Happy New Year ล่วงหน้าครับ
ในเวลานี้ผู้หญิงคนนั้นตื่นแล้ว แต่สภาพจิตใจของเธอนั้นน่าสงสารมาก
คนขับรถคัลลิแนนวางตะกร้าผลไม้ไว้ที่หัวเตียง
หญิงสาวมองด้วยความประหลาดใจที่คนแปลกหน้าสองคนที่มาหาอย่างกะทันหัน
“คุณป้าสวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของลูกสาวคุณฟางซวน ผมมาเยี่ยมคุณ” หวังฮ่าวหลานกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
“ขอบคุณจ้ะ เชิญนั่งลงก่อน แต่ไปหาเก้าอี้เอาเองนะจ๊ะ”
หญิงคนนี้ป่วยมากจนเกินกว่าจะลุกขึ้นได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงขอโทษและปล่อยให้หวังฮ่าวหลานหาเก้าอี้และนั่งด้วยตัวเอง
เรื่องแบบนี้ไม่จําเป็นต้องให้หวังฮ่าวหลานทําเลย
คนขับดึงเก้าอี้มาจากวอร์ดทันที จากนั้นเช็ดให้สะอาดด้วยกระดาษทิชชู่แล้ววางเก้าอี้ไว้ตรงหน้าหวังฮ่าวหลาน
“โอ้ กลิ่นอะไรเนี่ย เหม็นชะมัด!”
เสียงขยะแขยงดังขึ้นที่ประตูวอร์ด จากนั้นป้าวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปีก็เดินเข้ามา เธอชี้ไปที่แม่ของฟางซวน และกรีดร้องอย่างดุร้าย
“ยายแก่หนังเหนียว จะตายก็ไม่ตายสักที รีบตายๆ ไปซะ แกทำให้ห้องเหม็นจนฉันอยู่ไม่ได้อยู่แล้วเนี่ย”
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษที่สร้างปัญหาให้” แม่ของฟางซวนขอโทษอย่างนอบน้อมมาก
“แกยังรู้ว่าสร้างปัญหาให้ฉัน ถ้างั้นก็รีบ ๆ ตายไปซะ แล้วที่นี่จะเงียบสงบขึ้น และก็เพื่อที่ลูกสาวลูกชายของแกจะได้มีภาระน้อยลง” หญิงวัยกลางคนยังคงพูดด้วยน้ําเสียงที่รุนแรง
แม่ของฟางซวนเงียบ
มันต้องใช้เงินเป็นจํานวนมากในการรักษาโรคยูเรเมียและเงินของครอบครัวเกือบจะหมดลงเพราะโรคของเธอ
และมีหนี้สินจํานวนมากอีก
แน่นอนว่าเธอรู้ว่าตนเองเป็นภาระสําหรับลูกชายและลูกสาวของเธอซึ่งบางทีความตายอาจเป็นการช่วยบรรเทาได้จริงๆ
“เรื่องสภาพครอบครัวของเจ้า ถึงเจ้าจะหาแหล่งไตพบเจ้าก็ต้องเอาเงินไปแลก แต่ฉันไม่ใช่ ลูกชายฉันมีประโยชน์มากกว่า เขาติดต่อแหล่งไตไปแล้ว มันคงอีกไม่นานก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนไตได้” เมื่อป้าวัยกลางคนเห็นรูปลักษณ์ที่เจ็บปวดของแม่ฟางซวน เธอไม่เพียงแต่ไม่หยุดคุกคามหรือรู้สึกสงสารใดๆ กลับกัน เธอไม่ลังเลที่จะโรยเกลือบนบาดแผลของผู้อื่นอีกด้วย
“โยนเธอออกไปให้ฉัน” หวังฮ่าวหลานในฐานะตัวร้าย ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไปและออกคําสั่งกับคนขับ
แม่ของฟางซวนคนนี้ป่วยหนัก แถมป้าวัยกลางคนคนนี้ยังป่วยเป็นยูรีเมียด้วย เธอไม่เพียงแต่สงสารคนเป็นโรคเดียวกัน แต่กลับโรยเกลือลงบนบาดแผลของคนอื่นอย่างบ้าคลั่งแทน
ยายป้าบัดซบนี่มันมากเกินไปจริงๆ
คนขับรถทำตามคําสั่งคว้าป้าวัยกลางคนตัวเหม็นโยนออกไปนอกวอร์ด
ไม่ใช่แค่หวังฮ่าวหลานเท่านั้นที่ทนไม่ได้ แม้แต่คนขับรถคนนี้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“แม่!” ชายอายุเกือบสามสิบปีรีบวิ่งมาตะโกนใส่คนขับ
“แกจะทําอะไร หยุดนะ!”
