ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว - ตอนที่ 88 เด็กหนุ่มผู้ร่ำรวย

หลังจากวางสายฟางซวน หวังฮ่าวหลานก็โทรหาหวังเซียงต่อในขณะที่เขายังมีเวลาว่างเหลืออยู่ 

 

“เกิดอะไรขึ้น พวกอันธพาลพวกนั้นมาหาใคร?” หวังฮ่าวหลาน ถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว

 

“ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เราแต่มุ่งเป้าไปที่ฉินไค พวกนั้นวางแผนที่จะลักพาตัวฉินหยุนหาน” หวังเซียงตอบ

 

“อย่างนี้นี่เอง” หวังฮ่าวหลานแสร้งทำเป็นแปลกใจแล้วถามอีกครั้ง 

 

“แล้วพวกนี้เป็นใคร”

 

“ไม่รู้เหมือนกัน คนที่ว่าจ้างพวกนั้นไม่ได้มาเจอพวกนี้ต่อหน้า พวกมันติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต อันธพาลกระจอกๆ พวกนี้ไม่เคยเห็นหน้าไอ้คนที่จ่ายเงินพวกมันเลยด้วยซ้ำ”

 

“ก็หมายความว่าไม่มีเบาะแสอะไรเลยสิ …..” หวังฮ่าวหลานถอนหายใจ  

 

“ก็ไม่เชิง” 

 

“หมายความว่าไง” 

 

“ถึงแม้พวกอันธพาลพวกนี้จะไม่ได้เจอผู้ว่าจ้างเลย แต่เรารู้ว่าผู้ว่าจ้างใช้นามแฝงว่าอินทรี หลังจากการสอบสวนก็รู้ว่าอินทรีคนนี้ เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม โบตั๋นดำ” 

 

“ใครคือดอกโบตั๋นดำ” 

 

“ผู้หญิงที่โหดเหี้ยม ใจกล้ายิ่งกว่าผู้ชาย เธอโด่งดังมากในโลกใต้ดินในเมืองชิงหลิง แต่เธอทำธุรกิจถูกกฎหมาย” 

 

“ปกติดอกโบตั๋นดำนี้ปกติทำงานที่ไหน? ” 

 

“มีบาร์ของโบตั๋นดำอยู่ถนน19 ในเมือง ชิงหลิง และนั่นคือร้านที่เธอเปิด ปกติแล้วเธอจะอยู่ที่นั่นช่วงกลางคืน” หวังเซียงหลังจากตอบคำถาม เขาก็สงสัยในทันที 

 

“ลูกรัก ทำไมถึงถามคำถามพวกนี้ ” 

 

“เปล่า เปล่า แค่สงสัยเฉยๆ” หวังฮ่าวหลานตอบอย่างคลุมเครือ ในขณะที่เสียงกริ่งของชั้นเรียนดังขึ้น เขาใช้ประโยชน์บอกวางสาย

 

“ผมกำลังจะไปเรียน แค่นี้ก่อนนะ สวัสดีครับ”

 

“โอเค ลูกรัก” หลังจากวางสายแล้ว หวังฮ่าวหลาน ก็กลับมานั่งในห้องเรียนอย่างครุ่นคิด ตามที่หวังเซียงกล่าว ผู้บงการเบื้องหลังการลักพาตัวฉินหยุนหานควรจะเกี่ยวข้องกับดอกโบตั๋นสีดำ แม้ว่าปรมาจารย์เบื้องหลังจะไม่ใช่ดอกโบตั๋นสีดำ แต่ด้วยฉากหลังเช่นนี้ ดอกโบตั๋นสีดำจะต้องได้เห็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อที่จะแก้ปัญหาของฉินไคให้สมบูรณ์และทำลายงานของเสี่ยวอี้เฟิงในฐานะผู้คุ้มกัน ดอกโบตั๋นสีดำนี้เป็นบุคคลที่สำคัญมาก 

 

“ดูเหมือนว่าจะต้องไปที่ บาร์โบตั๋นดำ” หวังฮ่าวหลานตัดสินใจอย่างลับๆ เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็เปิดหน้าต่างสถานะและตรวจสอบแต้มตัวร้ายที่มี ดอกโบตั๋นสีดำนั้นอาจจะเป็นมังกรหลับ 

