ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 791 ต้องไปแน่! / ตอนที่ 792 ของขวัญวันเกิด
ตอนที่ 791 ต้องไปแน่!
หวงเมี่ยนยิ้มจนดูประจบสอพลอ ทั้งสามคนมองหน้ากันเลิกลั่ก
“ท่าน…ยังจำข้าได้กระมัง” ซ่งฮวนกล่าวหยั่งเชิง
หวงเมี่ยนมีไหวพริบอย่างยิ่ง มายังจวนโหวแห่งนี้ก็เพื่อทวงความเป็นธรรมให้เถ้าแก่เหนียง แล้วมีหรือจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของแต่ละคนในจวนโหว บัดนี้มองแวบแรกก็รู้ว่าหญิงทั้งสามคนที่กำลังพูดคุยด้วยในขณะนี้เป็นใคร
“น้องรอง นี่เจ้าพูดประหลาดจริง ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร” หวงเมี่ยนถูไถมือ
ซ่งฮวนพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
แม้ว่าเหนือจากที่คาดคิดไว้มาก แต่คิดๆ ดูแล้วก็คงไม่มีคนปลอมตัวมาสวมรอยได้หรอก
อีกทั้งทางด้านนั้นมีคนอื่นอยู่ด้วย หากคนผู้นี้สวมรอย คนที่อยู่ข้างๆ จะไม่เปิดเผยความจริงได้อย่างไรกัน
“น้องก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าปัจจุบันพี่ใหญ่จะ…” ซ่งฮวนทำสีหน้าท่าทีราวกับเห็นใจ “รู้แบบนี้แต่แรก ข้าจะสู้สุดชีวิตเพื่อร้องขอความเห็นใจกับท่านแม่เป็นแน่…”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ข้าก็สบายดีไม่น้อย มีที่ดินมีข้าวสารอาหารแห้งในหมู่บ้าน ได้กินดีอยู่ดี” หวงเมี่ยนกล่าวอีกครั้ง
ซ่งฮวนรู้สึกผิดจากใจหวังหลังได้ยินถ้อยคำดังกล่าว
ตอนแรกยามที่ซ่งอิงถูกรับกลับมา นางรู้สึกว่าฟ้าจะถล่มทลาย
ปีเหล่านั้นที่ซ่งอิงไม่อยู่ นางนึกว่าตนเองเป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกจริงๆ ได้รับการเคารพนับถือจากผู้คน ทำให้ผู้อื่นอิจฉาริษยา แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งนางก็กลายเป็นผู้ที่ขึ้นมาแทนที่และเป็นเพียงบุตรสาวอนุภรรยา!
ความภาคภูมิใจและหยิ่งทะนงในที่ผ่านมาถูกโจมตีในชั่วพริบตา ทำให้นางเนื้อตัวเย็นเฉียบไปหมด
ดีที่บิดามารดาไม่รักและเอ็นดูซ่งอิง นางจึงได้สบายใจขึ้นหน่อย แต่ตราบใดที่ซ่งอิงอยู่ นางก็จะรู้สึกไม่มั่นคง
อีกทั้งเดิมที นึกว่าด้วยชื่อเสียงความสามารถของนาง จะมีหวังได้แต่งเข้าเชื้อพระวงศ์ ถึงขนาดว่านางก็ยึดสิ่งนี้เป็นเป้าหมายมาโดยตลอดเช่นกัน แต่ผลสุดท้าย…ฐานะตัวตนกลับไม่คู่ควร ทำได้เพียงแต่งให้กับบุตรชายคนรองของจวนโหวตระกูลหนึ่ง
ใครจะเข้าใจความน้อยเนื้อต่ำใจของนางได้
บัดนี้มองเห็นซ่งอิงถูกบีบบังคับเพื่อหาทางรอดจนกลายเป็นลักษณะเช่นปัจจุบันนี้ นางจึงรู้สึกมีความสุขจริงๆ
