ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 839 ปิดประตูคิดทบทวนตัวเอง / ตอนที่ 840 พ่ายแพ้
ตอนที่ 839 ปิดประตูคิดทบทวนตัวเอง
สีหน้าฮองเฮาเปลี่ยนไป มองดูไม่ค่อยพอใจนัก
“เรากับมารดาเจ้าเคยเป็นสหายที่ดีต่อกัน เรื่องนี้เจ้าเองก็จำได้ มิฉะนั้นคงไม่ขอร้องเราอย่างนี้เช่นกัน” ฮองเฮาถอนหายใจ “เรื่องอื่นยังพอคุยกันง่ายหน่อย แต่จะให้อ๋องฮั่วหย่าร้างภรรยาเพื่อมาสู่ขอภรรยาอีกคนเกรงว่าจะไม่ได้”
“ไม่หย่าภรรยา เช่นนั้น…ลูกยินยอมใช้สามีคนเดียวกับนางเพคะ”
“ในเมื่อจะให้เป็นเช่นนี้ แล้วใครเป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ใครเป็นพระชายารอง” ฮองเฮาเลิกคิ้ว
องค์หญิงชิงลั่วตะลึงงัน ในจิตใต้สำนึกของนาง นางเป็นองค์หญิงผู้สง่าผ่าเผย ยินยอมใช้สามีร่วมกับซ่งอิงก็นับว่ายอมอ่อนข้อให้แล้ว จึงยอมหลีกตำแหน่งภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายให้ไม่ได้อีกเป็นแน่
แต่แววตาของฮองเฮาทำให้นางใจห่อเหี่ยว
“เจ้าคงรู้จักถ้อยคำที่ว่าอย่าได้ทอดทิ้งภรรยาที่ร่วมทุกข์มาด้วยกันกระมัง” ฮองเฮากล่าวเสียงเย็นชา
ตัวนางเองก็คือคู่ครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลายปีมานี้อยู่ในวังหลวงโดยมีสตรีเจ้าเล่ห์จำนวนมากน้อยเท่าไรที่อยากจะเบียดนางให้ลงจากตำแหน่ง
บัดนี้ไม่นึกเลยว่าเด็กที่นางเลี้ยงดูมาด้วยตนเองจนเติบใหญ่ กลับคิดจะทำเหมือนสตรีเจ้าเล่ห์เหล่านั้นที่จะเบียดคู่ครองที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้อื่นลงไป!
องค์หญิงชิงลั่วตกใจกลัวจนตัวสั่นเทา “ชิงลั่วยินยอมเป็นพระชายารองเองเพคะ…”
“เหลวไหล!” ฮองเฮาโมโหยิ่งขึ้นกว่าเดิม “แม้ว่าเจ้าไม่ใช่บุตรีของฮ่องเต้กับข้า แต่บิดาเจ้าก็สละชีวิตเพื่อฮ่องเต้ เขาแต่งตั้งเจ้าเป็นองค์หญิง เจ้าก็คือตัวอย่างของสตรีแห่งราชวงศ์ต้าติ้ง! เจ้าฐานะสูงส่ง ไม่นึกเลยว่าจะดึงตัวเองต่ำลงไปเป็นพระชายารองได้ ที่อับอายขายหน้ามิใช่เจ้าคนเดียว หากแต่เป็นเกียรติของทั้งราชวงศ์ฮ่องเต้!”
องค์หญิงไม่ยอมเลือกราชบุตรเขย ในทางกลับกัน กลับต้องการไปเป็นพระชายารองให้อ๋องต่างสกุลผู้หนึ่ง!
หากถ้อยคำนี้แพร่งพรายออกไป คงได้กลายเป็นเรื่องชวนหัวของผู้อื่นกันพอดี!
องค์หญิงชิงลั่วกลัวหัวหด รู้ว่าตนเองพูดผิดไปแล้ว
แต่นางก็ทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิง นางเลือกคนที่เป็นบุตรชายซึ่งเกิดจากภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายที่มากความสามารถและพรสวรรค์ของตระกูลที่มีอนาคตในหน้าที่การงานรุ่งโรจน์ไม่ได้ เพราะคนเหล่านั้นภายภาคหน้าจะต้องมีอำนาจที่มั่นคงมากพอตัวในราชสำนัก!
