*สำหรับชื่อตอน นะครับ ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง
เป็นสำนวน มีไว้เพื่อเปรียบเปรยกับคนที่มีทัศนวิสัยที่มองการใกล้ ไม่มองการไกล ทำอะไรหวังผลในระยะสั้น ไม่ดูผลระยะยาวหรือผลร้ายที่จะตามมา
หลังจากที่ฉินหยุนหานมาถึงห้องนอนพร้อมกับบางสิ่งบางอย่าง เธอก็แบ่งปันความสุขของเธอกับมู่เจาเจาทันที
อย่างไรก็ตาม มู่เจาเจาไม่ค่อยพอใจนัก จึงถามด้วยความสงสัย
“หยุนหานทำไมหวังฮ่าวหลานถึงดีกับพี่ขนาดนี้ เขามีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?”
“ฉันเกิดมาสวยเหมือนดอกไม้ น่าจะมีแค่ผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้นที่จะไม่ได้มีเจตนาใดๆ กับฉัน” ฉินหยุนหาน กล่าวอย่างหลงตัวเอง
“แล้วเธอสนใจในตัวหวังฮ่าวหลานบ้างไหม”
“เขาค่อนข้างหล่อ และฉันคิดว่าเขามีบุคลิกที่ดี เป็นเพื่อนก็ได้ แต่ก็ห่างไกลจากการบอกว่าสนใจเขา” ฉินหยุนหานส่ายหัวแล้ว ทันใดนั้นก็จำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เธอหัวเราะและพูดว่า:
เจาเจา ฉันเพิ่งบอกหวังฮ่าวหลานว่าหลังจากที่เสี่ยวอี้เฟิงถูกไล่ออกไปได้ ฉันจะให้เธอเป็นแฟนกับเขาเพื่อตอบแทนเขาน่ะ”
“พี่หยุนหาน พี่พูดเรื่องไร้สาระอะไรฉันไม่รู้ด้วยหรอกแต่ฉันเกลียดเด็กที่หล่อและรวยที่สุด” มู่เจาเจาบ่น
“ฉันแค่ล้อเล่นหว่างห่าวหลาน ฉันจะให้เธอไปเป็นแฟนกับเขาได้อย่างไร เอาละ ฉันจะไม่ทำเรื่องล้อเล่นแบบนี้อีกแล้ว” ฉินหยุนหานโล่งใจทันที
ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของมู่เจาเจาเคยถูกทิ้งโดยชายผู้มั่งคั่งและหล่อเหลา และในที่สุดก็ฆ่าตัวตายด้วยการเฉือนข้อมือของเธอ ในเวลานั้น มู่เจาเจาเป็นคนแรกที่พบร่างของลูกพี่ลูกน้องของเธอ เมื่อตอนที่เธออายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อจิตใจมู่เจาเจา
ในฐานะเพื่อนที่ดีของมู่เจาเจา แน่นอนว่าฉินหยุนหานรู้เรื่องนี้ดี
——
ใกล้ประตูโรงเรียน
รถตู้จอดอยู่
ในรถมีวัยรุ่นสามคนมีออร่าที่ดุร้าย
“นี่เป็นเป้าหมายของเราคราวนี้หรือ ตัวตนของเธอคืออะไร?”