เหมือนกับว่าความคับแค้นหลายปีมานี้ของนางได้ปลดปล่อยออกมาแล้ว และรู้สึกสะใจขึ้นมาก
“ตอนนี้ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าคนข้างนอกพูดถึงพวกเราอย่างไรบ้าง” ซ่งฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ออกจะไม่สบอารมณ์นัก แต่กลับแสร้งทำทีท่าทุกข์ระทม ปาดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงแล้วกล่าว “ท่านพี่รักและเอ็นดูพวกเรามาแต่ไหนแต่ไร ทว่าตอนนี้คนภายนอกล้วนพูดกันว่าพวกเราพี่น้องความสัมพันธ์ห่างเหิน…ถ้อยคำเหล่านี้แทงใจท่านแม่จริงๆ ท่านแม่ถึงกับล้มป่วยแล้ว ท่านพี่ ตอนนั้นยามที่ท่านกลับมา ข้าอยากช่วยเหลือท่านจากใจจริง มีหลายครั้งที่ชมเชยท่านต่อหน้าผู้อื่นด้วยเช่นกันมิใช่หรือ”
ซ่งฮวนพูดจบก็ปั้นหน้าน้อยเนื้อต่ำใจอย่างผู้ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม มองดูเหมือนได้รับความเศร้าโศกเสียใจแล้ว
ซ่งอิงที่อยู่ในบ้านลืมตาขึ้นเล็กน้อย
นางนวดหว่างคิ้ว รู้สึกปวดหัว
ซ่งฮวนเอ๊ย…
ชมเชยเจ้าของร่าง ก็จริงอยู่ นางชมเชยว่าเจ้าของร่างเรียนรู้ไว้ ทำงานปักได้ดี จนถึงขั้นเข้าใจศิลปะทั้งสี่แขนงด้วยเช่นกัน…
ผลสุดท้ายเล่า แน่นอนว่าก็เพราะยิ่งนางชมเชยมากเท่าไร คนอื่นยิ่งดูถูกมากเท่านั้น หลังจากเจ้าของร่างอับอายขายหน้าต่อหน้าผู้อื่น ซ่งฮวนก็เอ่ยขึ้นมาอีกประโยคว่า “ข้านึกว่าท่านพี่ทำได้…ไม่คาดคิดว่า…”
คำตบท้ายเช่นนี้เป็นการถีบเจ้าของร่างลงโคลนชัดๆ
ในเวลานี้เอง หวงเมี่ยนก็พยักหน้าเล็กน้อย “ข้ารู้ ข้ารู้ แต่ข้าก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นน่ะสิ เจ้าดูสิ ข้าถูกขังอยู่ในบ้านนี้…”
ซ่งฮวนขบคิดครู่หนึ่ง “ท่านพี่จะยินยอมช่วยอธิบายแทนพวกเราหรือ”
“ยินยอมสิ” หวงเมี่ยนพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ดี” ซ่งฮวนถอนหายใจเฮือกใหญ่ สองคนที่เหลือก็เผยสีหน้าผ่อนคลายด้วยเช่นกัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนมารับท่านพี่ออกจากบ้าน พรุ่งนี้จงกั๋วกงจะฉลองวันคล้ายวันเกิด ข้าผู้เป็นเด็กรุ่นหลังก็ต้องติดตามคนทางบ้านไปอวยพรด้วย ถึงตอนนั้นจะพาท่านพี่ไปด้วยเช่นกัน ถึงเวลาท่านก็ช่วยอธิบายต่อหน้าผู้สูงศักดิ์ทุกท่านสักหน่อย ดีหรือไม่เจ้าคะ”
หวงเมี่ยนครุ่นคิด รู้สึกว่ารับปากไว้ก่อนก็น่าจะไม่เสียหาย
เถ้าแก่เหนียงอยากไปก็ไป ไม่อยากไปเราก็เลือกหนี
“ตกลง! ข้าจะไปแน่ น้องสาววางใจได้!” หวงเมี่ยนเผยสีหน้าราวกับผู้มีน้ำใสใจจริง!