ชายคนนั้นรีบวิ่งมาชกหน้าคนขับรถ
น่าเสียดายที่ชายคนนั้นอ่อนแอมาก และถูกคนขับรถพลิกคว่ำลงไปกองกับพื้น
“แก… ไอ้สารเลว แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเทียนเฉิงด้วยเงินเดือนประจําปีหลายล้าน แกกล้าที่จะยั่วยุฉัน คอยดูเถอะ!” ชายคนนั้นน้ําตาไหล
หัวใจของคนขับรถไม่ผันผวนเลยและเขาหันหัวไปมองหวังฮ่าวหลาน
เขารอคําสั่งของหวังฮ่าวหลาน
“นี่พ่อ บริษัทเทียนเฉิงมีอํานาจมากแค่ไหน” หวังฮ่าวหลานโทรไปหาหวังเซียง
“โอ้ บริษัทที่พังๆ มูลค่าบริษัทไม่ถึง 100 ล้าน” หวังเซียงกล่าวอย่างไม่แยแสแล้วกล่าวอย่างคึกคักว่า
“ลูกรัก บริษัทเทียนเฉิงกล้ายั่วยุลูกใช่ไหม ให้พ่อสามวัน พ่อจะนําบริษัทเทียนเฉิงออกจากวงการธุรกิจอย่างแน่นอน!”
“อย่าลำบากขนาดนั้น ผมแค่เห็นว่าหนึ่งในรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทค่อนข้างขัดสายตาผม แค่ปล่อยให้พวกเขาไล่รองผู้จัดการทั่วไปคนนี้ออกและทุกอย่างก็จะจบ”
“โอเค พ่อเข้าใจแล้ว!”
“ผมยังมีสิ่งที่ต้องทํา แค่นี้นะครับ”
หวังฮ่าวหลานวางสาย
“เจ้าเด็กนี่แค่โม้ไปเรื่อย ลูกชายของฉันเป็นถึงรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เขาจะถูกไล่ออกได้อย่างไร”ป้าวัยกลางคนไม่คิดอย่างนั้น
“แม่อย่าพูด พอแล้วแม่!” ลูกชายของป้าวัยกลางคนกัดฟันพูด
เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของลูกชายเธอดูไม่ถูกต้อง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็แข็งค้างทันที
ในขณะนี้ลูกชายของป้าวัยกลางคนก็กําลังสั่นสะท้านไปทั่วร่าง
เมื่อกี้เขาโกรธมากจนเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับหวังฮ่าวหลานและคนขับมากนัก
เมื่อมองไปที่ทั้งสองอีกครั้งในขณะนี้ เขาตระหนักทันทีว่าตัวตนของหวังฮ่าวหลานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
บุคลิก ท่าทาง น้ําเสียง เต็มไปด้วยบรรยากาศของชนชั้นสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามาพร้อมกับชายดูเงียบขรึมซึ่งสวมชุดสูทถุงมือสีขาวและเห็นได้ชัดว่าเป็นคนขับรถ
การขับรถด้วยถุงมือสีขาวเหมือนคนขับรถพิธีการ มันจะเป็นรถธรรมดาได้อย่างไร?