นางเลือกได้เพียงพวกบุตรชายคนรองด้อยความสามารถซึ่งเกิดจากภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้นางไม่ใช่องค์หญิงโดยแท้จริง แต่ก็ต้องยึดมาตรฐานของการเลือกสามีตามหลักการขององค์หญิง!
เมื่อนานมาแล้ว นางเคยเอ่ยกับฮ่องเต้เอาไว้ว่าอยากให้พระราชทานงานแต่งให้นางแต่งกับฮั่วเจ้ายวน แต่ฮ่องเต้ไม่ยินยอมด้วยซ้ำไป!
นางจะทำอย่างไรได้
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง หากท่านยินยอมตกลง ลูกจะยอมเป็นฝ่ายทิ้งบรรดาศักดิ์เองเพคะ…” องค์หญิงชิงลั่วกล่าวอีกครั้ง
ครั้นนางเอ่ยถ้อยคำดังกล่าวออกมา ฮองเฮาก็ตกตะลึงเล็กน้อย
ไม่มีบรรดาศักดิ์องค์หญิง เช่นนั้นนางก็แค่เด็กสาวกำพร้าที่ไร้ที่พึ่งพิง
“ชิงลั่ว เรื่องนี้มิใช่อะไรที่เราจะตัดสินใจได้ อ๋องฮั่วมีความรู้สึกลึกซึ้ง ซื่อสัตย์จริงใจและเข้ากับพระชายาราวกับเสียงดนตรีบรรเลงอันไพเราะ เราไม่สะดวกทำตัวเป็นคนชั่วร้ายเช่นนั้น” ฮองเฮาเอ่ยตามจริง “เจ้ากลับวังไปคิดทบทวนให้ดีๆ ปิดประตูคิดทบทวนตนเองเสียเถิด! เราจะถือเสียว่าไม่เคยได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้มาก่อน”
องค์หญิงชิงลั่วรู้สึกราวถูกโจมตีอย่างใหญ่หลวงในทันที หยาดน้ำตารินไหลอย่างหนักหน่วง
ในขณะนี้ ซ่งอิงกลับตรงกันข้าม นางอารมณ์ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนกู้หมิงเป่ากังวลใจเรื่องพิษในร่างกายนาง ไม่ว่านางยืนกรานสักเพียงใดว่าไม่เป็นอะไร กู้หมิงเป่าก็ยังยืนหยัดที่จะไปส่งนางกลับถึงจวนด้วยตนเอง
ครั้นซ่งสวินได้ยินว่านางถูกวางยาพิษ ก็รีบมาหาด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจในทันที
“ข้าได้ยินพวกเขาพูดว่าเจ้าถูกวางยาพิษหรือ เกิดเรื่องอะไรขึ้น!” ซ่งสวินวิตกกังวลสุดขีด
ซ่งอิงเผยสีหน้าจำใจมาก “ไม่เป็นอะไรจริงๆ ก็แค่สาวน้อยผู้นี้เป็นห่วงเกินไป”
“พี่ซ่ง หรือว่าที่หมอหลวงจับชีพจรด้วยตนเองไม่เป็นความจริงเล่าเจ้าคะ เขาบอกไว้แล้วว่าท่านต้องพักผ่อนให้ดีๆ ข้ากลัวว่าท่านจะหนีไปทั่วอีก จึงจำเป็นจับตาดูท่านไว้!” กู้หมิงเป่าเผยสีหน้าจริงจัง “ข้าจะพักอยู่บ้านท่านสักสองสามวันนะเจ้าคะ!”