ตอนที่ 792 ของขวัญวันเกิด
ซ่งโม่และซ่งเซียงไม่มีคุณสมบัติไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดจงกั๋วกงครานี้ ตระกูลสามีของพวกนางทั้งสองไม่ได้สูงศักดิ์ แต่ตอนนี้ตราบใดที่ซ่งฮวนคิดวิธีการแล้ว พวกนางทั้งสองก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน
เห็น ‘ซ่งอิง’ พยักหน้าตอบรับอย่างจริงจัง ทั้งสามคนล้วนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ขอบคุณพี่ใหญ่เจ้าค่ะ” ซ่งฮวนอดดีใจไม่ได้ ยื่นมือไปกุมมือของหวงเมี่ยนเอาไว้
หวงเมี่ยนถูๆ ฝ่ามือของซ่งฮวน “มือของน้องนุ่มลื่นดีจริงเลยนะ เจ้าดูมือข้าสิ นี่ใช้งานหนักมาหลายปี มือจึงเหมือนผิวก้อนหิน สากจนแทบจะทิ่มมือคนได้”
ซ่งฮวนไม่ได้รู้สึกถึงความสากจนจะทิ่มมือคนได้ เพียงแต่เมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าวก็ชักมือของตัวเองกลับในทันทีทันใด รู้สึกเพียงรังเกียจขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่เจอกันสามปี ซ่งอิงเปลี่ยนไปหยาบกระด้างน่าขยะแขยงยิ่งขึ้นแล้วจริงๆ
หลังจากได้รับการตอบรับ ทั้งสามคนก็จากไปทันที ไม่อยากจะอยู่ต่อเลยสักนิด เหมือนกับว่ามีสิ่งสกปรกอยู่ในลานบ้านแห่งนี้ก็ไม่ปาน
กระทั่งพวกนางไปกันแล้ว หวงเมี่ยนก็กลอกตามองบน จากนั้นเดินไปหาซ่งอิงอย่างสุขอกสุขใจ “เถ้าแก่เหนียง ข้าแสร้งทำพอใช้ได้กระมัง”
“หากเป็นคนโง่เขลาคนอื่น เกรงว่าเขาคงไม่เชื่อ น่าเสียดายที่คนที่เจ้าเจอคือพวกนาง จึงทำให้เจ้าลุล่วงไปได้ด้วยดี” ซ่งอิงแอบส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “ทำได้ดี”
ทั่วทั้งจวนโหวแห่งนี้ ไม่เคยมีใครใส่ใจเจ้าของร่าง
เพราะพวกเขาดูถูกเหยียดหยาม ดังนั้นจึงไม่มีทางประเมินนางสูงไปได้เลย ยิ่งนางมองดูเป็นผู้ที่ไม่ควรค่าแก่การพบเจอผู้อื่นมากเพียงใด พวกเขากลับยิ่งเชื่อมากเท่านั้น
ช่างเป็นแนวความคิดที่บิดเบี้ยว
แต่อย่างไรก็ตาม เพียงพอนเหลืองก็ไม่ใช่ผู้ที่น่าอายขนาดเจอะเจอผู้อื่นไม่ได้ เพียงแต่บุคลิกนี้ออกจะ…ประหลาดไปหน่อยจริงๆ
“เมื่อครู่พวกนางเพิ่งว่าเจ้าอัปลักษณ์ ข้ายังนึกว่าเจ้าจะกระโจนเข้าไปตบตีคนเขาแล้วเสียอีก” ซ่งอิงกล่าวอย่างจนใจ
ไฉนจึงไม่โมโหเลยสักนิด
“เดิมทีข้าน้อยก็อัปลักษณ์อยู่แล้ว ในประเด็นนี้จึงยังพอรู้ตัวเองดีเจ้าค่ะ” หวงเมี่ยนคลี่ยิ้มกว้าง “ยามที่บำเพ็ญเพียรไม่ได้เอาใจจดจ่อที่หน้าตา มาเสียใจภายหลังเอาตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ”
ไม่เหมือนจิ่งเช่ว์ คิดแค่ต้องรูปลักษณ์หน้าตาดีเท่านั้น
ทว่าเดิมทีก็เป็นสัตว์ หากไม่ถูกเถ้าแก่เหนียงจับมา ตอนนี้หากไม่ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่กลางป่าเขา เช่นนั้นก็อาจถูกคนจับไปแล่เอาหนังแล้ว มีหรือจะได้เปลี่ยนร่างเช่นทุกวันนี้ อัปลักษณ์ก็อัปลักษณ์ไป สมองใช้การได้ดีก็เป็นอันใช้ได้
“เดิมทีพวกเราก็ได้รับเทียบเชิญเช่นกัน ข้าคิดอยู่ว่า ถึงอย่างไรเถ้าแก่เหนียงก็ต้องไป จึงถือโอกาสหลอกพวกนางเสียเลยก็ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ” เพียงพอนเหลืองกล่าวอีกครั้ง
