหาศาลด้วยความไม่ชอบธรรมสินะ!
ขณะซ่งอิงครุ่นคิด ผู้ดูแลร้านอินแย้มยิ้ม หยิบเงินออกมาจำนวนห้าสิบตำลึงเงิน “แม่นาง โปรดรับเอาไว้ด้วย”
ซ่งอิงแทบระเบิดเป็นจุล ห้าสิบตำลึงเงินก็เหมือนการซื้อขาดตำรับลับของบ๊ะจ่างทองคำชั้นยอด? เข้าใจคิดดีนี่!
“ไม่ได้กระทำประโยชน์อันใดให้ คงรับเอาไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าผู้ดูแลอินหมายความว่าอย่างไรกันแน่เจ้าคะ” ซ่งอิงคลี่ยิ้มอ่อนหวาน ทว่าภายในใจกลับตรงกันข้าม
“แม่นางรับเอาไว้อย่างสบายใจได้ สองวันก่อนพวกเรานำบ๊ะจ่างทองคำนี้ส่งไปให้เถ้าแก่รองลองลิ้มชิมรส เถ้าแก่รองพึงพอใจอย่างยิ่ง จึงตบรางวัลให้เป็นพิเศษหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ยึดตามส่วนแบ่ง แม่นางจึงได้ครึ่งหนึ่ง” ผู้ดูแลร้านอินกล่าวขึ้นอีกครา
เถ้าแก่รองร้านพวกเขามีฐานะตัวตนที่พิเศษ นอกจากคนอย่างเขาผู้นี้ที่เป็นผู้ดูแลร้าน คนอื่นๆ ล้วนไม่รู้เกี่ยวกับฐานะตัวตนเขาสักนิด
การมอบรางวัลให้หนึ่งร้อยตำลึงเงินไม่ถือว่ามากมายเช่นกัน แต่ที่ผ่านมาก็ส่งของให้เถ้าแก่รองกินไม่น้อย ทว่าที่ได้รับการตบรางวัลเช่นนี้ถือเป็นครั้งแรก
เงินรางวัลเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องบันทึกลงในบัญชีด้วยเช่นกัน ไว้รอภายภาคหน้าเถ้าแก่ใหญ่มาดู จะต้องดีใจมากเป็นแน่ ซึ่งคงอดมอบรางวัลชุดใหญ่ลงมาในมือเขาอีกไม่ได้
คิดไม่ถึงเลยว่า บ๊ะจ่างของธรรมดาๆ จะทำให้เถ้าแก่รองถูกใจ!
“…” ซ่งอิงงุนงงเล็กน้อย
ดังนั้น…
เป็นนางที่คิดมากไปเอง?
ไม่ใช่เงินที่ซื้อขาด แต่เป็นเงินรางวัล?
คนมีเงินเขาทำกันอย่างนี้หรือ นางลำบากแทบเป็นแทบตายตั้งหลายวัน หากไม่ใช่เพราะมีบ๊ะจ่างทองคำชั้นยอด เกรงว่านางคงทำเงินได้ไม่ถึงห้าสิบตำลึงเงินด้วยซ้ำ!
“แม่นางดีใจจนงุนงงไปหมดแล้วกระมัง?” หัวหน้าเจ้าหัวเราะ “เงินนี้ท่านรับเอาไว้อย่างสบายใจได้ อย่าได้รังเกียจว่ามันน้อยเกินไปก็พอ”
ซ่งอิงได้สติกลับคืนมา เผยรอยยิ้มกว้าง จากนั้นรับเงินเก็บเข้าอ้อมอก “เช่นนั้นก็ขอบคุณผู้ดูแลร้านมากเจ้าค่ะ”
นางเองก็ไม่ได้คิดว่าการรับเงินรางวัลจะมีปัญหาอะไร
เดิมทีก็เป็นผลพลอยได้อย่างเห็นได้ชัด หากนางดื้อดึงหัวชนฝาไม่ต้องการรางวัล เช่นนั้นคงได้ถูกคิดว่าเป็นบ้าน่ะสิ! ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่นางควรได้รับเช่นกัน
“จริงสิ ได้ยินว่าแม่นางต้องเช่ารถเกวียนมาส่งสินค้าทุกวันเลยหรือ” ผู้ดูแลอินกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ใช่เจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้า
“เช่นนี้เองหรือ…” ผู้ดูแลร้านอินครุ่นคิด แล้วกล่าว “จากนี้ภัตตาคารพวกเราจะส่งคนไปรับด้วยตัวเอง อย่างไรเสียแม่นางก็เป็นหญิงเป็นนาง ภัตตาคารเย่ว์เฟิงพวกเราก็ต้องการสินค้ากันแต่เช้า ไม่ค่อยปลอดภัยนักจริงๆ”
ซ่งอิงได้ยินดังกล่าว ยิ่งพึงพอใจเข้าไปใหญ่
“ขอบคุณผู้ดูแลร้านมากๆ เลยเจ้าค่ะที่เห็นใจกัน” นางรีบเอ่ยทันควัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็จะประหยัดเวลาไปไม่น้อย
จากหมู่บ้านซิ่งฮวามายังอำเภอหลี่ ไปกลับอย่างน้อยก็เป็นเวลาสองชั่วยาม หลายวันมานี้ล้วนยุ่งตัวเป็นเกลียว ตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังมืดสลัว ทำให้นางเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยเลยจริงๆ ตอนนี้ภัตตาคารจะมารับสินค้าด้วยตนเอง ถือเป็นการแก้ไขปัญหาต้องคอยรีบๆ ร้อนๆ
———————
[1] สองส่วน (两成) เทียบเท่ากับ 20%