ในระดับที่ต่ำกว่าคือการขับรถเมอร์เซเดส – เบนซ์เมย์บัคและสูงกว่าคงจะบอกได้ว่ามันคือการขับรถโรลส์รอยซ์
“ชายร่างใหญ่และหนุ่มคนนี้ ให้… ให้โอกาสผมหน่อย ผม… ผมผิดเอง”ลูกชายของป้าวัยกลางคนอ้อนวอนขอการให้อภัยด้วยน้ํามูกน้ำตานองหน้า
“ถ้าส่งเสียงอีกฉันจะฆ่านายซะ” หวังฮ่าวหลานพูดอย่างหงุดหงิด
ชายคนนั้นหุบปากทันทีราวกับว่าเย็บติดกันและลากแม่ของเขาไปยังส่วนอื่นของโรงพยาบาลด้วยความหวาดกลัวต่อความโกรธของหวังฮ่าวหลาน
[ติ๊ง, โฮสต์ตัดหน้าตัวเอกฟางเฮิงได้สำเร็จ รับแต้มตัวยร้าย 200 ออร่าตัวเอก ฟางเฮิง -10, ออร่าตัวร้ายโฮสต์ +10! 】
อะไรเนี่ย
ป้าวัยกลางคนและลูกชายของเธอถูกจัดให้ฟางเฮิงฉีกหน้า?
หลังจากได้รับข้อความแจ้งจากระบบหวังฮ่าวหลานก็ตอบสนองทันที
“แม่”
ก่อนที่จะมีใครมาถึงก็มีเสียงมาก่อน
ฟางซวนเดินเข้าไปในวอร์ด และเมื่อเธอเห็นหวังฮ่าวหลาย เธอก็ตื่นตระหนกทันที
เธอไม่เข้าใจว่าทําไมหวังฮ่าวหลานถึงมาที่นี่ได้
“เสี่ยวซวนมาแล้ว เพื่อนลูกเอาผลไม้มาเยี่ยมแม่” แม่ของฟางซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
มันกลับกลายเป็นเพื่อน…
ฟางซวนตอบสนองจากความงุนงง และผ่อนคลายเล็กน้อยในใจ แล้วพูดกับหวังฮ่าวหลานว่า:
“ขอบคุณที่มาเยี่ยมแม่ฉัน”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก” หวังฮ่าวหลานยิ้ม
ฟางซวนตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคํานี้ตอนนี้
หากคํานี้ถูกเพิ่มเข้าไปกับเสียงของการล็อคประตู มันจะยิ่งน่าตื่นตระหนกมากขึ้น และกลัวว่าจะยืนไม่ได้อีกต่อไป
“ที่นี่ไม่มีอะไรสนุก น้องชายของฉันยังซื้อของอยู่ชั้นล่าง นายอยากกินอะไรไหมฉันจะได้โทรหาเขาให้ซื้อมาด้วย”ฟางซวนพูดอย่างสุภาพ
“ไม่ ฉันไม่หิว”
“โอ้”
ฟางซวนค่อนข้างไม่สบายใจ เธอจึงไม่กล้าพูดกับหวังฮ่าวหลานอีก เธอจึงหันมาสนใจที่อื่น
“แม่คะ ตอนที่หนูมาทีแรกหนูเห็นว่าแม่กับลูกชั่วๆ ที่อยู่เตียงข้างๆ ดูน่าเกลียดมาก เกิดอะไรขึ้นเหรอ” ฟางซวนถามแม่ของเธอ
แม่ลูกคู่นั้นที่อยู่เตียงข้างๆ นั้นสมกับการมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเดียวกัน โดยเฉพาะปากเลวๆ นั้นและเป็นคนชั่วร้าย
แม่ของฟางซวนอยู่ด้วยกันกับพวกนั้นมาหลายเดือนแล้วและเธอไม่รู้ว่าเธอโกรธอีกฝ่ายนั้นมากขนาดไหนบ้าง
ดังนั้นฟางซวนจึงเกลียดพวกมันมาก
“โอ้ ใช่แล้ว…” แม่ของฟางซวนพูดสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ก่อนที่ฟางซวนจะมา
หลังจากฟังแล้ว ฟางซวนก็มองหวังฮ่าวหลานอย่างว่างเปล่า
[ติ๊ง หนึ่งในนางเอก ฟางซวน ได้เพิ่มระดับความชื่นชอบต่อโฮสต์ 15 และระดับความชื่นชอบโดยรวมในปัจจุบันคือ 45 (เป็นมิตรมาก)]
【ติ๊ง โฮสต์มีผลต่อทิศทางเนื้อเรื่อง ได้รับ 200 แต้มตัวร้าย!】
MANGA DISCUSSION