ซ่งอิงพยักหน้า “จริงอย่างที่ว่า”
นางมาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้ ได้คบหาสหายที่เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปเป็นครั้งแรก บัดนี้ท่านปู่ของคนเขาจะเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด นางย่อมต้องเลือกของขวัญวันเกิดให้อย่างดีสักหน่อย
นางจึงไปค้นหาในช่องว่างระหว่างมิติ
จะเลือกของที่ดูหรูหราโอ่อ่า หรือเลือกของที่ใช้งานได้จริงดีล่ะ
ซ่งอิงครุ่นคิด จากนั้นก็เด็ดลูกท้อผลใหญ่บนต้นท้อในช่องว่างระหว่างมิติลงมาหนึ่งร้อยผล ก่อนจะแบ่งใส่แต่ละตะกร้าแล้วค่อยคลุมด้วยผ้าแดง แค่นี้ก็เป็นลูกท้อที่ใช้ในวันฉลองวันคล้ายเกิดอันเป็นสัญลักษณ์ของการอวยพรให้อายุยืนยาวแล้ว
เพียงแต่แค่นี้ยังไม่พอ…
ซ่งอิงออกไปเดินดูของตามร้านค้าอย่างเปิดเผย ท้ายที่สุดมองเห็นภาพวาดภาพหนึ่ง ในภาพนั้นคือสวนท้อที่มีผลห้อยระย้าและเทพอายุมั่นขวัญยืน[1]พอดิบพอดี ทั้งยังลงนามเอาไว้บนภาพวาดด้วย แม้ว่าไม่ใช่บุคคลสมัยโบราณที่ไปสู่ปรโลกเนิ่นนานแล้ว แต่ก็มีชื่อเสียงมาก นางจึงซื้อมา
เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ลำพังภาพวาดแผ่นหนึ่งก็เป็นมูลค่ากว่าห้าร้อยตำลึงเงินแล้ว
นางเป็นเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ทั้งยังไม่ใช่ญาติที่มีความสนิทใกล้ชิด จะทำให้เป็นที่ดึงดูดสายตาเกินไปก็คงไม่ดีนักเช่นกัน อีกทั้ง ลูกท้อเหล่านั้นของนางต่างหากที่เป็นของดี
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ซ่งฮวนส่งคนมารับจริงๆ อย่างที่คิดไว้
ซ่งอิงจึงให้หวงเมี่ยนไปกับคนพวกนั้น
ส่วนนางพร้อมด้วยหู่อิ๋งอิ๋งนั่งรถลาไปยังจวนจงกั๋วกงเพื่อเจอสหายของนางอย่างกู้หมิงเป่าเป็นอันดับแรก
จงกั๋วกงผู้นี้เดิมทีมีความประสงค์อยากเจอหน้าค่าตาซ่งอิงสักหน่อย ดังนั้นจึงเจียดเวลาออกมาเป็นการพิเศษมามองดูนางเสียก่อน ครั้นเห็นคนผู้นี้ในใจก็รู้สึกชมชอบอย่างยิ่ง “มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสตรีที่ชาญฉลาดและรู้ประสีประสา ได้ยินว่าของขวัญวันคล้ายวันเกิดที่เจ้ามอบให้ข้าเป็นภาพวาดแล้วยังมีผลท้ออีกหลายตะกร้าเชียวหรือ”
“เจ้าค่ะ” ซ่งอิงยิ้มบางๆ
“เป็นผลผลิตจากทางด้านหมู่บ้านสวนของเจ้าแห่งนั้นหรือ” จงกั๋วกงกล่าวอีกครั้ง
หลายวันมานี้ เขาติดใจโจ๊กเนื้อสัตว์นั่นอย่างยิ่ง แล้วก็ผลไม้กวนเหล่านั้นด้วย…
แต่ด้วยความที่ของพวกนั้นเป็นของหลานสาว เขาเองก็ไม่สะดวกใจแย่งหลานสาวกิน ทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้
บัดนี้ซ่งอิงมอบของขวัญพวกนี้ให้ ช่างเป็นการมอบของขวัญที่ตรงใจเข้าจริงๆ!
[1] เทพอายุมั่นขวัญยืน (寿星公) ลักษณะตัวไม่สูง แต่ศีรษะสูงและโหนกนูนออกมา หน้าตายิ้มแย้ม เครายาวสีขาว ติ่งหูใหญ่ยาวห้อยเลยไหล่ลงมา มือขวาถือลูกท้อ มือซ้ายถือไม้เท้าหัวมังกรที่ห้อยด้วยผลน้ำเต้า และภายในผลน้ำเต้าจะมียาอายุวัฒนะอยู่