วัยรุ่นหน้าสิวถามวัยรุ่นที่สูงกว่ากำลังดูรูปถ่ายในมือของเขา
“ลูกสาวของ ฉินไค จากฉินกรุ๊ป” วัยรุ่นร่างสูงตอบ
“เธอดูมีน้ำมีนวลมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยพลัง เมื่อมัดเธอได้แล้ว ข้าคงต้องลองชิมดูสักหน่อย” คนหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าเป็นรอยเปื้อนมองรูปถ่ายในมือของเขาน้ำลายไหล
“นายจ้างบอกว่าทำได้แค่มัดเธอ แต่แม้แต่ผมเส้นเดียวของผู้หญิงคนนี้ก็ห้ามแตะต้อง ไม่งั้นเราจะไม่รับเงินงวดสุดท้าย 2 ล้าน” วัยรุ่นร่างสูงดุ
“น่าเสียดาย” วัยรุ่นหน้าสิวถอนหายใจ
“เฮ้อ ถ้าเจ้ามีเงิน เจ้ากลัวว่าจะไม่มีสาวให้ชิมหรอกหรือ” วัยรุ่นตัวเล็กพูด
“ใช่แล้ว หลังจากทำงานนี้เสร็จ เจ้าต้องสนุกไปสักพักแล้วล่ะ” อารมณ์ ของวัยรุ่นหน้าสิวก็ดีขึ้นอีกครั้งและเขาก็เริ่มสูบบุหรี่
“ขอมวนหนึ่ง” วัยรุ่นตัวเล็กยื่นมือออกมา
ขณะสนทนาวัยรุ่นทั้งสามผลัดกันมองไปทางประตูโรงเรียน
เพียงแต่ว่าพวกเขาทั้งสามไม่ได้สังเกตเลย ในรถ Lavida ซึ่งอยู่ไม่ไกล มีดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่พวกเขา
เจ้าของสายตามคู่นี้คือเสี่ยวอี้เฟิงนั่นเอง
ฉินไคล้มเหลวในการจัดให้เขาลงทะเบียนเรียนโดยตรง แต่เสี่ยวอี้เฟิงก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยเช่นกัน
เขาขอให้ฉินไคจัดคนขับรถพาไปรอบโรงเรียนด้วยรถ Lavida
แน่นอนว่าเขาพบผู้ต้องสงสัยสามคน ด้วยทักษะของเสี่ยวอี้เฟิง เขาสามารถจัดการกับวัยรุ่นทั้งสามคนนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ทั้งนั้น
ช่วยฉินหยุนหานแก้ปัญหาวิกฤติ
อย่างไรก็ตามเสี่ยวอี้เฟิงไม่ได้ทำเช่นนั้น
เมื่อวานข้าอาศัยอยู่อย่างสบายๆ ในวิลล่าหลังเล็ก แต่ก็รู้สึกเหงาเล็กน้อย มันจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีกถ้าฉินหยุนหานและมู่เจาเจา อาศัยอยู่ด้วยกัน
เสี่ยวอี้เฟิงวางแผนที่จะรอให้วัยรุ่นสามคนนั้นทำอะไรสักอย่างกับฉินหยุนหาน แล้วเขาก็จะเข้ามาแทรกแซงเพื่อหยุดยั้งมัน
ในเวลานั้น ฉินหยุนหานจะต้องตระหนักถึงอันตรายของวิกฤต เพราะงั้นโดยธรรมชาติแล้วเธอจะไม่ต่อต้านเขามากนักและกลับไปที่วิลล่าเล็ก ๆ เพื่ออยู่ที่นั่นแต่โดยดี
อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับสองสาวงาม เสี่ยวอี้เฟิงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
ในหมู่บ้าน เมื่อเขาว่างๆ เขามักจะดูละครน้ำเน่า เขาจำได้ว่ามีละครโบราณอยู่เรื่องนึง
ตัวเอกชายเป็นผู้ชายคนเดียวในตระกูล ในขณะที่นางเอกก็คือคุณหนูของตระกูลที่ร่ำรวย
เนื้อเรื่องทั่วไปคือครอบครัวของคุณหนูนั้นตกอยู่ในอันตราย…
เสี่ยวอี้เฟิงถูกจ้างให้เป็นผู้คุ้มกัน และแทนที่ตัวเองเป็นวีรบุรุษของเนื้อเรื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ
——
สิบนาทีก่อนเรียนเช้า
หวังฮ่าวหลานสวมชุดหูฟังบลูทูธกำลังจัดจดหมายรักที่เพิ่งได้รับมาใหม่บนโต๊ะ
หลังจากทำเสร็จแล้ว ก็โยนทุกฉบับลงถังขยะหลังห้องเรียน
“ติ๊ดๆๆ ไวรัสได้รับการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว กำลังเชื่อมต่อ โปรดรอสักครู่…”
“เชื่อมต่อสำเร็จแล้ว!”