 

ทางที่ดีควรพัฒนาความแข็งแกร่งก่อนจะไปที่นั่น แต้มตัวร้ายได้สะสมถึง 3200 อีกครั้ง หวังฮ่าวหลาน ใช้แต้มตัวร้าย 3,000 แต้มแลกเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ฝึกฝนกำลังภายใน 6 ปี ในขณะนี้ หน้าต่างสถานะก็เปลี่ยนไปเช่นกัน 

 

 

 

 

 

[โฮสต์: หวังฮ่าวหลาน] 

 

[พลังการต่อสู้: 1099] 

 

[ค่าเสน่ห์: 268] 

 

[ออร่าตัวร้าย: 736] 

 

[แต้มตัวร้าย: 200] 

 

[ทักษะ: ทักษะการวาดเขียนระดับปรมาจารย์, หมัดหวิงชุนระดับปรมาจารย์, ทักษะการร้องเพลงระดับเทพ, ทักษะการแสดงระดับจักรพรรดิภาพยนตร์, การมองทะลุ, ทักษะพิษขั้นสูง, ทักษะการแฮ็คระดับแนวหน้า, ประสบการณ์ฝึกฝนกำลังภายใน 18 ปี]

 

ค่าพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นเป็น 1,099 เป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นนั้นใหญ่มาก สมรรถภาพทางกาย ความสามารถในการตอบสนอง และความเร็วในการโจมตีของหวังฮ่าวหลาน ได้รับการพัฒนาอย่างมาก ภายใน 30 เมตร แม้จะเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยอาวุธในมือ เขาก็สามารถหลบได้ทันเวลา เข้าหาศัตรูอย่างง่ายดาย และจัดการกับมันอย่างสบาย ๆ 

 

ก่อนหกโมงเย็นไม่กี่นาที หวังฮ่าวหลานมาถึงประตูโรงเรียนตามกำหนด รถโดยสารประจำทางและเฟอร์รารีจอดที่ประตูโรงเรียนในเวลาเดียวกัน  

 

“พี่สาว ทำไมถึงมาที่นี่ แถมยังมากับรถซูเปอร์คาร์เท่ ๆ อีก!” ฟางเฮิงรู้สึกประหลาดใจ ในขณะเดียวกันฟางซวนเปิดฝากระโปรงหน้าของเฟอร์รารี่ เผยให้เห็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม 

 

“เจ้านายของฉันขอให้ฉันไปส่งอาหารให้ลูกชายเธอ เพื่อความสะดวก เจ้านายให้ฉันขับรถของเธอน่ะ” หลังจากที่เธออธิบาย เธอก็แสร้งทำเป็นสงสัยเขา พร้อมกับถามน้องชายของเธอเอง

 

“แล้วนายล่ะ นายมาทำอะไรที่นี่” ฟางเฮิงชี้ไปที่ขวดสูง 2 ฟุตที่ห่อด้วยผ้านุ่ม ๆ ในอ้อมแขนของเขาและพูดอย่างมีความสุขว่า 

 

“ฉันพบสมบัติชิ้นอื่น ซึ่งเขาบอกฉันว่าต้องการจะรวบรวมสมบัติที่ฉันพบ เพราะงั้นฉันเลยจะแลกเปลี่ยนกับเขาที่นี่” ฟางเฮิงเหลือบไปที่หวังฮ่าวหลานขณะที่เขาพูด 

 

เมื่อเห็นการแสดงออกที่มีความสุขของน้องชายของเธอฟางซวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ 

 

แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นประหลาดใจและยิ้ม 

 

หวังฮ่าวหลานเก็บสีหน้าที่แตกต่างกันของพี่น้องสองคนไว้ในดวงตาของเขา ยิ้มอย่างลับๆ แล้วพูดกับฟางเฮิง 

 

“เปิดให้ฉันดูสิ” ฟางเฮิงวางผ้านุ่ม ๆ บนพื้นเพื่อกันกระแทกแล้ววางอย่างระมัดระวัง ขวดบนนั้น หวังฮ่าวหลานนั่งยองๆ อยู่บนพื้น แสร้งทำเป็นศึกษา ราวกับจะตัดสินความถูกต้องของมัน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาพูดช้าๆ ว่า 

 