ในบ้านซ่งอิงมีตั้งหกเขตเรือน อยากจะต้อนรับแขกเหรื่อยังถือว่าทำได้สบายมาก
เพียงแต่ว่าในบ้านนางไม่มีผู้อาวุโส มิหนำซ้ำยังมีพี่ชายอยู่ด้วยหนึ่งคน นี่จึงไม่ค่อยเหมาะสมนัก
ซ่งอิงเขกหน้าผากนางหนึ่งที “คิดให้ดีๆ แล้วค่อยพูด ข้าว่าเจ้านี่อยากจะออกเรือนแล้วใช่หรือไม่”
กู้หมิงเป่าอับอายเล็กน้อย นางแอบปรายตามองซ่งสวินแวบสายตาหนึ่ง
นางเกิดกลัวว่าพี่ชายตระกูลซ่งผู้นี้จะเข้าใจนางผิด
“หรือไม่พี่ซ่งไปพักบ้านข้า ข้าเชิญหมอหลวงมาก็สะดวกสบายหน่อยเช่นกัน”
ตอนที่ 840 พ่ายแพ้
กู้หมิงเป่ากัดริมฝีปาก มองดูทั้งหัวแข็งทั้งน่าสงสารเล็กน้อย
“น้องพี่ คุณหนูกู้มีน้ำใจชวน เจ้าก็ไปพักด้วยเถอะ ไม่ต้องกังวลใจเรื่องในบ้านทางด้านนี้หรอก” ซ่งสวินครุ่นคิดแล้วกล่าว
“ไม่ได้ ข้ายังต้องไปหมู่บ้านชานเมืองเพื่อดูแกะของข้าอีก…” ซ่งอิงถลึงตาใส่
“ดูท่านสิ ท่านคิดจะหนีไปทั่วจริงๆ ด้วย!” กู้หมิงเป่าตะเบ็งเสียงขึ้นมาทันที ทำให้ซ่งสวินตระหนกตกใจและรีบร้อนถอยหลังหนึ่งก้าว กู้หมิงเป่าสีหน้าเก้อเขิน พวงแก้มแดงก่ำ จากนั้นกล่าวเสียงอู้อี้เบาๆ ราวกับยุงขึ้นมาอีกครั้ง “ก็ ก็ไม่ใช่ไปดูแกะไม่ได้…เว้นแต่ข้าไปเป็นเพื่อนท่านด้วย ต้องนั่งรถม้าไปและทำได้เพียงชมทัศนียภาพเท่านั้น จะทำงานไม่ได้…มิเช่นนั้นก็ไม่ได้เจ้าค่ะ…”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโตทันที
นี่กู้หมิงเป่าคงเขินอายไม่น้อยสินะ
ก่อนหน้านี้ยามที่เคยอยู่กับนางตามลำพัง กู้หมิงเป่าไม่ได้พูดจาอย่างเป็นกังวลว่าอาจจะส่งผลไม่ดีแก่ตนเองและผู้อื่นมากมายขนาดนี้แต่อย่างใด
“เจ้ามั่นใจหรือว่าไปกับข้าได้ หมู่บ้านชานเมืองแห่งนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ ย่อมต้องมีกลิ่นอยู่บ้างเป็นแน่ เกรงว่าเจ้าจะไม่ชินน่ะสิ” ซ่งอิงกล่าว
“พี่ซ่งทำได้ แน่นอนว่าข้าก็ทำได้เช่นกันเจ้าค่ะ” กู้หมิงเป่าพยักหน้าทันที
“ก็ได้ วันนี้เจ้ากลับไปตระเตรียมข้าวของ พรุ่งนี้ไปพร้อมกับข้า” ซ่งอิงตามใจนาง จากนั้นมองไปยังซ่งสวิน “ท่านพี่ พรุ่งนี้ท่านอ๋องฮั่วอาจจะมา ถึงตอนนั้นท่านรับแขกทีนะเจ้าคะ”
“…” ปัจจุบันซ่งสวินรู้แล้วว่าฮั่วหรงก็คือฮั่วเจ้ายวน เพียงแต่เขาเป็นปัญญาชนคนหนึ่ง เมื่อเห็นฮั่วเจ้ายวนคนที่เต็มไปด้วยไอสังหารเช่นนั้นก็รู้สึกสูญเสียพลังความกล้าหาญไปเล็กน้อย
มิหนำซ้ำคนผู้นี้นับว่าเป็นน้องเขยของเขา เขาในฐานะพี่เขยก็ไม่อาจดูเหมือนจะรังแกกันได้โดยง่าย
“น้องพี่วางใจเถิด” ซ่งสวินพยักหน้าจริงจัง