ข้อความแจ้งด้วย เสียงกลไก มาจากชุดหูฟังบลูทูธ
หวังฮ่าวหลานรู้ว่าฉินหยุนหาน กำลังใช้ที่ชาร์จที่เขาให้มาเพื่อชาร์จแบตมือถือ และไวรัสที่ซ่อนอยู่ในที่ชาร์จได้บุกรุกเข้าไปในโทรศัพท์มือถือของฉินหยุนหานแล้ว
ไวรัสบุกได้สำเร็จ
จากนั้นหวังฮ่าวหลานจะสามารถรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของฉินหยุนหานได้ทันเวลา
ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงของห้องเรียนอื่นก็ดังมาจากหูฟัง
ภายใต้เสียง ดังเหล่านี้ เสียงของฉินหยุนหานก็ดังขึ้นมาซึ่งเป็นเสียงที่เธอพูดกับตัวเอง
“หวังฮ่าวหลานคนนี้ช่างรอบคอบ เขาเอาที่ชาร์จมาให้ด้วยฉันด้วยจริงๆ”
จากนั้นมีเสียงของนิ้วแตะหน้าจอ
เห็นได้ชัดว่าฉินหยุนหานกำลังเล่นโทรศัพท์ขณะชาร์จ
“ฉินหยุนหาน เธอยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย นี่เป็นอาหารเช้าที่ฉันเพิ่งซื้อให้ มีนม ซาลาเปา ข้าวสาลีคั่ว และก็เกี๊ยวน่ะ”
หวังฮ่าวหลาน จำได้ว่าเป็นเสียงของเจิ้นเว่ย
“ฉันกำลังลดน้ำหนัก ฉันไม่อยากกิน เพราะงั้นเอามันออกไปจากฉัน” เสียงของฉินหยุนหานเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“งดอาหารเช้าไม่ดีต่อร่างกาย กินสักหน่อยเถอะ”
“น่ารำคาญ ออกไปจากที่นี่ซะ”
พั๊ว
ฝ่ามือกระทบอะไรสักอย่าง
ทันใดนั้นก็มีเสียงของบางอย่างตกลงมาที่พื้น
หวังฮ่าวหลานเดาว่าฉินหยุนหานตบอาหารเช้าที่เจินเว่ยเอามาให้ลงไปที่พื้น
จากนั้นมีเสียงรองเท้ากระทืบบนพลาสติก ถ้วย และวัตถุอ่อนนุ่ม
ดูเหมือนว่าฉินหยุนหานไม่เพียงเขวี้ยงอาหารทิ้งแต่ยังเหยียบมันด้วยเท้าของเธอเอง
ดูเหมือนปัญหาของสาวฉินหยุนหานคนนี้จะหนักเอาเรื่อง
แม้ว่าเธอจะคว้ำอาหารเช้าไปแล้วแต่ยังใช้เท้าเหยียบซ้ำไปอีก
ช่างเสียดายอาหารอะไรเยี่ยงนี้
ไม่มีการศึกษาเอาเสียเลย
แต่แล้วเจินเว่ยผู้นี้ก็สมควรได้รับมันจริงๆ
“ฉินหยุนหาน ฉันเองก็มีความจริงใจ เธอทำอย่างงี้ได้ยังไง” น้ำเสียงของเจินเว่ยเต็มไปด้วยความเศร้า
“ฉันเป็นอย่างนี้แหละ ไม่เชื่อเหรอ?” ฉินหยุนหานพูดอย่างเย่อหยิ่ง
“ฉันเชื่อ ฉันจะไม่เชื่อเธอได้ยังไง”
แค่ฟังเสียง หวังฮ่าวหรานก็ไม่ต้องคิดให้ปวดสมองกับเจินเว่ยเพราะท่าทางเขาเป็นพวกประจบสอพลอแน่นอน
“นายไม่โกรธเหรอ งั้นฉันจะให้ของขวัญนาย รออยู่ตรงนั้นละกัน”
“มีของขวัญให้ฉันด้วย ดีจัง!”
หลังจากคำพูดเหล่านี้หวังฮ่าวหลานไม่ได้ยินเสียงของฉินหยุนหาน เลยในขณะนั้น
อย่างไรก็ตามหวังฮ่าวหลานได้รับข้อความทันที
มันถูกส่งโดยฉินหยุนหานและบอกให้เขาไปที่ห้องเรียนของเธอ
ถึงกับสั่งการได้เลยจริงๆ
หวังฮ่าวหลานทำตัวราวกับว่าเขาไม่เห็นข้อความและยังคงจัดการสิ่งต่างๆ ต่อไป
หลังจากนั้นไม่นานหวังฮ่าวหลานก็มองเห็นฉินหยุนหานที่ประตูห้องเรียน
เธอมาที่ห้องเรียนเพื่อหาใครสักคน
ฉินหยุนหานโบกมือให้กับตำแหน่งของหวังฮ่าวหลาน
หวังฮ่าวหลานตีเนียนทำเป็นไม่เห็นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
มีคนในห้องเรียนกำลังอ่านหนังสือในตอนเช้า
ฉินหยุนหานรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะตะโกนและยิ่งเขินอายเกินไปที่จะเข้าไปในห้องเรียนและตรงไปหาหวังฮ่าวหลาน
MANGA DISCUSSION