“ดูเหมือนเครื่องเคลือบสีน้ำเงินขาวจากราชวงศ์ถังจริงๆ นายสามารถเสนอราคาได้”ฟางเฮิงกล่าวข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้และเขาก็พูดซ้ำ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้เช่นกัน เพราะบางอย่างเขาก็ไม่ค่อยทราบลายละเอียดสักเท่าไหร่ 

 

“ฉันได้ถามผู้เชี่ยวชาญไปแล้วว่าราคาตลาดของแจกันลายครามสีน้ำเงินขาวนี้อยู่ที่ประมาณ 8 ล้าน” ฟางเฮิงกล่าว 

 

“8 ล้าน?!” ฟางซวนอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงออกมา น้องชายของฉันน่าตกตะลึงจริงๆ ความอยากโลภของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขวดแตกๆ นี้ราคา 8 ล้านจริงๆเหรอ? 

 

การแสดงออกของ หวังฮ่าวหลาน เป็นปกติและมีความปีติยินดีเล็กน้อยในความเป็นจริงขวดยิ่งแพงยิ่งหาเงินได้มาก 

 

“เราจะมีความร่วมมือระยะยาวในอนาคต นายคิดว่าควรขายให้ฉันในราคาตลาดรึเปล่าล่ะ” หวังฮ่าวหลาน ไม่เห็นด้วยทันทีเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ต่อรองได้นิดหน่อย เพราะเขากลัวว่ามันจะได้ใจเกินไปฟางเฮิงจะสงสัย

 

“นายเสนอราคามาเลย ฉันจะดูว่าฉันจะรับได้ไหม” ฟางเฮิงกล่าวหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง 

 

“7.5 ล้าน” หวังฮ่าวหลานลดราคาเล็กน้อย 

 

“มันมากเกินไปที่จะตัด 500,000 ต่อครั้ง ฉันยอมรับได้เพียง 200,000” 

 

“ลองถอยออกมาสัก 7.7 ล้านล่ะ” ฟางเฮิงเงียบไปสองสามวินาทีก่อนพยักหน้า 

 

“โอเค” แม้ว่าราคาตลาด เครื่องเคลือบสีน้ำเงินขาวชิ้นนี้ราคา 800 10,000 แต่ถ้าอยากขายราคาตลาดจริง ๆ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ถ้าขายได้เร็ว ขาดทุน 300,000 นี่ก็ไม่เลว ท้ายที่สุด อีกฝ่ายสัญญาว่าจะซื้อเป็นเวลานาน และการสูญเสียเล็กน้อยนี้ก็ยังเป็นที่ยอมรับของ ฟางเฮิง 

 

“แล้วฉันจะโอนเงินให้นาย” เมื่อเห็นฟางเฮิงตกลง หวังฮ่าวหลานก็เริ่มคลำหาโทรศัพท์ หลังจากนั้นไม่นาน การโอนก็ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ 

 

“มีอะไรผิดปกติในบัญชีของนายหรือเปล่า? บัญชีนายไม่สามารถรับเงินได้” หวังฮ่าวหลานกล่าว 

 

“เป็นไปได้อย่างไร” ฟางเฮิงถามทันที

 

“นายไม่ได้วางแผนจะหลอกฮุบเอากระเบื้องเคลือบสีฟ้าขาวของฉันหรอกใช่ไหม” 

 

“นายถามพี่สาวของนายว่าทรัพย์สินของครอบครัวฉันมันเท่าไหร่ ฉันต้องโกหกนายเพื่อสิ่งนี้ แค่ 7.7 ล้านหยวน?” หวังฮ่าวหลานเยาะเย้ยครู่หนึ่ง 

 

“เสี่ยวเฮิง อาจมีบางอย่างผิดปกติกับบัญชีของนาย” ฟางซวนช่วยเสริม 

 

“เป็นไปไม่ได้ ฉันเพิ่งถอนเงินไป และทุกอย่างก็ปกติดี” ฟางเฮิงงุนงง 

 

“เอาเถอะ” หวังฮ่าวหลานรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว เขาจึงแนะนำว่า

 

 “ฉันจะพยายามโอนเงินไปยังบัญชีของพี่สาวนาย” 

 

“โอเค ลองเลย” ฟางเฮิงพยักหน้าโดยไม่ลังเล