ในสมองเขาเริ่มขบคิดแล้วว่าพรุ่งนี้จะพูดคุยอย่างไร
วันรุ่งขึ้น ซ่งอิงพากู้หมิงเป่าเดินทางไปแต่เช้าตรู่ ทิ้งซ่งสวินที่ดูห่อเหี่ยวไปทั้งตัวเอาไว้
“พี่ชายท่านไม่ค่อยสบายหรือ เมื่อครู่ข้าเห็นเขาตาช้ำๆ เหมือนถูกคนชกต่อยมาอย่างไรอย่างนั้น” กู้หมิงเป่าเอ่ยถาม
ซ่งอิงอดหลุดหัวเราะไม่ได้ “ไม่ต้องสนใจเขา ก็แค่ผู้ชายห่วงศักดิ์ศรี สงสัยคิดหนักตลอดทั้งคืนเป็นแน่ เขาคงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ฮั่วเจ้ายวนรับปากอย่างว่าง่ายต่อหน้าเขาว่าภายภาคหน้าจะไม่รังแกข้า”
กู้หมิงเป่ามองนางอย่างประหลาดใจ “เช่นนั้นพี่ชายท่านก็ดีต่อท่านเหลือเกินจริงๆ เกือบจะเทียบกับพี่ชายข้าได้ด้วยซ้ำไป”
ซ่งอิงหมดคำจะพูด
มีใครเขาชมเชยผู้อื่นกันเช่นนี้หรือ
“เจ้าคิดว่าพี่ชายข้าเป็นอย่างไร” ซ่งอิงถามขึ้นมาอย่างไม่มีการเกริ่นนำ
“ดีมาก สุภาพเรียบร้อย เป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริงคนหนึ่ง” กู้หมิงเป่าเผยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย
ซ่งอิงพยักหน้า “อืม เขาไม่เลวจริงๆ”
ซ่งอิงก็แค่ถามเรื่อยเปื่อย เมื่อวานนางพลันรู้สึกว่าสองคนนี้ค่อนข้างเหมาะกัน แต่กลับไม่กล้าทำตัวเป็นแม่สื่อ อย่างไรเสียสองคนก็ฐานะต่างกันค่อนข้างมาก ถึงแม้ซ่งสวินสอบหน้าพระที่นั่งฮ่องเต้ผ่าน แต่ก็ยังห่างชั้นกับบุตรีในจวนกั๋วกงอยู่มากโข
พี่ชายของนางเอง จึงเป็นธรรมดาที่นางจะรู้สึกว่าเขาดียิ่ง แต่กลับไม่แน่ว่าสำหรับคนของจวนจงกั๋วกงจะรู้สึกเช่นนี้
ดังนั้นนางจึงไม่เข้าไปข้องเกี่ยว ยิ่งไปกว่านั้น กู้หมิงเป่าคือสหายของนาง ไม่ใช่ญาติพี่น้อง เรื่องการแต่งงานไม่ถึงคราวที่นางมาเป็นผู้ตัดสินใจให้
นางเดินทางมาได้ครึ่งทาง ฮั่วเจ้ายวนก็ไปถึงหน้าเรือนนางแล้ว
ซ่งสวินเตรียมน้ำชาเอาไว้แล้วแต่เนิ่นๆ จากนั้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและนั่งลงอย่างสุขุม กระทั่งฮั่วเจ้ายวนย่างก้าวเข้ามาในโถงรับแขกหลัก ซ่งสวินจึงได้ลุกขึ้นมาต้อนรับ
ฮั่วเจ้ายวนสวมอาภรณ์สีเข้ม มองดูเคร่งขรึมจริงจัง ซ่งสวินถึงกับเบิกตาโตทันที
“พี่เขย” ฮั่วเจ้ายวนตรงไปตรงมา กล่าวเรียกทันทีที่เอ่ยปาก
ซ่งสวินแทบจะสำลักน้ำลาย
เขาใบหน้านี้แดงก่ำในชั่วพริบตา “มิบังอาจ มิบังอาจ”
เอ่ยพูดถ้อยคำนี้จบ คนทั้งคนเสียศูนย์ไปเล็กน้อย เขายังพูดอยู่ว่าต้องการแสดงความเป็นผู้กล้าสักหน่อย ใครจะคิดว่านี่คนเขาเพิ่งมาเยือนก็พ่ายแพ้ให้เสียแล้ว!